สูตรโกงฉบับเด็กเรียน – บทที่ 371-2 ไร้เทียมทาน (2)

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 371 ไร้เทียมทาน (2)

เมื่อสวีเสี่ยวเฉียนได้ฟังคำยืนยันจากเหล่าหวัง เขาก็มีความสุขมากขึ้นมาทันที เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบิกบานใจ “ขอบคุณสำหรับคำชมครับอาจารย์ ผมรู้ว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ! ผมจะพยายามให้มากขึ้นครับ วันนี้ที่มาหาอาจารย์ก็เพราะหวังว่าอาจารย์จะช่วยเขียนคำนำให้ผมสักหน่อย”

ในฐานะที่เป็นถึงผู้ทรงอำนาจในวงการแพทย์ฉุกเฉิน คำนำจากหวังชิ่งหยวนย่อมมีอิทธิพลและมีความหมายไม่ธรรมดา

แต่เขาจะทำแบบนั้นได้จริงหรือ

เขาเขียนคำนำให้หนังสือเล่มนี้ได้ ซึ่งตัวเขาเองก็อยากจะทำเช่นนั้น เพราะหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

แต่เขาทำไม่ได้เพราะบรรณาธิการของหนังสือเล่มนี้คือสวีเสี่ยวเฉียน

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยังเขียนให้ไม่ได้

“คุณอยากจะเก็บมันไว้ไหม ผมเห็นด้วยกับหลายประเด็นในหนังสือเล่มนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องมีการแก้ไขบางจุดอยู่ดี รอให้ผมตรวจดูมันอย่างละเอียดก่อนค่อยมาว่ากันเรื่องคำนำ อย่าได้รีบร้อนไป”

“สร้างวัฒนธรรมจะรีบร้อนไม่ได้ จะสร้างความรู้ก็อย่าได้ห่วงคุณูปการ เสี่ยวเฉียน ผมมองว่าคุณมีความสามารถมาโดยตลอด แต่คุณต้องใจเย็นกว่านี้หน่อย การแพทย์น่ะ ไม่เหมือนกับสิ่งอื่นนะ”

หวังชิ่งหยวนพูดจบก็ให้สวีเสี่ยวเฉียนออกไปก่อน

เขาอ่านหนังสือต่ออย่างเงียบๆ และจู่ๆ ก็อยากรู้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา

ใครจะเขียนหนังสือแบบนี้ได้!

การแพทย์ฉุกเฉินถือเป็นสาขาวิชาใหม่ของทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังขาดวิธีการตรวจ การวินิจฉัยและการรักษาที่เป็นระบบ

กระบวนการรักษาความเจ็บป่วยใดๆ ไม่มีอะไรไปมากกว่าสามขั้นตอนต่อไปนี้ นั่นคือ การตรวจ การวินิจฉัย และการรักษา

อย่างไรก็ตา มการพัฒนาของการแพทย์ฉุกเฉินก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้นสามประการเช่นกัน

ปัญหาแรกคือการขาดวิธีการตรวจสอบ ด้วยเทคนิคที่มีอยู่อย่างจำกัดและผลการตรวจสอบ

ปัญหาที่สองคือความซับซ้อนของการวินิจฉัยและการปฐมพยาบาลอาการบาดเจ็บต่างๆ ทว่าวิธีการรักษาที่มีให้เลือกใช้นั้นกลับทำได้ยาก จะทำอย่างไรถึงจะเลือกใช้วิธีการรักษาที่ดีที่สุดในช่วงเวลาคับขัน

ปัญหาที่สามคือการรักษา เพราะว่าการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยไม่ระมัดระวังเพียงนิดเดียวก็อาจจะนำไปสู่การสูญเสียได้

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีการยกตัวอย่างเคสสำหรับปัญหาทั้งสามประการ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการวางรากฐานและพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉินอย่างล้นหลาม

หวังชิ่งหยวนมีลางสังหรณ์ว่าคนที่เขียนหนังสือประเภทนี้ได้ คงจะไม่ได้มีความรู้แค่นี้แน่นอน เพราะว่าความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินนั้นคงไม่ถูกจำกัดไว้แค่ในหนังสือร้อยกว่าหน้าเท่านั้น

อันที่จริง ไป๋เยี่ยได้คัดเลือกความรู้ทั่วๆ ไปที่เหมาะกับการฝึกอบรบเท่านั้น เนื่องด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด

นั่นเป็นเหตุผลที่ในหนังสือมีเนื้อหาเพียงน้อยนิด

ซึ่งหวังชิ่งหยวนก็พอจะดูออกแล้ว

เขาคือใครกัน

หวังชิ่งหยวนเริ่มอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ

เขารู้สึกว่าสุขภาพของตนเองในวัยแปดสิบสองปีย่ำแย่ลงทุกวัน หากจะมีความปรารถนาอื่นใดในชีวิต ก็คงขอให้มีการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินในประเทศและมีการเขียนตำราการแพทย์ฉุกเฉินที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา

หวังชิ่งหยวนคิดแล้วแววตาของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความหวัง!

หลังจากที่เฉินเจิ้นปั่งวางสาย เขาก็เกิดความสงสัยว่าไป๋เยี่ยเก่งกาจถึงเพียงนี้จริงหรือ

มีเพื่อนหลายคนโทรมาบอกเขาว่าลูกๆ ของพวกเขาได้เข้าไปฝึกอบรมในทีมกู้ภัยฉุกเฉิน ทว่าเรื่องพวกนั้นเขาย่อมรู้อยู่แล้ว เพราะเขาคือคนที่ประกาศรายชื่อนั้นเอง

ตอนแรกเขาคิดว่าคนพวกนี้ก็แค่โทรมาทักทายและกล่าวขอบคุณเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะโทรมาเพื่อฟ้อง

เฉินเจิ้นปั่งนึกถึงเรื่องนั้นแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมา มันเหมือนกับเวลาที่พ่อแม่โทรมาหาอาจารย์ใหญ่เพื่อขอเปลี่ยนครู

เฉินเจิ้นปั่งจึงต่อสายหาจ้าวหู่ชิวทันที “โทรหาสวีเสี่ยวเฉียนให้ผมที ผมมีบางอย่างอยากถามเขา”

ไม่นานหลังจากนั้น สวีเสี่ยวเฉียนก็มาถึงห้องทำงาน เขากล่าวทักทายอย่างนอบน้อม “สวัสดีครับ ท่านผบ.”

เฉินเจิ้นปั่งยิ้มพลางพยักหน้าลง “ช่วงนี้คุณเป็นยังไงบ้าง”

สวีเสี่ยวเฉียนกล่าวอย่างหนักแน่น “รายงานท่านผบ. ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ตอนนี้ผมกับไป๋เยี่ยกำลังผลัดกันบรรยายครับ ประสิทธิภาพจัดได้ว่าสูงมาก แต่…เนื้อหาดูจะเยอะไปหน่อย แล้วก็…”

เฉินเจิ้นปั่งอดทนฟังคำตอบของสวีเสี่ยวเฉียนก่อนจะพูดออกไปตามตรง “ผมได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อนหลายคน ว่าอยากให้ไป๋เยี่ยจดจ่อกับการสอนมากกว่า ส่วนหัวหน้าสวี่ คุณมีหลายอย่างที่ต้องทำ ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องการสอนหรอก”

หลังจากออกมาจากห้องทำงาน สวีเสี่ยวเฉียนก็ยังคงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เขาโดนคนอื่นดูถูกเข้าเสียแล้ว!

สวีเสี่ยวเฉียนนึกถึงเรื่องนี้แล้วก็โมโหมาก เขาไม่อยากสอนเลย คิดว่าเขาสอนเป็นนักหรือไง ก็เพราะเขาสอนอะไรไม่ได้เลยไงล่ะ

แต่เขาจะบอกทุกคนได้อย่างไร

แล้วเขาไม่ฟังคำสั่งของหัวหน้าได้ซะที่ไหนล่ะ

เขาเล่าเรื่องนี้ให้ไป๋เยี่ยฟังด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จากนั้นจึงใช้เวลาไปกับการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับหวังชิ่งหยวนแทน

นี่เป็นเรื่องใหญ่!

ทุกวันนี้เขาแทบจะอาศัยอยู่ในบ้านของหวังชิ่งหยวนแล้ว เขาพูดคุยถึงเรื่องนี้กับอาจารย์ทุกวันจนความรู้เพิ่มพูนขึ้นมาก ทว่าหวังชิ่งหยวนก็เองก็มั่นใจว่าสวีเสี่ยวเฉียนไม่ใช่คนเขียนหนังสือเล่มนี้อย่างแน่นอน!

สวีเสี่ยวเฉียนถามยิ้มๆ “อาจารย์คิดยังไงกับเรื่องการจัดตั้งหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินในสมาคมการแพทย์ครับ”

หวังชิ่งหยวนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเบิกตากว้าง เด็กคนนี้เริ่มเหลวไหลมากขึ้นทุกที และตัวเขาเองก็มีความคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้

เด็กคนนี้คงจะต้องการใช้หนังสือเล่มนี้เป็นใบเบิกทางแน่นอน

สมาคมการแพทย์แห่งชาติและหน่วยพลเรือนนั้นแตกต่างกัน

ถึงแม้ว่าสมาคมการแพทย์แห่งชาติจะก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่ถึงยี่สิบปีที่แล้ว แต่ก็มีอิทธิพลไปทั่วทั้งประเทศในฐานะสมาคมในสังกัดคณะกรรมการสุขภาพและครอบครัวแห่งชาติ และเป็นสมาคมระดับหนึ่งของชาติ

สมาคมการแพทย์แห่งชาติมีสถานะพิเศษในแวดวงการแพทย์ ไม่ว่าคุณจะดำรงตำแหน่งใดในสมาคมก็ตาม ขอแค่ได้อยู่ในสมาคมก็สุดยอดมากแล้ว

ทว่าทางสมาคมก็ยังไม่มีหน่วยที่จัดการด้านการแพทย์ฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ สวีเสี่ยวเฉียนจึงคิดว่าถ้าเขาจัดการประชุมขึ้นได้ด้วยหนังสือเล่มนี้ สถานะของเขาก็ต้องจะต่างออกไปจากตอนนี้อย่างแน่นอน

เมื่อมีเกียรติยศนี้แล้วมันก็จะกลายเป็นอาวุธที่เขาใช้ฝ่าฟันอุปสรรคในอนาคตได้อย่างแน่นอน!

สวีเสี่ยวเฉียนคิดแล้วก็อยากจะตื่นขึ้นมาหัวเราะแม้ว่าจะฝันอยู่ก็ตาม

แม้แต่ความทุกข์ที่ถูกเฉินเจิ้นปั่งยกเลิกการบรรยายก็พลันสลายหายไปด้วย ตราบใดที่เขาทำสิ่งที่ต้องการสำเร็จ เขาก็จะกลายเป็นผู้มีอำนาจในวงการและเป็นผู้นำด้านการแพทย์ฉุกเฉินในประเทศ คิดแล้วก็ยังมีความสุข

หวังชิ่งหยวนไม่ได้คัดค้านการจัดตั้งหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินในสมาคมการแพทย์แห่งชาติ กลับกัน เขาเองก็เห็นด้วยและรับปากไว้

ถ้าอยากพัฒนาก็ต้องมีองค์กรที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มีความสามารถระดับมืออาชีพที่ทำวิจัยด้วยกันได้

เขารู้ว่าสวีเสี่ยวเฉียนกำลังคิดอะไร แต่…เขาเองก็มีความคิดของตนเองเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว แต่สมองของเขาก็ยังคงใช้การได้ดีเสมอ

ช่วงไม่กี่วันมานี้ หวังชิ่งหยวนเองก็ไม่ได้อยู่เฉย เขาดันไปได้ยินชื่อ ‘ไป๋เยี่ย’ มาจากบางช่องทาง

เมื่อได้เห็นผลงานของไป๋เยี่ยแล้ว หวังชิ่งหยวนก็มีนิยามให้เขาเพียงสามพยางค์เท่านั้น

‘ไร้เทียมทาน’

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

Status: Ongoing
สูตรโกงฉบับเด็กเรียน แฟนตาซีระบบเรื่องใหม่จากผู้เขียนเดียวกับ “เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ”ถูกหลอกดูดเงินจนหมดบัญชี สิ่งที่ได้มากลับเป็นระบบเด็กเรียน?! เป็นเด็กเรียนน่ะไม่น่ากลัวเท่าไหร่หรอก แต่เกรงว่าเด็กเรียนผู้นี้จะต้องใช้สูตรโกงเสียแล้ว![สวัสดี คุณไป๋เยี่ยที่เคารพ สมาชิก QQ เดือนนี้ของท่านกำลังจะหมดอายุโปรดต่ออายุสมาชิกทันทีเพื่อคงเลเวลสมาชิกของท่านไว้]ไป๋เยี่ย แค่อยากจะต่ออายุสมาชิก QQ เท่านั้นแต่เขากลับถูกตัดเงิน! ตัดเงิน!! ตัดเงิน!!!จนยอดเงินในบัญชีธนาคารเหลืออยู่เพียง 0.01 หยวน?!นี่หรือว่า…เขาจะเจอมิจฉาชีพหลอกดูดเงินเข้าแล้ว?!!แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีหน้าต่างประหลาดปรากฏขึ้นตรงหน้า[ติ๊ง! ต่ออายุสมาชิกสำเร็จ เลเวลสมาชิกปัจจุบัน: 1][ติ๊ง! ยินดีด้วย ท่านได้เปิดใช้แผนสมาชิกตลอดชีพแล้ว โปรดรับสิทธิประโยชน์สมาชิกของท่าน]และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำภารกิจเด็กเรียนเพื่อพิชิตการเป็นสุดยอดแพทย์แผนจีนผันตัวกลายเป็นเด็กเรียนเบอร์ต้นๆ ของมหาวิทยาลัยเพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ฟันฝ่าอุปสรรคทำภารกิจที่ระบบมอบหมายให้สำเร็จและขวนขวายหาวิชาความรู้ด้วยตนเองท้ายที่สุดแล้วเขาจะเอาตัวรอดได้ด้วยตนเองหรือจะต้องใช้ ‘สูตรโกง’ กันนะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท