ตอนที่ 479 คาดไม่ถึง(2)
ตอนที่ 479 คาดไม่ถึง(2)
เมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของหลิวเสวียข่าย ฉินมู่หลานจึงอดพูดไม่ได้ “ผอ.หลิว อย่าเพิ่งเป็นกังวลเลย คุณยังไม่ได้ไปตรวจสอบเลยนะคะ ทำไมถึงตีตนไปก่อนไข้เสียแล้วล่ะ สัญญานี้ที่เพิ่งเซ็นไปก็บอกอยู่ว่าถ้าอีกฝ่ายยังไม่จ่ายเงิน พวกเราก็จะยังไม่ส่งสินค้า”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลิวเสวียข่ายก็นึกขึ้นได้
“ผมขอโทษด้วย กังวลไร้สาระมากไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมขอไปตรวจสอบเซิงซื่อกรุ๊ปก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
หลังหลิวเสวียข่ายพาเยว่เจินจูกลับไป ฉินมู่หลานก็วางแผนที่จะลองตรวจสอบดูเหมือนกัน หลังจากทราบข่าวแล้วก็รู้สึกวางใจที่เซิงซื่อกรุ๊ปไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ตอนนี้ในประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการแล้ว ตระกูลเผยจึงอยากกลับมาดูลาดเลาเสียก่อน เพราะที่นี่ก็ถือเป็นบ้านเกิดของตระกูลเผย
หลิวเสวียข่ายก็พบข้อมูลบางอย่างเหมือนกัน หลังจากนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้
“ดูเหมือนว่าผมจะกังวลมากไปหน่อย การร่วมงานกับเซิงซื่อกรุ๊ปในครั้งนี้ บางทีอาจจะทำให้มู่เสวี่ยโด่งดังในฮ่องกงเลยก็ได้”
เมื่อพูดจบ สายตาของหลิวเสวียข่ายก็ดูกระตือรือร้น
“หากเป็นไปได้ ผมก็อยากจะลองไปเที่ยวฮ่องกงบ้าง ลองดูว่าพวกเรายังมีอะไรให้ได้เรียนรู้ แล้วนำมาพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศเราให้ดีขึ้นได้”
“ผอ.หลิว ถ้าอยากไปด้วยกันก็ลองถามน้าข่งได้นะ อีกไม่นานหล่อนจะกลับไปฮ่องกง คุณให้หล่อนพาไปที่นั่นได้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลิวเสวียข่ายก็รู้สึกใจเต้นนิดหน่อย ติดที่ว่าเรื่องนี้เขาตัดสินใจเองไม่ได้ ยังต้องขอความเห็นจากหน่วยงานของตัวเองก่อนด้วย “ได้ เข้าใจแล้วล่ะ เดี๋ยวผมลองกลับไปถามก่อน ทางนี้ก็ฝากคุณลองถามคุณข่งให้หน่อยว่าจะพาคนเข้าเมืองได้ไหม”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มแล้วพยักหน้า
และในตอนนี้ข่งไฉ่อิงก็กำลังคุยเรื่องของฉินมู่หลานกับสามี
“นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่ามู่หลานจะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แบรนด์เครื่องสำอางมู่เสวี่ยมีชื่อเสียงในต่างประเทศมาก ฉันเองก็เคยเดินทางไปเรื่องธุรกิจ พอดีที่ต่างประเทศมีเครื่องสำอางวางขาย แล้วมีเครื่องสำอางชุดหนึ่งถูกตาต้องใจมาก นึกไม่ถึงเลยว่าคุณภาพจะดีขนาดนี้”
เผยเจิ้งผู่ฟังคำพูดของภรรยา ก่อนจะเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “มู่หลานเป็นคนเก่งอยู่แล้ว ไม่แปลกหรอกที่หล่อนจะประสบความสำเร็จ”
เมื่อเห็นสามีชื่นชมฉินมู่หลานมาก ข่งไฉ่อิงก็เอ่ยด้วยความสงสัย “ถึงมู่หลานจะเปิดโรงงานเครื่องสำอางและเก่งมากก็จริง แต่คุณไม่เคยชื่นชมใครมาก่อนเลยนะ”
เผยเจิ้งผู่รู้จักครอบครัวของฉินมู่หลานดีมากอยู่แล้ว ดังนั้นจึงรู้เรื่องของฉินมู่หลานเยอะมาก
“มู่หลานไม่ใช่แค่ก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอางมู่เสวี่ยเท่านั้นนะ สิ่งที่ทำให้หล่อนทรงพลังมากที่สุดก็คือเรื่องพัฒนายาพิเศษหลายชนิด และเท่าที่ผมรู้ หล่อนได้รับการติดต่อจากทางกองทัพ และได้ร่วมงานกับทางกองทัพด้วย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของข่งไฉ่อิงก็ดูเหลือเชื่อ
“จริงเหรอเนี่ย ที่แท้ทักษะทางการแพทย์ของฉินมู่หลานก็ดีขนาดนั้นเชียว”
“ใช่แล้ว”
เผยเจิ้งผู่พยักหน้า แล้วรีบเอ่ยถามภรรยาทันที “คุณจะกลับไปฮ่องกงเมื่อไหร่?”
“อีกสองสามวันค่ะ”
ข่งไฉ่อิงพูดแล้วหันมองสามีตัวเอง พลางเอ่ยถาม “แล้วคุณล่ะ ครั้งนี้คุณอยู่ที่ปักกิ่งมาระยะหนึ่งแล้วนะ จะกลับไปเมื่อไหร่?”
“ถึงเวลาผมจะกลับไปพร้อมคุณ บ้านใกล้จะเสร็จแล้ว ถึงตอนนั้นเราจะได้จัดงานฉลองขึ้นบ้านใหม่”
ข่งไฉ่อิงก็ไม่ได้ปฏิเสธ “ค่ะ”
หลังจากเรือนสี่ประสานของตระกูลเผยปรับปรุงเสร็จแล้ว ข่งไฉ่อิงก็นำคำเชิญมาให้ครอบครัวของฉินมู่หลานเพื่อไปร่วมพิธีฉลองขึ้นบ้านใหม่
ฉินมู่หลานรับคำเชิญไปพลางมองดูวันที่และเวลา ก่อนจะเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “น้าข่งวางใจค่ะ ถึงเวลาพวกเราจะไปแน่นอน”
“นี่พูดแล้วนะ พวกเรามีญาติอยู่ที่เมืองหลวงกันแค่ไม่กี่คน ถ้ามีพวกเธอไปร่วมงานด้วยเยอะ ๆ ก็คงดี”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มพลางพยักหน้าอย่างเป็นกันเอง หลังจากนั้นเธอก็รีบถามว่าสามารถพาคนไปที่ฮ่องกงด้วยได้ไหม
ข่งฉ่าหยยิงคิดอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้แล้วบอกกล่าว “ได้แน่นอนอยู่แล้ว หรือว่าโรงงานของเธออยากจะไปลองชมสถานที่ในบริษัทของพวกเรา?”
“เป็น ผอ. หลิวที่อยากไปลองชมฮ่องกงค่ะ แต่เขายังไม่แน่ใจ จึงให้ฉันช่วยลองมาถามน้าก่อน ทางคุณน้าสะดวกไหมคะ”
“ทางฝั่งน้าสะดวกอยู่แล้ว ถ้าหาก ผอ.หลิว ตัดสินใจว่าจะไปจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปพร้อมกันได้เลย”
“ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานเห็นว่าข่งไฉ่อิงดูกระตือรือร้นมาก จึงเสนอแผนการขายบางอย่างให้ “น้าข่งคะ ถึงแม้ว่าเครื่องสำอางของเราจะอยู่ระดับไฮเอนด์ แต่ก็สามารถสร้างกิจกรรมโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดฐานลูกค้าได้นะคะ”
พูดจบ ฉินมู่หลานก็นำเสนอให้ฟังหลากหลายแนวทาง พร้อมทั้งเสนอระบบสมาชิกและกิจกรรมบางอย่างด้วย
ข่งไฉ่อิงตกตะลึงหลังจากได้พูดคุยเรื่องพวกนี้
หล่อนไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าสินค้าอย่างหนึ่งจะมีวิธีการขายมากมายขนาดนี้ และจากสิ่งที่มู่หลานพูด มันก็ไม่ได้เป็นประโยชน์เพียงเฉพาะเครื่องสำอางเท่านั้น
เมื่อคิดแบบนี้ ข่งไฉ่อิงก็รีบหันไปมองแล้วเอ่ยถามฉินมู่หลาน “มู่หลาน น้าขอจำวิธีพวกนี้แล้วเอาไปปรับใช้กับสินค้าอื่นด้วยได้ไหม?”
วิธีการโปรโมทแบบนี้สามารถทำตามได้ง่ายมาก ในเมื่อมู่หลานพูดออกมาหมดแล้ว ก็หมายความว่าเธอไม่คิดที่จะปิดบังอยู่แล้ว จึงพยักหน้าแล้วกล่าว “ได้อยู่แล้วค่ะ”
ข่งไฉ่อิงได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกดีใจมาก หลังจากได้รับอนุญาตให้ใช้วิธีพวกนี้แล้ว ก็รีบกลับไปบอกเผยเจิ้งผู่
หลังจากเผยเจิ้งผู่ฟังจบ สีหน้าก็เต็มไปความซาบซึ้ง
“คลื่นลูกใหม่ซัดแรงกว่าคลื่นลูกเก่า ไม่คิดเลยว่ามู่หลานจะคิดวิธีแปลกใหม่ได้แบบนี้ หล่อนสุดยอดเหลือเกิน” หลังจากพูดจบ เขาก็รู้สึกอิจฉาฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงนิดหน่อย
จนกะทั่งถึงวันขึ้นบ้านใหม่ของตระกูลเผย ครอบครัวฉินมู่หลานทุกคนก็ไปร่วมงาน แม้แต่เด็กทั้งสองก็ไปร่วมงานด้วยเหมือนกัน
ข่งไฉ่อิงเห็นพวกฉินมู่หลาน ก็รีบยกยิ้มแล้วเข้าไปหาพวกเขา หลังจากนั้นจึงไปทักทายแขกคนอื่น
วันนี้หลิวเสวียข่ายกับเยว่เจินจูก็มาร่วมงานด้วยเหมือนกัน
เมื่อฉินมู่หลานเห็นหลิวเสวียข่าย ก็ยกยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปหาคน หลังจากนั้นก็เอ่ยถามคำถามที่สำคัญที่สุด “ผอ.หลิว ตัดสินใจหรือยังคะ ว่าจะไปฮ่องกงหรือเปล่า?”
“ไปสิ ผมจะไปฮ่องกงแน่”
หลิวเสวียข่ายจ้องมองฉินมู่หลานด้วยแววตาสดใส ก่อนจะเอ่ย “พวกเราตัดสินใจแล้ว ถึงเวลาผมจะไปฮ่องกงพร้อมกับคุณนายข่ง และยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ติดตามไปด้วยกัน”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เดี๋ยวฉันจะบอกน้าข่งให้นะคะ”
แต่สิ่งที่ฉินมู่หลานไม่ทันคาดคิดก็คือ หนึ่งในผู้ติดตามที่ว่า มีเซี่ยเจ๋อหลี่อยู่ในนั้นด้วย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
กิจการของมู่หลานเตรียมตีตลาดฮ่องกงแล้วสิ
อ้าว พี่หลี่ไปทำอะไรที่ฮ่องกงล่ะนั่น
ไหหม่า(海馬)