ตอนที่ 480 เหตุผลเหมาะสม(1)
ตอนที่ 480 เหตุผลเหมาะสม(1)
หลังจากฉินมู่หลานทราบว่าหลิวเสวียข่ายจะไปฮ่องกง เธอก็พยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปบอกน้าข่งก่อนนะ ว่าแต่พวกคุณจะเดินทางไปที่นั่นกันกี่คนเหรอ?”
หลิวเสวียข่ายครุ่นคิดก่อนจะกล่าว “ประมาณแปดคน”
“ตกลง ฉันทราบแล้วค่ะ”
ฉินมู่หลานสบโอกาสแล้วก็พูดเรื่องนี้กับข่งไฉ่อิง
“น้าข่งคะ ผอ.หลิวตัดสินใจว่าจะไปฮ่องกงแล้วค่ะ เขาไปพร้อมกับเพื่อนร่วมงานอีกจำนวนหนึ่ง ไม่รู้ว่าทางฝั่งคุณน้าสะดวกหรือเปล่า”
ข่งไฉ่อิงได้ยินแบบนี้ก็รีบกล่าวทั้งรอยยิ้ม “สะดวกสิ สะดวกอยู่แล้ว งั้นถ้าถึงเวลาเราจะเดินทางไปฮ่องกงด้วยกัน แต่ว่าทางฝั่ง ผอ.หลิว มีคนไปด้วยกี่คนเหรอ น้าจะได้เตรียมตัวล่วงหน้าให้เรียบร้อย”
“ประมาณเจ็ดหรือแปดคนค่ะ”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นน้าจะจองตั๋วล่วงหน้า ถึงเวลาพวกเราจะได้เดินทางพร้อมกัน”
เมื่อเห็นข่งไฉ่อิงยินยอม ฉินมู่หลานก็วางใจ แต่แล้วเธอกลับนึกถึงเยว่เจินจู
“น้าข่งคะ แล้วถ้าให้เจินจูไปกับพวกน้าด้วยล่ะคะ ก่อนหน้านี้หล่อนบอกว่าอยากจะไปเที่ยวฮ่องกง และหล่อนก็อยากเที่ยวชมด้วยว่ารสนิยมการแต่งหน้าของที่นั่นเป็นแบบไหน คงจะดีหากหล่อนเก็บข้อมูลให้ทางมู่เสวี่ยของเราได้ จะได้ทราบว่าควรผลิตสินค้าอะไรต่อไป”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ข่งไฉ่อิงก็ตอบตกลงทันที
“นั่นเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว นอกจากนี้เจินจูกับ ผอ.หลิวก็เป็นคู่รักกัน พวกเขาได้ไปฮ่องกงด้วยกันคงจะดีนะ”
“ใช่ค่ะ ถ้าอย่างนั้นน้าข่ง พวกเราตกลงกันตามนี้นะคะ”
ข่งไฉ่อิงพยักหน้าทั้งรอยยิ้ม
หลังจากฉินมู่หลานพูดคุยกับข่งไฉ่อิงแล้ว เธอก็ตรงไปบอกหลิวเสวียข่าย ขณะเดียวกันก็บอกเรื่องที่จะให้เยว่เจินจูเดินทางไปกับเขาด้วย
“จริงเหรอมู่หลาน ฉันไปฮ่องกงได้จริงเหรอ?”
สีหน้าของเยว่เจินจูเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แม้แต่หลิวเสวียข่ายก็มองฉินมู่หลานด้วยความแปลกใจนิดหน่อย
ฉินมู่หลานพยักหน้าทั้งรอยยิ้มแล้วเอ่ย “จริงแน่นอนอยู่แล้ว ฉันตกลงกับน้าข่งเรียบร้อย หล่อนจะจัดการซื้อตั๋วให้พวกเธอล่วงหน้า”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลิวเสวียข่ายก็รีบเอ่ย “จะให้คุณข่งออกค่าใช้จ่ายได้ยังไง ถึงเวลาพวกเราจะจ่ายค่าตั๋วเอง”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็บอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงรอถึงตอนนั้นแล้วค่อยจ่ายค่าตั๋วก็ได้”
หลิวเสวียข่ายก็คิดแบบนั้น จึงไม่พูดอะไรมากมายอีก
จนกระทั่งงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ใกล้จบ ทุกคนก็ทยอยกันกลับไปทีละคน
หลังจากพวกฉินมู่หลานกลับถึงบ้าน ซูหว่านอี๋ก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย “มู่หลาน เมื่อกี้ลูกบอกว่าพวกเจินจูจะไปทำธุระที่ฮ่องกงเหรอ”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ค่ะ ถึงเวลานั้นพวกผอ.หลิวกับเจินจูก็จะตามน้าข่งไปที่ฮ่องกงด้วยกันค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ แววตาของซูหว่านอี๋ก็เปล่งประกายด้วยความโหยหา “หลายปีเหลือเกิน ในที่สุดก็สามารถไปไหนมาไหนได้สักที”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็อดหันไปมองไม่ได้ ในใจคาดเดาบางสิ่งเรียบร้อย
“แม่ หรือว่าแม่อยากไปฮ่องกงคะ จริง ๆ แล้ว แม่กับคุณย่าของพวกเด็ก ๆ ก็ไปด้วยกันได้นะคะ”
ทำไมเธอเพิ่งนึกขึ้นได้นะ เยว่เจินจูได้ไปฮ่องกงเพื่อเปิดโลก สำรวจดูการแต่งหน้าซึ่งเป็นที่นิยมแถวนั้น ถ้าอย่างนั้นแม่และแม่สามีก็สามารถไปที่นั่นได้เหมือนกัน ตอนนี้ทั้งสองมีหน้าที่บริหารโรงงานเครื่องสำอาง เช่นนั้นพวกเขาก็ควรจะได้ไปเยือนฮ่องกงเหมือนกัน
ซูหว่านอี๋ได้ยินแบบนี้ก็รีบโบกมือแล้วบอกกล่าวทันที “ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องหรอก ทางฝั่งโรงงานยุ่งขนาดนั้น และชิงชิงกับเฉินเฉินก็ต้องมีคนช่วยดูแลด้วย แล้วแม่จะไปฮ่องกงได้ยังไงกัน”
“แม่คะ พวกแม่เดินทางไปสำรวจสิ่งต่าง ๆ ในฮ่องกงถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ นอกจากนี้ชิงชิงกับเฉินเฉินมีคนคอยดูแลตั้งเยอะแยะ แม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ”
“ถ้าแม่กับจิ้งจือไปฮ่องกงด้วยกัน ลูกก็ต้องไปเรียนอีก แล้วใครจะดูแลเด็ก ๆ ล่ะ”
ฉินมู่หลานพูดด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ แม่ลืมไปแล้วเหรอ ว่าพ่อกับพ่อสามีบูรณะบ้านของตระกูลเผยเสร็จแล้วนะ เพราะฉะนั้นพวกพ่อช่วยกันดูแลพวกเด็ก ๆ ได้ค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ซูหว่านอี๋ก็ครุ่นคิด แต่ก็ยังเป็นกังวลอยู่ว่าผู้ชายสองคนจะดูแลเด็กได้อย่างไร
ฉินมู่หลานเห็นแบบนี้ จึงรีบกล่าวต่อ “นอกจากนี้ก็ยังขอให้ลุงเจี่ยงช่วยดูแลพวกเขาสักสองสามวันได้ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นเด็ก ๆ ไม่มีปัญหาหรอก”
ซูหว่านอี๋เห็นลูกสาวพูดแบบนั้น ก็ไขว้เขวนิดหน่อย อันที่จริงหล่อนก็อยากไปเหมือนกัน กิจการของมู่เสวี่ยกำลังไปได้ดี หล่อนกับเหยาจิ้งจือจึงมีหลายสิ่งให้ต้องเรียนรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ครั้งนี้หากได้ไปศึกษาดูงานที่ฮ่องกงเพิ่มเติมก็จะเป็นเรื่องดี
แต่ซูหว่านอี๋ก็ยังกังวลเรื่องในบ้านนิดหน่อย
ฉินมู่หลานมองเห็นความลังเลของแม่ เธอจึงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “แม่คะ เดี๋ยวหนูไปตามคุณย่าของพวกเด็ก ๆ มา แล้วพวกเราลองพิจารณาเรื่องนี้กันอย่างรอบคอบเถอะค่ะ”
หลังจากพูดจบ มู่หลานก็เดินตรงไปเรียกเหยาจิ้งจือ
ซูหว่านอี๋อยากจะห้ามเอาไว้ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ฉินมู่หลานรีบเดินออกไปอย่างเร็วมาก
จนกระทั่งเหยาจิ้งจือมา แล้วได้ยินว่ากำลังจะไปฮ่องกง สีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
แต่เมื่อนึกถึงการร่วมงานครั้งนี้ของมู่หลานกับหลิวเสวียข่าย การที่พวกหล่อนได้ไปฮ่องกงก็ถือเป็นความคิดที่ดี แต่หล่อนก็มีความกังวลเหมือนกับซูหว่านอี๋ทุกอย่างตรงที่จะไม่มีคนช่วยดูแลพวกเด็ก ๆ
“แม่คะ เรื่องเด็ก ๆ พวกแม่ไม่ต้องกังวลกันหรอกค่ะ พวกเราช่วยกันดูแลได้ ส่วนทางฝั่งโรงงาน ฉันจะบอกพี่สะใภ้ให้หล่อนช่วยดูแลมากขึ้น ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ให้มาหาฉันได้”
หลังจากเซี่ยเหวินปิงกับฉินเจี้ยนเซ่อทราบว่าภรรยาของพวกเขากำลังจะไปฮ่องกง สีหน้าก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“อะไรนะ…พวกคุณจะไปฮ่องกงด้วยกันเหรอ? แต่ว่ามันเดินทางไกลมากนะ จะไม่เป็นไรเหรอ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็หันไปมอง
“พวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไรกัน จะเป็นนอะไรไปได้ เจิ้งผู่กับภรรยาของเขาก็ไปด้วยกัน แล้วไหนจะเสวียข่ายกับเจินจูสองสามีภรรยานั่นอีก”
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ฉินเจี้ยนเซ่อกับเซี่ยเหวินปิงก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี
ภรรยาทั้งสองคนของพวกเขาไม่เคยเดินทางไกลเพียงลำพังเลย ครั้งนี้ถึงจะมีคนอื่นร่วมเดินทางไปด้วย แต่ก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี
สุดท้ายเหยาจิ้งจือก็ตัดสินใจขั้นเด็ดขาด
“เอาล่ะ พวกเราตัดสินใจแล้วว่าจะไปฮ่องกง อย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ พวกคุณไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันกับหว่านอี๋เป็นผู้บริหารมู่เสวี่ย ต้องไปศึกษาดูงานที่ฮ่องกงให้ดี”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็บอกกล่าวทั้งรอยยิ้ม “แม่คะ พวกแม่ตัดสินใจดีแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวหนูจะไปบอกน้าข่ง ให้หล่อนช่วยจองตั๋วให้เพิ่มอีกสองใบ จากนั้นจะไปบอกผอ.หลิวด้วย”
ฉินมู่หลานไปพบหลิวเสวียข่ายก่อน
หลิวเสวียข่ายรู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยอยู่แล้ว “วางใจเถอะมู่หลาน พวกเราจะดูแลพวกคุณน้าเป็นอย่างดี แบบนี้เจินจูก็จะมีคนคุยเล่นด้วยแล้ว จะได้ไมรู้สึกเบื่อระหว่างทาง”
เยว่เจินจูดีใจมาก หล่อนกุมมือฉินมู่หลานแล้วกล่าว “มู่หลานเธอวางใจ ฉันจะคอยดูแลคุณน้าทั้งสองคนอย่างดี”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มแล้วพยักหน้า
จากนั้นเธอก็ไปหาข่งไฉ่อิง
หลังจากข่งไฉ่อิงทราบว่าซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือจะไปด้วย สีหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ดีมากเลย ระหว่างเดินทางพวกเราจะได้ไม่เบื่อ ยังคุยกับแม่และแม่สามีของเธอได้”
พูดจบ เธอก็พูดถึงเรื่องความสำคัญในการทำงานของผู้หญิงขึ้นมาด้วย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ถือว่าไปเปิดหูเปิดตาดูความก้าวหน้าของโลกล่ะนะ
ไหหม่า(海馬)