ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 482 เซี่ยปิงชิงตั้งครรภ์

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 482 เซี่ยปิงชิงตั้งครรภ์

ตอนที่ 482 เซี่ยปิงชิงตั้งครรภ์

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ ก็เห็นว่าเหตุผลนี้ดีที่สุด เมื่อคิดไปถึงว่าภารกิจครั้งนี้คือการเข้าถ้ำเสือ เขาก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ตกลง ถ้าอย่างนั้นถึงเวลาผมจะไปฮ่องกงพร้อมแม่และคนอื่น ๆ”

หลังจากทั้งสองพูดคุยกันเสร็จแล้ว ก็ไปบอกซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือเรื่องนี้

เหยาจิ้งจือได้ยินว่าลูกชายจะไปฮ่องกงกับพวกหล่อนด้วย แววตาก็ดูประหลาดใจ “จริงเหรออาหลี่ แกจะไปฮ่องกงกับพวกเราเหรอ ช่วงนี้แกได้หยุดอีกแล้วเหรอ?”

แม้แต่สีหน้าของซูหว่านอี๋ก็เต็มไปด้วยความสงสัย

เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม แล้วกล่าว “ครับ บังเอิญเพิ่งได้หหยุด”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ถ้าแกไปกับพวกเรา พวกเราก็จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว” เหยาจิ้งจือรู้สึกว่าเรื่องนี้บังเอิญเหลือเกิน ลูกชายเพิ่งได้หยุด อีกทั้งยังไปฮ่องกงกับพวกหล่อนได้อีก

แต่พอนึกขึ้นได้ว่ามู่หลานกำลังตั้งครรภ์แล้วต้องมีคนคอยดูแลลูกทั้งสอง จึงพลันรู้สึกไม่ดีหากลูกชายต้องเดินทางไปพร้อมพวกหล่อน

“อาหลี่ ในเมื่อแกมีวันหยุดแล้วไม่อยู่ปักกิ่งกับมู่หลานเหรอ”

ไม่รอให้เซี่ยเจ๋อหลี่ได้พูด ฉินมู่หลานก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “แม่คะ ฉันเพิ่งบอกไป ว่าพวกเราดูแลตัวเองได้ ให้อาหลี่ไปฮ่องกงกับพวกแม่เถอะค่ะ แบบนี้พวกเราจะได้สบายใจ”

ฉินมู่หลานกล่าวยืนกรานอีกครั้ง เหยาจิ้งจือกับซูหว่านอี๋จึงยอมตกลง

เมื่อตกลงเรื่องนี้กันเรียบร้อย เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ตัดสินใจจะไปกับเหยาจิ้งจือและซูหว่านอี๋ ส่วนเฉาเจิ้งหนานกับคนอื่น ๆ จะสวมบทเป็นคนของกระทรวงพาณิชย์

เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง หลังจากเผยเจิ้งผู่เจอเซี่ยเจ๋อหลี่ ก็ยกยิ้มแล้วพยักหน้าให้เขา

เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยกยิ้มแล้วกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตรเช่นกัน

ข่งไฉ่อิงเหลือบมองเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยความสงสัย จากนั้นจึงหันมองแล้วพูดกับฉินมู่หลาน “มู่หลาน ในที่สุดก็ได้เจอสามีเธอแล้ว พวกเธอนี่ทั้งหล่อสวยมากความสามารถกันเหลือเกิน อยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมมาก เขาไม่ยอมพักผ่อน แล้วยังพาแม่กับแม่ยายไปเที่ยวอีก ช่างกตัญญูเหลือเกิน”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็กล่าวทั้งรอยยิ้ม “คนในครอบครัวเราไม่วางใจให้พวกแม่เดินทางไกลค่ะ เพราะพวกท่านไม่เคยแยกจากพวกเราเลย ตอนนี้มีอาหลี่อยู่ข้าง ๆ พ่อฉันกับคนอื่น ๆ เลยวางใจได้แล้ว”

เซี่ยเหวินปิงกับฉินเจี้ยนเซ่อพยักหน้า เดิมทีพวกเขาเป็นกังวลมาก แต่เมื่อมีเซี่ยเจ๋อหลี่ไปด้วย พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจจริง ๆ

เฉาเจิ้งหนานคอยตามหลิวเสวียข่ายอยู่ข้างหลัง มองเซี่ยเจ๋อหลี่อำลาคนในครอบครัวก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องจะบังเอิญขนาดนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางไปฮ่องกงผ่านการร่วมงานทางอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง แต่ผู้รับผิดชอบดูแลแบรนด์เครื่องสำอางนี้กลับกลายเป็นครอบครัวของเซี่ยเจ๋อหลี่เสียได้

หลังจากบอกลาคนแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ เผยเจิ้งผู่ หลิวเสวียข่ายและคนอื่น ๆ ก็ขึ้นรถไฟทันที ส่วนฉินมู่หลานและคนอื่นก็เดินทางกลับบ้านกัน

หลังจากหลายคนถึงบ้าน ฉินเจี้ยนเซ่อก็อดพูดไม่ได้ “เฮ้อ…ไม่รู้ว่าพวกแม่ของลูกจะกลับมาเมื่อไหร่”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็อดกล่าวพร้อมรอยยิ้มเสียไม่ได้ “พ่อคะ แม่เพิ่งจะออกไปเองนะ”

เซี่ยเหวินปิงก็รู้สึกไม่ค่อยชินเหมือนกัน หลังจากพวกเขาแต่งงานกันก็ไม่เคยแยกจากกันมาก่อน ในเวลานี้เขาจึงรู้สึกไม่ชินนิดหน่อย แต่เมื่อนึกถึงว่าภรรยาวางใจพวกเขา เขาจึงมีแรงใจ ก่อนจะหันมองลูกสะใภ้คนเล็กแล้วกล่าวว่า “มู่หลาน เธอจะไปทำอะไรก็ไปทำได้เลยนะ เดี๋ยวพ่อเธอกับฉันจะช่วยดูแลชิงชิงกับเฉินเฉินเอง”

“พ่อคะ วันนี้วันอาทิตย์ ฉันไม่ต้องทำอะไร อีกเดี๋ยวฉันว่าจะพาเด็ก ๆ ไปที่บ้านพ่อบุญธรรมค่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินเจี้ยนเซ่อก็อดพูดไม่ได้ “พวกลูกจะไปบ้านสือเหิงเหรอ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพวกเราไปด้วย ตอนกลางวันจะได้ดื่มกับสือเหิงสักหน่อย”

เซี่ยเหวินปิงก็ไม่มีข้อโต้แย้งอะไร หลังจากนั้นฉินมู่หลานกับคนอื่น ๆ ก็ตรงไปที่บ้านตระกูลเจี่ยง

เจี่ยงสือเหิงเห็นพวกเขามาหา ก็รีบทักทายพวกเขาพร้อมรอยยิ้ม “มู่หลาน ทำไมวันนี้พวกลูกถึงมาที่นี่ละ รีบเข้ามานั่งก่อนสิ”

ขณะพูด แขนของเขาก็อุ้มชิงชิงขึ้นมา “เสี่ยวชิงชิง คิดถึงตาบ้างไหม”

“คิดถึง~~”

ชิงชิงหอมแก้มของเจี่ยงสือเหิง หล่อนชอบคุณตาที่ดูอายุน้อยหน้าตาหล่อเหลาคนนี้มาก

ฉินเจี้ยนเซ่อเห็นหลานสาวทำแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเศร้านิดหน่อย ชิงชิงไม่เคยหอมแก้มเขามาก่อนเลย

แม้แต่เซี่ยเหวินปิงก็ยังรู้สึกอิจฉามากเหมือนกัน

แต่เจี่ยงสือเหิงสัมผัสถึงความใกล้ชิดของเด็กน้อย ทั้งตาและคิ้วก็มีรอยยิ้ม “ชิงชิงของเราเป็นเด็กดีจัง”

ฉินมู่หลานเห็นว่าเจี่ยงสือเหิงอยู่คนเดียว จึงอดถามไม่ได้ “พ่อคะ ปิงชิงล่ะ ทำไมไม่เห็นหล่อนเลย”

“ปิงชิงยังไม่ตื่น หลายวันมานี้หล่อนค่อนข้างเหนื่อย นอนไม่ค่อยพอ”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็อดพูดไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันขอไปดูหล่อนหน่อยค่ะ จะได้ตรวจชีพจรให้หล่อนด้วย”

เจี่ยงสือเหิงพยักหน้าเห็นด้วยอยู่แล้ว

“มู่หลาน ถ้าอย่างนั้นรบกวนลูกช่วยตรวจปิงชิงหน่อยนะ ก่อนหน้านี้พ่อบอกให้หล่อนไปโรงพยาบาล แต่หล่อนก็ไม่ยอมไป บอกว่ารู้ตัวเองดี ไม่ต้องไปหาหรอก แต่หลายวันมานี้หลับตลอดเลย พ่อก็รู้สึกกังวลนิดหน่อย”

“ค่ะ เดี๋ยวฉันไปตรวจให้”

ฉินมู่หลานตรงไปที่ลานบ้านด้านหลัง

เจี่ยงสือเหิงเห็นฉินมู่หลานไปแล้วก็รู้สึกโล่งใจ และในตอนนั้นเองก็สังเกตเห็นว่าซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือไม่อยู่ จึงอดถามเพิ่มไม่ได้

เซี่ยเหวินปิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง หลังจากนั้นก็บอกว่า “ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะกลับตอนไหนนะ”

เจี่ยงสือเหิงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

“อาหลี่ก็ไปฮ่องกงด้วยเหรอ?”

เซี่ยเหวินปิงพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่แล้ว มีอาหลี่ไปด้วย พวกเราเลยรู้สึกโล่งใจ”

ฉินเจี้ยนเซ่อก็กล่าวตาม “โชคดีที่ครั้งนี้อาหลี่ได้ลาพัก ไม่อย่างนั้นพวกเราคงกังวลกันตลอดเวลาแน่นอน”

แต่เจี่ยงสือเหิงกลับรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่าเรื่องราวคงไม่ได้ราบรื่น คนอย่างเซี่ยเจ๋อหลี่คงไม่ไปทางฝั่งฮ่องกงโดยไม่มีเจตนา แต่ครั้งนี้เขากลับไปพร้อมกับคนในครอบครัวอย่างซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือ หากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีลับลมคมนัยซ่อนอยู่เขาคงไม่ปักใจเชื่อ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพื่อไม่ให้เซี่ยเหวินปิงกับฉินเจี้ยนเซ่อเป็นกังวล จึงได้แต่หวังว่าการเดินทางของพวกเขาจะเป็นไปด้วยดี

อีกด้านหนึ่ง หลังจากฉินมู่หลานมาถึงลานบ้านด้านหลัง ก็ตรงไปที่ห้องของเซี่ยปิงชิง

เซี่ยปิงชิงยังคงหลับอยู่ แต่หลังจากได้ยินเสียงดังขึ้นก็หันไปทางฉินมู่หลานด้วยสีหน้าง่วงนอน หลังจากเห็นคนมา เธอก้ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วพูดว่า “มู่หลาน เธอมาทำไมเหรอ”

ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยปิงชิงเป็นแบบนี้ก็อดถามไม่ได้ “ปิงชิง หลายวันมานี้เธอพักผ่อนไม่พอเหรอ ทำไมป่านนี้แล้วยังนอนอยู่อีก”

เซี่ยปิงชิงหาว ก่อนจะกล่าวอย่างเกียจคร้าน “เปล่านะ หลายวันมานี้ ทุกวันฉันเข้านอนเร็วมาก แต่ตื่นเช้าไม่ค่อยได้เลย อยากจะหลับต่อตลอด”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็คว้าข้อมือของเซี่ยปิงชิงแล้วตรวจชีพจรให้หล่อนทันที

เซี่ยปิงชิงเห็นแบบนี้ ก็รีบบอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “มู่หลาน ฉันรู้จักร่างกายตัวเองดี ฉันไม่เป็นไร ช่วงนี้แค่ง่วงมากไปหน่อย”

แต่เมื่อฉินมู่หลานได้จับชีพจรแล้ว เธอก็หันไปมองเซี่ยปิงชิงด้วยสีหน้าตกตะลึงก่อนจะเอ่ย “เธอรู้ร่างกายตัวเองจริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นเธอรู้ไหมว่าตอนนี้ตัวเองกำลังตั้งท้อง”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ไวจัง แต่งงานแปบเดียวพ่อบุญธรรมมีลูกแล้ว

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท