ตอนที่ 1438 ทำลายล้างแคว้นให้ดับสูญ
ไป๋ชิงเหยียนคลี่รายงานออกอ่านพลางเอ่ยถามทหารส่งสาร
“รบแพ้อย่างนั้นหรือ”
“ฝ่าบาท หานเฉิงอ๋อง…พลีชีพเพื่อแคว้นพ่ะย่ะค่ะ!”
ทหารส่งสารกล่าวเสียงสะอื้น
ไป๋ชิงเหยียนชะงักมือที่กำลังคลี่รายงานสถานการณ์รบออกอ่านทันที ในสมองของนางเต็มไปด้วยภาพความฝันที่หานเฉิงอ๋องก้มศีรษะคำนับอำลานางแนบพื้นที่นอกตำหนักใหญ่ในวันนั้น
ทหารส่งสารกล่าวเสียงสะอื้น
“หานเฉิงอ๋องพาทหารเรือไปคุ้มกันชาวประมงเพียงแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าแคว้นตงอี๋จะส่งทหารเรือออกไล่ล่าจับตัวทูตต้าโจวของพวกเรา! พวกเราไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดสงคราม! ทว่า แคว้นเล็กอย่างตงอี๋กลับกล้าลงมือกับต้าโจวในอาณาเขตของพวกเรา!”
ลำคอของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว โทสะกำลังเดือดพล่านอยู่ในใจ นางส่งกระบอกไม้ไผ่ให้เว่ยจง จากนั้นคลี่รายงานสถานการณ์รบออกอ่าน
ในรายงานสถานการณ์รบกล่าวว่าแคว้นตงอี๋ส่งทหารเรือเกือบทั้งแคว้นออกไล่ล่าเรือของทูตต้าโจว กล่าวว่าต้องการจับตัวองค์ชายเจ็ดของแคว้นตงอี๋กลับไป ทว่า องค์ชายเจ็ดไม่ได้อยู่บนเรือของทูตต้าโจว
เรือรบของหานเฉิงอ๋องที่คุ้มกันชาวประมงไปหาปลากลางทะเลเห็นเหตุการณ์ตอนที่เรือรบของตงอี๋กำลังไล่ล่าเรือของทูตต้าโจวเข้าพอดี หานเฉิงอ๋องรู้ดีว่าพวกเขาต้องพ่ายแพ้เพราะมีกำลังทหารน้อยกว่ามากจึงตีเฉิงหย่วนจื้อจนสลบและให้คนพาเฉิงหย่วนจื้อหนีไป ส่วนตัวเขาอยู่ต้านทานเรือรบของตงอี๋ที่มีมากกว่าพวกเขาหลายเท่าด้วยชีวิตเพื่อยื้อเวลาให้ทูตและชาวประมงของต้าโจวหนีขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
ต่อมาลูกธนูถูกใช้จดหมด เรือรบถูกแคว้นตงอี๋โจมตีจนเสียหายอย่างหนัก หานเฉิงอ๋องจึงสั่งให้ทหารเรือบังคับเรือหลักของต้าโจวพุ่งชนเรือรบหลักตงอี๋เต็มกำลัง
ต่อมาเหล่าทหารเรือของต้าโจวเห็นว่าพวกเขาต้านทานทหารเรือของตงอี๋ไม่ไหวอีกต่อไปจึงใช้เรือรบของตัวเองพุ่งชนเรือลำอื่นของตงอี๋เช่นเดียวกัน
ทหารเรือของแคว้นตงอี๋ซึ่งแม่ทัพหลักตู้อวี่หลางของพวกเขาเสียชีวิตลงจึงได้แต่นำศพของหานเฉิงอ๋องกลับไปยังแคว้นตงอี๋ พวกเขาประกาศกร้าวว่าหากจักรพรรดินีของต้าโจวไม่เดินทางมารับศพของหานเฉิงอ๋องกลับคืนด้วยตัวเองพวกเขาจะฉีกร่างของหานเฉิงอ๋องออกเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้สุนัขกิน
ทหารเรือที่ตามหานเฉิงอ๋องไปออกทะเลในครั้งนี้เสียชีวิตลงในสงครามทั้งหมด ทูตของต้าโจวและชาวประมงกลับขึ้นฝั่งอย่าปลอดภัย หลู่เฟิ่งหลางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลิ่วหรูซื่อยังอยู่ในแคว้นตงอี๋
ไป๋ชิงเหยียนอ่านถึงตรงนี้ก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ขอบตาของนางพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตา ในสมองเต็มไปด้วยโทสะที่กำลังลุกโชน แคว้นเล็กอย่างตงอี๋…กล้าดีอย่างไร กล้าดีอย่างไร!
เสียงของทหารส่งสารยังคงดังอยู่ข้างหูไป๋ชิงเหยียน
“ฝ่าบาท พระองค์ต้องแก้แค้นให้หานเฉิงอ๋องและทหารเรือที่เสียชีวิตไปนะพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาท ด้านในยังมีสิ่งนี้อีกอย่างพ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยจงหยิบป้ายทองออกมาจากกระบอกไม้ไผ่
ไป๋ชิงเหยียนมอบป้ายทองแผ่นนี้ให้หานเฉิงอ๋องเพื่อซื้อใจเขา!
เมื่อทหารส่งสารเห็นป้ายทองแผ่นนั้น น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ตั้งแต่ต้นก็ไหลพรากออกมาทันที
“แม่ทัพเฉิงเป็นคนใส่ป้ายทองลงในกระบอกไม้ไผ่พ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพเฉิงบอกว่าก่อนหานเฉิงอ๋องจะสิ้นพระชนม์ พระองค์ฝากแม่ทัพเฉิงมาบอกฝ่าบาทว่าหานเฉิงอ๋องทำให้ฝ่าบาททรงผิดหวัง ชาติหน้าเขาจะเกิดมารับใช้ฝ่าบาทใหม่พ่ะย่ะค่ะ!”
น้ำตาของไป๋ชิงเหยียนไหลพรากออกมาทันทีที่ได้ยินคำนี้ หญิงงสาวกำป้ายหยกไว้ในมือแน่น ประโยคนี้ของหานเฉิงอ๋องทำให้นางรู้สึกผิดและเสียใจไปตลอดชีวิต
ความเชื่อใจที่นางมอบให้แก่หานเฉิงอ๋องแฝงไปด้วยแผนการที่ต้องการซื้อใจเขา
ทว่า นางคิดไม่ถึงเลยว่าหานเฉิงอ๋องจะบอกว่าชาติหน้าจะขอเกิดมารับใช้นางอีก!
นางรู้มาโดยตลอดว่าหานเฉิงอ๋องไม่เคยได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดิต้าเหลียงดังนั้นเขาจึงดีใจมากที่ได้รับมันจากนาง เขาจึงจงรักภักดีต่อนางมาก…
ทั้งๆ ที่นางรู้ดี ทว่า นางก็ยังใช้วิธีเช่นนี้ซื้อใจหานเฉิงอ๋อง ไม่ได้จริงใจกับเขาอย่างแท้จริง
นางไม่เคยปฏิบัติต่อหานเฉิงอ๋องด้วยความจริงใจเต็มร้อย ทว่า หานเฉิงอ๋องกลับตอบแทนความจงรักภักดีต่อนางด้วยชีวิต ไป๋ชิงเหยียนจะไม่รู้สึกผิดและเสียใจได้อย่างไรกัน!
แคว้นตงอี๋!
นางจะทำให้ใต้หล้าแห่งนี้ไม่มีแคว้นตงอี๋อีกต่อไป!
“เว่ยจง ให้คนตามเว่ยปู้จิ้งมาในวังด้วย!”
ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเสียงแหบพร่า
ไม่นานไป๋ชิงฉี ไป๋ชิงอวี๋ ไป๋จิ่นซิ่ว ไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋จิ่นจื้อ หลู่ไท่เว่ยและต่งซือถูก็มาถึงวังหลวง พวกเขาพบหน้ากันที่บันไดสูงหน้าตำหนัก จากนั้นจึงเดินขึ้นไปบนตำหนักใหญ่พร้อมกัน
“รายงานสถานการณ์รบ! แคว้นตงอี๋เปิดศึกกับพวกเราแล้วอย่างนั้นหรือ!”
ต่งซือถูเต็มไปด้วยโทสะ
“แคว้นเล็กอย่างตงอี๋กล้าลองดีกับต้าโจวอย่างนั้นหรือ!”
“ในเมื่อเป็นรายงานสถานการณ์รบก็คงเป็นเช่นนั้น”
ไป๋ชิงเจวี๋ยก้าวขึ้นไปบนบันไดพลางกล่าว
ไป๋ชิงฉีและไป๋ชิงอวี๋ช่วยกันประคองร่างของหลู่ไท่เว่ยขึ้นไปบนบันไดเงียบๆ
“มีพวกแม่ทัพเฉิงอยู่ พวกแคว้นตงอี๋ไม่มีทางทำอันใดพวกเราได้หรอก!”
ไป๋จิ่นจื้อที่เมื่อครู่ยังไม่ตื่นเต็มร้อยกล่าวอย่างมั่นใจ
“เดี๋ยวข้าจะขอพี่หญิงใหญ่ไปออกรบด้วยตัวเอง ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะจัดการแคว้นเล็กอย่างตงอี๋ไม่ได้!”
“แคว้นตงอี๋มีอาณาเขตติดทะเลทั้งสี่ด้าน พวกเขาถนัดการรบทางทะเลมาก ต่อให้เจ้าจะกล้าหาญมากเพียงใดก็ใช่ว่าเมื่อเจ้าไปถึงแล้วตงอี๋จะเสียเปรียบพวกเรา”
ไป๋จิ่นซิ่วเม้มปากแน่น
“ข้าอ่านตำราพิชัยสงครามทางทะเลมาหลายเล่มแล้วเจ้าค่ะ!”
ไป๋จิ่นจื้อกล่าวเสียงดัง
เมื่อทุกคนเดินขึ้นไปถึงหน้าตำหนักเว่ยจงจึงรีบเชิญทุกคนเข้าไปด้านในทันที
ไป๋ชิงเหยียนนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังโต๊ะ หญิงสาวกางฎีกาลงบนโต๊ะและเริ่มจรดปลายพู่กัน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจึงชี้ไปยังรายงานสถานการณ์รบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองทุกคนแม้แต่น้อย
“มากันแล้วหรือ นั่นคือรายงานสถานการณ์รบ พวกเจ้านำไปอ่านดู”
“พี่หญิงใหญ่…”
“ฝ่าบาท…”
“พี่หญิง…”
ทุกคนทำความเคารพแล้วนั่งลง จากนั้นจึงหยิบรายงานสถานการณ์รบขึ้นมาอ่านด้วยกัน
“หานเฉิงอ๋องพลีชีพในสงครามหรือพ่ะย่ะค่ะ!”
ต่งซือถูมีสีหน้าตกตะลึง
“ตอนนี้หลิ่วหรูซื่อยังอยู่ในแคว้นต้าโจว หลู่เฟิ่งหลางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย”
แววตาของไป๋ชิงเหยียนนิ่งขรึม นางวางพู่กันบนแท่นวางพู่กัน จากนั้นเงยหน้ามองบรรดาน้องๆ ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“แคว้นตงอี๋กล้าเปิดศึกกับต้าโจวก็ต้องรับความโกรธของต้าโจวให้ได้!”
ตอนที่หลู่ไท่เว่ยอ่านถึงช่วงที่กล่าวว่าหลานสาวของตนหายตัวไปอย่างไร้ร่องมือของเขาสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาพยามสูดหายใจเข้าปอดลึกถึงคุมสติของตัวเองไม่ให้เป็นลมไปได้ จากนั้นกล่าวเสียงเย็น
“ฝ่าบาท ตอนนี้ฝ่าบาทจะทรงส่งทูตไปยังตงอี๋อีกหรือตจะทำสงครามกับตงอี๋พ่ะย่ะค่ะ!”
“ต้องทำสงครามอยู่แล้ว!”
ไป๋จิ่นจื้อชิงกล่าวขึ้นก่อน
หลู่ไท่เว่ยทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวขึ้นก่อนที่ไป๋ชิงเหยียนจะกล่าวสิ่งใดออกมา
“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยนพ่ะย่ะค่ะ พวกเราค่อยแก้แค้นตงอี๋หลังเสร็จเรื่องกับต้าเยียนก็ยังไม่สายพ่ะย่ะค่ะ!”
ไป๋ชิงอวี๋มองไปทางพี่สาวของตัวเองที่ใบหน้าเคร่งเครียดอย่างรู้ดีว่าพี่หญิงไม่มีทางทนต่อไปแน่นอน
“ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะยกทัพบุกทำลายล้างแคว้นตงอี๋ให้ย่อยยับ!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวแต่ละคำออกมาด้วยความหนักแน่น
ต่งซือถูเบิกพลตาโพลงมองไปทางหลู่ไท่เว่ยแวบหนึ่ง จากนั้นรีบหยัดกายตรง
“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าเราควรรอให้การเดิมพันกับต้าเยี่ยนสิ้นสุดลงก่อนอย่างที่หลู่ไท่เว่ยกล่าวพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านลุงคิดว่าข้ากำลังตัดสินเรื่องนี้ด้วยอารมณ์อย่างนั้นหรือ”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางลุงของตัวเองนิ่ง
“กระหม่อมทราบดีว่าการพลีชีพในสนามรบของหานเฉิงอ๋องและเหล่าทหารเรือทำให้ฝ่าบาททรงนึกถึงตระกลไป๋ที่เสียชีวิตในสงครามที่หนานเจียงขึ้นมา กระหม่อมทราบดีว่าฝ่าบาททรงขึ้นนั่งบนบัลลังก์แห่งนี้เพราะไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นกับทหารคนใดของต้าโจวอีก!”
สีหน้าและแววตาของต่งชิงผิงเคร่งขรึม
“ทว่า ตอนนี้ต้าโจวของพวกเราทำสงครามไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”