คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 644 ไว้หน้าแล้วไม่เอาคงต้องตี

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 644 ไว้หน้าแล้วไม่เอาคงต้องตี

วาจานี้ของเว่ยเสียกระทบต่อนายหญิงผู้เฒ่าเหลยและหวงซื่ออย่างรุนแรง พวกนางรู้ว่าเหลยหมิงมีความกดดัน แต่อย่างไรเขาก็เป็นคนที่สอบมาหลายครั้งและมีความสามารถในการสอบอยู่บ้าง ควรรับมือได้เป็นอย่างดีจึงจะถูก ไม่คิดว่าเขาจะเครียดเพียงนี้ ยิ่งไม่คิดว่าเขาจะเลอะเลือนเช่นนี้ เพื่อชื่อเสียงกลับ ‘ขาย’ตนเองเสียแล้ว

“ทำอย่างไรดี เช่นนั้นบุตรชายของข้าต้องทำอย่างไรดี” นายหญิงผู้เฒ่าเหลยน้ำตาไหลนอง ราวกับแก่ลงไปกว่าสิบปี

ไม่สามารถตีหรือสังหารได้ เขาก็คงไม่ไป หรือว่าร่างกายของเหลยหมิงจะต้องถูกผีที่มีนามว่าเว่ยเสียยึดไปหรือ บุตรชายที่แท้จริงของนางจะไม่กลับมาอีกแล้วหรือ

หากเป็นเช่นนี้ นางที่เป็นหญิงชราอายุมากเพียงนี้จะอยู่ต่อไปทำไมกัน ตายไปเลยจะไม่ดีกว่าหรือ

ฉินหลิวซีมองนายหญิงผู้เฒ่าฉินที่มีความคิดอยากตายขึ้นมา จึงเอ่ยว่า “เว่ยเสีย เจ้าจะเอาร่างกายนี้ให้ได้ เป็นเพราะเขาทำสัญญากับเจ้าอย่างนั้นหรือ”

เว่ยเสียไม่เอ่ยวาจา

ใช่ว่าจะต้องเอาร่างกายนี้เท่านั้น เพียงแต่ทำสัญญาแล้ว ต่างฝ่ายต่างไม่มีการต่อต้าน อีกทั้งยังมีชื่อในการประกาศผลการสอบแล้ว จึงคิดจะใช้ร่างกายนี้ในการอยู่บนโลกใบนี้

ฉินหลิวซีหยิบกระจกฮวงจุ้ยออกมา ส่องให้เขา “เจ้าดูสิ ร่างกายนี้หน้าตาแบบนี้ เป็นแบบที่เจ้าอยากได้จริงๆ หรือ”

เว่ยเสียมองก่อนจะยกแขนปิดหน้า น่าอายยิ่งนัก ใบหน้านี้ไยจึงน่าเกลียดเช่นนี้

“ขี้เหร่มากใช่หรือไม่” ฉินหลิวซีหัวเราะพลางส่ายศีรษะ “นับตามอายุที่เจ้าตาย ปีนี้เจ้าก็อายุเพียงยี่สิบสอง เป็นวัยกำลังดี อีกทั้งมีความสามารถ ไยต้องมาแขวนอยู่บนต้นไม้เฒ่าอย่าเหลยหมิงเล่า”

ทุกคน “?”

นายหญิงผู้เฒ่าเหลยลืมร้องไห้ หันมองไปทางฉินหลิวซีทันใด ต้นไม้เฒ่าหรือ

หวงซื่อคิดในใจ อีกสองเดือนสามีก็อายุสามสิบหกแล้ว อายุเป็นตาได้แล้ว นับว่าแก่แล้วจริงๆ

ฉินหลิวซีเอ่ยต่อ “เหลยหมิงอายุนับว่ามากแล้ว รูปลักษณ์ก็ไม่นับว่าหล่อเหลา อีกทั้งยังเพิ่งได้เป็นจิ้นซื่อ แต่ด้วยอันดับและพื้นฐานครอบครัวของเขา ต่อให้เป็นเจ้าหน้าที่ เอ่ยถึงเส้นสาย แน่นอนว่าเขาไม่อาจสู้ลูกหลานขุนนางเหล่านั้นได้ เช่นนี้หากจะเลื่อนขั้นก็ต้องอาศัยผลงาน จำเป็นต้องใช้เวลานาน เจ้าว่าเจ้าพยายามแทนเขาจะพยายามได้นานเพียงใด อีกทั้งเขาเองก็มีภรรยาบุตรชายบุตรสาว เจ้าจะเป็นพ่อบุญธรรมให้เขาหรือ”

เว่ยเสียหัวเราะ เอ่ย “เจ้ากำลังโน้มน้าวข้าหรือ ใบหน้านี้แม้จะขี้เหร่สักหน่อย แต่ขอเพียงมีข้าอยู่ แน่นอนว่าสามารถช่วยได้ ส่วนภรรยาและลูก หากพวกเขายินดี ข้าสามารถเลี้ยงดูจนแก่เฒ่าก็ยังได้ ไม่มีสิ่งใดไม่ดี”

หวงซื่อทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด อายจนใบหน้าแดงก่ำ

“ข้าต้องการเกลี้ยกล่อมให้เจ้าออกมาจริงๆ ตอนมีชีวิตในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์แห่งเต๋า ทั้งยังทำสัญญาฟ้าดินเป็น หมายความว่าเคยศึกษาเกี่ยวกับเต๋า มิสู้เจ้าไปกับข้าเถิด” ฉินหลิวซีเอ่ย “เจ้าอยากเห็นความรุ่งเรืองของโลกมนุษย์ ไม่จำเป็นต้องใช้ดวงตาของเขา ไปกับข้า ข้าก็สามารถพาเจ้าเดินทางอยู่ภายใต้แสงแดดได้”

คิ้วเว่ยเสียกระตุก “เจ้าจะช่วยข้ายึดร่างกายหรือ”

“เจ้าฝันอยู่หรือ” ฉินหลิวซีจ้องเขาเขม็ง เอ่ย “ข้าเป็นนักพรตเต๋า จะทำเรื่องไม่เป็นประโยชน์และมุ่งร้ายต่อคนอื่นได้อย่างไร ข้าจะช่วยทำร่างกายปลอมก็เท่านั้น”

เว่ยเสียประหลาดใจ นางยังมีความสามารถนี้ด้วยหรือ

“ทำหน้าตาในตอนที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ได้” ฉินหลิวซีเอ่ย “เจ้าลองคิดดูสิ ใช้ร่างกายในแบบของตนเองเดินท่ามกลางแสงสว่างบนโลกใบนี้ คงจะดีกว่าอยู่ในรูปลักษณ์ของผู้อื่นใช่หรือไม่”

“ปากของนักพรตช่างล่อลวงเก่ง เกิดเจ้าหลอกข้าจะทำเช่นไร ข้าจะไม่เสียเปรียบหรือ” เว่ยเสียตั้งใจเอ่ย

ฉินหลิวซี “ไม่มีความเชื่อใจระหว่างคนกับคนสักนิดหรือ”

“ให้ข้าเตือนเจ้า ตรงหน้านักพรตเจ้านี้ข้าคือผี” และเจ้ากำลังเกลี้ยกล่อมข้าอย่างเห็นได้ชัด

ฉินหลิวซี “!”

ดูข้าผู้อารมณ์ร้อนกำลังอดทนอดกลั้นสิ ตอนที่ทำร่างกายปลอมให้เจ้า ข้าไม่มีทางทำมือแบบเดียวกันอย่างแน่นอน

นางกัดฟัน “เป็นเจ้าหน้าที่ไม่มีอะไรดี ทั้งลำบากทั้งเหนื่อย ครอบครัวลำบากอย่างพวกเขา คงถูกส่งไปอยู่พื้นที่ทุรกันดารห่างไกลอย่างแน่นอน ท่านเว่ยเกิดในครอบครัวชนชั้นขุนนาง ทนต่อความยากลำบากเช่นนั้นไม่ได้หรอก”

เว่ยเสียตั้งใจทำหน้าตาเคร่งขรึม “กลับมามีชีวิตบนโลกอีกครั้ง ขอเพียงต่อสู้ดิ้นรน จะต้องมีวันที่ท้องฟ้าสดใสอย่างแน่นอน”

ฉินหลิวซีจ้องมองเขานิ่ง หันไปเอ่ยกับเถิงเจา “ศิษย์รัก เอากริชกิเลนเจ้ามาให้ข้าที”

เทียนจุนอวยพร ข้าอดทนจนไม่อาจอดทนได้อีกแล้ว

เถิงเจายื่นกริชกิเลนมา

เว่ยเสียไม่เข้าใจเล็กน้อย กระทั่งฉินหลิวซีชักกริชกิเลนออกมา ในตอนที่เกิดแสงสีทองสีแดงสะท้อนออกมาจากตัวกริชนั้น ขนทั่วร่างของเขาพลันลุกซู่ขึ้นมา

“ในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องเสียน้ำลายอีกต่อไป มาสู้กัน” เสียงนางดังขึ้น พุ่งเข้าไปหาเว่ยเสียทันที “นักพรตน้อยเช่นข้าขัดหูขัดตากับดอกไม้บนหัวเจ้าไม่ไหวแล้ว”

ในตอนที่เหล่านายหญิงผู้เฒ่าร้องแตกตื่น กริชของนางก็ดิ่งลงมา ฟันเข้าที่ปิ่นดอกไม้นั่นของเขา เส้นผมลอยตกลงมา

มวยผมของเว่ยเสียหลุดกระจายตัวอยู่บนหัว

มารตะวันออกพิษตะวันตกหรือ

ไปให้พ้น

ฉินหลิวซีแสยะยิ้ม มือยกขึ้นมาอีกครั้ง กริชกิเลนปาดผ่านแขนเสื้อเขาขาด เห็นรอยเลือดบนแขนของเขา

ฉึบฉับ

เว่ยเสียกุมแขน ก้าวถอยหลังสองก้าว มองกริชในมือนางด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด

กริชนี้ไม่เพียงทำให้เขารู้สึกเจ็บจากบาดแผลบนร่างกาย ยังสั่นคลอนไปถึงดวงวิญญาณ ทำให้เขาตัวสั่นเทา

เว่ยเสียมองฉินหลิวซียกกริชขึ้นอีกครั้งโดยไม่สนใจสิ่งใด รีบหลบก่อนจะเอ่ยว่า “นักพรต ทำเช่นนี้ได้อย่างไร คุยก็คุยสิ คุยไม่ได้ก็ใช้มีด ไม่มีเหตุผล”

“เจ้าผีเฒ่า ใช้เหตุผลกับเจ้าเจ้าไม่ฟัง จะใช้ความเจ้าเล่ห์กับข้าให้ได้ ข้าไว้หน้าเจ้าแล้วมิใช่หรือ” ฉินหลิวซียังคงฟาดฟันเสื้อผ้าของเขาต่อไป เอ่ยว่า “พูดดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้ใช้ความรุนแรง อย่าได้โทษข้าที่ประนีประนอมแล้วโจมตีเจ้าทีหลัง ดูกริชให้ดีเสีย”

นางเคลื่อนไหวรวดเร็ว และเว่ยเสียเป็นผีแก่ไม่ผิด เนื่องจากหลับไปนานหลายปี อีกทั้งมาอยู่ในร่างของเหลยหมิง เหลยหมิงเป็นเพียงคนร่ำเรียนหนังสือ ไม่ได้ฝึกวรยุทธ์ใดๆ ทำให้เขาไม่อาจหลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้ฉินหลิวซีลงมือได้ง่าย

ฉึบๆ พรวด

ทุกที่ที่กริชของฉินหลิวซีวาดผ่าน เสื้อผ้าบนร่างกายของเหลยหมิงก็เป็นรอยขาด

นายหญิงผู้เฒ่าเหลยกุมหน้าอก “บาปกรรมแล้ว”

หวงซื่อเอ่ยร้องเสียงดัง “ไต้ซือ รีบหยุดเถิด เดี๋ยวร่างกายของสามีข้าได้รับบาดแผล”

ฉินหลิวซีราวกับไม่ได้ยิน ไล่ตามเว่ยเสียไปทั่วห้อง กริชในมือยังคงวาดฟันไม่หยุด

“ข้ายอมแล้ว ข้ายอมถอนสัญญาแล้ว” เว่ยเสียหอบหายใจเอ่ยเสียงดัง

ฉินหลิวซีหยุดลง ใบหน้าไม่แดงไม่เหนื่อยหอบ เอ่ยว่า “ควรเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก ยังต้องให้ข้าลงมืออีก”

เว่ยเสียมองเสื้อผ้าบนร่างกาย เสื้อผ้าชุดใหม่ถูกนักฟันจนขาดรุ่ย แขนแสบร้อน ยามนี้ยังได้ยินนางตำหนิ รู้สึกโกรธขึ้นมา “เป็นเจ้าไม่ใช้เหตุผล ยังโทษข้าอีกหรือ”

“ข้าใช้แล้ว เจ้าไม่ฟัง ข้าจึงต้องสั่งสอนให้เจ้าต้องฟังเหตุผลอย่างไรเล่า” ฉินหลิวซีเก็บกริชกิเลน เอ่ยจริงจังขึ้นมาหนึ่งประโยค

เว่ยเสียโกรธ “เจ้าไม่กลัวว่าร่างกายข้าจะบาดเจ็บหรือ”

“กลัวอะไรกัน ไม่ใช่ข้าที่เจ็บปวด ไม่ใช่เหลยหมิงด้วย แต่เป็นเจ้า” ฉินหลิวซีเอ่ยอย่างมาดร้าย “วางใจ ต่อให้บาดเจ็บแล้ว ขอเพียงเจ้ายังมีลมหายใจเฮือกสุดท้าย ข้าก็ช่วยเจ้ากลับมาได้ รักษาอีกหน่อย จากนั้นฟาดฟันต่อได้อีก”

เว่ยเสีย “!”

ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เด็กสมัยนี้กลายเป็นปีศาจตัวน้อยไปแล้ว ร้ายยิ่งนัก

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท