ตอนที่ 335 ไม่แต่งงาน?
เมื่อเผชิญกับคนใช้ที่ตกตะลึงจนยืนตัวแข็งทื่อ แม่ทัพใหญ่ลั่วพยักหน้าอย่างสงบแล้วเดินไปทางประตูใหญ่จวนลั่ว
ทั้งๆ ที่แม่ทัพใหญ่ลั่วตกอยู่ในสภาพทุลักทุเล เสื้อผ้าขาดวิ่น แต่กลับดูองอาจสง่าผ่าเผยในสายตาผู้อื่น
คนใช้เตะกระบองไม้ที่ขวางทางไปข้างๆ แล้วรีบพุ่งตัวไปทางประตูใหญ่ วิ่งพลางตะโกนว่า “แม่ทัพใหญ่กลับมาแล้ว แม่ทัพใหญ่กลับมาแล้ว…”
แม่ทัพใหญ่ลั่วรู้สึกถึงแรงลมกระโชกพัดผ่านเขา เกือบจะทำเอาเขาล้มลง เมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังราวกับเสียงฆ่าหมูของคนรับใช้ก็รู้สึกอบอุ่นใจเล็กน้อย
เขาฉีกยิ้มเบาๆ ปากที่แห้งผากของเขาเจ็บเล็กน้อย
แต่นี่ก็ไม่ส่งผลต่อความสุขของเขา
ในที่สุดก็กลับจวนแล้ว วันเวลาที่อยู่ในเรือนจำ สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็คือครอบครัว
แม่ทัพใหญ่ลั่วจัดระเบียบชายเสื้อ แม้ทำอย่างไรก็ไม่เรียบ แต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เขาเพิ่งก้าวเข้ามาก็เห็นอี๋เหนียงกลุ่มหนึ่งโถมเข้ามา
แม่ทัพใหญ่ลั่วไม่ทันตั้งตัว เขาถูกอี๋เหนียงคนหนึ่งกอดไว้
“นายท่าน ท่านกลับมาเสียที!”
อี๋เหนียงอีกคนหนึ่งเบียดอี๋เหนียงคนนี้ออกไป กอดแม่ทัพใหญ่และร้องห่มร้องไห้ “ฮือๆๆ นายท่าน ข้าคิดว่าท่านจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก…”
“นายท่าน…”
แม่ทัพใหญ่ลั่วถูกเหล่าอี๋เหนียงรบกวนจนเวียนหัวไปหมด เขาตะโกนขึ้นว่า “หุบปาก!”
เสียงร้องไห้หยุดชะงักลง เหล่าอี๋เหนียงมองแม่ทัพใหญ่ลั่วตาปริบๆ
แม่ทัพใหญ่ลั่วตำหนิด้วยใบหน้านิ่งเฉย “ร้องอะไร ข้ายังไม่ตายเสียหน่อย!”
“ถุยๆๆ ใกล้ปีใหม่แล้วนายท่านอย่าพูดจาอัปมงคล” อี๋เหนียงหกถ่มถุยเสร็จก็เริ่มกังวลขึ้นมา “นายท่าน เหตุใดจู่ๆ ท่านจึงกลับมาเล่า ซี้ด… หรือว่า…”
นายท่านแหกคุก?
อี๋เหนียงเหล่านี้สวยแต่ไม่มีสมอง ที่เขาไม่เคยลงมือเป็นเพราะเขาใจกว้างหรอกนะ
แม่ทัพใหญ่ลั่วเบียดตัวเองออกมาจากวงล้อมของเหล่าอี๋เหนียง เห็นเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกลและสามพี่น้องลั่วอิงที่กำลังเร่งฝีเท้าเดินมาทางนี้
“ท่านพ่อ” ลั่วเฉินเรียก ในดวงตาของเขาซ่อนความตื่นเต้นดีใจไว้ แต่ใบหน้ากลับสงบนิ่ง
แม่ทัพใหญ่ลั่วเดินไปหา ตบไหล่ลั่วเฉินเบาๆ “ตกใจแย่เลยสิ”
ลั่วเซิงยิ้ม “ไม่ขอรับ ท่านกลับมาก็ดีแล้ว”
แม่ทัพใหญ่ลั่วตบไหล่ลั่วเฉินอีกสองสามที สายตามองข้ามเขาไปด้านหน้า
สามพี่น้องลั่วอิงรีบวิ่งเข้ามา ส่งเสียงเรียกด้วยตาที่แดงก่ำ “ท่านพ่อ”
แม่ทัพใหญ่ลั่วพยักหน้าอย่างปลื้มปีติ “ดีแล้ว ดีแล้ว ทุกคนไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
สายตาของเขาเหม่อลอย เห็นเด็กสาวที่เดินมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน มุมปากก็ยกขึ้นเบาๆ
ลั่วเซิงเดินมาใกล้ ย่อเข่าให้เล็กน้อย “ในที่สุดท่านก็กลับมา”
แม่ทัพใหญ่ลั่วมองนางอย่างลึกซึ้ง พยักหน้า “ใช่แล้ว ในที่สุดก็กลับมา”
สองพ่อลูกสบตาแล้วยิ้มให้กัน
“ข้างนอกหนาว เข้าไปคุยข้างในเถอะ”
คนกลุ่มใหญ่เดินล้อมเข้าไปในเรือนของแม่ทัพใหญ่ลั่วอย่างยิ่งใหญ่
แม่ทัพใหญ่ลั่วโบกมือให้เหล่าอี๋เหนียง “พวกเจ้าไปทำธุระของตนเองเถอะ ใช่แล้ว ประเดี๋ยวข้าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ช่วยข้าเตรียมไว้ด้วย”
เหล่าอี๋เหนียงไม่ได้อาวรณ์แต่อย่างใด ต่างพากันออกไปทำหน้าที่ของตนเอง
สำหรับพวกนางแล้ว ถึงอย่างไรนายท่านก็ไม่ได้ลำเอียงรักใครเป็นพิเศษ ไม่มีอะไรต้องแย่งชิงกัน แย่งกันไปอาจจะถูกลงโทษด้วยซ้ำ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนายท่านกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ต้นไม้ต้นใหญ่ในจวนแม่ทัพใหญ่ไม่ล้มลงก็พอแล้ว อยู่ข้างๆ ต้นไม้ใหญ่ไปมีประโยชน์อะไร เมล็ดแตงโมไม่อร่อยหรือ หรือว่าไพ่นกกระจอกไม่สนุก
ในวันที่อากาศหนาวเย็นในเดือนสิบสอง การแทะเมล็ดแตงโมเล่นไพ่นกกระจอกในห้องที่อบอุ่นถึงจะเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนคดีของนายท่านนั้น พวกนางในฐานะที่เป็นอี๋เหนียงเป็นห่วงไปก็ไร้ประโยชน์ ยังมีคุณหนูสามและคุณชายอยู่นี่
แม่ทัพใหญ่ลั่วพึงพอใจกับการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมของเหล่าอี๋เหนียงอย่างยิ่ง เขาเดินเข้าไปในห้องพร้อมลูกๆ อย่างรวดเร็ว
ลั่วอิงยกน้ำชาให้แม่ทัพใหญ่ลั่วด้วยตนเอง ลั่วฉิงสั่งสาวใช้นำผ้าเช็ดมือหมาดๆ มาให้แม่ทัพใหญ่ลั่ว
ลั่วเย่ว์เดินวนรอบๆ แม่ทัพใหญ่ลั่วอย่างปิดบังความสุขไม่ได้ นางพูดไม่หยุด “ท่านพ่อ ท่านหิวหรือไม่ อาบน้ำเปลี่ยนผ้าแล้วกินข้าวก่อนค่อยคุยกันดีหรือไม่…”
มองดูบุตรสาวคนเล็กที่ร่าเริงกว่าอดีต สายตาของแม่ทัพใหญ่ลั่วก็อ่อนโยนลง “ประเดี๋ยวค่อยกิน เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนช่วงนี้ให้ฟังก่อน”
ดูจากเรื่องที่เจอหลังจากกลับมา ช่วงนี้ลูกๆ คงลำบากแน่ๆ
แน่นอนว่า มีเซิงเอ๋อร์อยู่เขาจึงวางใจ แต่เขาก็อยากฟังว่าช่วงที่เขาเกิดเรื่องไม่อยู่จวนนี้ ลูกๆ เจอเรื่องเลวร้ายหรือไม่
เมื่อได้ยินแม่ทัพใหญ่ลั่วถาม บรรยากาศอันอบอุ่นก็เย็นลงทันที
ทุกคนอดมองไปที่ลั่วเซิงไม่ได้
ลั่วเซิงยิ้มๆ “เรื่องใหญ่น่ะไม่มี แต่เรื่องเล็กน่ะมีเรื่องหนึ่งต้องบอกท่าน”
แม่ทัพใหญ่ลั่วหน้าตาจริงจัง “เซิงเอ๋อร์ลองเล่ามาสิ”
ลั่วเซิงเหลือบมองลั่วอิงทีหนึ่งก่อนจะพูดว่า “ก่อนหน้านี้ จวนเถามาถอนหมั้นแล้วเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ” แม่ทัพใหญ่ลั่วหน้าเปลี่ยนสี ดวงตาเต็มไปด้วยความโมโห “เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ เหตุใดจึงไม่หาวิธีส่งข่าวให้ข้า”
ลั่วเซิงยิ้ม “ลูกคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อยู่ให้ไกลคนอย่างตระกูลเถาได้เท่าไรยิ่งดี หากพี่ใหญ่แต่งออกไปจริงๆ ความร่ำรวยและเจริญรุ่งเรืองพวกเขาอยากได้ แต่เมื่อประสบภัยกลับหนีไปไกลเป็นคนแรก จวนเราต่างหากเล่าที่จะเสียเปรียบ”
แม่ทัพใหญ่ลั่วมองลั่วอิง เห็นนางยังคงสงบจึงวางใจลงเล็กน้อย พูดว่า “แม้ตระกูลเถาทำเช่นนี้จะไม่เที่ยงธรรม แต่พวกเจ้าก็อย่าคิดเล็กคิดน้อยเกินไป เราต้องรู้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่จะเพิ่มดอกไม้ลงบนผ้าดิ้นและตกบ่อแล้วยังปาหินใส่”
ที่เขาพูดเช่นนี้กับลูกๆ ไม่ใช่เพราะเขาอยากจะอดทนกับเรื่องเช่นนี้ แต่เขาแค่ไม่อยากให้ลูกๆ มีนิสัยแข็งทื่อเกินไป
อยากจะแข็งแกร่ง ต้องมีความสามารถที่จะแข็งแกร่ง
“ลูกรู้แล้วเจ้าค่ะ” ลั่วอิงก้มหน้าตอบ
ลั่วฉิงเองก็พยักหน้า
ลั่วเย่ว์เบ้ปากอย่างไม่พอใจ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
ท่านพ่อเพิ่งกลับมา อย่าสร้างปัญหาให้ท่านพ่อเลย
ลั่วเซิงกลับพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “ตกบ่อแล้วยังปาหินใส่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ที่ลูกโมโหหลักๆเป็นเพราะบุตรคนโตของตระกูลเถาต้องการให้พี่ใหญ่ไปเป็นอนุของเขา…”
“เป็นอนุ?” แม่ทัพใหญ่ลั่วลุกพรวด เตะเก้าอี้ตัวน้อยกระเด็นออกไปทันที เขากัดฟันพูดว่า “เห็นข้าเดือดร้อนแล้วก็เปลี่ยนลูกสาวข้าจากภรรยาเป็นอนุรึ ดีมาก ตระกูลเถาเยี่ยมจริงๆ!”
แม่ทัพใหญ่ลั่วกัดฟันเสียงดังกรอดๆ เห็นได้ชัดว่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ได้ยินว่าถอนหมั้น เขาก็โมโห แต่เรื่องแบบนี้เห็นบ่อยแล้วจึงไม่ได้รู้สึกอะไร อย่างมากก็แค่จัดการรองเจ้ากรมเถาสักยก ไล่เขาออกจากตำแหน่งรองเจ้ากรมแห่งศาลต้าหลี่
ตำแหน่งนี้เจ้าเถานั่นแลกมาด้วยการประจบประแจงเขาไม่เลิก เช่นนั้นเขาก็จะให้เจ้าเถาคายสิ่งที่กินลงไปออกมา
ส่วนหลังจากฉุดเขาลงมาแล้วจะมีคนอื่นซ้ำเติมหรือไม่นั้น เขาแค่รอดูละครก็พอ
แต่เขาได้ยินว่าอะไรนะ
เขายังไม่ถูกตัดสินโทษก็กุลีกุจอมาบอกว่าอยากจะให้บุตรสาวของเขาเป็นอนุ
นี่ไม่ใช่การตกบ่อแล้วยังปาหินใส่แล้ว แต่คือสิ่งที่สัตว์เดรัจฉานทำกัน
สำหรับสัตว์เดรัจฉานแล้ว ยังต้องออมมือให้อีกหรือ
เมื่อเห็นแม่ทัพใหญ่ลั่วโมโห ลั่วอิงก็รู้สึกไม่สบายใจ “ท่านพ่อ ท่านอย่าโมโหเลย เรื่องมันผ่านไปแล้ว”
แม่ทัพใหญ่ลั่วยิ้มหยันในใจ
ผ่านไปแล้ว? ไม่ เพิ่งเริ่มต้นต่างหาก
แต่ว่าเรื่องพวกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องบอกลูกๆ แล้วล่ะ สิ่งที่เขาเป็นห่วงคือสภาพจิตใจของบุตรสาวคนโตมากกว่า
“อิงเอ๋อร์ พ่อต้องขอโทษเจ้า ครานั้นพ่อตาบอดไปเอง…”
ลั่วอิงรีบพูดว่า “ท่านอย่าพูดเช่นนี้ ครอบครัวแบบนี้ บุรุษแบบนี้ ลูกไม่ได้แต่งไปน่ะถือเป็นโชคดี ท่านอย่าเป็นห่วงลูกเลย ลูกคิดว่าไม่แต่งงานจะได้อยู่กับท่านไปตลอดก็ดีเหมือนกันเจ้าค่ะ”
จู่ๆ แม่ทัพใหญ่ลั่วก็เงียบลง
ไม่แต่งงานหรือ