ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 751 คำสาบาน

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 751 คำสาบาน

แบบนี้คือจบแล้วเหรอ

ใบหน้าของโจวเจ๋อที่ซ่อนอยู่ใต้หัวสิงโตขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมทีฉันอยากปฏิเสธ แต่พอเล่นขึ้นมาก็ดันตะโกนว่า ‘คัต’ ทันใดนั้นเถ้าแก่โจวพบว่า ตัวเองยังรู้สึกสนุกอยากจะเล่นต่อ

แต่สุดท้ายก็หยุดเล่นเอาแต่พอดีก็พอ โจวเจ๋อกระโดดลงมาจากเสาดอกเหมย เหล่าจางตามลงมาเหมือนกัน

ทิ้งสิงโตลงมา ตอนที่ลงพื้นส่วนขาของโจวเจ๋อกระตุกเล็กน้อย จากนั้นสิงโตที่หนักมากก็ถูกโยนไปตกอยู่ข้างๆ สิงโตอีกสองตัวโดยตรง

ถ้าหากเจ้าโง่รู้ว่า โจวเจ๋อใช้ร่างผีดิบมาเล่นเชิดสิงโตเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธเดือดดาลไหม

ตอนนี้น่าจะยังนอนหลับอยู่ ดูท่าแล้วยังไม่ตื่น

“ทำงานสายเดียวกันคือพรหมลิขิต เชิญดื่มน้ำชาตรงนี้”

โจวเจ๋อกับเหล่าจางเดินไปนั่งพร้อมกัน คนสองสามกลุ่มที่นั่งอยู่ริมโต๊ะส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้ คนกลุ่มนี้จิตใจค่อนข้างบริสุทธิ์ จริงจังกับความสามารถ และยอมรับในความสามารถเช่นกัน

ซึ่งก็จริง หลายปีมานี้หากไม่มีจิตใจที่บริสุทธิ์ ก็ยากที่จะยืนหยัดอยู่ในสายงานนี้ต่อไป ยังไม่ต้องพูดถึงปัญหาเรื่องทำเงินได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อการเชิดสิงโต ต้องลำบากตรากตรำฝึกวิชากังฟูตั้งแต่เด็กจนโต จะมีสักกี่ครอบครัวที่ยอมให้ลูกของตัวเองทำต่อ

แต่สิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อรู้สึกแปลกใจคือ ไม่มีคนเข้ามาผูกมิตร เช่น ถามว่าคุณพักอยู่ที่ไหน ทำงานที่ไหน ได้ค่าแสดงเท่าไร นี่สามารถลดความยุ่งยากให้โจวเจ๋อได้หลายอย่าง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็แค่สวมรอยเข้ามา

เขานั่งลงตรงนี้ ดื่มน้ำชา ดื่มไปได้ประมาณสิบห้านาที ก็มีคนอีกสองกลุ่มเข้ามาแสดงความไว้อาลัย กลุ่มหนึ่งสำเนียงเหมือนคนทางเหนือ อีกกลุ่มหนึ่งสำเนียงเหมือนคนทางเขตทิศตะวันตกเฉียงใต้

ซึ่งทำให้โจวเจ๋อรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก อาชีพเชิดสิงโต มีชื่อเสียงของราชาสิงโตในวงการด้วยเหรอ ศิลปินนักเชิดสิงโตจากทั่วทิศมารวมตัวกัน เพื่อมาร่วมไว้อาลัยงานศพของผู้อาวุโสเพียงอย่างเดียวจริงๆ ใช่ไหม

เมื่อรอจนถึงกลางดึก น้ำชาถูกยกออก ห้องครัวเริ่มจุดไฟทำอาหาร

ลูกชายของหลี่ว์เย่าจู่พาคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันไปเตรียมของ น่าจะเป็นลูกศิษย์ของหลี่ว์เย่าจู่ ด้านล่างเป็นบะหมี่ โรยด้วยต้มหอมข้างบน หนึ่งถาดเครื่องปรุงต่อหนึ่งโต๊ะ มีน้ำส้มสายชูกับพริก ให้เติมเครื่องปรุงด้วยตัวเอง

โจวเจ๋อกับเหล่าจางดื่มน้ำดอกพลับพลึงแดงหนึ่งขวดอย่างเงียบๆ แล้วเริ่มกินอย่างช้าๆ สักพัก เสียง ‘ซู้ด’ก๋วยเตี๋ยวดังไปทั่วลานบ้าน ทุกคนกินเร็วมาก ล้วนเป็นผู้ฝึกวิชามานาน ปริมาณข้าวกับความเร็วในการกินจึงไวมาก

หลังจากกินเสร็จแล้ว คนในบ้านหลังนี้จึงเข้ามาเก็บจานชามออกไป แล้ววางกาน้ำชาหนึ่งกาบนโต๊ะทุกตัว ในที่สุดก็จะเริ่มพูดเรื่องหลักแล้ว

หลี่ว์เฉิงเหวินลูกชายของหลี่ว์เย่าจู่ยืนอยู่ตรงกลางลานบ้าน ประสานมือคำนับแขกหลายสิบคนที่นั่งอยู่โดยรอบ แล้วเอ่ยว่า “เรื่องนี้ทุกคนทราบดีแล้ว ศึกประชันราชาสิงโต จะจัดขึ้นในทงเฉิงของเรา เดิมทีพ่อของผมให้ความสำคัญกับกิจกรรมครั้งนี้มาก พ่อของผมยืนหยัดต่อการเชิดสิงโตมาตลอดชีวิต ฝันมาตลอดว่าอยากส่งเสริมวัฒนธรรมการเชิดสิงโตของจีนให้โด่งดังยิ่งใหญ่ เพื่อให้คนจีนอีกมากมายรักและชื่นชอบศิลปะนี้ อันที่จริง หลายปีที่ผ่านมานี้ การใช้ชีวิตของทุกคนก็น่าจะดีกว่าเมื่อก่อนแล้วใช่ไหมครับ”

หลายคนที่นั่งอยู่เผยรอยยิ้มออกมา ไม่มีความเกรงใจและถ่อมตัวแม้แต่นิดเดียว ชีวิตในอดีตลำบากมากจริงๆเกือบไม่มีอะไรจะกิน แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นทุกวัน งานแสดงก็เยอะ อั่งเปาก็แยะ มีคนไหนในนี้ที่ไม่ได้รับลูกศิษย์ที่บ้านเกิดของตัวเองบ้าง

โจวเจ๋อสบตากับเหล่าจางหนึ่งที ศึกประชันราชาสิงโต? โครงเรื่องคล้ายกับภาพยนตร์เปี๊ยบ แต่ไม่รู้ว่าจะมีสิงโตเทคโนโลยีขั้นสูงของพันธมิตรแปดชาติหรือเปล่า แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้เป็นความคิดเพ้อเจ้อ

“เดิมที การแข่งขันเชิดสิงโตครั้งนี้ พ่อของผมเป็นคนวิ่งเรื่องให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เงินรางวัลจากการแข่งขันในครั้งนี้ คือหนึ่งล้านหยวน”

เงินรางวัลหนึ่งล้านหยวน เป็นเงินก้อนใหญ่มาก แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ในนี้ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมากเกินไป รายได้ของพวกเขาในตอนนี้ เงินหนึ่งล้าน จริงๆ แล้วไม่ใช่จำนวนเงินที่เยอะแยะมากมายอะไร เหนื่อยทำงานลำบากสักปีสองปี ใครบ้างจะหาไม่ได้

สาเหตุที่พวกเขามารวมตัวกันที่นี่ในครั้งนี้ จริงๆ แล้วมีเรื่องอื่น และการจากไปของผู้เฒ่าหลี่ว์เย่าจู่ ก็อยู่ในหัวข้อนี้พอดี

“ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่เคยพูดกับผมและพี่น้องของผมหลายครั้งว่า วิชาการเชิดสิงโต ให้ความพิถีพิถันกับความเข้มแข็งและดุดันของราชาสิงโต! ไม่ก้มหัว ไม่ประจบสอพลอ พวกเราเป็นคนเชิดสิงโต แต่พวกเราต้องใช้ชีวิตให้ตัวเองเป็นเหมือนสิงโตตัวหนึ่ง!

ความต้องการของผู้จัดงานนั้นง่ายมาก ตอนที่แข่งขัน พวกเรานอกจากต้องยอมอ่อนให้แล้ว หลังจากจบการแข่งขันยังต้องช่วยผลักดันพวกเขา ยอมรับฝีมือของแชมป์และรองแชมป์ที่พวกเขากำหนดตัวไว้ก่อนแล้ว! ตอนที่พ่อยังไม่เสียเมื่อได้ยินข่าวนี้ จึงโกรธจนล้มป่วย และตอนนี้ก็เสียชีวิตไปแล้ว ในฐานะลูกชายของเขา และเป็นผู้สืบทอดวิชาการเชิดสิงโตในทงเฉิง ผมขอแสดงความคิดและชี้แจงอย่างชัดเจนกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ เบื้องหลังดำมืดแบบนี้ สำนักเชิดสิงโตทงเฉิงของเรา จะไม่ยอมร่วมมือด้วยเด็ดขาด!”

“ใช่ ไอ้พวกชั่ว ไม่ร่วมมือ!”

“ปล่อยพวกมันแม่งไปเลย มีแต่ผีเท่านั้นที่จะเล่นอะไรชั่วๆ แบบนี้กับพวกมัน!”

“ใช้ความสามารถที่แท้จริง แข่งขันด้วยความสามารถจริงสิ ยังคิดจะลักไก่อีก ถุย ไอ้คนนอกสาขาพวกนี้จัดการแข่งขันใหญ่ขึ้นมา ถือว่าเป็นมลทินต่อวงการอาชีพของพวกเราแท้ๆ!”

ทุกคนระบายความโกรธเคืองออกมา แม้แต่โจวเจ๋อกับเหล่าจางก็ยังชูแขนไปมา พร้อมกับตะโกนว่า “ต่อต้านๆ ต่อต้านอย่างเด็ดขาด!” จากนั้นจึงวางแขนลง แล้วนั่งเฉยต่อไป

“ผมคิดว่า ทุกคนน่าจะได้รับหนังสือเชิญแล้ว ไป ก็ยังต้องไปอยู่ แต่จะทำอย่างไรนั้น พวกเราต้องมีจิตสำนึกดี!ใครได้แชมป์ ต้องได้มาด้วยความสามารถจริงๆ ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่มีความแค้นส่วนตัว! ตอนนี้เป็นยุคสมัยที่เปิดกว้าง และยังเป็นยุคของวิทยาศาสตร์ แต่ผมยังหวังว่าทุกคนจะร่วมแสดงจิตวิญญาณของคนเชิดสิงโตโดยมีหัวสิงโตเป็นพยานไปพร้อมกับผมอีกครั้ง!”

ทุกคนสาบานต่อหน้าหัวสิงโตทันที แต่ละคนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างยิ่ง อดไม่ได้ที่ทุกคนจะรู้สึกหัวใจเต้นโครมคราม คนที่ไม่รู้คงคิดว่าสมาคมฟ้าดินมารวมตัวกันที่นี่ ทุกคนต่างโห่ร้องอยากจะโค่นราชวงศ์ชิงฟื้นฟูราชวงศ์หมิง

“หลี่ว์เฉิงเหวินคนนี้ วาทะดีมาก” เหล่าจางกระซิบข้างหูโจวเจ๋อ “ดังนั้น ความโกรธของราชาสิงโตตัวนั้น คือมีต่อผู้จัดงานแข่งขันครั้งนี้ใช่ไหม” เพราะพวกเขาอยากเล่นสกปรก ดังนั้นราชาสิงโตจึงโกรธเคือง

โจวเจ๋อไม่ตอบ เพียงแค่ฟังต่อไป ไม่ช้าช่วงกล่าวคำสาบานที่คึกคักจึงสิ้นสุดลง ทุกคนเริ่มบอกลากัน อันที่จริงนี่เป็นเพียงการใช้ลมปากเท่านั้น แค่ตะโกนเสียงดังสองสามที แต่รายละเอียดวิธีการทำไม่ได้พูดออกมา คาดว่ากลัวข่าวจะหลุดออกไป

โจวเจ๋อกับเหล่าจางก็ลุกขึ้น เตรียมตัวเดินตามทุกคนออกไป ตอนที่หลี่ว์เฉิงเหวินจับมือกับโจวเจ๋อ เขาพูดด้วยความประหลาดใจว่า “พี่น้อง พวกคุณได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ไหม ในใบรายชื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ผมไม่เห็นมีพวกคุณ”

“พวกเราแค่มาไหว้ศพคุณหลี่ว์เท่านั้นครับ”

“ขอบคุณน้ำใจของคุณทั้งสองครับ”

หลี่ว์เฉิงเหวินโค้งคำนับให้โจวเจ๋อกับเหล่าจาง จากนั้น โจวเจ๋อกับเหล่าจางเดินออกจากประตูใหญ่ หลังจากขึ้นรถเหล่าจางไม่รีบสตาร์ทรถ แต่พูดด้วยความสงสัยว่า “วันมะรืนเหรอ ตอนนี้ก็เลยเที่ยงคืนแล้ว อย่างนั้นงานวัดก็คือวันพรุ่งนี้”

คำพูดก่อนที่ผู้เฒ่าหลี่ว์เย่าจู่จะลงนรกยังดังก้องสะท้อนไปมาในหู ราชาสิงโตโกรธแล้ว จะมีคนตายมากมาย

“เรื่องราว ไม่ง่ายขนาดนั้น” โจวเจ๋อเอนเบาะไปด้านหลัง จนตัวอยู่ในท่ากึ่งนอน เขายังคงชอบท่านอนแบบนี้ “หลี่ว์เฉิงเหวินคนนั้น พูดจาทำอะไรดีทุกอย่าง และแขกที่มาไหว้ศพพวกนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนระดับเดียวกัน คนประเภทนี้เหมือนกับทนายอัน หากมีผลประโยชน์ เขาจะมา เวลากินอาจจะน่าเกลียด แต่จะแสดงท่าทางสุภาพมีมารยาทตลอดทั้งต่อหน้าและลับหลัง ในทางตรงกันข้าม แขกพวกนี้มีความเป็นนักเลงจริงใจมากกว่า ใจกว้างมีน้ำใจเยอะกว่า”

“อีกสักพักผมจะกลับไปสืบเรื่องการแข่งขันนี้ ไม่ว่ายังไงวันนั้นสถานีตำรวจของพวกเราจะต้องส่งกำลังตำรวจไปคอยดูแลความสงบเรียบร้อยที่นั่น”

“อย่างนั้นคุณก็ไปสืบสิ” โจวเจ๋อเงยหน้า นวดต้นคอของตัวเอง

เหล่าจางเห็นดังนั้น ก็ยื่นมืออยากจะช่วยนวดให้โจวเจ๋อ เมื่อก่อนตอนที่พวกเขาคอยสะกดรอยตามเป้าหมาย มักจะทำแบบนี้เป็นประจำ ช่วยนวดให้กันและกัน

“อย่าๆๆ…” โจวเจ๋อปฏิเสธทันที

“ไม่ต้องเกรงใจ ไม่เป็นไร”

“ไม่ได้เกรงใจ แต่รังเกียจ”

“…” เหล่าจาง

ปกติถูกอิงอิงนวดจนชินแล้ว แต่ถ้าผู้ชายที่มือเท้าหยาบกร้านอย่างคุณมานวดให้ ไม่เหมาะสมเลยจริงๆ

“พวกเราจะกลับตอนนี้เลยไหม”

“กลับไปทำไม” โจวเจ๋อส่ายหน้า “รอให้ผมเข้าไปดูอีกรอบก่อน บ้านหลังนี้ต้องมีปัญหาแน่นอน ผมไม่เชื่อเรื่องราชาสิงโตโกรธ จะต้องมีสาเหตุอื่นแน่นอน”

“อย่างนั้นเข้าไปด้วยกัน”

“แค่กระโดดก็ชนหลังคาบ้านแล้ว คุณจะตามไปให้วุ่นวายเหรอ”

“เอ่อ…”

“กลับไปหาจุดที่ไม่มีคน ฝึกฝนเยอะๆ ดูว่าศักยภาพแฝงของตัวเองมีเยอะมากแค่ไหน พยายามปรับตัวให้เข้ากันมัน”

“ครับ ผมรู้แล้ว”

“โอเค คนข้างในที่น่าจะออกมาคงออกมาหมดแล้ว ผมจะเข้าไปดูอีกที” พูดจบ โจวเจ๋อก็ลงจากรถ ครั้งนี้ไม่ได้เข้าประตูหน้า แต่พุ่งไปที่ขอบกำแพงอย่างไว หลังจากกระโดดขึ้นไปก็เอาเล็บจิกไว้แล้วดีดตัวข้ามกำแพง ลงถึงพื้นอย่างไร้สุ้มเสียง

คุกทงเฉิงโจวเจ๋อก็เคยปีนมาก่อนแล้ว ของแค่นี้ แค่บ้านคนอยู่อาศัย เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ได้ยินว่าการแอบเข้าบ้านคนอื่นที่อเมริกาหากโดนจับได้ เจ้าของบ้านยิงคุณตายคุณก็พูดไม่ได้แล้ว แต่ในประเทศจีน คุณลองดูสิ

โจวเจ๋อเดินอ้อมตึกทรงตะวันตกขนาดเล็กอย่างช้าๆ แล้วเดินตรงไปที่บ้านชั้นเดียวที่อยู่ข้างหลัง ห้องโถงของบ้านชั้นเดียวมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น ใส่ผ้าป่านทั้งชุด กำลังเผาเงินกระดาษอยู่ น่าจะเป็นหลานสาวของหลี่ว์เย่าจู่

โจวเจ๋อไม่คิดจะทำให้เธอตื่นตกใจ กะว่าเดินอ้อมไปแล้วจะตรวจศพของหลี่ว์เย่าจู่ก่อน ในนี้ต้องมีอะไรแปลกๆ แน่นอน เสียงสิงโตคำรามก่อนหน้านั้น น่าจะเป็นสิ่งอื่นที่แอบก่อกวน เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นราชาสิงโต เหมือนดังเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่คนแถวชายฝั่งเล่าลือ แท้จริงแล้วเป็นแค่งูเหลือมทะเลตัวหนึ่งเท่านั้น เป็นหลักการเดียวกัน

ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้ลูกชายของหลี่ว์เย่าจู่กำลังเดินมาทางนี้ โจวเจ๋อจึงได้แต่ถอยหลังหนึ่งก้าว ซ่อนตัวเองอยู่ท่ามกลางความมืด

หลี่ว์เฉิงเหวินแสดงความสนิทสนมกับหญิงสาวที่กำลังเผาเงินกระดาษอย่างชัดเจน พ่อลูกน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลว เขาโอบไหล่ของเธอ เหมือนกำลังปลอบใจเธอไม่ให้เสียใจเกินไป

หญิงสาวกำลังร้องไห้ โผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของหลี่ว์เฉิงเหวิน หลี่ว์เฉิงเหวินลูบเส้นผมของเธอ พลางพูดปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรๆ อย่าเสียใจไปเลย เดี๋ยวสุขภาพจะแย่ ผมจะเสียใจไปด้วย รู้ไหมครับ แม่”

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท