ตอนที่ 648 พลิกความไม่เรียบร้อยให้ถูกต้องเป็นสิ่งสมควร
การกระทำนี้ของฉินหลิวซี กำลังบอกทุกคนอย่างชัดเจนว่าคนของโรงหมอตระกูลหลินวินิจฉัยโรคผิดจริงๆ ทันใดนั้นเสียงพูดคุยก็ดังขึ้นเซ็งแซ่
เก็บเงินค่ารักษาสูงเพียงนี้ทว่ากลับวินิจฉัยโรคผิด หากไม่มีหมอน้อยผู้นี้มาเปิดโปง สกุลหลินคงไม่ทำให้คนตายเลยหรือ
ประมาทเกินไปแล้ว
ใช่ว่าหลินซื่อเฉวียนไม่ได้ยินคำต่อว่าก่นด่าเหล่านั้น ใบหน้าดำทะมึนลง ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าน่าเกลียดเพียงใด ยังรู้สึกโกรธและกล่าวโทษฉินหลิวซีด้วยซ้ำ
ไม่รู้เจ้าเด็กนี้มาจากที่ใด ยุ่งเรื่องของคนอื่นเสียจริง
สตรีผู้นั้นผลักหลินซื่อเฉวียนออก เอ่ยเสียงดัง “ข้าบอกแล้วว่าพวกเจ้ารักษาคนจนแย่แล้ว ยังคิดว่าข้าสร้างเรื่องใส่ร้าย ถุย หากไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของพวกเจ้า ข้าจะยอมจ่ายเงินมากมายเพื่อให้พวกเจ้ารักษาหรือ เก็บค่ารักษาแพง ความสามารถกลับไม่มี พวกเจ้าเอาหน้าที่ไหนมาเก็บเงินค่ารักษาแพงเยี่ยงนี้ ผู้ใดจะรู้ว่าก่อนหน้านี้พวกเจ้าเคยวินิจฉัยโรงผิดมาก่อนหรือไม่ เพียงแต่พวกเขาไม่ได้โชคดีเช่นเรา ได้พบกับหมอเทวดาจริงๆ”
หลินซื่อเฉวียนถูกผลักล้มกระแทกลงกับพื้น เอ่ย “ตอนนั้นชีพจรของคนไข้บ่งบอกว่าเป็นลำไส้อักเสบอย่างเห็นได้ชัด”
“เจ้ายังไม่ยอมรับอีกหรือ” สตรีผู้นั้นโกรธจัด
ฉินหลิวซีเอ่ยขึ้นในตอนนั้น “ท่านน้า คนป่วยสำคัญ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องก่อนหน้านั้นแล้ว ต้องให้สามีท่านได้รับการรักษากินยาก่อนถึงจะดี”
“รักษาให้หายได้หรือไม่” สตรีผู้นั้นมองนางด้วยความตื่นเต้น
“แน่นอนว่ารักษาได้” ฉินหลิวซีมองไปยังหลินซื่อเฉวียน เอ่ย “คิดว่าท่านหมอหลินก็คิดว่าข้าวินิจฉัยไม่ผิดแล้ว ตามที่ท่านเห็น ยาไส้ติ่งนี้ต้องจ่ายอย่างไร”
หลินซื่อเฉวียนลุกขึ้น ปัดฝุ่นบนร่าง เอ่ย “ในเมื่อท่านหมอน้อยวินิจฉัยโรงถูก ต้องจ่ายยาอย่างไร ไม่รู้อยู่แก่ใจหรอกหรือ”
“แน่นอนว่าข้ารู้ดี เพียงแต่คนป่วยเป็นคนที่พวกท่านรักษามาก่อน แม้ยาไม่ตรงอาการ แต่ในเมื่อรู้ที่มาของอาการป่วยที่แท้จริงแล้ว ทำเรื่องผิดพลาดให้ถูกต้องก็ควรแล้วกระมัง จะว่าไป เป็นเพราะพวกท่านทำให้อาการของท่านน้าผู้นี้เสียเวลา พวกท่านรักษาให้พวกเขาโดยไม่คิดเงินถือเป็นการชดใช้ตามสมควรแล้วหรือไม่ อย่างไรบรรพบุรุษก็เป็นหมอหลวง ข้าเชื่อว่าสิ่งนี้ก็คงทำได้ใช่หรือไม่”
หลินซื่อเฉวียนชะงักเล็กน้อย ฉินหลิวซีกำลังส่งบันไดทางลงให้เขา จึงเอ่ย “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าตรวจดูเป็นโรคลำไส้อักเสบ แต่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงกลายมาเป็นไส้ติ่ง ยามนี้อาการชัดเจน หากพวกเจ้าต้องการรักษากับสกุลหลินต่อ พวกเราไม่เก็บค่ารักษาแม้แต่อีแปะเดียว ถือว่าชดใช้ให้พวกเจ้า”
ผู้คนที่ล้อมอยู่โดยรอบพยักหน้าให้ สกุลหลินนับว่ามีความรับผิดชอบ
ทว่าสตรีผู้นั้นกลับลังเล มองไปยังฉินหลิวซี เอ่ย “ท่านหมอน้อย เจ้ารักษาให้สามีข้าได้หรือไม่”
“ข้าจ่ายใบสั่งยา พวกเจ้าก็ต้องไปซื้อยาที่ร้านยาอยู่ดี ในเมื่อสกุลหลินยินดีชดเชยให้ ไยต้องไปยุ่งยากเล่า” ฉินหลิวซีเอ่ย “ไม่ว่าอย่างไรโรงหมอตระกูลหลินจะต้องทำเต็มที่ ไม่มีทางทำลายชื่อเสียงของบรรพบุรุษ ท่านหมอหลินว่าอย่างไร”
หลินซื่อเฉวียน เจ้ายกยอข้าขึ้นมา ข้าฟังออก
การยกยอนี้ เขาจะไม่ยอมรับก็ต้องยอมรับ ยังต้องยอมรับด้วยรอยยิ้ม เอ่ย “แน่นอนอยู่แล้ว การช่วยชีวิตและรักษาคนบาดเจ็บเป็นเป้าหมายของพวกเรา ไม่รู้ว่าท่านหมอน้อยผู้นี้จะจ่ายใบสั่งยาอย่างไร ที่นี่ลมแรง เข้าไปคุยด้านในดีหรือไม่”
ลมที่ใดกันเล่า ลมแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่มี เพียงเกรงว่าฉินหลิวซีจะเอ่ยวาจาอวดดีขึ้นมาอีก ทำให้ตระกูลหลินต้องมุดหน้าลงกับพื้นเท่านั้น
ฉินหลิวซีไม่ทำให้เขาลำบากใจ พอดีกับทิ้งเข็มไว้ได้เวลาจึงเก็บเข็มกลับคืน ให้สตรีผู้นั้นประคองนายพรานเข้าไปในโรงหมอ
ในโรงหมอ ฉินหลิวซีตรวจชีพจรให้นายพรานผู้นั้นอีกครั้ง จากนั้นสอบถามอาการโดยละเอียด มีความคิดอยู่ในใจ
นางครุ่นคิด มองไปทางหลินซื่อเฉวียน เอ่ย “เมื่อครู่ข้าฝังเข็มเพื่อเปิดเส้นลมปราณและบรรเทาอาการเจ็บปวดให้เขา ใช้ยาที่ช่วยระบายออกขจัดความร้อนเป็นหลัก ค่อยๆ รักษาลำไส้อุดตันบรรเทาอาการบวมน้ำ ดังนั้นจึงวางแผนจะใช้น้ำแกงดอกโบตั๋น ท่านหมอหลินคิดเห็นอย่างไร”
หลินซื่อเฉวียนครุ่นคิดถึงสูตรน้ำแกงดอกโบตั๋นอยู่ชั่วครู่ พยักหน้าเอ่ย “ได้”
ฉินหลิวซีหยิบกระดาษและพู่กันขึ้นมา ขีดเขียนสูตรยาลงในกระดาษหนึ่งแผ่น สมุนไพรต้าหวงสามสิบเค่อ[1] เปลือกโบตั๋นสามสิบห้าเค่อ เมล็ดเหอเถา[2]เก้าเค่อ เมล็ดฟักเขียวสามสิบเค่อ เป็นต้น
นางวางพู่กันลงก่อนจะส่งใบสั่งยาให้กับหลินซื่อเฉวียน อีกฝ่ายดูแล้ว เหลือบมองฉินหลิวซีเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ สมุนไพรบางชนิดมีความแตกต่าง เมื่อเทียบต้าหวงและโบตั๋นแบบดั้งเดิมมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง เจ้าเด็กคนนี้ช่างกล้าใช้ยานัก
ฉินหลิวซียังไม่ทันเขียนเสร็จ เขียนอีกหนึ่งใบเพิ่มขึ้นมา เอ่ย “นั่นคือยารักษาไส้ติ่ง ต้องใช้ระยะเวลานาน ต้องกินเจ็ดขนานติดต่อกัน รออาการนี้ดีขึ้นแล้ว ค่อยให้กินยาบำรุงลำไส้ เพื่อป้องกันลำไส้ถูกทำลายซ้ำๆ ท่านหมอหลินช่วยจัดการเถิด”
เจ้าเด็กคนนี้ เอาเปรียบสกุลหลินแล้ว
“ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ รักษาคนให้หายขาด พวกเขาก็ไม่กระจายข่าวการรักษาไม่ดีของพวกท่าน ไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์พวกท่าน” ฉินหลิวซียิ้มตาหยี
ถูกยกยอขึ้นอีกครั้ง สูงจนเย็นยะเยือก
หลินซื่อเฉวียนยิ้มบาง “ไม่มีปัญหา” เขายื่นใบสั่งยาใหแรกให้ผู้ช่วย “ไปต้มยามา”
ผู้ช่วยรีบไปต้มยาตามที่เขาสั่ง สตรีผู้นั้นมองไปทางฉินหลิวซี เอ่ย “ท่านหมอน้อย รักษาหายได้จริงหรือ”
“โชคดีที่เป็นเรื้อรังค่อยๆ แสดงอาการ ไม่รุนแรงมากนัก มิเช่นนั้นคงต้องผ่าตัด” ฉินหลิวซีเอ่ย “ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ต้องผ่าตัดตัดทิ้ง ใช้ยาไม่หาย”
ใบหน้าของสตรีผู้นั้นและนายพรานซีดขาว ผ่าตัดบนร่างกาย ไม่อยากคิดเลยจริงๆ
ทว่าหลินซื่อเฉวียนตกตะลึง “ผ่าตัดมีวิธีการอย่างไรหรือ”
“แน่นอนว่าต้องตัดไส้ติ่งที่เจ็บปวดทิ้ง” ฉินหลิวซีเอ่ย
หลินซื่อเฉวียน “มีวิธีการเช่นนี้ด้วย เจ้าเคยทำมาก่อนหรือไม่”
ฉินหลิวซีส่ายศีรษะ “ข้าไม่มีวิธี ข้าเพียงได้ยินเกี่ยวกับวิธีนี้จากทางตะวันตก”
หลินซื่อเฉวียนผิดหวังเล็กน้อย
สตรีผู้นั้นและนายพรานเอ่ยขอบคุณฉินหลิวซี ยังนำเงินสิบตำลึงที่หลินซื่อเฉวียนคืนให้ยกให้ฉินหลิวซีเพื่อเป็นค่ารักษา หากไม่ใช่เพราะนาง เกรงว่าคงไม่อาจรักษาให้หายได้แล้ว
ฉินหลิวซีรับเพียงหนึ่งตำลึงเพื่อเป็นค่ารักษา มองพวกเขาสองสามีภรรยาเข้าไปพักที่เรือนด้านหลังแล้วจึงขอตัวลา
หลินซื่อเฉวียนหยุดนางเอาไว้ ครุ่นคิด ยกมือประสานเอ่ย “ขอบคุณท่านหมอน้อยยินดีช่วยเหลือ ยังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของท่าน ท่านหมอน้อยอายุยังน้อย วิชาการแพทย์สูงส่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเป็นศิษย์ผู้ใด”
ฉินหลิวซีเอ่ย “ข้าหรือ หมอนักพรตผู้หนึ่งของอารามชิงผิงเมืองหลีเท่านั้น ฉายาทางเต๋าปู้ฉิว”
หลินซื่อเสวียนชะงัก หมอนักพรตหรือ
ไม่ใช่สิ ฉายาทางเต๋านี้รู้สึกคุ้นหู เคยได้ยินที่ใด
เขาเอียงคอครุ่นคิด พลันนึกขึ้นมาได้ นึกถึงเมื่อครั้งก่อนท่านปู่จะจากไปกำชับเอาไว้ จากนี้ไปการแพทย์ตระกูลหลิน ระหว่างทำการรักษา เจอกับนักพรตน้อยฉายาปู้ฉิวผู้หนึ่ง อย่าได้เกิดความสงสัยต่อวิชาการแพทย์ของนาง และอย่าได้เป็นปรปักษ์ มิเช่นนั้นจะถูกอีกฝ่ายตบหน้าอย่างแน่นอน
นี่คือนักพรตปู้ฉิวผู้นั้นหรอกหรือ
ท่านปู่จากไปเมื่อหกปีก่อน ตอนนั้นเรียกอีกฝ่ายว่าหมอนักพรตน้อยพร้อมทั้งเอ่ยวาจาชื่นชม เช่นนั้นแล้วคนตรงหน้าดูมีอายุเพียงสิบกว่าปีเท่านั้น นั่นหมายความว่าเมื่อครั้งชายชราได้พบจะไม่อายุน้อยกว่านี้หรือ
หลินซื่อเฉวียนเข้าใจแล้ว ขณะกำลังจะเอ่ยถามบางอย่าง แต่ฉินหลิวซีกลับจากไปแล้ว เขารีบวิ่งตามออกไปแต่ไม่เห็นคนแล้ว
[1] เค่อ หน่วยวัด หมายถึง กรัม
[2] เหอเถา ถั่ววอลนัท