บทที่ 902 จักรพรรดินีตื่นตะลึง
บทที่ 902 จักรพรรดินีตื่นตะลึง
ซูอันต้องขอบคุณสวรรค์ที่ตัวเองมีวิชาร่างก้าวทานตะวัน
ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะอัศจรรย์นี้ที่ทำให้เขาสามารถหลบหลีกการโจมตีของผู้บ่มเพาะระดับสูงได้หลายครั้งหลายคราเช่นเดียวกับไพ่เด็ดอื่น ๆ ของตัวเอง เขาคงจะตายไปหลายร้อยครั้งแล้วระหว่างทางมาเมืองหลวง
ขันทีลู่คำรามเมื่อต้องรับมือกับมือสังหารที่ขวางทางอยู่ การต่อสู้ติดพันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ทว่าเขาก็ยังไม่อยู่ในสภาพที่จะช่วยเหลือเหตุการณ์ด้านในห้องได้
นักฆ่าอีกกลุ่มบุกเข้าไปโจมตีจักรพรรดินีอย่างโหดเหี้ยม
ซูอันถอนหายใจ เขาไม่สามารถมองดูอยู่เฉย ๆ ได้ ตอนนี้ตัวเองเป็นขุนนาง และยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตยุทธ์เสื้อแพร เขาจะต้องเผชิญกับโทษทัณฑ์มากมายถ้าหากไม่พยายามช่วยจักรพรรดินี
แน่นอน เขาไม่ได้หัวร้อนพอที่จะพุ่งตรงเข้าไปเอาตัวกำบังจักรพรรดินี เขาไม่มีความสัมพันธ์ใดกับจักรพรรดินี และไม่เชื่อว่านางจะไม่มีไพ่ลับดี ๆ ติดตัวเลย
ที่นี่คือโลกแห่งการบ่มเพาะ สถานที่ซึ่งสถานะถูกตัดสินด้วยความแข็งแกร่ง จักรพรรดิเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ แม้ว่าจักรพรรดินีไม่น่าจะเป็นอันดับรองลงมา แต่อย่างน้อยนางก็ควรเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงคนหนึ่ง
นี่คือเหตุผลที่เขาเลือกเผชิญหน้ากับนักฆ่าเพียงสองคน คนหนึ่งอยู่ในระดับที่ห้าและอีกคนอยู่ที่ระดับหก ต่อให้มีใครซักถามเขาในภายหลัง เขาก็สามารถหาข้ออ้างปกป้องตัวเองได้ ในสายตาของคนส่วนใหญ่ เขาเป็นเพียงผู้บ่มเพาะระดับห้า ดังนั้นความจริงที่ว่าเขาจัดการนักฆ่าระดับห้าและหกทีเดียวพร้อมกันสองคนถือว่าเขารับความเสี่ยงพอแล้ว
ทหารของวังไร้พิพาทจำนวนมากเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย แต่กลับถูกนักฆ่าที่มีจำนวนมากกว่าเข้ามาขวางทางไว้ พวกเขาทำได้เพียงมองดูในขณะที่นักฆ่าคนอื่นวิ่งผ่านไปหาจักรพรรดินี
เปลือกตาของซูอันกระตุก ใครเป็นฝ่ายได้เปรียบ? และใครคือผู้โจมตี? ทำไมทหารองครักษ์เหล่านี้ถึงเสียเปรียบในบ้านของตัวเอง?
นักฆ่าทั้งสี่ได้ไปถึงตัวจักรพรรดินีแล้ว
นางกำนัลและขันทีคนสนิทรวบรวมความกล้ากระโดดไปขวางด้านหน้าจักรพรรดินี หากเกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดินี พวกเขาย่อมมีความผิดไปด้วย บุคคลเหล่านี้แม้จะได้รับการฝึกฝนมาบ้าง แต่ความจริงที่ว่าพวกเขามีคุณสมบัติเป็นเพียงข้ารับใช้ระดับต่ำ จึงหมายความว่าพรสวรรค์ด้านการบ่มเพาะของพวกเขานั้นธรรมดาที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครสามารถต้านทานนักฆ่าเหล่านี้ได้
มีเสียงกรีดร้องที่น่าสมเพชต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็ว ขณะที่ขันทีและนางกำนัลค่อย ๆ ทยอยล้มตายทีละคน
จักรพรรดินีขมวดคิ้ว ในที่สุดนางก็เคลื่อนไหวโดยซัดฝ่ามือออกไป เห็นได้ชัดว่านางเคลื่อนไหวช้ามาก แต่นักฆ่าที่อยู่ตรงข้ามนางกลับไม่สามารถหลบหลีกได้ ฝ่ามือของนางประทับที่กลางหน้าผากของเป้าหมายอย่างน่างงงวย
นักฆ่าคนนี้ชอบไปเที่ยวหอคณิกาและย่านบันเทิงในเวลาว่าง และเขาชอบที่จะถูกมือนุ่ม ๆ ของสาว ๆ เอาใจ มือนี้สวยกว่าและนุ่มนวลกว่ามือที่เขาเคยพบเจอมาก…หากเขาถูกมือที่สวยงามเช่นนี้สัมผัส เขาก็อาจจะถึงจุดสุดยอดทันที
เขารู้สึกตัวเบาลงเรื่อย ๆ หลังจากนั้น…ก็ไร้ความรู้สึกไปอย่างสิ้นเชิง
ทุกคนในห้องโถงมองด้วยความตกใจ แม้แต่ซูอันก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น เขาคิดว่าจักรพรรดินีคงจะแข็งแกร่ง แต่นี่ไม่เกินไปหน่อยเหรอ?
ฝ่ามือของนางเคลื่อนไหวอีกครั้งสัมผัสหน้าอกของนักฆ่าอีกคน นักฆ่าต้องการหลบหลีก แต่พื้นที่รอบ ๆ ดูเหมือนจะแข็งค้าง นักฆ่าไม่สามารถขยับกายหลบหลีกได้เลย ทำได้เพียงมองอย่างสิ้นหวังในขณะที่ฝ่ามือที่สวยงามและน่าสะพรึงกลัวนั้นพุ่งเข้ามาหา!
ขณะที่กำลังจะแตะถูกตัว ทันใดนั้น ฝ่ามือก็หยุดลง จักรพรรดินีกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
ซูอันรู้สึกงุนงงมากขึ้นกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปกะทันหันนี้
นักฆ่าคนที่รอดตายรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “นางเคยถูกธาตุไฟเข้าแทรกเมื่อปีก่อน นางยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทุกคนโจมตี!”
นักฆ่าชกหมัดเข้าใส่นางขณะที่พูด ทำให้นางดึงฝ่ามือของนางกลับ นักฆ่าคนอื่น ๆ ที่ถูกตรึงไว้ได้เมื่อสักครู่กวัดแกว่งดาบใส่จักรพรรดินีอย่างบ้าคลั่ง
จักรพรรดินีกัดฟันกรอด นักฆ่าเหล่านี้คงไม่นับเป็นตัวอะไรได้ถ้านางอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม!
แม้ตอนนี้นางจะไม่สามารถรวบรวมพละกำลังได้มากพอจะโจมตีเหล่านักฆ่า แต่สายตาของนางยังคงเป็นเลิศ นางยังคงสามารถหลบลีกการโจมตีทั้งหลายที่ประดังประเดเข้ามาโดยใช้สายตาและการเคลื่อนไหวที่พริ้วไหว
แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของนางไม่สมบูรณ์พร้อมขนาดนั้น นางไม่สามารถหลบหมัดที่มาจากด้านหลังได้ หมัดนั้นปกคลุมด้วยแสงสีเหลือง นักฆ่าคนนี้เป็นผู้บ่มเพาะธาตุดินและหมัดของเขามีพลังมหาศาล
หมัดกระแทกเข้าที่แผ่นหลังส่วนล่าง นางกระอักเลือดอย่างไม่อาจควบคุม
นางพยายามใช้แรงส่งจากหมัดที่กระแทกพุ่งตัวออกไปข้างนอก ขันทีลู่อยู่ข้างนอกพร้อมกับเหล่าทหาร พวกเขามีประโยชน์มากกว่าเหล่าขันทีและนางกำนัลภายในที่อ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม นางประเมินอาการบาดเจ็บของตัวเองต่ำไป
ระหว่างที่ร่างของนางกระเด็นลอยอยู่กลางอากาศ พลังชี่ในร่างของนางเหือดแห้งลงพอดี ซึ่งส่งผลให้ร่างของนางร่วงหล่นจากอากาศเข้าใส่ซูอันซึ่งอยู่ด้านล่าง
ซูอันรับตัวนางโดยไม่รู้ตัว นี่มันบ้าอะไรกัน!?
ทุกคนที่เห็นภาพนี้ตกตะลึง
กุ้ยน้อยที่กำลังตัวสั่นอยู่ที่มุมห้องตกตะลึงจนเกือบลืมความกลัวของตัวเองไป
จั้วน้อยก็จ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตาเช่นกัน!
ผู้ชายคนนี้ช่างกล้าจริง ๆ! กล้าที่จะกอดจักรพรรดินี! จักรพรรดิทรงเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่สามารถจับเนื้อต้องตัวพระนางได้ เจ้ากล้าที่จะจับเนื้อต้องตัวพระนางได้อย่างไร?
พวกเขาเริ่มเสียใจที่รับไข่มุกที่ซูอันมอบให้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะถูกอาญาหลังจากเหตุการณ์นี้หรือไม่?
ทั้งสองมองซูอันอย่างสงสาร แม้ว่าชายผู้นี้โชคดีพอที่จะหลีกเลี่ยงความตายได้ แต่เขาก็น่าจะกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกขันที ถึงตอนนั้นพวกเราควรเรียกเขาว่าซูน้อยหรืออันน้อย?
แน่นอนว่าซูอันตกตะลึงเช่นกัน เขาวางแผนที่จะเป็นเพียงผู้ชมเหตุการณ์ขณะที่จักรพรรดินีแสดงทักษะการตอสู้และอาจจะให้กำลังใจนางสักหน่อย
ทว่าตอนนี้ทุกอย่างกลับหัวกลับหางไปหมด จักรพรรดินีผู้ทรงพลังมหาศาลถูกโจมตีและจากนั้นสถานการณ์ก็พลิกผันโดยสิ้นเชิง!
ท่านจะหนีไปทางอื่นไม่ได้เหรอ? ทำไมถึงต้องหนีมาทางข้า!
ยิ่งไปกว่านั้น ท่านตกลงมาในอ้อมแขนของข้าอีกต่างหากด้วย…
แต่ว่า…ก้นของนางนุ่มนิ่มดีจริง ๆ
…อะแฮ่ม! นั่นไม่สำคัญในตอนนี้ ถ้าข้าอุ้มนางแบบนี้ถือว่ามีสัมพันธ์ทางกายหรือเปล่า?
จักรพรรดินีจะสามารถรับเรื่องนี้ได้หรือไม่? คนอื่นจะกล่าวหาว่าข้าประพฤติมิชอบหรือไม่?
โทษของข้าจะเป็นการประหารชีวิตหรือการตัดอัณฑะ?
เขาหุบขาโดยไม่รู้ตัว ถ้าเขารู้ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ เขาจะกระโดดหนีให้นางตกลงไปที่พื้น
เพิ่งจัดการเรื่องวิชาวัฏจักรหงส์อมตะให้ผ่านพ้นไปได้เท่านั้น แต่เขาก็ได้ยั่วยุจักรพรรดิอีกครั้ง ข้าควรเผาเครื่องหอมขับไล่ความโชคร้ายหรือไม่?
แต่ฝ่าบาททรงสวมหมวกแห่งการให้อภัยของข้านี่นา เขาคงไม่เอาเรื่องข้าหรอก…
ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความฟุ้งซ่านอีกครั้ง