ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 485 ไม่ใช่เรื่องธรรมดา(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 485 ไม่ใช่เรื่องธรรมดา(2)

ตอนที่ 485 ไม่ใช่เรื่องธรรมดา(2)

เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่คิดว่าซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือจะหลักแหลมขนาดนี้ โชคดีที่นอกจากพวกเขาแล้วไม่มีใครเจอหน้าเฉาเจิ้งหนาน ดังนั้นจึงไม่มีใครมองออก

แต่ตอนนี้แม่ยายและแม่ของตัวเองมองออกแล้ว เขาจึงอธิบายภารกิจของเขาให้ฟังอย่างสั้น ๆ “พวกเราถูกส่งมารับใครบางคน แต่อาเผยรู้จักผมอยู่ หากผมรับบทเป็นผู้ติดตามของพวกหลิวเสวียข่าย อาจทำให้เขารู้สึกแปลก จึงทำเป็นว่ามากับพวกแม่น่ะครับ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวขึ้น “ใช่ๆ ให้เธอมาที่นี่กับพวกเราดีกว่า”

ทั้งสองให้ความสำคัญกับภารกิจของเซี่ยเจ๋อหลี่มาก จึงลุกขึ้นยืนพลางกล่าวว่า “บอกว่าจะพาพวกเราไปเดินเล่นไม่ใช่เหรอ ไปสิ ออกไปข้างนอกกันเลย”

เซี่ยเจ๋อหลี่ไปเดินเล่นกับแม่และแม่สามีของตัวเองเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

เมื่อได้ยินแบบนี้เขาก็ยกยิ้มตอบรับ “ครับ”

หลังจากทั้งสามมาถึงล็อบบี้ของโรงแรมแล้ว จึงพบว่าเยว่เจินจูก็ออกมาจากห้องของตัวเองแล้วเหมือนกัน

ซูหว่านอี๋เห็นเยว่เจินจูจึงรีบเอ่ยถาม “เจินจู เธอก็จะออกไปเดินเล่นเหมือนกันเหรอ ดีเลย พวกเราไปด้วยกันเถอะ”

เยว่เจินจูเห็นทั้งสามเดินมา ก็รีบเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้ม “น้าซู น้าเหยา พวกน้าจะออกไปเดินเล่นข้างนอกเหรอคะ ฉันยังไม่ไปค่ะ กำลังรอเพื่อนมาหา”

พูดจบหล่อนก็เล่าเรื่องดาราฮ่องกงที่เคยซื้อผลิตภัณฑ์ของมู่เสวี่ยมาก่อน

“ฉันเพิ่งเห็นว่าโรงแรมมีโทรศัพท์ด้วย จึงโทรไปหาหล่อนแล้ว คิดไม่ถึงว่าหล่อนก็เพิ่งมาที่นี่เหมือนกัน ฉันบอกหล่อนว่ามาถึงฮ่องกงแล้ว หล่อนจึงจะมาหาฉันค่ะ”

ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือทราบแล้วว่าก่อนหน้านี้เยว่เจินจูเคยได้พบดาราฮ่องกงตอนที่ไปกองถ่าย ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าคน ๆ นั้นจะมา จึงไม่รีบร้อนออกไปข้างนอกอีกแล้ว “จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นพวกเราอยู่เจอหล่อนด้วยดีไหม จะได้ขอบคุณหล่อน ที่ทำให้พวกเรามีแรงบันดาลใจในการนำมู่เสวี่ยเข้าตีตลาดฮ่องกง”

เยว่เจินจูได้ยินแบบนี้ก็บอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ดีเลยค่ะ หล่อนน่าจะใกล้มาถึงแล้ว หล่อนบอกว่าอยู่ไม่ไกล”

เมื่อเห็นเยว่เจินจูบอกแบบนั้น เหยาจิ้งจือก็หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วบอกกล่าว “อาหลี่ ถ้าอย่างนั้นแกไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกเราจะรอคนอยู่แถวนี้”

เซี่ยเจ๋อหลี่กังวลที่จะปล่อยทั้งสามคนเอาไว้ เพราะที่นี่คือฮ่องกง พวกหล่อนยังไม่คุ้นชินกับสถานที่แห่งนี้สักเท่าใด

“เดี๋ยวผมรอเป็นเพื่อน”

ขณะที่เหยาจิ้งจือกำลังจะพูดอะไร คนที่เยว่เจินจูรอก็มาถึงแล้ว

“เจินจู เป็นเธอจริงด้วย ทำไมอยู่ ๆ เธอถึงมาที่ฮ่องกงล่ะ”

เยว่เจินจูดีใจมากที่ได้พบเฉินเหวินเหวิน “เหวินเหวิน ไม่ได้เจอกันนานเลย”

“ไม่ได้เจอกันนานเลย”

เฉินเหวินเหวินกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็หันมองซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือด้วยความสงสัย และมองเซี่ยเจ๋อหลี่เป็นคนสุดท้าย หลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มตรงหน้าก็อดตะลึงไม่ได้ เพราะเขาเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลามาก หล่อกว่าดาราชายฮ่องกงบางคนเสียอีก

“เจินจู พวกเธอมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครเลยนะ นี่จ้างดาราชายมาโฆษณาเครื่องสำอางของพวกเธอด้วยเหรอ”

เยว่เจินจูได้ยินแบบนี้ก็รีบโบกมือแล้วบอกกล่าว “ไม่ใช่ นี่คือคนที่มาพร้อมกับผู้จัดการโรงงานสองคนของเรา” พูดจบก็เอ่ยแนะนำซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือ สุดท้ายก็แนะนำเซี่ยเจ๋อหลี่อีกครั้ง

เฉินเหวินเหวินได้ฟัง ก็รู้สึกเขินอายนิดหน่อย “ขอโทษค่ะ ฉันเข้าใจผิดเอง”

เนื่องจากเซี่ยเจ๋อหลี่หล่อเหลาเกินไป หล่อนจึงอดหันมองอีกครั้งไม่ได้ สายตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มชื่นชม

แต่หล่อนมองเขาเป็นอาหารตาเพียงผ่านๆ เท่านั้น สิ่งที่หล่อนสนใจมากกว่าคือจุดประสงค์ที่พวกเยว่เจินจูมาที่ฮ่องกง

“ถ้าอย่างนั้น ต่อไปพวกเราก็สามารถซื้อเครื่องสำอางมู่เสวี่ยที่ฮ่องกงได้แล้วใช่ไหม”

เยว่เจินจูรีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่แล้วล่ะ ต่อไปเธอก็สามารถซื้อที่ฮ่องกงได้เลย ไม่ต้องนั่งรถไปไกลถึงเมืองหลวงแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย”

เฉินเหวินเหวินในตอนนี้ไม่สนใจหนุ่มหล่ออย่างเซี่ยเจ๋อหลี่อีกต่อไป ในใจสนเพียงแค่ว่าต่อไปจะได้ซื้อเครื่องสำอางแบรนด์มู่เสวี่ยได้เรื่อย ๆ แล้ว เดิมทีหล่อนยังมีอคติต่อเครื่องสำอางในประเทศ แต่ตอนนี้มันกลับเป็นของที่ขาดไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ช่างน่าทึ่งนัก หลังจากใช้มาสักระยะหนึ่งแล้ว ผิวหน้าก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่คิดเลยว่าจะมีเครื่องสำอางที่ใช้ได้ดีขนาดนี้ในประเทศจีนด้วย

ขณะที่หลายคนกำลังพูดคุยกัน ข่งไฉ่อิงก็เดินเข้ามา หล่อนรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อยที่ซูหว่านอี๋กับพวกเยว่เจินจูมีคนรู้จักอยู่ที่ฮ่องกงด้วย จนกระทั่งเห็นชัดว่าเป็นเฉินเหวินเหวิน จึงเอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจนิดหน่อย “พวกเธอรู้จักกันเหรอ”

เฉินเหวินเหวินเคยเข้าร่วมการประกวดนางงามฮ่องกง ซึ่งหล่อนมีความประทับใจต่ออีกฝ่ายมาก แต่ไม่คิดว่าคนพวกนี้จะรู้จักกัน

เยว่เจินจูยกยิ้มแล้วเล่าว่ารู้จักกับเฉินเหวินเหวินได้อย่างไร

และหลังจากข่งไฉ่อิงได้ยินแบบนี้ แววตาก็เปล่งประกาย

“ดูเหมือนว่า คุณหนูเฉินจะใช้มู่เสวี่ยมาระยะหนึ่ง แล้วก็ชื่นชอบแบรนด์มู่เสวี่ยมากเลยสินะ”

เฉินเหวินเหวินได้ยินสิ่งที่ข่งไฉ่อิงพูด ก็รีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าวทันที “ใช่ค่ะ ฉันรู้สึกว่ามู่เสวี่ยใช้ดีมาก หลังจากได้ลองใช้ ผิวก็ฟื้นฟูดีขึ้น”

หลังเฉินเหวินเหวินได้รู้ทุกสิ่งในตอนนี้แล้ว หล่อนก็ถึงกับอึ้งงัน ด้วยไม่คิดว่าบริษัทร่วมงานในฮ่องกงที่เยว่เจินจูกำลังหาทางร่วมมือด้วยจะเป็นบริษัทเซิงซื่อกรุ๊ป หล่อนค่อนข้างประทับใจในตัวคุณไฉ่อิงที่อยู่ตรงหน้าผู้เป็นภรรยาของประธานเผยแห่งเซิงซื่อกรุ๊ป นอกจากนี้หล่อนยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารหลักของเซิงซื่อกรุ๊ปด้วย ไม่คิดเลยว่ามู่เสวี่ยจะดำเนินการได้อย่างน่าอัศจรรย์โดยที่ไม่ต้องลงมืออะไรเลย ทันทีที่หาบริษัทร่วมงานก็ได้เจอเข้ากับเซิงซื่อกรุ๊ปพอดี

ข่งไฉ่อิงได้ยินสิ่งที่เฉินเหวินเหวินพูด ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ที่แท้คุณหนูเฉินก็ชอบสินค้ามู่เสวี่ยมากเลย ไม่ทราบว่าสนใจมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าของมู่เสวี่ยให้กับบริษัทของฉันไหมคะ”

เฉินเหวินเหวินย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว

“จริงเหรอคะ ถือเป็นเกียรติมากเลยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย เดี๋ยวทางฝั่งพวกเรามีความคืบหน้าแล้วจะติดต่อคุณหนูเฉินไปนะ”

“ได้ค่ะ”

เฉินเหวินเหวินรีบพยักหน้าทันที ด้วยกลัวว่าข่งไฉ่อิงจะเปลี่ยนใจ หลังจากนั้นก็ทราบแล้วว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ จึงรีบกลับไป

หลังจากเฉินเหวินหวินไปแล้ว ข่งไฉ่อิงก็ยกยิ้มแล้วบอกกล่าว “ฉันเดาว่าพวกเธอคงอยากออกเดินเล่นกัน ก็เลยมาหาเป็นการส่วนตัว เดี๋ยวจะพาพวกเธอไปเดินเที่ยวเอง”

ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือรู้สึกเกรงใจนิดหน่อย

“ไฉ่อิง จะรบกวนคุณเกินไปหรือเปล่าคะ พวกเราไปเดินเล่นกันเองก็ได้” เมื่อเห็นท่าทีของเฉินเหวินเหวินแล้ว จึงทราบได้ว่าข่งไฉ่อิงคงมีฐานะตำแหน่งในฮ่องกงสูงมาก ทั้งสองสามีภรรยาเพิ่งกลับมาในครั้งนี้ คงมีหลายอย่างให้ต้องจัดการ

“ไม่เป็นไร เจิ้งผู่ไปทำงานแล้ว ฉันเดินเล่นกับพวกเธอก่อนก็ได้”

เมื่อเห็นข่งไฉ่อิงพูดแบบนี้ ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

และข่งไฉ่อิงก็หันมองเยว่เจินจูก่อนจะเอ่ยถาม “อยากไปตามพวกผอ.หลิวก่อนไหมคะ?”

“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราไปเดินกันเองก็พอแล้ว พวกเขาเป็นหนุ่มใหญ่ที่ไม่ค่อยชอบไปเดินเล่นน่ะค่ะ”

ในตอนนั้นเอง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็หันมองซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก่อนจะเอ่ยขึ้น “แม่ครับ ถ้าพวกแม่ไปกับคุณข่งแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมก็คงไม่ต้องไปแล้วนะครับ”

เหยาจิ้งจือเปิดปากขึ้นเป็นคนแรก “ได้ ถ้าอย่างนั้นแกไม่ต้องไปหรอก พวกผู้ชายนี่ก็เหมือนกันหมดแหละ ไม่ค่อยชอบไปเดินเล่นช้อปปิ้ง ตอนนี้ไฉ่อิงก็ไปกับเราแล้ว แกรีบกลับไปพักที่ห้องเถอะ”

“ครับ”

แต่เมื่อพวกข่งไฉ่อิงออกไปแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ออกจากโรงแรมแล้วเดินตามหลังไปอย่างใกล้ชิด

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

การเจรจาธุรกิจน่าจะราบรื่นด้วยดีนะคะ จะมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นไหมหนอ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท