เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย – บทที่ 527 บุกมาด้วยท่าทีแข็งกร้าว

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

บทที่ 527 บุกมาด้วยท่าทีแข็งกร้าว

จีฝูเย่ไม่มีนิสัยชอบสอดรู้สอดเห็นความลับของอาจารย์ ดังนั้นจึงพาซือเยียนกลับไปที่ห้องเล็กของตัวเอง

ทันทีที่เข้าไป ซือเยียนก็บ่นออกมา “นายท่าน เหตุใดต้องเคารพเจ้านักต้มตุ๋นนั่นเพียงนี้ด้วยเจ้าคะ ท่านทุ่มเทเพื่อเขา แต่เขากลับไม่เชื่อใจท่านเลย”

จีฝูเย่เพิ่งดื่มชาไปหนึ่งอึก ได้ยินดังนั้นก็หันมองซือเยียน

“เจ้าติดตามข้ามานานเพียงใดแล้ว?”

ซือเยียนชะงักไป ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาขึ้นมา “สิบห้าปีเจ้าค่ะ”

“ในเมื่อนานเพียงนี้แล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะถือสาเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ?”

ซือเยียนเม้มริมฝีปาก “ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ซือเยียนเพียงแค่ทนไม่ได้ที่เห็นความจริงใจของนายท่านถูกคนมองข้าม”

จีฝูเย่กลับพูดอย่างใจเย็น “สิ่งที่ข้าไล่ตามคือทักษะที่สูงส่ง ใช่ว่าจะต้องได้เป็นคนสนิทของเขาไม่ ผู้คนหรือเรื่องราวในใต้หล้านี้ อย่าไปร้องขอบอกอีกฝ่ายว่าควรปฏิบัติเช่นไร ทั้งที่ตัวเองยังทำไม่ได้ ข้าเป็นคนดื้อดึงขอกราบเขาเป็นอาจารย์เอง เขาเคยขออะไรจากข้าหรือไม่ แล้วข้าจะมีหน้าไปขอร้องให้เขาเลิกระแวงข้าได้อย่างไร”

ซือเยียนไม่มีอะไรจะพูดอีก จีฝูเย่เดิมก็เป็นคนที่มีความน่าหลงใหลเช่นนี้ แต่หากเสียสติขึ้นมา เขาก็สามารถนำทรัพย์สมบัติออกมาใช้จนหมด โดยไม่สนใจเรื่องสิ่งตอบแทนใด ๆ ได้

“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ต่อไปจะไม่พูดอีกแล้วเจ้าค่ะ”

จีฝูเย่จึงได้พอใจ พลางเอ่ยด้วยเสียงที่อ่อนโยน “เจ้าเองก็คงจะเหนื่อยมากแล้ว รีบไปพักผ่อนเถอะ”

ซือเยียนส่ายหน้า “ข้าเห็นซือถูรุ่ยกลับไปเรือนของตัวเองอย่างรีบร้อน คาดว่าอีกเดี๋ยวต้องมีเรื่องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ข้าอยู่เฝ้าท่านดีกว่าเจ้าค่ะ”

จีฝูเย่คิดไปคิดมา “ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล ให้คนไปจับตามองที่ถนนเอาไว้ หากซือถูรุ่ยมาแล้ว ให้รีบกลับมารายงาน”

“เจ้าค่ะ”

เผยยวนเคาะประตู

ทั้งสี่คนที่อยู่ภายในห้องต่างก็ระแวงขึ้นมาทันที

อาอินจ้องไปที่ประตู “ผู้ใด?!”

เผยยวนเอ่ย “ข้าเอง”

อาอินเอ่ยด้วยความยินดี “ท่านพ่อ”

นางรีบกระโดดลงจากเตียง แล้ววิ่งตึงตังไปเปิดประตูให้ “ท่านพ่อ! พวกเราพาท่านแม่กลับมาได้แล้วเจ้าค่ะ”

จี้จือฮวนกับเผยยวนมองเข้าไปภายในห้อง เห็นด้านหลังฉากบังลมมีเงาคนเคลื่อนไหวอยู่ พวกเขาจึงตรงเข้าไปด้านในทันที

หลังปิดประตูลงแล้ว อาเหริ่นก็เดินอ้อมไปที่ด้านหลังฉากบังลมอย่างรวดเร็ว

ในมือของซือถูเซิงยังคงประคองถ้วยที่อาชิงยกมาให้อยู่ ใบหน้าของนางเวลานี้ไม่มีความงามและความร่าเริงเฉกเช่นในอดีตอีกแล้ว เพราะถูกวันเวลาที่สูญเปล่ากลืนกินตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ผมที่เดิมเคยยาวและดำสนิท ก็พันกันจนเป็นก้อนเพราะความแห้งกรอบ

นางมองไปที่ผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น ในดวงตาที่ดูสับสนคู่นั้นมีทั้งความกลัวและความกังวลแฝงอยู่

หลายปีมานี้ นางยังไม่เจอคนแปลกหน้ามากเท่าวันนี้มาก่อน

จนกระทั่งอาเหริ่นถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ทั้งแปลกตาทว่าคุ้นเคย

ตอนนี้ราวกับว่าเวลาได้หยุดลง

ถ้วยในมือของซือถูเซิงร่วงลงบนพื้น นางเรียกชื่อของอาเหริ่นโดยที่ไม่มีเสียง เพราะไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่ขาดสายเท่านั้น

พวกเขากางแขนออกเข้าหากัน

ทันทีที่ได้สวมกอดกัน ทั้งคู่ต่างก็หลับตาลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ

พวกเขาไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แต่สายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากลับทำให้ทุกคนที่อยู่ ณ ที่ตรงนี้รู้สึกประทับใจ

“เหตุใดเซิงเซิงถึงกลายเป็นเช่นนี้?” เย่จิ่งฝูอดไม่ได้ที่จะตกใจกับภาพที่เห็น

นี่ไม่ใช่ความผิดของนาง เพราะระหว่างทางอาเหริ่นได้เล่าเกี่ยวกับอดีตของเขากับเซิงเซิงให้พวกเด็ก ๆ ฟังแล้ว

ภาพที่ทุกคนจินตนาการถึง ซือถูเซิงก็คือคุณหนูตระกูลใหญ่ที่อ่อนโยนและน่ารัก นางไม่เหมือนกับซือถูรุ่ยที่ติดตามพ่อไปทำศึก นางเปรียบเสมือนดอกไม้ในเรือนกระจกมากกว่า สองพ่อลูกตระกูลซือถูไม่เคยปล่อยให้สิ่งที่น่าหวาดกลัวและอันตรายเหล่านั้นเข้ามาถึงตัวนางได้

นางเป็นคนเรียบง่ายและจิตใจดี เหมือนกับดอกไป่เหอ*ที่เบ่งบานอย่างช้า ๆ ในหุบเขา

* ดอกไป่เหอ (百合花) หมายถึง ดอกลิลี (lily)

สะอาดและบริสุทธิ์

แต่สตรีที่เนื้อตัวสกปรก ผอมแห้งจนเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกตรงหน้าผู้นี้ คือซือถูเซิงอย่างนั้นหรือ?

หลายปีมานี้ที่นางอยู่ข้างกายซือถูรุ่ย นางประสบกับอะไรมากันแน่ ขนาดพวกเขาเห็นแล้วยังอดไม่ได้ที่จะปวดใจ นับประสาอะไรกับอาเหริ่นกัน!?

อาอินจึงพูดด้วยความโมโหขึ้นมา “ซือถูรุ่ยเจ้าสัตว์เดรัจฉานนั่น ล่ามท่านแม่เซิงเซิงเอาไว้ในกรงเล็ก ๆ ราวกับสุนัขอยู่ในเรือนของเขา เป็นเพียงกรงไม้ขนาดใหญ่ ไม่มีผ้าห่ม มีแต่ฟาง อาหารที่กินก็คือน้ำข้าวที่ให้หมูกิน! ทั้งยังปล่อยให้คนมารังแกท่านแม่อีก!”

“อะไรนะ? คนผู้นี้เสียสติไปแล้วหรืออย่างไรกัน! ถึงอย่างไรเซิงเซิงก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขา เหตุใดเขาถึงทำเรื่องเช่นนี้ได้กัน?”

คงเห็นเป็นนักโทษก็เท่านั้นกระมัง!

สตรีที่อ่อนแออย่างซือถูเซิงสามารถอดทนมาได้หลายปีเพียงนี้ นอกจากความปรารถนาที่จะอยากพบอาเหริ่นกับลูก ๆ แล้ว จะมีอะไรคอยยึดเหนี่ยวจิตใจนางได้อีก

ทุกคนไม่ได้ฟังที่อาอินเล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว

เพราะแค่เห็นการแต่งตัวของซือถูเซิง และสภาพราวกับผีของนาง ก็อยากจะไปสังหารซือถูรุ่ยเสียเดี๋ยวนี้

“แย่แล้ว” จู่ ๆ จี้จือฮวนก็เอ่ยขึ้นมา

“มีอะไร?” เยว่พั่วหลัวงุนงง

“เป็นไปได้ว่าซือถูรุ่ยจะบุกมาที่นี่ในเร็ว ๆ นี้!”

เมื่อครู่ซือถูรุ่ยจากไปเพราะมีคนมารายงานว่าเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นที่เรือน เช่นนั้นเขาต้องกลับไปดูว่าซือถูเซิงยังอยู่หรือไม่ เพื่อยืนยันว่าคนของตัวเองไม่ได้หายไป

หากไม่เห็นซือถูเซิงละก็ พวกเขาไหนเลยจะหนีพ้น!

และก็เป็นไปตามที่จี้จือฮวนคาดการณ์เอาไว้ เวลานี้ซือถูรุ่ยไปถึงทางเข้าตรอกแล้ว

หานฉีอย่างไรเสียก็ไม่ต่างจากผีดิบ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำลายรอยเลือดบนพื้นแต่อย่างใด เพียงแค่โยนศพไว้ที่มุมอย่างส่ง ๆ ก็เท่านั้น

และที่สำคัญ สตรีที่นอนอยู่ภายในกรงสุนัขนั่นก็ไม่ใช่ซือถูเซิง เขามองแวบเดียวก็คงจะจำได้แล้ว

“เด็ก ๆ! ค้นหาในจวนแห่งนี้ให้ทั่ว ต่อให้ต้องขุดดินสามเชียะ**ก็ต้องหาซือถูเซิงให้เจอ!”

** ขุดดินสามเชียะ (掘地三尺) หมายถึง ค้นหาอย่างละเอียด

ซือถูรุ่ยยืนขึ้นแล้วถีบกรงสุนัขนั่นจนพัง มองดูโซ่ที่อ้าออกแล้วเอ่ยด้วยความเคียดแค้นขึ้นมา “ซือถูเซิง! เจ้ายังคิดจะไปจากข้าได้อีกอย่างนั้นหรือ! ข้าไม่มีทางให้โอกาสนั้นกับเจ้าอีกแล้ว!”

เสียงด้านนอกดังเพียงนั้น ถึงขั้นมีการตีกลองที่จวนซือถูด้วย

ภายในเรือน คนกลุ่มหนึ่งกำลังประสบกับปัญหา

ทันทีที่พวกเขาหาตัวซือถูเซิงพบ เด็กทั้งสองคนก็พานางกลับมาเลย แถมซือถูรุ่ยยังรู้ตัวเร็วเพียงนี้อีก ตอนนี้ต่อให้พวกเขาคิดจะออกไปก็คงไม่สามารถออกไปได้อีกแล้ว

แต่พวกเขาไม่มีทางคืนซือถูเซิงให้คนเช่นนั้นเป็นแน่

การจากไปโดยไม่ให้ใครรู้ จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่

ขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดกันอยู่นั้น จีฝูเย่ก็วิ่งมาที่หน้าประตู แล้วเคาะประตูทันที “ท่านอาจารย์ ซือถูรุ่ยสั่งให้คนออกค้นหาตามเรือนแต่ละหลังแล้วขอรับ”

เผยยวนเปิดประตูออก แล้วเอ่ยกับพวกจี้จือฮวน “พวกเจ้ารออยู่ด้านใน ข้าจะไปรับหน้าเขาก่อน”

แต่ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าด้วยนิสัยของซือถูรุ่ยนั้น ยิ่งห้ามไม่ให้เขาเข้ามา เขาก็ยิ่งอยากเข้ามา คนตัวใหญ่เพียงนี้จะเอาไปซ่อนที่ใดถึงจะไม่ถูกพบกัน?!

อีกทั้งยังมีจีฝูเย่ที่เดินตามต้อย ๆ ทั้งวันนั่นอีก

เพียงไม่นานซือถูรุ่ยก็มาถึงหน้าประตูเรือนของเผยยวนแล้ว

ด้านนอกมีเสียงตำหนิดังลอดเข้ามา และมีเสียงถามว่าเหตุใดถึงเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ แต่ดูท่าซือถูรุ่ยวันนี้หากหาซือถูเซิงไม่เจอ เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่

“พี่จี สมบัติที่สำคัญของข้าหายไป ดังนั้นจึงกลัวว่าพวกโจรจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เพื่อความปลอดภัยของพี่จี ขอข้าเข้าไปดูหน่อยจะได้หรือไม่?”

หากไม่ใช่เพราะว่าไม่สามารถล่วงเกินจีฝูเย่ได้ ซือถูรุ่ยคงสั่งให้คนบุกเข้าไปตั้งนานแล้ว ไหนเลยจะมาพูดคุยกับเขาด้วยตัวเองเช่นนี้อีก

เผยยวนคิดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนี่จะมาถึงเร็วเพียงนี้ จึงเอ่ยออกไปว่า “ท่านเจ้าเมืองซือถูหมายความว่าอย่างไร สงสัยว่าข้าเป็นโจรอย่างนั้นหรือ?”

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Status: Ongoing
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคนจี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอแต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!.โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย!.เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน!..ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้..จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท