พอสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางแปลกๆของเซี่ยพูถี หวงเสี่ยวหลงก็ก้มหน้าตรวจสอบตัวเอง เสื้อผ้าของเขายังอยู่ดีไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ณ ตอนนี้เซี่ยพูถีก็เอื้อมมือไปสัมผัสหน้าผากของหวงเสี่ยวหลงแล้วพูดว่า “ให้ข้าบอกจให้แล้วกันน้องชาย เจ้ายังฝันอยู่งั้นหรอ?”
“ฝัน?”หวงเสี่ยวหลงก็สับสน
“พวกเราได้ออกมาจากศาลานักบุญแล้ว”เซี่ยพูถีก็พูดขึ้น “แต่เมื่อตอนที่เจ้าถูกส่งตัวออกมา เจ้ากลับหลับสนิทไม่ว่าข้าจะปลุกเจ้าแบบใหนเจ้าก็ไม่ยอมตื่น! อย่าบอกนะว่าเจ้าใช้เวลาไปเป็นเดือนในศาลานักบุญ…กับการนอนหลับ?”
หวงเสี่ยวหลงก็แสดงท่าทางสำนึกผิดในขณะที่เซี่ยพูถีแสดงสีหน้างุนงง จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ยิ้มแล้วพยักหน้ายอมรับอย่างเก้ๆกัง
ดวงตาของเซี่ยพูถีก็หมุนติ้วอย่างตกใจแล้วชี้นิ้วใส่หวงเสี่ยวหลง จากนั้นเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ไอ้น้องชายบ้าเอ้ย เจ้านี่มันร้ายกายจริงๆ! ข้าคิดว่าเจ้าหน่ะเป็นแรกที่เข้าไปในศาลานักบุญเพื่อไปนอน ที่ใหนได้ เจ้ากลับนอนไปตั้ง 1 เดือน !”
สิ่งที่เซี่ยพูถีพูดนั้นเป็นความจริงทั้งนั้น ในประวัตศาสตร์ของการเปิดศาลานักบุญของสถาบันต้วนเริ่นนั้น ไม่มีศิษย์สักคนที่กล้าเข้าไปนอนหลับในนั้น!
“เรากำลังอยู่ในสวนหย่อมของคฤหาสน์ตระกูลเซี่ยของข้า” เซี่ยพูถีก็พูดชี้แจงหลังจากเขาหยุดหัวเราะ “เราพึ่งจะออกมาจากศาลานักบุญได้ครึ่งวันเอง พอเห็นว่าเจ้าไม่ตื่น ข้าก็เลยพาเจ้ามาคฤหาสน์จระกูลเซี่ยก่อน แล้วค่อยไปลิ้มรสไวน์สักหลายร้อยเหยือกที่บ้านไวน์น่าคมคายเพื่อฉลอง”
หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าเห็นด้วย
แม้ว่าเขาอยากจะรีบกลับไปคฤหาสน์เนินเขาทิศใตเพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายเขาใหม เขาก็ยังจะต้องรักษาสัญญาที่เขาจะต้องไปกินดื่มกับเซี่ยพูถีที่เขาได้สัญญาไว้ก่อนที่จะเข้าศาลานักบุญ ดังนั้นเขาถึงอายเกินจะปฏิเสธได้
“เยี่ยมไปเลยน้องชาย เราไปกัน!”เซี่ยพูถีก็ดึงหวงเสี่ยวหลงออกจากคฤหาสน์ตระกูลดเซี่ยอย่างกระตือรือร้นแล้วมุ่งหน้าไปร้านไวน์น่าคมคายในสถาบันต้วนเริ่น
ในระหว่างทางหวงเสี่ยวหลงได้ใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบร่างกายไปด้วย
พอใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบร่างกายของตัวเอง หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา
นั่นก็เพราะไข่มุกวิญญาณ!
เหนือทะเลปราณของเขานั้นมีสมบัติสวรรค์ทั้ง 3 ลอยเด่นอยู่นั่นก็คือ เจดีย์หลิงหลง แหวนผนึกพระเจ้า และไข่มุกวิญญาณ สมบัติวิญญาณทั้งสามลอยเรียงตัวกันเป็นสามเหลี่ยมจัตุรัสซึ่งสมบัติสวรรค์แต่ละชิ้นได้เปล่งแสงออกมาอย่างเบาบาง
มีสีแดงเข้ม สีทอง และสีม่วงอันลึกลับ ซึ่งแสงทั้งสามได้พุ่งเข้าผสมปนเปกันไป
ไข่มุกวิญญาณไม่ได้ใช้พลังผลักดันเจดีย์หลิงและแหวนผนึกพระเจ้าเหมือนตอนที่อยู่ในหุบเหวกระดูก แค่กลับอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
เกิดอะไรขึ้น? หวงเสีค่ยวหลงรู้สึกมีความสุขแต่ก็ยังรู้สึกสับสนอยู่ดี
เมื่อเขาหมดสติไปร่วงหล่นไปในคลื่นกระดูกนับพันและพลังงานหยินปีศาจ เขาก็คิดว่าเขากำลังจะตาย แต่อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงเขาจะไม่ตาย เขากลับครอบครองไข่มุกวิญญาณได้สำเร็จ
ไข่มุกวิญญาณ!
สมบัติสวรรค์ลำดับที่ 4!
หวงเสี่ยวหลงก็สูดหายใจลึกๆ
ในที่สุดเขาก็ได้ไข่มุกวิญญาณมาอยู่ในมือ! ต่อไปเขาจะเดินทางไปอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อตามหา
หุบเขาเทวะซูมี่!
6 ปี!
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็จะต้องทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนในเวลา 6 ปี!
พอตรวจสอบการเปลี่ยงในร่างกายต่อ หวงเสี่ยวหลงก็ได้พบว่าการบ่มเพาะของเขาได้ทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียน ขั้นที่ 2 ขั้นต้นแล้ว และเขาสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นกลางได้ทุกเวลา และการบ่มเพาะพลังภายในของเขาก็ก้าวหน้าขึ้นมากด้วย+
ปราณฉีและพลังภายในของเขาที่แข็งแกร่งขึ้นนั้นเป็นข่าวดีสำหรับหวงเสี่ยวหลงเลยทีเดียว
จริงๆแล้วพลังงานหยินชั่วร้ายพวกนั้นไม่ได้ทำร้ายเขาแต่กลับเป็นประโยชน์กลับเขางั้นหรือเนี่ย? ไม่งั้นหวงเสี่ยวหลงคงไม่สามารถอธิบายถึงเหตุผลที่ปราณฉีและพลังภายในแข็งแกร่งขึ้นภายในเวลา 1 เดือนสั้นๆได้หรอก!
“น้องชาย มีอะไรงั้นหรอ?”เซี่ยพูถีสังเกตเห็นว่าหวงเสี่ยวหลงดูเหมือนกำลังครุ่นคิดเหม่อลอยออกไปไกล เขาก็เลยถามออกมาอย่างกังวล
พอตระหนักได้ว่าเขาอยู่ที่ใหน หวงเสี่ยวหลงหันมาสนใจกลับเรื่องปัจจุบันในขณะที่ส่ายหัวให้กับเซี่ยพูถี “ข้าไม่เป็นไร”
หนึ่งเดือนในศาลานักบุญเขาได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์มาได้ดีเยี่ยม! การนอนของเขานั้นมันช่างคุ้มค่าจริงๆ!
พอได้ยินคำพูดของหวงเสี่ยวหลง เซี่ยพูถีก็หัวเราะ “นานแล้วหน่ะที่พวกเรามาที่นี่กัน พวกเราพี่น้องจะสนุกสนามไปจนกว่าจะเมาจนกลับบ้านไม่ได้เลย!”
หวงเสี่ยวหลงก็หัวเราะ “แม้ว่าเราจะดื่มทั้งเดือนพวกเราก็ไม่เมาหรอก!”
ทั้งคู่ก็ระเบิดหัวเราะออกมา
ที่จริงแล้ว ด้วยการบ่มเพาะระดับเซียนของพวกเขา แม้ว่ะพวกเขาจะดื่มไม่หยุดไปหลายเดือน เขาก็ไม่เมาอยู่ดี
ต่อมาไม่นาน ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในร้านไวน์น่าคมคาย และเพราะทั้งสองคนมาในช่วงต้นเดือน เลยยังมีไวน์เหลืออยู่ 400 เหยือก หวงเสี่ยวหลงก็เลยสั่งบริกร “ไปเอาไวน์น่าคมคายที่เหลือ 400 เหยือกมาซะ”
ไวน์ 400 เหยือกนั้นมีค่ามากกว่า 4ล้านเหรียญทอง!
บริกรก็ตกใจแล้วหันไปมองเซี่ยพูถี
เซี่ยพูถีก็หัวเราะ “ครั้งนี้น้องชายข้าเลี้ยง เนื่องจากเขาบอกให้เจ้าไปอย่างนั้น เจาก็ไปทำอย่างนั้นซะ!”
หวงเสี่ยวหลงก็ส่งบัตรทองให้เขา
บริกรมองดูหวงเสี่ยวหลงอย่างไม่เชื่อและตกตะลึง
พอรับบัตรทองอย่างงุนงน บริกรคนั้นก็พูดออกมาว่า นายน้อยเซี่ย นายน้อยหวง โปรดรอสักครู่ ข้าน้อยจะไปเอาไวน์น่าคมคายที่เหลือมาส่งเองขอรับ!”บริกรคนนั้นก็รีบหันตัวออกไปจัดการไวน์อย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมเตรียมกับแก้ม
ไม่นานนักหวงเสี่ยวหลงและเซี่ยพูถีก็จิบไวน์และดื่มด่ำไปกับไวน์และอาหาร
ครั้งนี้หวงเสี่ยวหลงได้ทำการครอบครองไข่มุกวิญญาณและเพิ่มพูนปราณฉีและพลังภายในซึ่งเป็นจุดประสงค์ในการเข้าศาลานักบุญได้สำเร็จ ทำให้เขาอารมณ์ดี
แต่หลังจากเริ่มกินไปไม่นาน ก็มองเห็นกั่วจื่อและกั่วเฟยเดินพูดคุยเข้ามาในร้านไวน์น่าคมคาย
“ไม่คาดคิเลยว่าในศาลนักบุญที่เปิดขึ้นในครั้งนี้ ต้วนหวุเหินได้จัดเตรียมให้เจียงหยางและหวิจื่อป้องป้องใอ้สุนัขหวงด้วย เพราะแม่ง กั่วซูเฟยก็เลยฆ่ามันไม่ได้!”
“อย่างกังวลไป เมื่อท่านบรรบุรุษยออกหลังจากการทะลวงเข้าสู่ระดับเทวะได้เมื่อไหร่ วันนั้นจะเป็นวันที่หวงเสี่ยวหลงและจ้าวชูจะได้พบจุดจบ!”
“ข้าได้ยินว่าพอไอ้สุนัขหวงออกมาจากศาลานักบุญมันก็หลับอยู่แบบนั้น ตอนนี้ทั่วเมืองจักรพรรดิต่างร่ำลือว่าไอ้สุนัขหวงนั้นหลับอุตุเป็นหมูเลย!”
ทั้งสองคนก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายในขณะที่พูดคุยบกันทำให้ไม่ได้สังเกตเห็นหวงเสี่ยวหลงและเซี่ยพูถีที่นั่งอยู่ในร้าน บางทีอาจจะกล่าวได้ว่าสิงพี่น้องตระกูลกั่วไม่เคยคิดว่าหวงเสี่ยวหลงและเซี่ยพูถีจะมากินดื่มที่นี่ในวันเดียวกับตอนที่พวกเขาออกมาจากศาลานักบุญ
พอเข้ามาถึงด้านในร้าน กั่วจื่อและกั่วเฟยก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันหนาวเย็นรอบๆ ดังนั้นพวกเขาเลยเงยหน้าขึ้น ณ ตอนนั้น ในที่สุดพวกเขาก็สังเกตถึงกาคงอยู่ของหวงเสี่ยวหลงและเซี่ยพูถี
ทั้งสองพี่น้องก็หน้าซีดแล้วรีบถอยหลังออกไปอย่างหวาดกลัว ทั้งสองคนก็รีบหันหน้าหนีอย่างตื่นตระหนกโดยไม่รีรอ
“อย่างกังวลไป” เมื่อเซี่ยพูถีต้องการจะลุกขึ้น หวงเสี่ยวหลงก็ห้ามเข้าไว้แล้วพูดว่า “อย่าปล่อยให้สวะสองตัวนั้นมาทำลายบรรยากาศอันดื่มดำของพวกเรา”
เซี่ยพูถีก็หัวเราะดังลั่น “แล้วแต่เจ้า!”
ทั้งสองคนก็ชนแก้ว
หลายชั่วโมงต่อมาเมื่อพวกเขาก้าวออกจากร้านแล้วออกจากสถาบัน หวงเสี่ยวหลงก็กลับไปที่คฤหาสน์เนินเขาทิศใต้
พอหวงเสี่ยวหลงมาถึงคฤหาสน์เนินเขาทิศใต้มันก็ดึกมากแล้ว หลังจากเรียกเฟยฮาวกมาพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับคฤหาสน์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา หวงเสี่ยวหลงก็ใช้งานแหวนผนึกพระเจ้าแล้วเข้าไปในสนามรบพระเจ้าทันที พอเข้ามาแล้ว เขาก็เรียกไข่มุกวิญญาณออกมาจากร่าง
พอถือไข่มุกสีม่วงขนาดกำปั้น หวงเสี่ยวหลงก็หยุดเลือดลงบนผิวของไข่มุก ในขณะที่เลือดซึมเข้าสู่ไข่มุก ก็มีแสงสีม่วงเปล่งประกายออกมา ในเวลาเดียวกันตัวอักษรสีม่วง คำว่า *วิญญาณ*ก็ลอยออกมา แล้วลอยเข้าสู่วิญญาณของหวงเสี่ยวหลงผ่านระหว่างคิ้ว จู่ๆก็มีความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับไข่มุกวิญญาณปรากฏขึ้นในจิตใจของหววงเสี่ยวหลงถึงรวมไปวิธีการควบคุมไข่มุกวิญญาณด้วย
หวงเสี่ยวหลงได้ค้นพบบางอย่างจากความทรงจำพวกนี้ นอกจาก ดัชนีวิญญาณสมบูรณ์แล้ว ก็มีกฎลับอันลึกที่มีชื่อเรียกว่าบัญญัติวิญญาณ บรรจุอยู่!
บัญญัติวิญญาณก็คือกฎลับที่ใช้ในการควบคุมวิญญาณของคน!
หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกตกตะลึงกับข้อมูลใหม่อันนี้ ถ้าหากสิ่งที่เขาเห็นเป็นความจริง นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถควบคุมวิญญาณคนอื่นหลังจากที่ฝึกฝนกฎลับนี้งั้นหรอ?
นอกจากนี้บัญญัติวิญญาณนี้ใช้ได้กับมนุษย์และสัตว์ –––แสดงว่ามันใช้ได้กับสิ่งมีชีวิตหน่ะสิ!