Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 211

ตอนที่ 211

ในอุโมงค์อันมืดมิดที่ทอดยาวไปนั้นไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากคามมืดอันไม่จบสิ้น

 

ซึ่งนี่ก็คือการทรมานจิตใจดีๆนั่นเอง!

 

ลองนึกถึงภาพคนที่เดินไปข้างหน้าโดยไม่รู้เดือนไม่รู้วันหลายชั่วโมงที่ไม่คาดคิดถึงอันตรายที่จะปรากฏขึ้น หากเป็นคนธรรมดาคนๆนั้นก็คงต้องบ้าไปแล้ว

 

หวงเสี่ยวหลงก็มุ่งมั่นที่จะเดินต่อไปข้างหน้า

 

อย่างไรก็ตามนอกจากก้าวแรกที่เขาได้มาเหยียบที่นี่  ก็ไม่มีปฏิกิริยาจากเจดีย์หลิงหลงหรือแหวนผนึกพระเจ้าเลยสักนิด  พวกมันทั้งสองกลับเงียบสนิทไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิด

 

ผ่านไปหลายวันในอุโมงค์สีดำ

 

หวงเสี่ยวหลงได้ใช้เวลาเดินไปข้างหน้าในความืดมิดแต่ก็ยังไม่พบกับจุดสิ้นสุดสักที แม้แต่คนที่มุ่งมั่นอย่างหวงเสี่ยวหลง ก็ยังเริ่มรู้สึกโมโหและขุ่นเคือง

 

สุดท้าย หวงเสี่ยวหลงก็หยุดเดินและนั่งขัดทำสมาธิ ณ ตรงจุดนั้น จากนั้นเขาก็กลับลมหายใจเพื่อบรรเทาความโกรธและความขุ่นเคืองที่สุมในอกออกไป

 

พอเขาทำแบบนั้น เวลาก็ได้ผ่านไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อตอนที่เขาใจเย็นหวงเสี่ยวหลงก็ลุกขึ้นแล้วมุ่งหน้าเดินต่อไป

 

วันเวลาก็ผ่านไปเช่นนี้ โดยมีเพียงการมุ่งหน้าสู่ความมืดและหยุดลงทำสมาธิ เรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายก็ทำให้หวงเสี่ยวหลงลืมเลือนการนับวันเวลา

 

เมื่อเขาเริ่มรู้สึกชา จู่ๆเขาก็ได้พบกับประกายความหวังในความืดมิด

 

แสงแห่งความหวัง!

 

สำหรับหวงเสี่ยวหลงในปัจจุบัน ประกายความหวังเพียงเล็กน้อยนี่เป็นตัวแทนของความหวังที่ไร้ที่เปรียบ

 

หวงเสี่ยวหลงก็พุ่งไปข้างหน้า ไม่สิ เขาวิ่งไปสู่แห่งที่มาของแสงด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแสงอันเล็กๆนี่จะดูใกล้แต่มันกลับห่างไกลจากที่หวงเสี่ยวหลงคาดหวังไว้ แม้ว่าจะผ่านไปเป็นชั่วโมง เขาก็ยังไม่ถึงที่อยู่ของแสงดวงนั้นเลย

 

ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงพุ่งไปข้างหน้า แส่งแห่งความหวังที่มีขนาดเท่าเม็ดทรายก็ขยายใหญ่ขึ้นเกือบเท่าทรงกลมขนาดใหญ่

 

มันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วค่อยครอบคลุมตัวของหวงเสี่ยวหลง  จากนั้นฉากที่ปรากฏขตรงหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันทีเมื่อแสงพวกนั้นได้ครอบคลุมร่างเขา ทำให้เขาได้ออกจากอุโมงค์สีดำแล้วมาโผล่ที่หุบเขาเปิดโล่ง

 

พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยกระดูกสีขาวกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่!

 

มันมีกระดูกของมนุษย์ สัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

 

มันซ้อนกันกลายเป็นกองภูเขากระดูก

 

ภูเขากระดูกบางอันก็สูงถึง 100 จาง!

 

กระดูกขาวพวกนี้ได้ปลดปล่อยพลังงานหยินอันชั่วร้ายซึ่งได้ก่อตัวเป็นสายลมอันรุนแรงที่โบกพัดไปมาในอากาศราวกับเสียงคร่ำครวญของภูติผี

 

พอมองดูฉากที่เกิดขึ้นนี้ หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้ว

 

ที่นี่มันสถานที่แบบใหนกัน? ทำไมถึงมีของแบบนี้อยู่ในศาลานักบุญได้หล่ะ? หุบเขากองกระดูพรรค์นี้ไม่ควรจะมีตัวตนอยู่ในศาลานักบุญ

 

บางที…พื้นที่ส่วนนี้คงไม่ใช่พื้นที่ของศาลานักบุญ? ทันทีก็มีประกายความคิดเกิดขึ้นในจิตใจของหวงเสี่ยวหลง

 

หวงเสี่ยวลงได้เดินมุ่งหน้าต่อไปราวกับเขาพึ่งเดินทางมาถึงโลกแห่งกระดูก

 

ครู่ต่อมา เจดีย์หลิงหลงและแหวนผนึกพระเจ้าที่อยู่ในร่างเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทำให้ดวงตาของหวงเสี่ยวหลงก็เบิกกว้าง พอสัมผัสได้ถึงที่อยู่ของไข่มุกวิญญาณ หวงเสี่ยวหลงกระพรือปีกบินไปทางที่อยู่ของไข่มุกวิญญาณ

 

ไม่นานนักเจดีย์หลิงหลงและแหวนผนึกพระเจ้าก็แสดงปฏิกิริยาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พวกมันสั่นสะเทือนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด พวกมันก็บินออกไปจากร่างหวงเสี่ยวหลง

 

เจดีย์หลิงหลงและแหวนผนึกพระเจ้าที่บินออกไปก็ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปพร้อมๆกันแล้วพุ่งแหวกอากาศไป

 

พอเห็นแบบนี้ หวงเสี่ยวหลงก็รีบไล่ตามสิ่งของทั้งสองทันที

 

หวงเสี่ยวหลงบินไปไม่นานก็พบว่าของทั้งสองส่งเสียงฮึมๆ  ทำให้ความเร็วของพวกมันเพิ่มขึ้นมาก

 

ทำให้หวงเสี่ยวหลงต้องใช้ทุกอย่างที่มีในการไล่ตามเจดีย์หลิงหลงและแหวนผนึกพระเจ้า

 

 

 

พอของพวกนี้บินไปได้ไม่นานมันก็หยุดลงกลางอากาศแล้วแจ้งเตือนให้หวงเสี่ยวหลงเสาะหาเบาะแสรอบๆ ทันทีเขาก็มองเห็นไข่มุกขนาดเท่ากำปั้นมนุษย์ลอยอยู่ไม่ไกลจากเขานัก!

 

นั่นมันไข่มุกวิญญาณ!

 

ไข่มุกสีม่วงที่อยู่ตรงหน้าเขาจะต้องเป็นไข่มุกวิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัย!

 

แต่หวงเสี่ยวหลงกลับแสดงใบหน้าซีดเดียว ก็เพราะรอบๆไข่มุกวิญญาณมีหมอกสีเทาร่องลอยอยู่รอบๆ มันเป็นหมอกเดียวกันกับที่หวงเสี่ยวหลงเดินข้ามเข้ามาเมื่อตอนที่เข้าก้าวมาเหยียบในหุบเขาแห่งนี้ แต่ทว่าหมอกสีเทาที่อยู่รอบๆไข่มุกวิญญาณนั้นกลับเข้มข้นมากกว่าจนเหมือนกับของเหลว

 

มีเงาสีดำที่ส่งเสียงกรีดร้องกระพริบไปมารอบๆไข่มุกวิญญาณเรื่อยไป เงาพวกนี้ก็คือสิ่งมีชีวิตประหลาดที่หวงเสี่ยวหลงไม่มีพลังจะต่อกรกับพวกมัน…แถมยังกลัวพวกมันด้วยอีก

 

ภายใต้การเฝ้าสังเกตของหวงเสี่ยวหลง เจดีย์หลิงหลงแหละแหวนผนึกพระเจ้าก็ลอยไปหาไข่มุกวิญญาณ แต่เมื่อพวกมันเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ หมอกสีเทาที่อยู่รอบๆไข่มุกวิญญาณก็เริ่มปะทุออกมาปิดกั้นการเข้าใกล้ของเจดีย์หลิงหลงและแหวนผนึกพระเจ้า

 

สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดก็ร้องคร่ำครวญดังและบ่อยขึ้นราวกับพวกมันจะพุ่งออกมาจากหมอกสีเทานี่ได้ทุกเวลา

 

สมบัติสวรรค์ทั้งสามก็ส่องแสงสว่างสดใสกลางอากาศ

 

เจดีย์หลิงหลงเปล่งประกายแสงสีแดงและแหวนผนึกพระเจ้าเปล่งแสงสีทอง ส่วนไข่มุกวิญญาณส่งสว่างสีม่วงอันน่าลึกลับ

 

ซึ่งแสงสว่างหลากสีพวกนี้พวกเข้าปะทะกัน

 

ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงเฝ้ามองดูฉากนี้ จิตวิญญาณมังกรดำและมังกรฟ้าที่อยู่ในร่างเขาก็พุ่งไปหาไข่มุกวิญญาณ

 

ด้วยการที่มีจิตวิญญาณมังกรคู่ร่วมต่อสู้ด้วย ทำให้สมดุลการต่อสู้ที่เงียบสงบของสมบัติสวรรค์ทั้งสามพังลง แสงของเจดีย์หลิงหลงและแหวนผนึกพระเจ้าก็สว่างขึ้นในขณะที่แสงสีม่วงของไข่มุกวิญญาณค่อยๆหรี่ลง

 

ในขณะที่แสงของไข่มุกวิญญาณเริ่มเลือนราง กองกระดูกของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งมีชีวิตประหลาดที่อยู่รอบๆภูเขาก็เคลื่อนๆไหว

 

ใบหน้าของหวงเสี่ยวหลงก็เคร่งเครียดขึ้น

 

กระดูกพวกนี้มีจำนวนมากมายนับล้าน อย่างน้อยก็เป็นแสน กระดูกนับแสนได้พุ่งใส่หวงเสี่ยวหลงราวกับคลื่นยักษ์ ทำให้พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยปราณหยินอันชั่วร้าย ควบกลั่นรวมตัวกลายเป็นปีศาจดุร้ายที่แยกเขี้ยวใส่หวงเสี่ยวหลง

 

หวงเสี่ยวหลงก็ถูกคลื่นกระดูกทับถมโดยที่ไม่มีสถานที่ให้หลบหลีกหนี ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาก็ดับมืดจมลงสู่การลืมเลือนตัวตน

 

มันเป็นความรู้สึกในความฝันอันยาวนานมากๆ ในความฝันเขาได้ถูกห้อมล้อมไปด้วยกระดูกขาวต่างๆ เมื่อกระดูกพวกนี้หายไปก็ปรากฏทะเลเลือดขึ้นแทน จากนั้นก็มีปีศาจดุร้ายจากขุมนรกที่มีกรงเล็บและฟันแหลมคมปรากฏตัวขึ้นตามมา หลังจากนั้นฉากก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ มีทั้งภาพวาดสีเลือดและการทรมานอย่างทารุณในขุมนรก วิญาณชั่วร้ายนี่ก็คือผู้พิทักษ์แห่งนรกในเทพนิยายของจีนซึ่งมีทั้งหัวเป็นวัว หน้าเป็นม้า และไร้หัว และอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน

 

ภาพพวกนี้ปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ่ำเล่านับพันครั้ง

 

หวงเสี่ยวกำลังแหวกว่ายอยู่ในทะแลแห่งความทรงจำที่ไม่ใช่ของเขาซึ่งเขาก็ไม่สามารถถอยออกมาได้ และทำได้แค่ล่องลอยไปเรื่อยๆ

 

พอเวลาผ่านไปนานก็เกิดนแสงสว่างปรากฏขึ้นในดวงตาของหวงเสี่ยวหลง ดวงตาของเขาค่อยๆชัดเจนขึ้นจากนั้นเขาก็ตื่นขึ้น

 

พอลืมตาขึ้น ภาพใบหน้าตรงหน้าเขาที่เบลอก็เริ่มชัดเจนขึ้นอย่างช้าๆ

 

เซี่ยพูถี!

หวงเสี่ยวหลงก็ส่ายหัว และพยายามจะลุกขึ้น จากนั้นเขาก็หันไปมองสภาพแวดล้อมรอบๆแล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “นี่พวกเราอยู่ที่ใหน?”

 

เซี่ยพูถีก็มองหวงเสี่ยวหลงด้วยท่าทางแปลกประหลาดเมื่อเขาได้ยินคำถาม

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท