ในหัวใจของหวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวเมื่อเขาคิดถึงหลี่ลู่
เขากำหมัดแน่นในขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายปณิธานอันแรงกล้าขึ้น
เพราะตระกูลเหยาขัดขวางเขา เขาจึงทำลายตระกูลเหยา
และถ้าหากนิกายนักรบแห่งพระเจ้ามาขัดขวางเขาหล่ะก็ เขาก็จะทำลายล้างพวกมันเหมือนกัน
เมื่อวันนั้นมาถึงเขามั่นใจว่านิกายนักรบแห่งพระเจ้านั้นจะมีจุดจบแบเดียวกับตระกูลเหยา!
วันนั้นจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน! หวงเสี่ยวหลงมั่นใจ
ถ้าตามแผนของเขาเมื่อก่อนหน้านี้ เขาตั้งใจจะเข้าร่วมการคัดเลือกเข้าเป็นศิษย์นิกายนักรบแห่งพระเจ้าในอีก 7 และค่อยๆควบคุมนิกายจากภายใน ถ้าหากมันเป็นไปด้วยดี ไม่เพียงเข้าจะได้อยู่กับหลี่ลู่ เขาก็ยังมีโอกาสได้บ่มเพาะในโลกเทวะด้วย!
แต่ตอนนี้เขาสาบานว่าวันหนึ่งเขาจะทำลายนิกายนักรบแห่งพระเจ้าลงให้ได้!
เหยาเฟย แม้ว่าเจ้าจะมีนิกายนักรบแห่งพระเจ้าหนุนหลัง เจ้าก็ควรจะรีบหลบหนีไปให้พ้นสุดขอบโลก ไม่ฉะนั้น ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือของข้าเอง! จิตสังหารของหวงเสี่ยวหลงก็ปะทุขึ้นถึงขีดสุในขณะที่เขาคิดขึ้นใจ
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการเพิ่มความแข็งแกร่ง ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิฉะนั้น ก่อนที่เขาจะได้ทำลายนิกายนักรบแห่งพระเจ้า เหยาเฟยก็คงแข็งแหกร่งขึ้นจนมาบดขยี้เขาให้เละเป็นชิ้นดีอย่างแน่นอน
เขาจะต้องทะลวงเข้าสู่ระดับเทวะให้ได้!
ขั้นแรกคือการทะลวงเข้าสู่ระดับเทวะ แล้วฆ่าเหยาเฟย
ไม่ว่าเส้นทางนำไปสู่ระดับเทวะและระดับพระเจ้าจะลำบากยากเย็นเพียงใด เขาก็มั่นใจว่าเขาจะเลือกเดินทางบนเส้นนี้!
ระดับเทวะ! หวงเสี่ยวหลงก็วนคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกตกใจกับความเป็นจริงอย่างมากเมื่อเห็นการต่อสู้ในสถาบันต้วนเริ่นระหว่างจ้าวชู หลี่โม่หลิน จักพรรดิต้วนเริ่น และผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะคนอื่นๆด้วยสายตาของตัวเอง––อยู่ต่อหน้าผู้ฝึกตนระดับเทวะแล้วทุกสิ่งอย่างล้วนไร้ค่าหมด ผู้ฝึกตนระดับเทวะล้วนแล้วแต่มีพละกำลังอันมหาศาล ในสายตาคนพวกนั้น เจ้าก็ไม่ได้ต่างอะไรจากมด แม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นที่ 10 สูงสุดก็ตาม!
“ตอนนี้ท่านพ่อและท่านแม่ก็ปลอดภัยแล้ว ดังนั้นข้าก็จะเดินทางไปอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ในอีกสองสามวัน!”การเดินทางไปอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนอย่างไข่มุกวิญญาณ เขาจะต้องค้นหาและนำขุนเขาเทวะซูมี่มาให้จงได้
พอปรับความคิดและอารมณ์ หวงเสี่ยวหลงก็ใช้งานแหวนผนึกพระเจ้าและเข้าไปในสนามรบโบราณเพื่อฝึกฝน
หนึ่งเดือนผ่านไปตั่งแต่คฤหาสน์ตระกูลเหยาพังพินาศ
เมื่อหวงเสี่ยวหลงออกจากสนามรบโบราณและเดินเข้าไปในห้องโถงหลัก ครอครัวของเขา หวงเผิง ซูหยาน และน้องสาวน้องชายของเขา หวงหมิน และหวงเสี่ยวไห่ก็อยู่ที่นั่น
นอกจากพวกเขาแล้ว ก็มีแขกคนอื่นอีก 6 คนก็คือ กั่วไท่ กั่วชื่อหยวน กั่วเฉิน กั่วชื่อเหวิน กั่วจื่อ และกั่วเฟย
ในห้องโถงหลักเสียงหัวเราะพูดคุยกันอย่างเป็นมิตรดังขึ้นซึ่งก็หยุดชะงักลงทันทีที่พวกเขาเห็นหวงเสี่ยวหลงเดินเข้ามา ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงต่างลุกขึ้นยืนทันที สมาชิกตระกูลกั่วอีก 6 คนก็ต่างหวาดกลัวรวมไปถึงบรรพบุรุษตระกูลกั่ว กั่วเฉิน ด้วยเหมือนกัน
“นาย นายน้อยหวง!”บรรพบุรุษตระกูลกั่ว กั่วเฉินก็ก้าวออกมาทักทายหวงเสี่ยวหลงอย่างเคารพ
หวงเสี่ยวหลงเหลือบมองกั่วเฉินและพยักหน้าอย่างไม่แยแส อย่างไรก็ตาม กั่วเฉินก็รู้สึกปลื้มใจที่หวงเสี่ยวหลงเต็มใจพยักหน้าให้เขา
หวงเสี่ยวหลงก็เดินเข้าไปหาหวงเผิงและซูหยานแล้วทักทาย “ท่านพ่อ ท่านแม่”
บนใบหน้าทั้งสองต่างส่งยิ้มออกมาอย่างสดใส “หวงเสี่ยวหลง เจ้ามาสักที”
หวงเสี่ยวหลงพยักหน้าและเกลี้ยกล่อมให้พวกเขานั่งลงในขณะที่เขาเดินไปนั่งที่นั่งหลักของห้องโถงหลักแห่งนี้ หลังจากที่เขานั่งลงไม่นานกั่วเฉิน สมาชิกตระกูลกั่ว หวงหมินและ หวงเสี่ยวไห่ก็กลับไปนั่งที่ของตัวเอง
“เสี่ยวหลง วันนี้ตระกูลกั่วมาหารือเกี่ยวกับพิธีแต่งงานของกั่วไท่และหวงหมิน” หลังจากนั่งลง ซูหยานก็หยิบยกหัวข้อขึ้นมาพูดคุยด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสกั่วบอกว่าทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานแต่ง ตั้งแต่เวลางานถึงการเตรียมการอื่นจะเป็นไปตามที่เราต้องการ แล้วลูกคิดว่าอย่างไรดี?”
กั่วเฉินเน้นหนักอย่างเต็มใจ “ใช่ๆ เป้าหมายในการเยี่ยมของเราในวันนี้คือการหารือเกี่ยวกับการเตรียมการงานแต่งานของกั่วไท่และหวงหมิน นายน้อยหวงคิดว่าเยี่ยงไรดีขอรับ?”
กั่วไท่ก็ลุกขึ้นยืนจากที่นั่งด้วยความตึงเครียด
หวงเสี่ยวหลงสังเกตน้องสาวของตังเอง หวงหมินและสังเกตเห็นว่าเธอมองเขาด้วยความกังวล ความหวัง ความคาดหวังที่ปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าน้อยๆของเธอในขณะที่รอคอยคำตอบจากเขาอยู่ ซึ่งเอได้ยินเรื่องความขัดแย้งระหว่างตระกูลกั่วและพี่ใหญ่ของเธอ เธอรู้เรื่องพ่อของกั่วไท่ กั่วชื่อหยวนที่ประกาศยกเลิกการหมั้นของเธอกับกั่วไท่เนื่องจากการบีบบังคับของกั่วชื่อเหวิน
หวงหมินกลัวว่าคำพูดที่จะออกมาจากปากของหวงเสี่ยวหลงคือคำว่า ไม่
ถ้าหากพี่ใหญ่หวงเสี่ยวหลงของเธอไม่ตกลง ความสัมพันธ์ของเธอกับกั่วไท่ก็จะจบลงโดยไม่ต้องถามอะไรอีก
ในห้องโถงอันเงียบสงบ กั่วไท่จู่ๆก็ลงไปคุกเข่าคำนับโดยหัวแตะพื้นต่อหน้าหวงเสี่ยวหลง “พี่ใหญ่หวง ข้าขอวิงวอน ข้าจริงจังกับหวงหมินมาก ถ้าหากท่านให้พวกเราแต่งงานกัน ข้าสาบานว่าข้าจะดูและเธอและปกป้องเธอด้วยหัวใจทั้งหมดของข้า ข้าจะใช้ชีวิตของข้าปกป้องเธอและจะไม่ทำให้หวงหมินต้องเสียใจเด็ดขาด!”
กั่วชื่อหยวนก็คุกเข่า “นายน้อยหวง คนผิดคือข้าเอง ท่านจะลงโทษข้าเลยก็ได้แต่เรื่องนี่ไม่มีส่วนเกี่ยวใดกับไท่เอ๋อ”
จากนั้นกั่วชื่อเหวินคุกเข่าตาม พอเห็นการกระทำของพ่อตัวเอง กั่วจื่อและกั่วเฟยก็คุกเข่าด้วยท่าทางฟั่นเฟือน
“พี่ใหญ่…..กั่วไท่ เขา…..”หวงหมินทนไม่ไหวจนต้องพูดออกมาในขณะที่เธอมองหวงเสี่ยวหลงอย่างวิงวอน
หวงเสี่ยวหลงก็ถอนหายใจในใจและยอมพยักกหน้าในขณะที่เขาตอบหวงหมินไปว่า “เรื่องนี้ เจ้าตัดสินใจกับท่านพ่อและท่านแม่เถอะ”
พอได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าของหวงหมินและกั่วไท่ก็สว่างขึ้น ความหมายของหวงเสี่ยวหลงก็คือ เขาเห็นด้วย!
คำพูดนี้ทำให้ความอึดอัดที่แน่นอนอยู่อกของกั่วเฉินเบาลง
แต่หวงเสี่ยวหลงมองไปท่กั่วไท่ “อย่างไรก็ตาม ถ้าหากในอนาคตเจ้าไม่สามารถทำในสิ่งที่เจ้ายืนยันและทำให้หวงหมินไม่มีความสุขหล่ะก็ เจ้ารู้นะว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร!”
“พี่ใหญ่หวง โปรดมั่นใจได้เลยว่าข้าจะรักและดูและหวงเสี่ยวหลงด้วยชีวิตและจะไม่ทำให้เธอเสียใจ!”กั่วไท่ก็พูดสาบานขึ้นมา
หวงเสี่ยวหลงพยักหน้าจากนั้นก็อยู่ในห้องโถงหลักสักครู่แล้วค่อยเดินกลับไปที่สวนย่อมของตัวเอง จากนั้น เราก็เรียกจางฟู จ้าวชู หยูหมิง เฟยฮาว และจอมพลฮ่าวเทียน
เมื่อทุกคนมารวมตัวกันครบ หวงเสี่ยวหลงก็พูดเรื่องแผนการเดินทางไปอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์
“ว่าไงนะ? ท่านจักพรรดิ ท่านวางแผนจะไปอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์?!”จางฟู จ้าวชู และทุกคนต่างตกใจ
“ถูกแล้ว”หวงเสี่ยวหลงพยักหน้ายืนยันการตัดสินใจ
“ท่านจักรพรรดิ เรื่องนี้–!”จางฟูและจ้าวชูต่างมองหันมามองกันและต้องการจะห้ามปรามแต่หวงเสี่ยวหลงกลับส่ายหน้าและพูดออกมาอย่างชัดเจนว่า “อย่าพูดอีกเลย ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะเดินทางไปอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์เพียงลำพัง”
พอเห็นแบบนี้ จางฟูและคนที่เหลือต่างไม่พูดอะไรอีกต่อไป สิ่งที่หวงเสี่ยวหลงตัดสินใจนั้นไม่มีทางเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน ไม่ว่าจางฟูหรือจ้าวชูก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้
“ข้ากำลังจะออกจากคฤหาสน์เนินเขาทิศใต้แล้ว ที่เหลือฝากพวกเจ้าด้วย”หวงเสี่ยวหลงก็พูดต่อ “หยูหมิงและเฟยฮาว พวกเจ้าทั้งสองดูและหอการค้าเก้าสมาพันธ์ ถ้าหากมีสิ่งใดที่เจ้าไม่สามารถตัดสินใจได้หล่ะก็ งั้นปล่อยให้จางฟูและจ้าวชูจัดการแล้วกัน”
“โปรดวางใจได้ท่านจักรพรรดิ!”ทั้งห้าคนก็ตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียง
“ฮ่าวเทียน ข้าขอบคุณเจ้าที่ช่วยดูแลพวกในระหว่างจากอาณาจักรลั่วถางจนกระทั่งมาถึงที่นี่”หวงเสี่ยวหลงก็พูดกับจอมพลฮ่าวเทียน
“ท่านจักรพรรดิ นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาสมควรกระทำขอรับ”ฮ่าวเทียนก็พูดออกมาอย่างหนักแน่น
หวงเสี่ยวหลงพยักหน้าและมอบหมายงานอื่นๆให้พวกเขา ต่อมาไม่นานทุกคนก็แยกย้ายออกไป
เมื่อทุกคนออกไปแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็คิดถึงเจ้าลิงม่วงน้อย ตามที่จอมผลฮ่าวเทียนบอกมา เจ้าลิงนี่ได้ออกเดินทางมากับพวกเขาจากอาณาจักรลั่วถาง อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาถูกโจมตีโดยข้ารับใช้ของเหยาเฟย ตระกูลหวงถูกลักพาตัวแต่ทว่าเจ้าลิงน้อยนี่กลับหายตัวไป
ข้าหวังว่าเจ้าลิงน้อยจะปลอดถัย หวงเสี่ยวหลงก็ยังคงครุ่นคิดอยู่ในใจ
3 วันผ่านไป
ในช่วง 3 วัน หวงเสี่ยวหลงพยายามใช่เวลากับครอบครัวและพี่น้อของเขาให้มากสุดจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้พบว่าหวงเสี่ยวลงจะออกเดินทางไปอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากแยกจากกัน โดยเฉพาะหวงเผิงและซูหยาน พวกเขาก็รู้วันมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่ลูกชายของพวกเขาจะต้องทำ ดังนั้น พวกเขาเลยไม่พูดสิ่งใดอีก
งานแต่งงานของหวงหมินและกั่วไท่ถูกำหนดขึนในปีหน้าซึ่งเป็นวันสิ้นปี––เป็นวันก่อนวันปีใหม่จีน
ถ้าหากแผนการของหวงเสี่ยวหลงเป็นไปด้วยดีหล่ะก็ เขาจะสามารถกลับมาเข้าร่วมงานแต่ของหวงหมินและกั่วไท่ในวันสิ้นปีของปีหน้า