Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 213

ตอนที่ 213

หวงเสี่ยวระงับความยินดีในใจแล้วมุ่งความสนใจไปที่เคล็ดวิชาบัญญัติวิญญาณที่เขาได้รับมาจากไข่มุกวิญญาณ

 

หลายชั่วโมงต่อมาหวงเสี่ยวหลงที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น จู่ๆก็ชี้นิ้วขึ้นบนพื้นที่ว่างเปล่า ทำให้หมอกสีเทารูปนิ้วที่ส่งเสียงดังครื้นๆหลังจากนั้นมันก็แพร่กระจายออกไปราวกับคลื่นน้ำ ในคณะเดียวกันภายในหมอกสีเทาที่พึ่งปลดปล่อยออกไปนั้นก็มีสัตว์ประหลาดสีดำปรากฏขึ้น

 

มันเป็นสัตว์ประหลาดตัวเดียวกับที่หวงเสี่ยวหลงได้พบเจอเมื่อตอนที่เขาเข้าไปในหุบเขาที่อยู่ภายในศาลานักบุญ

 

กระบวนท่านี้เรียกว่าวิชาดัชนีวิญาณสัมบูรณ์!

 

ดัชนีหมอกสีเทาที่ถูกปลกปล่อยออกไปนั้นทั้งเงียบและไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่มันพลังของมันนั้นสมารถบุกทะลวงไปได้ทุกหนแห่งไม่ว่าจะเป็นสวรรค์หรือโลกก็ตาม

 

และยังเป็นวิชาที่ปกป้องได้ยากกว่าวิชาดาบเทพอสูรกระบวนท่าที่ 5 ดอกไม้นอกชายฝั่ง

 

ทุกครั้งที่หวงเสี่ยวหลงใช้ดัชนีวิญาณสัมบูรณ์ ไข่มุกวิญญาณจะปลดปล่อยพลังงานสีม่วงมาให้หวงเสี่ยวหลงดูดซับ ซี่งมันก็คือปราณฉีวิญญาณ ตามความทรงจำที่ได้เขาได้รับมาจากไข่มุกวิญญาณ การที่หวงเสี่ยวหลงจะใช้ดัชนีวิญญาณสัมบูรณ์ได้อย่างเต็มที่นั้นจะต้องมีหมอกสีเทามากขึ้นและ ยิ่งมีหมอกสีเทาเข้มข้นเพียงใด ก็จะมีสัตว์ประหลาดสีดำเพิ่มมากขึ้นและมันจะทำให้พลังโจมตีของดัชนีวิญญาณสัมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น!

 

ผ่านไปอีก 3 วัน 3 คืน

 

หวงเสี่ยวหลงชี้นิ้วไปที่พื้นที่ว่างเปล่า แล้วปลดปล่อยสีเทาออกไปพร้อมกับมีเสียงสัตว์ประหลาดสีดำที่กรีดร้องอย่าภายใน พลังโจมตีของดัชนีที่ปลดปล่อยนั้นพุ่งผ่านไปโดยที่พลังของมันไม่ได้ลงลงเลย

 

พอเทียบกับในวันแรก พลังโจมตีดัชนีวิญญาณสมบูรณ์ของหวงเสี่ยวหลลงนั้นเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

 

หวงเสี่ยวหลงใช่เวลา 3 วันในการฝึกดัชนีวิญญาณสมบูรณ์แล้วเปลี่ยนมาฝึกวิชาบัญญัติวิญญาณ

 

พอนั่งสมาธิจดจำเส้นทางการไหลเวียนของปราณฉีในการใช้วิชาบัญญัติวิญญาณได้ หวงเสี่ยงหลงก็ลืมตาขึ้นทันที  ลึกลงไปภายในดวงตาของเขานั้นมี ตัวอักษรสีม่วงคำว่า *วิญญาณ* ทั้งสองตัวปรากฏตัวขึ้น!

 

ดวงตาทั้งสองของหวงเสี่ยวหลงก็ส่องแสงขึ้น ทำให้ดวงวิญญาณที่อยู่ในดวงตาพุ่งออกมาแล้วรวมตัวกันกลายเป็นตัวอักษรประทับอยุ่บนซากปรักหักพังในสนามรบโบราณ ทันทีซากปรักหักพักพวกนั้นก็ระเบิดกลายเป็นชิ้นๆ

 

นอกจากการควบคุมวิญญาณของสิ่งมีชีวิตแล้ว บัญญัติวิญญาณยังมีพลังโจมตีที่น่าหวาดหวั่นซึ่งมันไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าดัชนีวิญญาณสัมบูรณ์เลยสักนิด บางมันอาจจะเอามาเทียบกันไม่ได้

 

หวงเสี่ยวหลงจดจ่ออยู่กับการฝึกดัชนีวิญญาณและบัญญัติวิญญาณในสนามรบโบราณ ในเวลาเดียวกัน หวงเสี่ยวหลงก็สังเกตเห็นว่าในตอนที่ปราณฉีวิญญาณเข้าสู่เส้นลมปราณและทะเลปราณ การไหลเวียนปราณฉีของเขามันเพิ่มความเร็วมากขึ้น มันเร็วมากว่าตอนที่หวงเสี่ยวหลงบ่มเพาะโดยใช้โอสถระดับ 5 ในทุกๆวันซะอีก!

 

แน่นอนว่าการใช้โอสถช่วยในการบ่มเพาะนั้นจะส่งผลเสียในในการบ่มเพาะของเขาด้วย แต่ปราณฉีวิญญาณกับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ซึ่งปราณนี้ไม่ส่งผลเสียใดๆให้เขาเลยแม้แต่น้อย

 

เรื่องนี้ทำให้เขามีความสุขมาก

 

ด้วยความเร็วการบ่มเพาะในปัจจุบัน เขามั่นใจว่าเขาสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับเซียน ขั้น 2 กลางได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ขั้น2 ปลาย  ขั้น 2 สูงสุด และทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนขั้น 3 !

 

ไข่มุกวิญญาณนั้นเป็นสมบัติสวรรค์ ลำดับที่ 4 ซึ่งหวงเสี่ยวหลงก็ยังคงคาดหวังในสมบัติสวรรค์ หุบเขาเทวะซูมี่

 

1 เดือนผ่านไป

 

ใน 1 เดือน หวงเสี่ยวหลงได้ทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 2กลางจากขั้นที่ 1ปลายได้สำเร็จ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พลังโจมตีของดัชนีวิญญาณสมบูรณ์จะต้องเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ถึง 6 เท่าแน่นอน ในเวลาเดียวกันวิชาบัญญัติวิญญาณของเขาก็ก้าวหน้ามากขึ้น

 

ในตอนแรก แผนของหวงเสี่ยวหลงก็คือออกเดินทางไปจักรวรรดิพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์หลังจากที่เขาได้ครอบครองไข่มุกวิญญาณเมื่อตอนเขาออกมาจากศาลานักบุญ สุดท้ายหลังจากครุ่นคิดหลายรอบ หวงเสี่ยวหลงก็ตัดสินใจชะลอการเดินทางจนกว่าตระกูลหวงจะมาถึงเมืองจักรพรรดิ

 

อีก 1 เดือนก็ผ่านไป ในเดือนนี้ เขาได้ฝึกดัชนีวิญญาณสมบูรณ์  บัญญัติวิญญาณ พระคัมภีย์เปลี่ยนเส้นเอ็น เคล็ดวิชาเทพอสูร และกระบวนท่าที่ 6 ของเคล็ดวิชาดาบเทพอสูร เนตรจุติ

 

เวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว 2 เดือนผ่านไปไวราวกระพริบตา

 

ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงฝึกท่าเนตรจุติ ยันต์สื่อสารที่อยู่ข้างอกของเขาก็สั่นขึ้น พอหยุดการฝึกฝน หวงเสี่ยวหลงก็เอายันต์สื่อสารออกมา

 

ยันต์สื่อสารอันนี้เป็นสิ่งที่จ้าวชูสร้างให้เขาเป็นพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะนั้นจะสร้างยันต์ด้วยการประทับตรากฎแห่งมิติ  ทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถติดต่อกันได้แมว่าพวกเขาจะอยู่คนละมิติก็ตาม

 

อีกฝ่ายที่ส่งข้อความมาก็คือจ้าวชู

 

“ท่านจักรพรรดิ หยูหมิงกลับมาแล้วขอรับ แต่ประมุขตระกูลหวงและคนที่เหลือเจออุบัติเหตุระหว่างทาง!”

 

ใบหน้าของหวงเสี่ยวหลงก็เครยีดขึ้นเมื่อได้อ่านข้อความที่ส่งมา

 

ตระกูลหวงเจออุบัติเหตุ!

 

หวงเสี่ยวหลงทุกอย่างแล้วรีบพุ่งออกจากสนามรบโบราณ เขามุ่งหน้าไปที่ห้องโถงหลักอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเข้ามาถึง ก็มีคน 3คน –– จ้าวชู หยูหมิง และเฟยฮาวรออยู่ก่อนแล้ว

 

นอกจากพวกเขา ก็มีทหารยามของตระกูลหวงอยู่ด้วย

 

ทหารยามพวกนี้ เพียงแค่มองครั้งเดียวหวงเสี่ยวหลงก็รู้ว่าเป็นใครบ้าง เมื่อหวงเสี่ยวหลงเดินเข้ามา ทุกคนก็ยืนขึ้น

 

เมื่อหยูหมิงต้องการจะก้าวออกอธิบายสถานการณ์ หวงเสี่ยวหลงก็โบกมือ “ทุกคนนั่งลงก่อน”  เขาก็พูดออกไปในขณะนั่งลงบนที่นั่งหลักตรงกลางห้องโถง

 

พอเห็นแบบนี้  หยูหมิงและคนที่เหลือก็นั่งลงที่ตัวเอง

“หยูหมิง บอกข้ามาซะว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”หลังจากนั่งลง หวงเสี่ยวหลงก็ถามขึ้น

 

หยูหมิงก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วรายงานอย่างเคารพว่า “ ท่านจักรพรรดิ เมื่อตอนที่พวกเราเดินทางผ่านอาณาจักรโทลี่ พวกเราได้ถูกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนซุ่มโจมตี”

 

“ถูกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนซุ่มโจมตีงั้นหรอ!” หวงเสี่ยวหลงก็หรี่ตาลง

 

“ใช่ขอรับ ในพวกมัน 4 คนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นที่ 9  ส่วนหนึ่งเป็นระดับเซียนเทียนขั้นที่  6 และอีกหลายคนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียน ขั้นที่ 7!”หยุได้กล่าวออกมา

 

หวงเสี่ยวก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนาวเหน็บ “มันเป็นเหยาเฟยสินะ?”

 

สำหรับคนที่สามารถส่งผู้เชี่ยวระดับเซียนขั้นสูงมาลักพาตัวครอบครัวของเขาและมีความแค้นกับเขานั้นจะต้องเป็นเหยาเฟย มันคนเดียวเท่านั้น

 

แน่นอนว่านอกจากเหยาเฟย ก็มีตระกูลกั่วที่พอจะมึวามสามารถในการทำเรื่องแบบนี้

 

หยูหมิงก็พยักหน้า “ใช่แล้วขอรับ ท่านจักรพรรดิ มันฝีมือของเหยาเฟย นอกจากผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นที่ 9 ทั้ง 4 คนที่ลักพาตัวประมุขตระกูลหวงไป  ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นี้กฌ็ได้ฆ่าผู้เชี่ยวระดับเซียนเทียนขั้นที่ 7  6 คน ขั้นที่ 8 4 คนและได้จับกุมระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8 ไว้ 2คน ภายใต้การสอบสวนพวกมันยอมรับว่าเหยาเฟยเป็ฯคนส่งพวกมันมา!”

 

“เอาพวกมันสองตัวเข้ามา!”ในดวงตาของหวงเสี่ยวหลงก็ปรากฏจิตสังหารขึ้นมาและหายไปอย่างรวดเร็ว

 

“ได้ขอรับ ท่านจักรพรรดิ!”หยูหมิงก็ตอบรับแล้วออกไปจากห้องโถงทันที ต่อมา ขเก็ได้กลับมาพร้อมชายชุดวัยกลางคน 2 คน

 

ทันทีที่ชายวัยกลางคนทั้งสองเห็น หวงเสี่ยวหลง พวกมันก็เย้ยยัน “หวงเสี่ยวหลง ถ้าหากเจ้าต้องการครอบครัว น้องสาว และน้องชายของเจ้าปลอดภัยหล่ะก็ เจ้าต้องปล่อยพวกเราไปซะเดี๋ยวนี้!”

 

พวกมันคนนึงก็หัวเราะออกมาอย่างโหดเหี้ยมว่า “ถ้าหากพวกเรากลับไปช้าหล่ะก็ พวกเราก็ไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นครอบครัวของเจ้าบ้าง แม่และน้องสาวเจ้านี่ค่อนข้างสวยทีเดียว แม้กระทั่งข้าก็เกือบจะอดไม่ไหว!”

 

เมื่อเสียงพวกมันเงียบลง ก็มีเงากระพริบขึ้น  ซึ่งหวงเสี่ยวหลงได้ไปยืนอยู่ด้านขวาตรงหน้าพวกมันแล้วยื่นมือทั้งสองออกไปบีบคอพวกมัน

 

ดวงตาของชายทั้งสองก็ถลนออกมาจากเบ้าตาเพราะแรงบีบ

 

หวงเสี่ยวหลงก็มองพวกมันอย่างเย็นชา “งั้นข้าจะส่งพวกเจ้าทั้งสองลงนรกไปก่อน!”เขาเพิ่มแรงบีบและหักคอพวกมันอย่างบิดเบี้ยว  ทำให้หัวพวกมันห้อยลง และตายไปก่อนที่พวกมันจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน

 

หลังจากยืนยันการตายของพวกมันแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็โยนร่างพวกมันทั้งสองเข้าเตาสัตว์อสูรนับหมื่นที่อยู่ภายในเจดีย์หลิงหลง จากนั้นก็หนัไปถามหยูหมิง “ตอนนี้เหยาเฟยมันอยู่ที่ใหน?”

 

“ท่านจักรพรรดิ ตอนนี้เหยาเฟยมันอยู่ในโถงไร้หัวใจภายในสถาบันต้วนเริ่น”หยูหมิงได้ตอบออกมา

 

โถงไร้หัวใจ

 

“พวกเจ้าทุกคนตามข้าไปโถงไร้หัวใจ!”หวงเสี่ยวหลงก็พูดออกอย่างเย็นชา

 

“ได้ขอรับ ท่านจักรพรรดิ!”จ้าวชู หยุหมิง และเฟยฮาวก็ตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียง

 

ครู่ต่อมา ทั้งสามคนก็ติดตามหวงเสี่ยวหลงออกจากคฤหาสน์เนินเขาทิศใต้ มุ่งหน้าไปโถงไร้หัวใจในสถาบันต้วนเริ่น

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท