ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1221 ทำเรื่องชั่วช้ามามาก

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1221 ทำเรื่องชั่วช้ามามาก

บทที่ 1221 ทำเรื่องชั่วช้ามามาก

มันมีเหตุผลใดหรือที่ข้าจะต้องช่วยเขา

กู้เสี่ยวหวานหันไปรอบ ๆ พร้อมกับขมวดคิ้วแน่น ดวงตากลมโตของนางเย็นชาราวกับธารน้ำแข็ง “ที่ข้าไม่จัดการแล้วโยนท่านออกไป ก็เพราะเห็นว่าท่านยังเป็นญาติของข้า แต่ท่านก็ควรรู้ตัวเองด้วยว่าทำไมข้าถึงไม่ช่วยเหลือท่าน ท่านเคยทำอะไรไว้บ้างล่ะ คิดว่าข้าจะช่วยเหลือท่านหรือ”

“สะ… เสี่ยวหวาน เจ้า…” เพราะการแสดงออกที่เย็นชาของกู้เสี่ยวหวาน เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ และก็พูดสิ่งใดไม่ออก

“พูดไม่ออกเลยหรือ” กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าเขาเอาแต่นิ่งเงียบเป็นเวลานาน ก็กระตุกรอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก “ถ้าท่านพูดไม่ออก งั้นข้าจะพูดแทนก็แล้วกัน”

น้ำเสียงของกู้เสี่ยวหวานเย็นชา เย็นชาตั้งแต่น้ำเสียงไปจนถึงการแสดงออก มันเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

“ตั้งแต่ท่านพ่อท่านแม่ของข้าตาย พวกข้ายังเด็กและไม่รู้ประสีประสา พวกข้าอายุไม่ถึงห้าหรือหกปีด้วยซ้ำ ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง พวกข้าต้องการการดูแลจากผู้ใหญ่ แต่ในฐานะลุง ท่านกลับเลือกที่จะปลีกตัวออกจากพวกข้า เหมือนพวกข้าเป็นโรคระบาดและขีดเส้นที่ชัดเจนกับพวกข้า โดยบอกว่าท่านจะไม่ดูแลพวกข้า และเมื่อท่านแก่ตัวไป พวกข้าก็ไม่ต้องมาดูแลท่าน พวกเราไม่มีความข้องเกี่ยวกัน และในขณะที่พวกข้ากำลังดิ้นรนสู้ชีวิต ลูกสาวของท่านก็มาผลักข้าตกลงไปในแม่น้ำจนข้าเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด”

ความโศกเศร้าที่กู้เสี่ยวหวานได้พรั่งพรูออกมาทำให้ร่างกายของนางสั่นสะท้าน

นี่เป็นความทรงจำที่หลงเหลืออยู่จาง ๆ หลังจากที่นางผ่านความตายมา และเมื่อกู้เสี่ยวหวานนึกถึงเรื่องที่เคยประสบพบเจอมาตอนนั้น ความทรงจำเหล่านั้นก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง

เนื่องจากความทรงจำที่เหลืออยู่ นางจึงยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก

ร่างกายเกร็งขึ้นและความโศกเศร้าที่เล็ดลอดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

ฉินเย่จืออยู่ที่อื่น เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับกู้เสี่ยวหวาน เมื่อเห็นนางโศกเศร้า เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาถูกใครบางคนควักออกมาบีบขยี้อย่างรุนแรง เขาได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดว่า กู้ซินเถาผลักนางตกลงในแม่น้ำจวนจะสิ้นใจ หัวใจของเขามันเจ็บปวดไปหมด

เขาเดินไปที่ด้านข้างของกู้เสี่ยวหวานอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจว่ามีผู้คนมากมาย แล้วกอดกู้เสี่ยวหวานไว้ในอ้อมแขน มอบความอบอุ่นให้แก่กู้เสี่ยวหวาน

นางรู้สึกได้ถึงความเมตตาและความอบอุ่นจากคนที่อยู่ข้าง ๆ ร่างกายที่ตึงเครียดของกู้เสี่ยวหวานก็ผ่อนคลายเล็กน้อย มองไปที่ฉินเย่จือและพยักหน้าขอบคุณเขา

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองตกอยู่ในสายตาของกู้ฉวนลู่

กู้ฉวนลู่ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา เขาเฝ้าดูมันอย่างเย็นชาในใจและเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจของเขาอย่างแน่นหนา

กู้เสี่ยวหวานสงบลงแล้วพูดต่อ “ต่อมาท่านก็ลักพาตัวเสี่ยวอี้ไป แม้ว่าท่านยังไม่ยอมรับเรื่องนี้ แต่ข้าจะทำให้ชัดเจนในวันหนึ่ง ท่านครอบครองที่นาของข้า ลูกชายที่มีค่าของท่านสับเปลี่ยนผลการสอบของน้องชายข้า มีหลายสิ่งหลายอย่างจริง ๆ ที่พวกท่านกระทำต่อครอบครัวของข้า ขอโทษที่ข้ามีความจำดีและจำได้หมดทุกเรื่อง ไม่มีความดีสักเรื่องเดียวที่ท่านทำกับข้า แล้วทำไมท่านถึงคิดว่าข้าต้องช่วยเหลือท่านด้วยเล่า”

น้ำเสียงของกู้เสี่ยวหวานรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นางจ้องมองกู้ฉวนลู่ด้วยสายตาแข็งกร้าว

กู้ฉวนลู่ไม่สามารถแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองเมื่อกู้เสี่ยวหวานกล่าวหาเขา เขาก้มหน้างุดเพื่อไม่ให้นางเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของเขา

อย่างไรก็ตาม ถ้ากู้เสี่ยวหวานได้มอง นางจะสามารถเห็นความร้ายกาจและความดุร้ายที่ปิดไม่มิดในดวงตาของเขาในขณะนี้

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานพูดจบ กู้ฉวนลู่ก็กลอกตาแล้วหลั่งน้ำตาออกมา “เสี่ยวหวาน ลุงอย่างข้ามีตาหามีแววไม่ ทั้งหมดเป็นเพราะลุงอย่างข้า เป็นข้าเองที่ทำผิดพลาดไป ข้าผิด ข้าขอโทษเสี่ยวหวาน ข้าขอโทษเจ้า ข้าอยู่ที่นี่ เจ้าจะให้ข้าคุกเข่าเท้าขอโทษเจ้าก็ย่อมได้”

หลังจากกู้ฉวนลู่พูดจบ เขาก็งอเข่าและกำลังจะคุกเข่าลง

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว อาโม่ที่อยู่ด้านข้างเห็นการเคลื่อนไหวของกู้ฉวนลู่จึงยื่นดาบในมือไปข้างหน้าปิดกั้นกู้ฉวนลู่ที่กำลังจะคุกเข่าลงโดยตรง

มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลก ถ้ากู้ฉวนลู่คุกเข่าต่อหน้าคนจำนวนมากจริง ๆ คนอื่นจะคิดอย่างไร คนที่รู้จะบอกว่ากู้ฉวนลู่นั้นรู้สึกผิดชอบชั่วดี คนที่ไม่รู้จะบอกว่ากู้เสี่ยวหวานรังแกคนอื่นและไม่มีความปรานี

กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจว่ากู้ฉวนลู่จะขอโทษอย่างจริงใจหรือเพียงแค่แสร้งทำ นางรู้เพียงว่าจะไม่ยอมรับและจะไม่มีวันให้อภัยในสิ่งที่ครอบครัวกู้ฉวนลู่ทำกับนาง แม้ว่าพวกเขาจะร้องขอความเมตตาเป็นพัน ๆ ครั้งก็ตาม

กู้เสี่ยวหวานตัวจริงเสียชีวิตไปตั้งแต่นางอายุแปดขวบในช่วงฤดูหนาวปีนั้น

นางถูกกู้ซินเถาผลักตกน้ำและเสียชีวิต

นางถูกผลักลงในแม่น้ำในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ

แต่ว่าคนร้ายก็ยังลอยนวล ครอบครัวกู้ฉวนลู่นี้ไม่ใช่แค่แย่ แต่พวกเขาคือความเลวร้าย

กู้ฉวนลู่ที่กำลังจะคุกเข่าลงถูกอาโม่ใช้ดาบกั้นไว้ น้ำตาของเขาไหลลงอาบหน้า แต่ความแข็งแกร่งของอาโม่นั้นแข็งแกร่งกว่ามาก ดังนั้นกู้ฉวนลู่จึงไม่สามารถจะขยับเขยื้อนได้

กู้ฉวนลู่ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ร้องไห้และขอร้อง “เสี่ยวหวาน ข้ารู้ว่าข้าผิด โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ต่อจากนี้ไปข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี”

กู้เสี่ยวหวานคร้านจะสนใจเขาอีก ดังนั้นนางจึงสลัดกู้ฉวนลู่แล้วเดินจากไป กู้ฉวนลู่ร้องไห้อยู่นาน แต่กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจเขาและเดินลงไปชั้นล่าง ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านางไม่ต้องการสนใจอีกฝ่ายอีกแล้ว

กู้ฉวนลู่ต้องการให้กู้เสี่ยวหวานตกลงที่จะช่วยเหลือเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมที่จะปล่อยนางไปโดยง่าย เขาไปหยุดกู้เสี่ยวหวานทันที และในขณะที่วิ่งไปเขาก็ตะโกนว่า “เสี่ยวหวาน ข้าขอร้องเจ้าล่ะ ถ้าเจ้าช่วยข้าเรื่องนี้ ในอนาคตข้าจะไม่รบกวนเจ้าอีก ตกลงหรือไม่”

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท