Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 233

ตอนที่ 233

ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงหายตัวไปในช่องว่างมิติและฮานเฟยที่กำลังล้มลงบนพื้น ก็ได้มีร่างๆหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว

 

“ใครกล้าสร้างปัญหาในคฤหาสน์เฉินของข้ากัน!!”

 

คนๆนี้เป็นชายชราอายุ 80 ปีที่มีดวงตาสีเขียวพร้อมกับสวมชุดคลุมสีต้นหม่อน ชายชราคนนี้ก็คือพ่อบ้านแห่งคฤหาสน์ตระกูลเฉิน เจียงหรง

 

เจียงหรงก็ลอยลงมาสู่พื้น พอมองเห็นเฉินติงหยวนและฮานเฟยที่นอนจมกองเลือดอยู่นั้น เขาก็หน้าซีดเซียว

 

“นายน้อยติงหยวน!”เขาได้รีบพุ่งไปหาร่างของเฉินติงหยวนแล้วร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีข่าวที่สั่นสะเทือนทั้งคฤหาสน์ตระกูลเฉิน นั่นคือข่าวการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญนับพันของคฤหาสน์ตระกูลเฉินเพื่อไปตามหาตัวฆาตกรในขณะเดียวกันหวงเสี่ยวหลงก็ได้เดินทางมาถึงประตูเมืองกาค้าอุดรแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเดินทางมาถึง ทั้งเมืองกลับถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าออก

 

พอเห็นว่าประตูเมืองถูกปิดกั้นอย่างแน่นหนา  เขาก็เดินไปซอยว่างเปล่า แล้วหายตัวไปในพริบตา จากนั้นเขามาปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงหลักของวิหารซูมี่แล้วจึงเปิดใช้งานข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์ ทำให้ภูเขาทองคำที่หดขนาดลงเหลือเพียงขนาดเท่าเม็ดทรายซึ่งหวงเสี่ยวหลงเลยควบคุมมันบินออกไปจากเมืองการค้าอุดรโดยบินอยู่ในชั้นโทรโพสเฟียร์

 

แน่นอนว่า หวงเสี่ยวหลงมีวิธีอื่นที่จะออกจากเมืองอย่างการใช้เหรียญตราขุนนางสูงสุดของหม่าโปหรือเหรียญพุทธะที่ฉื่อฟานเทียนให้แก่เขา อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้วิธีใหนมันก็ดึงดูความสนใจมากเกินไปทั้งนั้น เนื่องจากเขาตัดสินใจจะออกไป เขาเลยไม่ต้องการนำปัญหาไปกับเขาด้วย

 

พอออกจากเมืองการค้าอุดรแล้ว หวงเสี่ยวหลงใช้หุบเขาเทวะซูมี่เดินทางไปทางเหนือต่อ  พอผ่านไป 2 ชั่วโมง เขาจึงตัดสินใจหยุดลง

 

ใน 2 ชั่วโมง หวงเสี่ยวหลงได้ใช้งานข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์เพื่อควบคุมหุบการบินของเขาเทวะซูมี่ ทำให้ปราณฉีของเขาหมดเกลี้ยง ปราณฉีและปราณภายในของหวงเสี่ยวหลงทั้งหมวดเทียบได้กับปราณฉีของผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ 5 แต่มันกับพอแค่เพียงให้เข้าใชกับหุบเขาเทวะซูมี่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ว่าก็จินตนากรได้เลยว่าการใช้งานหุบเขาเทวะซูมี่ต้องใช้พลังงานมหาศาลขนาดใหน

 

พอลองจอดบนพื้นหวงเสี่ยวหลงก็เดินไปที่ห้องข้างห้องโถงและกลืนโอสถทิพย์จักรวาล หนึ่งหยดแล้วเริ่มทำการฟื้นฟูปราณฉีและปราณภายในแล้วบ่มเพาะ

 

หนึ่งวันต่อมา หวงเสี่ยวหลงได้หยุดการบ่มเพาะเพราะปราณฉีและปราณภายในของเขาต่างเต็มแล้ว ‘ข้าสงสัยจังว่าหุบเขาเทวะซูมี่ต้องใช้เวลาบินอีกนานเท่าไหร่หากข้าใช้หินจิตวิญญาณระดับ 1ในการเปิดใช้งานข่ายอาคม’ ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น มือของหวงเสี่ยวหลงก็ได้ขยับไปเอาหินจิตวิญญาณระดับ 1ออกมาจากแหวนเทพอสูร

 

หวงเสี่ยวหลงก็สะบัดมือส่งหินจิตวิญญาณระดับ 1 เข้าไปที่ศูนย์กลางข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์ ทำให้ข่ายอาคมศักดิ์สิทธิ์โบราณมีปฏิกิริยาทันที!  พลังงานที่บรรจุอยู่ในหินจิตวิญญาณระดับ 1 ก็พุ่งออกมาในรูปแบบพายุปราณในขณะที่ข่ายอาคมส่องแสงออกมาอย่างสดใสและเริ่มการทำงานในขณะที่มันทำการฉีกมิติด้วยตัวเอง

 

หินจิตวิญญาณระดับ 1 นั้นอยู่ในแกนกลางข่ายอาคมได้มากสุดเพียงสองวัน จากนั้นมันก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆกลายเป็นผงปลิวหายไปในอากาศ

 

หวงเสี่ยวที่กำลังฝึกเคล็ดวิชาซูมี่เทวะซูมี่นั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่เพียงหินจิตวิญญาณระดับ 1 ชิ้นเดียวอยู่ได้เพียง 2 วันเท่านั้นเอง หินจิตวิญญาณระดับ 1 นั้นเป็นของที่หากยากมาก แม้ว่าเขาจะเสนอเงินในการประมูล 1 หมื่นเหรียญทอง เขาก็อาจจะไม่สามารถซื้อมันได้เลยก็ได้ นั่นก็เพราะราคามันแพงมากเกินไป

 

ในด้านดีๆก็คือหลังจากที่สมบัติสวรรค์ทั้ง 4 รวมเป็นหนึ่งนั้น หวงเสี่ยวหลงก็สังเกตเห็นว่าเมื่อตอนที่เขากำลังฝึกเคล็ดวิชาซูมี่เทวะในข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์นั้น ได้มีปราณมังกรจากเจดีย์หลิงหลง ปราณเผ่าเทวะจากแหวนผนึกพระเจ้าและปราณวิญญาณจากไข่มุกวิญญาณเข้าบ่มเพาะร่างกายของเขาเหมือนอย่างปราณพุทธะจากข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์ของหุบเขาเทวะซูมี่

 

ปราณทั้ง 4 ที่แตกต่างกันออกไปได้เข้าบ่มเพาะร่างกายของเขาซึ่งมันช่วยเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะของเขาอย่างมาก ยิ่งไปว่านั้นคือเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาที่พัฒนาขึ้นทุกๆวัน  การบ่มเพาะโดยปราณทั้ง 4 อย่างต่อเนื่องนั้นทำให้ร่างกายของหวงเสี่ยวหลงแข็งแกร่งมากกว่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ 5

 

หวงเสี่ยวหลงก็ได้เดินทางกลับไปต้วนเริ่นในเวลาเดียวกันเขาก็บ่มเพาะในวิหารซูมี่ไปด้วยซึ่ง ทำให้เขาเดินทางออกห่างพื้นที่ของอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาอันแสนจะเหลือทนในการเปิดการใช้งานความสามรถในการบินของหุบเขาซูมี่ หวงเสี่ยวหลงเลยเลือกจะไม่ใช่งานหินจิตวิญญาณระดับ 1 ในเวลาเดินทางส่วนใหญ่ พอคำนวณเวลาการเดินทาง เขาได้ใช้หินจิตวิญญาณระดับ 1 กับข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์ทุกๆ 4วัน

 

แม้ว่าหินจิตวิญญาณระดับ 1 จะเป็นสิ่งที่มีค่ามากขนาดใหน แต่ด้วยวิธีนี้หวงเสี่ยวหลงก็เลยไม่ต้องชะลอการเดินทางหรือการบ่มเพาะเลยสักนิด เขามีหินจิตวิญญาณระดับ 1พอต่อการเดินทางไปถึงจักรวรรดิต้วนเริ่น และเขาก็ยังคิดวิธีหาหินจิตวิญญาณเพิ่มในอนาคตอีกด้วย

 

4 เดือนผ่านไป

 

หวงเสี่ยวหลงได้เดินทางมาอย่างรวดเร็วและในที่สุดเขาก้ได้กลับมาจักรวรรดิต้วนเริ่นได้สำเร็จ

 

ในการบ่มเพาะนั้น ยิ่งระดับสูงมากเท่าไหร่ การบ่มเพาะก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้นและหวงเสี่ยวหลงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเหมือนกัน หลังจากทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 4 ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาก็ช้าลงเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน แต่เขาก็ยังบ่มเพาะไปถึงขั้นที่ 4 ชั้นปลายในเวลา 4 เดือน และอีกเพียงครึ่งก้าวเขาก็จะทะลวงเข้าสู่ขั้นที่ 5 แล้ว

 

ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงคำนวณ เขาก็ได้นำเอาหินจิตวิญญาณระดับ 1 ทั้งหมด 20 ชิ้นมากองรวมกัน  ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงเดินทางมาถึงดินแดนของจักรวรรดิต้วนเริ่นหินจิตวิญญาณชิ้นสุดท้ายก็แตกกระจายกลายไปเป็นผุยผงไป พอจ้องมองประตูทางเข้าอันคุ้นเคยตรงหน้าเขา  ในหัวใจของหวงเสี่ยวหลงก็ปกคลุมไปด้วยอารมณ์อันยากจะอธิบายซึ่งเหมือนกับที่เขาเคยรู้สึกมาก่อนเมื่อเขากลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลหวงจากอาณาจักรลั่วถางซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาออกไปหลายทศวรรษ

 

พอหายใจเข้าลึกๆ หวงเสี่ยวหลงก็ก้าวเดินเข้าประตูเมืองไป

 

จักรวรรดิต้วนเริ่นนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไหร่ ฉากที่เขาเห็นั้นไม่แตกต่างไปจากเมื่อ 1 ปีครึ่งที่แล้ว มันยังคงมีแถวรถม้าอันไร้ที่สิ้นสุดที่ดูมีชีวิตชีวาวุ่นวายและตึกอาคารบนถนนที่เจริญรุ่งเรือง

 

“ในช่วง 2-3วันนี้ ได้มีการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ระหว่างตระกูลกั่วและตระกูลหวง ข้าได้ยินว่าตอนนั้น อาณาจักรนับพันที่อยู่ภายในจักรวรรดิต้วนเริ่นได้ส่งทูตหรือไม่ก็เจ้าชายมาร่วมแสดงความยินดี!”

 

“ไม่พียงแค่นั้น! ข้าได้ยินข่าวมาว่าแม้กระทั้งตัวจักรพรรดิต้วนเริ่นก็ยังปรากฏตัวขึ้นในพิธีแต่งงานด้วย!”

 

“ตัวตนที่แท้จริงของหวงเสี่ยวหลงคืออะไรกันเนี่ย? แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างจักรพรรดิต้วนเริ่นและผู้คุ้มกันของ จ้าวชู พวกเขาเป็นอะไรกันแน่นะ?”

 

“ใครจะรู้กัน แต่ข้าได้ยินว่าตอนนั้นหวงเสี่ยวหลงไม่ได้อยุ่ในเมืองจักรพรรดิ”

 

หวงเสี่ยวหลงก็ฟังข่าวลือเกี่ยวรอบตัวเขาในขณะที่เดินเล่นไปรอบๆ

 

งานแต่งงานของน้องสาวของเขาหวงหมินและกั่วไท่นั้นจะจัดขึ้น 3 วันและก็ยังเป็นการผูกสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกั่วและตระกูลหวง ทำให้เมืองจักรพรรดิได้ตกอยู่ในบรรยากาศแห่งการเลี้ยงฉลองที่มีโคมไฟสีแดงแขวนไปทั่วถนน

 

พอเห็นชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาบอกว่าหวงเสี่ยวหลงไม่ได้อยู่ในเมืองจักรพรรดิ ทำให้หวงเสี่ยวหลงก็ทนไม่ไหวจนต้องหัวเราะออกมา “น้องชาย เจ้าไปได้ยินมาจากที่ใหนว่าหวงเสี่ยวหลงไม่ได้อยู่ในเมืองจักรพรรดิตอนนี้?”

 

ชายหนุ่มคนที่ได้ยินหวงเสี่ยวเรียกเขาก็หันหน้ามามองสำรวจหวงเสี่ยวหลงตั้งแต่บนลงล่างหลายครั้งก่อนจะหัวเราะออกมา “น้องชาย? ดูเหมือนว่าเจ้าก็ไม่ได้แก่ไปกว่าข้ามากเท่าไหร่นะ ข้ามีพี่ชายที่สนิทกันทำงานเป็นยามให้แก่จวนตระกูลหวง แน่นอนว่าข้าจะต้องรู้ จากหน้าตาของเจ้าแล้ว เจาจะต้องเป็นคนที่ติดตามผู้อาวุโสตระกูลเจ้า เข้าเมืองจักรพรรดิมาแสดงความยินดีที่จวนตระกูลหวงใช่มั้ย?”

 

หวงเสี่ยวหลงก็มึนงงไปชั่วครู่กับคำพูดของชายหนุ่ม เขาหัวเราะออกไปและไม่ได้พูดอะไรออกไป อย่างไรก็ตามดุเหมือนชายหนุ่มคนนี้จะเป็นคนจากอาณาจักอันดับต่ำ ดังนั้นเขาเลยไม่รู้จักใบหน้าของหวงเสี่ยวหลง

 

พอเห็นว่าหวงเสี่ยวหลงไม่ปฏิเสธ ชายหนุ่มคนนั้นก็คิดว่าเขานั้นคาดเดาได้อย่างถูกต้อง “นี่จะต้องเป็นครั้งแรกของเจ้าในเมืองจักรพรรดิแห่งนี้สินะ?”

 

ในตอนนี้จู่ๆก็ได้มีความวุ่นวายเกิดขึ้นไปทั่วท้องถนน ซึ่งได้มีคนอุทานออกมาอย่างตกใจ

 

หวงเสี่ยวหลงและและชายหนุ่มทั้งสองก็ได้มองไปที่กลุ่มคนที่กำลังขี่มาอยู่บนถนนอันวุ่นวาย

 

หนึ่งในชายหนุ่มก็แสดงใบหน้าซีดเซียวออกมา “นั่นมันคนของตระกูลเถี่ย!”

 

“ตระกูลเถี่ย?”หวงเสี่ยวหลงก็สับสนมึนงง

 

“ตระกูลเถี่ยนั้นเป็นอีกตระกูลที่มีความสัมพันธ์กับตระกูลกั่ว  น้องสาวของประมุขตระกูลกั่ว กั่วฉื่อเหวินคนปัจจุบัน กั่วเสี่ยวฉิงนั้นได้แต่งงานกับประมุขตระกูลเถี่ยไป!”ชายหนุ่มคนเดิมก็ได้อธิบายออกมา

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท