เมื่อแสงจากข่ายอาคมศักดิ์สิทธิ์โบราณหายไป ห้องโถงวิหารก็ได้กลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม
หวงเสี่ยวหลงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็รู้สึกว่าตัวเขานั้นได้ถูกชำระล้างโดยหุบเขาเทวะซูมี่ และในที่สุดเขานั้นก็ได้ปรับแต่งหุบเขาเทวะซูมี่ได้สำเร็จ!
ตอนแรกหวงเสี่ยวหลงคิดว่าการปรับแต่งแกนกลางข่ายอาคมของหุบเขาเทวะซูมี่คงจะมีปัญหาแน่ อย่างมันอาจจะต้องใช้เวลา 10 วันถึงครึ่งเดือน ความง่ายดายนี้สร้างความประหลาดใจให้เขามาก
บางทีอาจจะเป็นเพราะแท่นบูชาพระพุทธ จู่ๆก็มีความคิดแวบขึ้นมาในหัวของหวงเสี่ยวหลง มันเหมือนกับว่าเนื่องจากพิธีชำระล้างที่ลานหมื่นพุทธะทำให้หวงเสี่ยวหลงสามารถปรับแต่งหุบเขาเทวะซูมี่ได้อย่างง่ายดายแล้วก็เพราะหุบเขาเทวะซูมี่และแท่นบูชาพระพุทธนั้นเป็นวัตถุที่มีความเกี่ยวข้องกับพุทธะศาสนา
ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงมั่วแต่ครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีเสาแสงก่อตัวขึ้นจากพลังพุทธะเข้าปกคลุมตกเขาแล้วก็มีความทรงจำส่งตรงเข้าสู่จิตสำนึกของเขา
เคล็ดวิชาซูมี่เทวะ
เคล็ดวิชาต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์และปฐพี
ตามที่ความทรงจำที่ได้รับถ่ายทอดมาจากหุบเขาเทวะซูมี่ วิชาซูมี่เทวะนี่เป็นเคล็ดวิชาและในก็เป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะในเวลาเดียวกัน
หลังจากผ่านไปสักครู่ หวงเสี่ยวหลงก็ลุกขึ้นยืนจากบัลลังก์และเดินลงมา พอเท้าของเขาแตะพื้น เขาก็ได้หายตัวไปจากห้องโถงวิหารทันที จากนั้นเขาก็ได้เข้ามาในห้องลับใต้ดินซึ่งห้องโถงนี้มีทางเดินเชื่อมกับห้องเล็กอีกห้องหนึ่ง ภายในห้องลับใต้ดินนั้นมีบ่อน้ำอันเล็กที่บรรจุของเหลวสีขาวขุ่นซึ่งของเหลวนี่ได้ปลดปล่อยกลิ่นอันหอมหวนน่าลิ้มลองซึ่งพอจะทำให้คนๆนึงเมาได้ด้วยเพียงการดม และมันยังทำให้เขารู้สึกถึงความรู้สึกสบายที่แพร่กระจายไปทั่วร่าง
โอสถทิพย์จักรวาล !
เป็นโอสถมหัศจรรย์ที่กำเนิดขึ้นจากสวรรค์และปฐพี การดูดซับจะทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
หวงเสี่ยวหลงได้เดินเข้าไปหาบ่อน้ำนั่นด้วยความคาดหวังและจ้องมองไปที่โอสถทิพย์จักรวาลที่น่าหลงใหลอย่างไม่กระพริบตาซึ่งมันทำให้เขารู้สึกตื้นตันใจจนทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว โอสถทิพย์จักรวาลในบ่อน้ำเล็กนี่ทั้งหมดมีมากกว่า 1 พันหยดเสียอีก!
ถ้าหากใช้หนึ่งหยดต่อวัน มันก็เพียงพอที่หวงเสี่ยวหลงจะใช้มันในการบ่มเพาะถึง 4 ปี!
หวงเสี่ยวหลงก็นำมามาซ้อนกันแล้วตักแยกโอสถทิพย์จักรวาล 1หยดออกมาจากบ่อน้ำแล้วนำมันใส่ปากของเขา โอสถทิพย์จักรวาลนั้นราวกับไวน์สีเหลืองอำพันที่ไหลออกมาจากแก้วหยกที่ส่งกลิ่นหอมอันเย้ายวนก่อกวนประสาทเขา
หวงเสี่ยวหลงไม่ได้ทำการกลั่นพลังที่อยู่ในหยดโอสถทิพย์จักรวาล ณ ตรงนั้น แต่เขากลับเลือกจะกลับไปที่ห้องโถงวิหารอันกว้างขวางที่มีแกนกลางข่าาฃยอาคมอยู่แทน ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงขยับมือทั้ง 2 ก็มีข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์ที่อยู่ตรงแกนกลางข่ายอาคมก็ระเบิดแสงสว่างขึ้นมา ทำให้พลังงานพุทธะหลั่งไหลออกมาจากช่องว่างมิติซึ่งถูกแบ่งออกมาจากช่องว่างมิตินับไม่ถ้วนแล้วเข้าล้อมรอบตัวหวงเสี่ยวหลง
หวงเสี่ยวหลงจึงดูดซับพลังงานพุทธะที่ทะลักออกมาจากช่องว่างมิติ ในขณะที่หยดโอสถทิพย์จักรวาลแพร่กระจายและซึมซับเข้าสู่เส้นลมปราณ ทะเลปราณและตันเทียนของหวงเสี่ยวหลงจากนั้นก็ได้ทำการเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายของเขาขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงเหวี่ยงแขนออกไป ก็มีแขนลวงตางอกออกมาจากร่างกายของเขา! ในเวลาเดียวกันนั้น ร่างกายของเขาก็ส่องแสงด้วยรัศมีพุทธะราวกับพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือในตำนาน
นี่ก็คือเคล็ดวิชาที่ได้รับสืบทอดมา เคล็ดวิชาซูมี่เทวะ
พอผ่านไป 1 วัน หวงเสี่ยวหลงก็สามารถทำให้แขนปรากฏขึ้นมากกว่า 60แขน เมื่อโจมตีออกไปด้วยแขนพวกนี้ ก็จะเกิดสายลมส่งเสียงหวีดหวิวที่มีปราณอันเฉียบคมพุ่งออกไปซึ่งมันทำให้ใครต่างใจสั่นอย่างหวาดกลัว
หวงเสี่ยวหลงต้องใช้เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มเพื่อกลั่นพลังงานที่อยู่ในโอสถทิพย์จักรวาล พอหลังจากนั้นเขาจึงหยุดการบ่มเพาะ
พอตรวจสอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น หวงเสี่ยวหลงก็สังเกตเห็นว่าปราณฉีของเขานั้นพัฒนาขึ้น และการฝึกเคล็ดวิชาในแกนกลางข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์ที่มีพลังงานพุทธะหลั่งไหลออกมาจากช่องว่างมิติไร้ที่สิ้นสุดนั้น ก็เป็นการบ่มเพาะร่างกายของเขาในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันช่วยเพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพของขึ้นเรื่อยๆ และร่างกายของเขานั้นจะแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปในระดับเดียวกัน ด้วยการพัฒนาแบบนี้ เขาคงได้ถูกล่าวขานว่าเป็นตัวประหลาดแน่
การดูดซับโอสถทิพย์จักรวาลก่อนจะฝึกเคล็ดวิชาซูมี่เทวะนั้นจะทำให้ผลการฝึกฝนเพิ่มขึ้นอีกครึ่งนึงอย่างที่ความทรงจำที่ได้รับถ่ายทอดมาได้กล่าวไว้ หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกดีใจกับผลลัพธ์ที่เกินกว่าที่คาดไว้นัก
ในขณะนั้น เขาก็สามารถสร้างภาพลวงตาได้มากกว่า 60แขน นั่นหมายความว่าเขาได้ฝึกวิชาสำเร็จขั้นต้นแล้ว เมื่อจำนวนแขนลวงตาที่เขาสร้างขึ้นเพิ่มขึ้นถึง 1 พันแขนหล่ะก็ นั้นก็คือการสำเร็จวิชาขั้นกลาง และขั้นสุดท้ายหรือขั้นสมบูรณ์นั้นจะเกิดขึ้นได้เมื่อเขาสามารถเปลี่ยนมือลวงตาพันข้างนี่ให้กลายเป็นของจริง มีตัวตนขึ้น
แต่จากที่ความทรงจำได้บอกก็คือ การฝึกจนกระทั่งขั้นนั้นเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก
ถ้าหากหวงเสี่ยวหลงสำเร็จถึงขั้นสมบูรณ์ เขาก็จะสามารถแบ่งร่างออกเป็นร่างอวตารพุทธะพันร่าง! และไม่เพียงแค่นั้น ร่างอวตารแต่ละร่างนี้เป็นร่างจริงมีตัวตนราวกับมีหวงเสี่ยวหลงพันคน
เคล็ดวิชาซูมี่เทวะนี้ถูกยกย่องให้เป็นเคล็ดวิชาต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์และปฐพี และจุดที่น่ากลัวที่สุดของมันก็คือ ลองจิตนาการว่ามีร่างอวตารพันร่างและแต่ละร่างมีแขนพันแขนสำหรับการโจมตี แล้วใครจะสามารถป้องกันได้กันเล่า?!
นอกจากนี้ เมื่อหวงเสี่ยวหลงฝึกเคล็ดวิชาซูมี่เทวะจนกระทั่งขั้นสมบูรณ์ ร่างกายของเขาโดยธรรมชาตินั้นจะมีคุณสมบัติแข็งแกร่งทนทานที่สุดแต่มีความยืดหยุ่นซึ่งรู้จักกันในกายาพุทธะทองคำซึ่งจะไม่มีส่วนใหนในร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บและแม้กระทั่งการโจมตีที่รุนแรงที่สุดก็ตาม และในตอนนั้นการฆ่าหวงเสี่ยวหลงก็จะมีแค่วิธีเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ––การโจมตีและทำลายวิญญาณของหวงเสี่ยวหลง
หวงเสี่ยวหลงได้หายใจเอาปราณฉีอันสกปรกออกมาทางปาก
เคล็ดวิชาซูมี่เทวะ!
ได้มีสายลมดุร้ายที่น่าลึกลับระเบิดออกมาจากร่างหวงเสี่ยวหลง และในดวงตาของเขาก็เปล่งแสงออกมาแสดงให้หายสายตาอันคมกริบ
นิกายนักรบแห่งพระเจ้า อ่าวไป๋เสวีย เหยาเฟย หลี่โม่หลิน! เมื่อวันนั้นมาถึงข้าจะเหยีบย่ำพวกเจ้าและฆ่าพวกเจ้าที่ละคนละคอยดู!
หลังจากนั้นสักพัก หวงเสี่ยวหลก็สงบสติลง เมื่อเขาขยับแขนอีกครั้ง เขาก็ได้รวบรวมปราณไว้ที่ฝ่ามือเพื่อเปิดการใช้งานแกนกลางข่ายอาคม จากภายนอก ภูเขาสีทองที่อยู่ใจกลางทะเลแห่งความทุกข์ตรมก็สั่นสะเทือนและลอยขึ้นจากทะเลจากนั้นก็ได้ฉีกมิติออกแล้วหายลับไป เมื่อมันปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง มันก็ได้มาปรากฏขึ้นภายนอกถ้ำพุทธะและลอยอยู่เหนือพื้นที่รกร้างในพื้นที่สักแห่งของอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์
นี่ก็คือหนึ่งในพลังของหุบเขาเทวะซูมี่ หวงเสี่ยวหลงสามารถควบคุมการบินของหุบเขาเทวะซูมี่ผ่านแกนกลางข่ายอาคม แต่ความสามารถหลักที่เด่นก็คือการพุ่งทะลุมิติ
นอกจากนั้น แกนกลางข่ายอาคมก็ยังใช้ควบคมหุบเขาเทวะซูมี่ในการโจมตีได้อีกด้วย
ตามความทรงจำที่ได้รับสืบทอดมานั้น หุบเขาเทวะซูมี่ถูกสร้างจากวัตถุดิบที่มีต้นกำเนิดจากโลกพุทธะซึ่งก็คือ แผ่นไม้เทวะสีทอง ในระหว่างการสร้างนั้น จะใช้เลือดทองคำ 1หมื่นหยดจากพระโบราณหมื่นองค์หลอมรวมซึ่งจะทำให้มันแข็งแกร่งแต่อ่อนนุ่ม ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดในโลกจิตวิญญาณต่อสู้สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้ตัวหุบเขาเทวะซูมี่ได้
แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับพระเจ้าก็ยังไม่สามารถสร้างหลุมบนตัวมันได้
หลังจากฉีกมิติ หุบเขาเทวะซูมี่ก็ลอยขึ้นเหนือท้องฟ้าอยู่สูงขึ้นไปประมาณ 3 พันจาง ความใหญ่ของมันสามารถทำลายดวงอาทิตย์ได้เลย หวงเสี่ยวหลงจินตนาการออกได้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากใช้หุบเขาเทวะซูมี่โจมตี
ภูเขาปกติยิ่งใหญ่ก็หน้ากลัวพอแล้ว นอกจากนี้ เจ้านี่มันคือหุบเขาเทวะซูมี่เลยนะ!
“เล็กลง เล็กลง เล็กลงอีก!”หวงเสี่ยวหลงก็ควบคุมแกนกลางข่าอาคมและลดขนาดหุบเขาเทวะซูมี่เรื่อยๆจนภูเขาที่มีขนาดหลายพันจางเล็กลงเหลือแค่ขนาดฝ่ามือในที่สุด!
“เล็กลงอีก!”มันก็เล็กลงเท่าขนาดเม็ดทราย
เมื่อลดขนาดเสร็จ หวงเสี่ยวหลงก็เลือกเส้นทางและควบคุมหุบเขาเทวะซูมี่บินไปทิศทางที่มีป่าหนาทึบ แม้ว่าเขาได้พบหุบเขาเทวะซูมี่แล้ว เขาก็ไม่เร่งรีบจะกลับไปจักรวรรดิต้วนเริ่น อย่างแรกคือเขาต้องการจะบ่มเพาะอย่างสงบและทะลวงขั้นเข้าสู่ขั้นเซียนเทียนระดับ 4ก่อนจะตัดสินใจทำอย่างอื่น!
ขั้นเซียนเทียนระดับ 4 นั้นเป็นจุดแบ่งในระดับเซียนเทียน เมื่อหวงเสี่ยวหลงทะลวงได้สำเร็จ เขาก็จะกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นกลาง และความแข็งแกร่งเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
หลายชั่วโมงต่อมา หวงเสี่ยวหลง หวงเสี่ยวหลงได้มาหยุดอยู่เหนือ เขตเนินเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ เขาก็ควบคุมหุบเขาเทวะซูมี่ลงจอดที่นั่นและทำการพรางด้วยสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยดินและทรายซึ่งจะทำให้การปกปิดได้อย่างดีเยี่ยม
จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องติดกับห้องโถง และดูดโอสถทิพย์จักวาลเข้าปากและกลับมาที่ห้องโถงหลักเพื่อทำการฝึกเคล็ดวิชาซูมี่เทวะในใจกลางข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์