บทที่ 1252 หลี่ซื่อตายแล้ว
บทที่ 1252 หลี่ซื่อตายแล้ว
ทางด้านของกู้เสี่ยวหวาน หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่อาโม่นำกลับมาบอก ก็คิดหาวิธีว่าจะจัดการเรื่องนี้ทันที
ลวี่เทามีผู้หญิงคนอื่นอยู่ข้างนอก และผู้หญิงคนนั้นก็คือภรรยาคนที่สองของเหมียวเอ้อร์
เอามาเป็นนางบำเรอ
ในสมัยโบราณ เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะมีภรรยาได้หลายคน และถ้าหากเป็นเช่นนั้น การกระทำเช่นนี้ของลวี่เทาก็จะถือว่าไม่มีความผิด
เมื่ออาโม่เห็นท่าทางกระวนกระวายของกู้เสี่ยวหวาน เขาก็นึกถึงคำที่นายท่านบอกเขาก่อนที่เขาจะออกมาจากศาลาว่าการ “คุณหนู พ่อตาของลวี่เทาคือนายท่านจากตระกูลกัวที่มาจากตอนใต้ของเมืองหลวง ข้าได้ยินมาว่าภรรยาของลวี่เทาเป็นคนร้ายกาจและโมโหร้าย ถ้านางรู้เรื่องที่ลวี่เทามีหญิงอื่นอยู่ในเมืองหลิวเจียล่ะ”
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
ใช่… สำหรับกู้เสี่ยวหวานแล้ว ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่ข่าวที่น่ายินดีเท่าไร แต่จะว่าไปมันก็เป็นข่าวดีสำหรับนางอยู่
นางจึงใช้นกพิราบสื่อสารเพื่อส่งจดหมายไปยังเมืองหลวง
ข่าวจากนกพิราบตัวนี้ ไม่เพียงแต่นำเรื่องของลวี่เทาไปแจ้งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคำสั่งของฉินเย่จือด้วย
แต่อีกหนึ่งข่าวที่อาโม่นำมาบอก มันจับใจกู้เสี่ยวหวานมาก
หลิวชิงซานกลับมาแล้ว อีกทั้งเขายังได้ไปพบบ้านที่ลวี่เทาอยู่กับนางบำเรอของเขา อีกทั้งตัวเขาเองก็ยังได้ยินเรื่องราวทั้งหมด
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกประหลาดใจ ทำไมหลิวชิงซานถึงได้ไปที่บ้านของว่านซื่อ
แต่อย่างไรก็ตาม คนผู้นี้เป็นหายนะ ระวังคนผู้นี้เอาไว้จะดีกว่า
ในขณะที่ทุกคนกำลังเร่งหาตัวฆาตกร ก็มีข่าวที่น่าตกใจอีกข่าวที่ออกมาในเมืองหลิวเจีย…
หลี่ซื่อตายแล้ว
เขาถูกจับถ่วงน้ำในเมืองหลิวเจีย ร่างของเขาถูกผูกไว้กับก้อนหินขนาดใหญ่เพื่อไม่ให้ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ แต่เนื่องจากน้ำใสมากและมีคนบังเอิญดำน้ำลงไปจึงได้พบศพของหลี่ซื่อเข้า
ถ้าไม่มีคนมาพบศพ เกรงว่าศพน่าจะเน่าแล้วถูกปลากินหมดโดยไม่มีใครรับรู้เรื่องนี้
ในเมืองหลิวเจียมีคนเสียชีวิตพร้อมกันสองศพ คนหนึ่งเสียชีวิตในร้านอาหารเพราะถูกวางยาพิษ อีกคนร่างถูกผูกไว้กับก้อนหินขนาดใหญ่แล้วผลักลงไปในแม่น้ำจนจมน้ำตาย
คนทั้งสองเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้คนทั้งเมืองหลิวเจียล้วนตื่นตระหนกกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อลวี่เทาเห็นร่างของหลี่ซื่อก็พลันขมวดคิ้ว
เขารู้จักกับหลี่ซื่อผู้นี้
ลวี่เทาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหมอเหลย และหลี่ซื่อผู้นี้ก็เป็นศิษย์ของหมอเลย หลี่ซื่อเคยร่ำเรียนวิชาทางการแพทย์กับหมอเหลย และมักไปที่ศาลาว่าการบ่อย ๆ ลวี่เทาจึงได้รู้จักกับคนผู้นี้
การที่มีคนตายเพิ่มขึ้นอีกเช่นนี้ มองว่ามันต้องเป็นการฆาตกรรมแน่นอน
ครั้งนี้มันทำให้ลวี่เทาอยู่ไม่สุข
คดีแรกที่มีคนเสียชีวิตเพิ่งจะผ่านมาไม่กี่วันและคดีก็ยังไม่คลี่คลาย แต่ก็มาเกิดคดีฆาตกรรมในเมืองหลิวเจียคดีที่สองอีกภายใต้เขตอำนาจของเขา บางทีมันอาจจะมีผลกระทบอย่างมากต่ออาชีพการงานของเขา
ลวี่เทากินไม่ได้นอนไม่หลับ
จากการตายอย่างแปลกประหลาดของหลี่ซื่อ นอกจากคนที่ไปแจ้งความกับทางการแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าหลี่ซื่อถูกจับโยนลงไปในแม่น้ำได้อย่างไร ไม่มีพยาน ไม่ทราบสาเหตุ คดีนี้จะคลี่คลายได้อย่างไร
แต่เนื่องจากว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น ถือได้ว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของลวี่เทา
ในตรอกที่ห่างไกล ที่บ้านของว่านซื่อก็เกิดการทะเลาะเบาะแว้งขึ้นเช่นกัน
สาวใช้ที่ชื่อว่าเหอฮวาก็เริ่มมีอารมณ์โกรธเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากว่าในช่วงนี้ลวี่เทาไม่ได้มาหาว่านซื่อ ว่านซื่อรู้สึกเศร้าเสียใจเพราะไม่ได้เห็นหน้าของลวี่เทา ดังนั้นนางจึงระบายความโกรธกับเหอฮวา
เหอฮวาอยู่เคียงข้างว่านซื่อมาหลายปี
ตั้งแต่ที่นางยังเป็นสาวน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไร จนวันนี้นางโตเป็นสาววัยยี่สิบปีแล้ว
เป็นระยะเวลาหลายปีที่นางอยู่รับใช้ว่านซื่อ นางตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างหนัก คอยดูแลรับใช้ว่านซื่ออย่างสุดหัวใจเพียงเพราะว่านซื่อสัญญากับนางว่าจะส่งตัวนางไปให้ลวี่เทา
ครอบครัวของเหอฮวานั้นยากจน การที่เก็บลูกสาวอย่างนางไว้ก็เหมือนจะเป็นภาระ ทางครอบครัวจึงขายเหอฮวาออกไปก่อนจะถึงเวลาที่กำหนดและเปลี่ยนมือมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง มีทั้งขึ้นทั้งลง ทั้งสุขทั้งทุกข์ นางจึงกลัวและอยากมีชีวิตดี ๆ และมีความสุขบ้าง
และต่อมานางก็ถูกขายให้กับครอบครัวของว่านซื่อ ลวี่เทาชอบเพราะว่าเหอฮวาไม่ใช่คนจากเมืองหลิวเจีย เขาจึงอยากเก็บนางไว้รับใช้ว่านซื่อ
ว่านซื่อเป็นภรรยายลับ ๆ ของลวี่เทา นางถูกซ่อนไว้ในตรอกที่เป็นสถานที่เปลี่ยวเช่นนี้ เพื่อที่ในชีวิตประจำวันจะได้ไปมาหาสู่ได้สะดวก นางได้รับการดูแลอย่างดีมากกว่าตอนที่นางเป็นภรรยาของเหมียวเอ้อร์ ดังนั้นนางจึงอุทิศตนเพื่อรับใช้ลวี่เทาอย่างสุดหัวใจและเชื่อฟังลวี่เทาทุกอย่าง
เมื่อเห็นว่าลวี่เทานั้นดีกับว่านซื่อมาก นางจึงเกิดความรู้สึกบางอย่าง
ว่านซื่อผู้นี้เคยผ่านการแต่งงานและให้กำเนิดลูกมาแล้วถึงสองคน อีกทั้งยังมีอายุมากแล้ว จะเอาอะไรมาเทียบกับตัวนาง ดังนั้นความคิดที่เหอฮวาอยากจะครอบครองลวี่เทาและมีชีวิตดี ๆ จึงเกิดขึ้น
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าว่านซื่อไม่ได้ดีเท่าตัวนางเลย ดังนั้นเหอฮวาจึงไม่ได้ทำหน้าที่เป็นสาวใช้ที่ขยันหมั่นเพียรอีกต่อไป ว่านซื่อเป็นคนดีมีน้ำจิตน้ำใจ นางจึงมองไม่ออกว่าสาวใช้ผู้นี้กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
ว่านซื่อต้องการขายสาวใช้คนนี้ออกไปเสีย แต่นางก็กลัวว่าสาวใช้คนอื่นก็อยากเป็นเหมือนเหอฮวาผู้นี้เช่นกัน ฉะนั้นนางจึงเกลี้ยกล่อมว่ารอให้โอกาสที่เหมาะสมมาถึงจะให้นางไปรับใช้ลวี่เทา
เหอฮวาก็เชื่อว่ามันจะเป็นเช่นนั้น ดังนั้นนางจึงเริ่มปรนนิบัติรับใช้ว่านซื่อด้วยความจริงใจอีกครั้ง
เหอฮวาอายุมากขึ้นทุกปี ๆ แต่นางก็ยังไม่ได้ไปรับใช้ลวี่เทา เป็นเช่นนี้แล้วจะไม่ให้นางเกลียดว่านซื่อได้อย่างไร
ในใจของนางนับวันก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี นางรอมาแล้วหลายปี ถ้านางยอมแพ้ แล้วนางจะมีทางที่ดีกว่านี้ไหม
เหอฮวาเริ่มเหม่อลอย พักหลัง ๆ นางออกไปซักผ้าก็ไม่มีท่าทีที่กระฉับกระเฉง เวลานางออกไปซื้อกับข้าว นางก็ไม่รีบกลับบ้านเหมือนเช่นเคย นางเอาแต่เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อย
หลังจากที่นางเดินไปเรื่อย ๆ สายตาของนางก็หันไปมองที่ศาลาว่าการ ซึ่งเป็นสถานที่ที่น่านับถือมากที่สุดในเมืองหลิวเจีย เมื่อคิดถึงใบหน้าของชายคนหนึ่ง เหอฮวาก็หน้าแดง นางยืนอยู่ที่หน้าศาลาว่าการ สีหน้าของนางแดงก่ำและมีที่ท่าลำบากใจ
นางไม่รู้ว่าท่าทางเช่นนี้ของนางจะถูกคนอื่นจับตามอง
คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลิวชิงซาน ผู้ที่แอบเข้าไปในบ้านของว่านซื่อครั้งล่าสุด
หลิวชิงซานซ่อนตัวอยู่ในที่ลับสายตาและมองไปที่เหอฮวา ความงามของเหอฮวานั้นทำให้หลิวชิงซานแทบจะทนไม่ไหว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตรงนั้นมีผู้คนพลุกพล่าน เขาคงพุ่งตัวเข้าไปแล้ว
เหอฮวานั้นเดินวนเวียนอยู่ที่ประตูหลายครั้ง สุดท้ายนางก็ไม่กล้าเข้าไปที่นั่น หลังจากรอมาเป็นเวลานาน นางก็ไม่เห็นลวี่เทาออกมา ดังนั้นนางจึงยอมแพ้