การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 605-2 จิงเหวินรุ่ยหมั้นกับจูรุ่ย (2)

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 605 จิงเหวินรุ่ยหมั้นกับจูรุ่ย (2)

บทที่ 605 จิงเหวินรุ่ยหมั้นกับจูรุ่ย (2)

ถังซวงหันหน้าหนีโม่เจ๋อหยวน

“ไว้ฉันจะลองคิดดูทีหลัง”

โม่เจ๋อหยวนรู้ดีว่าถ้าหากถังซวงพูดออกมาอย่างนั้นแล้ว เธอจะคิดไตร่ตรองอย่างดีแน่นอน เขาจึงกอดถังซวงเอาไว้แล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ฉันจะรอวันที่เธอพร้อมนะ”

อีกด้าน

หลังจากเฟิงเยี่ยหานพาถังเซวี่ยกลับมาที่ลานของตัวเอง เขากอดถังเซวี่ยแน่น “เสี่ยวเซวี่ย คิดถึงคุณจังเลย”

ถังเซวี่ยที่ถูกกอดแน่นจนใบหูของเธอชิดกับหน้าอกเฟิงเยี่ยหาน ได้ยินเสียงหัวใจของเขาชัดเจน

เธอยื่นมือออกมากอดเฟิงเยี่ยหานอย่างอดไม่ได้ “ฉันก็คิดถึงคุณเหมือนกัน”

พอได้ยินถังเซวี่ยพูดกับหู แววตาของเฟิงเยี่ยหานเปล่งประกายอย่างมีความสุข “เสี่ยวเซวี่ย… เราสองคน… หมั้นกันไว้ก่อนได้ไหมครับ”

ถังเซวี่ยเงียบไป เธอไม่คิดว่าเฟิงเยี่ยหานจะพูดเรื่องนี้ แต่ในใจของเธอกลับไม่คิดโต้แย้งใด ๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองเฟิงเยี่ยหานก่อนจะพูดว่า “เราควรคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่ก่อนนะ”

เฟิงเยี่ยหานได้ยินถังเซวี่ยพูดอย่างนั้น เขาก็รีบถาม “เสี่ยวเซวี่ย คุณไม่ว่าอะไรหรือ?”

“อื้ม ฉันไม่ติดขัดอะไรอยู่แล้ว”

ถังเซวี่ยยกยิ้ม “เราคบหากันมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือคะ? ทั้งการหมั้นหมายและการแต่งงานก็จะเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้ฉันก็ยังเรียนอยู่ เลยไม่รู้ว่ามันจะเร็วเกินไปไหม”

เฟิงเยี่ยหานรีบพูดรวดเร็ว “ไม่เร็วไปเลยสักนิด ผมจำได้ว่าวันเกิดของคุณคือเดือนห้า อีกไม่นานคุณก็จะอายุยี่สิบปีแล้ว การพูดคุยเรื่องแบบนี้ไม่ถือว่าเร็วเกินไปเลย”

ถังเซวี่ยได้ยินเฟิงเยี่ยหานพูดอย่างนั้น เธอก็หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ “คุณวางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว อย่างนั้นมาถามฉันทำไมเนี่ย?”

เฟิงเยี่ยหานกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมต้องถามก่อนสิ แล้วถ้าคุณเห็นด้วย ผมก็ค่อยไปพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ของคุณไง”

ถังเซวี่ยยกยิ้ม “อื้ม ฉันเห็นด้วย”

“ขอบคุณนะเสี่ยวเซวี่ย”

เฟิงเยี่ยหานพยายามระงับความดีใจ กอดถังเซวี่ยอย่างแผ่วเบา

อีกด้าน คุณย่าจิงพูดคุยกับจูรุ่ยเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในเมืองก่างเฉิง

“ทุกอย่างที่บ้านเรียบร้อยดีไหม”

จูรุ่ยยิ้ม “คุณย่าไม่ต้องกังวลค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นผู้ที่ดูแลตระกูลจู และคนที่เคยทำงานให้กับแม่ของฉันก็เริ่มกลับมาทำงานด้วยกัน บรรยากาศดีมากเลยค่ะ”

คุณย่าจิงพยักหน้ารับ เธอรู้สึกชื่นชมความเด็ดขาดของจูรุ่ยมาก

ส่วนจูรุ่ยที่ได้รับคำชมอย่างนั้นก็เขินอายเล็กน้อย

หลังจากพูดคุยกันไปสักพักใหญ่ จู่ ๆ คุณย่าจิงก็พูดขึ้นว่า “เสี่ยวรุ่ย อย่างนั้น… เธอกับเหวินรุ่ยหมั้นกันไว้ก่อนดีไหม ยังไงพวกเธอสองคนก็ไม่ใช่เด็กแล้ว”

จิงเหวินรุ่ยได้ยินย่าของตนพูดสิ่งที่อยู่ในใจของตนออกมา เขาก็หันมองจูรุ่ยอย่างคาดหวัง

เพราะเขาตัดสินใจที่จะคบกับจูรุ่ย หากได้แต่งงานเร็ว ๆ ก็คงจะดี แต่เขาก็ยังต้องเคารพการตัดสินใจของจูรุ่ยด้วย

จูรุ่ยตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่เธอก็คบกับจิงเหวินรุ่ยแล้ว และตอนที่จิงเหวินรุ่ยมาถึงเมืองก่างเฉิงเพื่อมาช่วยเหลือเธอ เวลานั้นเธอก็สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ปฏิเสธเขาอีก “ค่ะ พวกเราจะหมั้นกันไว้ก่อน”

จากที่คุณย่าจิงไม่ได้มั่นใจนัก ไม่ได้คิดว่าจูรุ่ยจะเห็นด้วย

พอได้ยินแบบนั้น คุณย่าจิงก็มีความสุข “เสี่ยวรุ่ย เธอพูดจริง ๆ หรือ?”

“จริงค่ะ”

จูรุ่ยหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ตอนนี้ฉันสามารถตัดสินใจทุกอย่างเองได้แล้ว งั้นเรามาเลือกวันที่เหมาะสมกันดีกว่าไหมคะ”

“นี่มัน… ดีจริง ๆ”

คุณย่าจิงคว้าเมิ่งผิงมาใกล้ก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้น “เอ้า เร็วเข้า เธอมีลูกสะใภ้แล้ว ก็รีบมาหาวันมงคลและจัดการเรื่องระหว่างจูรุ่ยกับเหวินรุ่ยเร็ว”

เมิ่งผิงเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน

เธออยากจะให้ลูกชายของเธอแต่งงานตั้งนานแล้ว แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทว่าในที่สุดลูกชายของเธอก็ได้ลงเอยกับใครสักคนเสียที เรื่องนี้ทำให้เธอมีความสุขมาก “เสี่ยวรุ่ยจ๊ะ เรามาเลือกวันหมั้นกันดีกว่า เอาเป็นเร็ว ๆ นี้เลยเป็นไง”

“ตกลงค่ะ”

ส่วนคุณปู่จิงและจิงซิวหรงที่อยู่ใกล้ ๆ ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะราบรื่นขนาดนี้ แต่ดีที่ทุกอย่างสามารถคลี่คลายลง พวกเขาจึงไม่ต้องพูดคุยมากนัก และพูดเกี่ยวกับการหมั้นหมายที่จะจัดขึ้นหลังจากนี้แทน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่มีความสุขมากที่สุดในเวลานี้คือจิงเหวินรุ่ย เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะประกาศข่าวดีของตัวเองให้ทุกคนรับรู้ และไม่นานจากนั้น ถังซวงและคนอื่น ๆ ก็ได้ทราบว่าจิงเหวินรุ่ยกำลังจะหมั้นกับจูรุ่ย

“พี่รอง เสี่ยวรุ่ย ยินดีด้วยนะ”

จูรุ่ยตอบรับด้วยรอยยิ้ม ขณะเดียวกันก็ดึงถังซวง ถังเซวี่ย และถังชุนหยานมาใกล้ ๆ “วันที่ฉันแต่งงาน พวกเธอจะต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวของฉันนะ”

ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนก็เผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

มันค่อนข้างจะเร็วไปหน่อยที่จะพูดถึงการแต่งงานทันทีหลังจากหมั้นหมาย

แต่จิงเหวินรุ่ยยกยิ้มหุบไม่ลง นี่มันหมายความว่าจูรุ่ยเองก็มีความคิดที่จะแต่งงานแล้วเหมือนกัน เขาหันมองถังซวงและคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้ม “พวกเธออย่าลืมล่ะ ต้องเป็นเพื่อนสนิทของเสี่ยวรุ่ยนะ”

เพื่อนเจ้าสาวเป็นคำที่มาจากเมืองก่างเฉิง แต่สำหรับเมืองหลวงยังใช้คำว่าเพื่อนสนิท

เฟิงเยี่ยหานรู้สึกอิจฉาจิงเหวินรุ่ยอยู่หน่อย ๆ… ดังนั้นหลังจากการเลี้ยงมื้อค่ำส่งท้ายปีเก่า ทุกคนก็นั่งอยู่ด้วยกันเพื่อรอเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตอนนี้เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับจิงเจ้อหรงและถังหลานเกี่ยวกับเรื่องของตนกับถังเซวี่ย

หลังจากจิงเจ้อหรงได้ยินว่าอีกฝ่ายจะหมั้นหมาย เขาก็ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด

“เสี่ยวเซวี่ยยังเด็กเกินไป ยังไม่ถึงเวลาที่จะหมั้นหมาย”

ถังหลานหันมองเฟิงเยี่ยหานพร้อมยกยิ้มกล่าวคำ “เสี่ยวเยี่ย เธอกังวลเพราะเห็นทุกคนหมั้นกันหมดแล้วใช่ไหมจ๊ะ? ความจริงแล้วเสี่ยวเซวี่ยก็ยังเด็กอยู่ เธอทั้งคู่อย่ากังวลเลยนะ”

“ป้าหลานครับ ผมอายุเท่ากับพี่รอง ถึงเวลาที่จะแต่งงานและเริ่มสร้างครอบครัวแล้วครับ”

แต่จิงเจ้อหรงก็ยังไม่เห็นด้วย ลูกสาวคนโตของเขาเพิ่งจะหมั้นหมายไป เขาเองก็อยากจะยืดเวลาของถังเซวี่ยออกไปอีกสักสองสามปี

ถังหลานคิดสักพักก่อนจะพูดว่า “เสี่ยวเยี่ย เดี๋ยวก็จะถึงวันเกิดครบรอบยี่สิบปีของเสี่ยวเซวี่ยแล้ว อย่างนั้นหมั้นกันหลังจากเธออายุครบยี่สิบปีดีไหม?”

แม้จะไม่ใช่การตัดสินใจในทันที แต่เฟิงเยี่ยหานก็รู้สึกมีความสุขมาก

“ครับ ผมเชื่อป้าหลาน”

จิงเจ้อหรงเห็นว่าภรรยาตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว เขาจึงไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรต่อ

วันหมั้นหมายของจิงเหวินรุ่ยกับจูรุ่ยถูกเลือกอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็คือวันที่สิบหกของเดือนแรก

“พี่รอง ยินดีด้วย เราจะกลับมาทันงานหมั้นของพี่แน่นอนค่ะ”

พวกเขาจะต้องไปเยี่ยมตระกูลถังในวันที่สอง และพักอยู่ตระกูลถังสองสามวันจึงจะกลับมา เมื่อถึงเวลานั้นก็ใกล้ถึงเวลางานหมั้นแล้ว

จิงเหวินรุ่ยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “อย่างนั้นฉันจะรอพวกเธอกลับมานะ”

เพราะมีเหตุการณ์น่ายินดีมากมายเกิดขึ้นในการฉลองเทศกาลปีใหม่ของตระกูลจิง บรรยากาศภายในบ้านจึงเต็มไปด้วยสีสันและความสุข ถังซวงไปที่บ้านตระกูลโม่เพื่ออวยพรปีใหม่ให้กับคุณปู่โม่และคนอื่น ๆ เมื่อหลินเหม่ยเจินเห็นว่าถังซวงมาเยี่ยม เธอจับมือถังซวงก่อนจะพูดอย่างร้อนรน “ซวงเอ๋อร์ หลังเธอกลับมาเมืองหลวงแล้ว ป้าจะเตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้รอนะจ๊ะ”

ถังซวงพยักหน้ารับ

หลังจากนั้น ถังซวงและคนอื่น ๆ มุ่งหน้าไปหาหลี่จงอี้ ตรวจสอบชีพจรของเกอชิงเหม่ยและมอบยาบำรุงทารกในครรภ์ไว้ด้วย

วันที่สองของเดือนแรก ถังหลานและครอบครัวออกเดินทางไปยังตระกูลถัง คราวนี้พวกเขาทั้งหมดพาฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยไปด้วย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท