ตอนที่ 1443 ถามสิ่งใดไม่รู้สักอย่าง
หมอหงไม่ใช่บ่าวรับใช้ของตระกูลไป๋ เขาคือผู้อาวุโสของคุณชายและคุณหนูตระกูลไป๋ทุกคน ไป๋ชิงเจวี๋ยจนปัญญาจริงๆ จึงได้แต่รอให้ไป๋ชิงเหยียนมาถึงและเกลี้ยกล่อมหมอหงด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นม้าออกมาจากประตูเมืองไป๋ชิงเจวี๋ยจึงเข้าไปต้อนรับทันที
ไป๋ชิงเหยียนสวมชุดนักรบสีดำขี่ม้านำอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน เมื่อไป๋ชิงเหยียนเห็นไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋จิ่นจื้อพาองครักษ์และคนติดตามมามากขนาดนี้จึงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
“พี่หญิงใหญ่!” ไป๋จิ่นจื้อเอ่ยเรียกด้วยความดีใจ สาวน้อยเข้าไปจับบังเหียนม้าแทนพี่สาว “พวกเราพร้อมแล้วเจ้าค่ะพี่หญิงใหญ่!”
“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋ชิงเจวี๋ยเดินเข้าไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน
หลูผิง เซียวรั่วเจียง เซียวรั่วไห่ เฉินชิ่งเซิงและหมอหงเดินตามไปเช่นเดียวกัน “คุณหนูใหญ่…”
“ท่านหมอหง หรู่ซยง ลุงผิง!” ไป๋ชิงเหยียนลงจากหลังม้า “เฉินชิ่งเซิง พวกท่านมาได้อย่างไรกัน”
“คุณหนูใหญ่จะเดินทางไปทำลายล้างแคว้นตงอี๋ พวกเราสองพี่น้องต้องติดตามไปด้วยขอรับ!” ใบหน้าของเซียวรั่วไห่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเคยเดินทางไปยังทะเลแถบนั้นมาก่อน อีกทั้งเคยไปแคว้นตงอี๋มาแล้ว ข้าคุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศแถวนั้นเป็นอย่างดี ที่สำคัญข้าพอกล่าวภาษาตงอี๋ได้บ้าง ข้าย่อมต้องตามไปช่วยแบ่งเบาภาระของคุณหนูใหญ่ขอรับ! หากข้าตามไปด้วยชุนเถาจะได้สบายใจมากขึ้นขอรับ” เฉินชิ่งเซิงกล่าวยิ้มๆ “หากคุณหนูใหญ่จากไปชุนเถาต้องร้องไห้จนน้ำตาเป็นเผาเต่าแน่ นางบอกว่าคุณหนูใหญ่ไม่ให้นางติดตามไปด้วย ข้างกายของคุณหนูใหญ่ไม่มีคนคอยดูแล หากข้าอยู่ต่อคงจมน้ำตาของชุนเถาแน่ขอรับ!”
เสิ่นชิงจู๋ที่ยืนอยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียนด้วยสีหน้าเรียบเฉยหลุดยิ้มออกน้อยๆ เมื่อได้ยินคำกล่าวของเฉินชิ่งเซิง น้ำตาของชุนเถาทำให้คนรับไม่ไหวจริงๆ ก่อนพวกนางจะเดินทางออกจากวังหลวงชุนเถายังถือสัมภาระตามมาด้วย กล่าวว่าอยากติดตามไปดูแลคุณหนูใหญ่ หากคุณหนูใหญ่ไม่สั่งให้ชุนเถาคอยดูแลคุณหนูน้อยทั้งสองแทนนาง ชุนเถาคงตามตื้อจะไปด้วยให้ได้แน่นอน
หมอหงกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย “การทำลายล้างแคว้นตงอี๋คือเรื่องใหญ่ ข้าติดตามเจิ้นกั๋วอ๋องออกรบมาหลายปี ข้าอยู่ตอนที่แคว้นสู่และแคว้นซีเหลียงถูกทำลาย วันนี้คุณหนูใหญ่จะเดินทางไปทำลายล้างแคว้นตงอี๋ข้าจึงต้องไปด้วยขอรับ มิเช่นนั้นเมื่อข้าไปพบเจิ้นกั๋วอ๋องในปรโลกแล้วเขาถามข้าว่าคุณหนูใหญ่ทำลายแคว้นตงอี๋ได้อย่างไร หากข้าตอบไม่ได้สักอย่างคงน่าอายมากขอรับ!
ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าหมอหงเป็นห่วงนางจึงอยากติดตามไปด้วย หญิงสาวมองไปทางหมอหงที่ผมและคิ้วต่างขาวโพลนหมดแล้ว นางส่งแส้ม้าในมือให้เว่ยจง จากนั้นโค้งกายคำนับหมอหง
หลูผิงซึ่งยืนถือดาบอยู่กล่าวยิ้มๆ “แม้แต่ท่านหมอหงยังตามไปด้วยก็คงขาดข้าไปไม่ได้ขอรับ! มีข้าเพิ่มไปอีกสักคนฮูหยินไป๋และคุณหนูคุณชายทุกคนจะได้วางใจมากขึ้นขอรับ!”
เซี่ยอวี่จั่งเคยติดตามไป๋ชิงเหยียนไปออกรบมาแล้ว ทว่า เขาเพิ่งเคยเห็นคนตระกูลไป๋ยืนกรานจะตามไป๋ชิงเหยียนไปยังสนามรบด้วยเป็นครั้งแรก เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนตระกูลไป๋จะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันถึงเพียงนี้!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นจักรพรรดิแห่งต้าโจวผู้นี้ไม่วางมาดจักรพรรดิเช่นเดียวกัน…
บ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของหญิงสาวยังคงเรียกนางว่าคุณหนูใหญ่!
“พี่หญิงใหญ่ ให้พวกท่านหมอหงตามไปด้วยเถิดขอรับ ให้พวกเขาอยู่ที่เมืองหลวงต่อพวกเขาก็คงไม่สบายใจขอรับ!” ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวแทนคนเหล่านั้น “หากพวกเขาติดตามไปด้วย ท่านป้าสะใภ้ใหญ่จะได้หายห่วงขอรับ”
“ข้ารู้ดีว่าคุณหนูใหญ่ชอบออกเดินทางโดยไม่นำกองทัพไปด้วยเหมือนเจิ้นกั๋วอ๋อง หากข้าติดตามไปด้วยอาจทำให้การเดินทางของคุณหนูใหญ่ล่าช้า!” หมอหงชี้ไปที่องครักษ์ไป๋สองนาย “นี่คือองครักษ์ของตระกูลไป๋ พวกเขาจะคอยคุ้มกันข้าเดินทางตามหลังคุณหนูใหญ่ไปอย่างช้าๆ คุณหนูใหญ่เดินทางล่วงหน้าไปก่อนโดยไม่จำเป็นต้องห่วงข้าขอรับ ข้าจะค่อยๆ ตามคุณหนูใหญ่ไปทีหลัง ไม่รบกวนการเดินทางของคุณหนูใหญ่แน่นอนขอรับ!”
“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางไป๋ชิงเหยียน
ท่านหมอหงกล่าวถึงเพียงนี้แล้ว พี่หญิงใหญ่จะปฏิเสธท่านหมอหงได้อย่างไรกัน
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลูผิงกับเฉิงชิ่งเซิง จากนั้นกล่าวขึ้น “ลุงผิง เฉินชิ่งเซิง พวกเจ้าสองคนนำองครักษ์คุ้มกันท่านหมอหงตามข้าไปยังชายฝั่งทะเลอย่างไม่ต้องรีบร้อน!”
“ไม่ได้ขอรับ!” หมอหงรีบปฏิเสธ “ข้าเป็นเพียงหมอ ไม่จำเป็นต้องให้หลูผิงกับเฉินชิ่งเซิงคุ้มกันขอรับ หลูผิงเป็นยอดฝีมือ เขาควรอยู่คุ้มกันข้างกายคุณหนูใหญ่ เฉินชิ่งเซิงคุ้นเคยกับทะเลแถบตงอี๋ เขาน่าจะช่วยคุณหนูใหญ่ได้มากขอรับ!”
“เช่นนั้นก็ให้ลุงผิงคุ้มกันท่านหมอหงคนเดียว หากท่านหมอหงยังปฏิเสธอีกข้าคงต้องส่งท่านกลับจวนเจิ้นกั๋วอ๋อง” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หมอหงจึงพยักหน้า “ขอรับ…”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางองครักษ์และองครักษ์ลับแวบหนึ่ง นางหันไปทำความเคารพหมอหง จากนั้นก้าวขึ้นหลังม้า “ออกเดินทาง!”
ไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋จิ่นจื้อและคนอื่นๆ ขึ้นหลังม้าและขี่ม้าตามหลังไป๋ชิงเหยียนมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งทะเลทันที
หลูผิงก้าวขึ้นหลังม้า ขบวนของเขาเพิ่งออกเดินทางได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้ามากมายวิ่งออกมาจากประตูเมืองทิศเหนือ หลูผิงหันกลับไปมองจึงเห็นทหารชุดดำกว่าห้าสิบนายขี่ม้าผ่านหน้าพวกเขาไป
หลูผิงจำได้ว่าผู้นำขบวนคือทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่ง!
ใต้เท้าต่งรู้ว่าคุณหนูใหญ่จะเดินทางไปทำลายล้างแคว้นตงอี๋จึงส่งทหารหน่วยกล้าตายเหล่านี้ไปลอบคุ้มกันคุณหนูใหญ่
หทารหน่วยกล้าตายเหล่านี้ไม่ได้ออกเดินทางตามคุณหนูใหญ่ไปทันที แสดงว่าพวกเขาคงอยากลอบติดตามไปคุ้มกันคุณหนูใหญ่อย่างลับๆ ทว่า เขาที่เพิ่งบังเอิญรับหน้าที่คุ้มกันท่านหมอหงติดตามขบวนไปอย่างช้าๆ เห็นเข้าพอดี
ใบหน้าของหลูผิงปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ ขึ้น ดีเหมือนกัน…มีทหารหน่วยกล้าตายยอดฝีมือของตระกูลต่งตามไปคุ้มกันคุณหนูใหญ่อีกกลุ่มเขาจะได้วางใจมากกว่าเดิม
ตั้งแต่ที่เฉิงหย่วนจื้อถูกคนของหานเฉิงอ๋องส่งกลับมาบนฝั่งจิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย
เฉิงหย่วนจื้อยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาเคยดูแคลนหานเฉิงอ๋อง เขาคิดว่าอ๋องตัวอ้วนกลมผู้นั้นออกมายอมจำนนกับต้าโจวเพราะกลัวตาย
เขาไม่นึกมาก่อนเลยว่าตอนที่เขาอาเจียนจนแทบทรงตัวไม่อยู่บนเรือกลางท้องทะเล อ๋องอ้วนกลมผู้นั้นจะทนลำบากได้มากกว่าเขา กระทั่งสั่งให้คนตีเขาจนสลบและพาตัวเขาจากไปในช่วงเวลาสำคัญ ส่วนตัวเองกลับเลือกที่จะพลีชีพเพื่อแคว้นในสงครามที่ไม่มีทางชนะเช่นนี้!
นี่มันไม่ถูกต้อง!
ตอนที่เฉิงหย่วนจื้อก้าวเท้าขึ้นไปบนเรือพร้อมหานเฉิงอ๋องเขายังคิดอยู่เลยว่าหากเกิดสงครามขึ้นเขาต้องเป็นผู้สั่งการแน่นอน หานเฉิงอ๋องผู้นั้นคงตกใจจนแทบฉี่ราด เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะให้คนตีหานเฉิงอ๋องจนสลบและให้คนพาตัวเขาจากไปจะได้ไม่ต้องเป็นตัวถ่วงของเขา
ทว่า เหตุใดสุดท้ายเจ้าอ้วนคนนั้นถึงได้พลีชีพเพื่อแคว้นเช่นนี้กัน
ไหนยังทหารเรือเหล่านั้นอีก ช่วงที่เขาอยู่บนเรือเขาเริ่มสนิทสนมกับทหารเรือเหล่านั้นแล้ว ทว่า สุดท้ายแล้วนอกจากทหารเรือสองคนที่พาตัวเขาจากมา…ทหารเรือคนอื่นๆ กลับไม่รอดชีวิตกลับมาเลยสักคน!