Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 252

ตอนที่ 252

แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ร่างของหลินหยูก็ร่วงลงกับพื้น เมื่อเขาล้มลงนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อ! จนกระทั่งจุดจบของชีวิต เขาคิดไม่ออกว่าหวงเสี่ยวหลงมั่นใจถึงขนาดใหนกถึงกล้าฆ่าเขาในเมืองปีศาจทมิฬ

“ศิษย์พี่สาม!”

“ศิษย์พี่สาม!”

เกาฉิงและหวูหงกังก็ดูมึนงงในขณะที่ร่างของหลินหยูหล่นลงไปกับพื้น แต่ในเวลานั้นพวกเขาก็ส่ายหัวอย่างและตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ซึ่งพวกเขาก็ได้แสดงหน่าสีหน้าน่าเกลียดออกมาในขณะทีพวกเขารีบวิ่งไปข้างหลินหยูและร้องไห้ออกมา

ไม่ว่าพวกเขาจะร้องไห้กี่ครั้ง ก็ไม่มีการตอบสนองจากหลินหยูเลยสักนิด

จากจุดอื่น หวงเสี่ยวหลงก็ค่อยๆเดินเข้าหาพวกเขาอย่างช้าๆ ซึ่งทำให้พวกเขาล้มลงด้วยความหวาดกลัว

หลังจากแอบลอบโจมตีเมื่อกี้ พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขานั้นไร้พลังที่จะหนีรอดจากเงื้อมมือของหวงเสี่ยวหลงได้

“ทำไมพวกเจ้าไม่คุกเข่ายอมจำนนแก่นายน้อยเล่า?!”ตู่ซินและเติงกวงเหลียงก็ก้าวออกมา ณ ช่วงนั้นและสั่งเกาฉิงและหวูหงกัง

ใบหน้าของเกาฉิงและหวูหงกังก็มีความลังเลและความหวาดกลัวสลับไปมา นี่พวกเขาไม่มีตัวเลือกจนกระทั่งต้องยอมจำนนแก่ชายหนุ่มผมดำคนนี้งั้นหรือ?

แต่ผลของการทรยศนิกาย่พอมนภานั้นคือ…!

อีกทางหนึ่งคือ หากเขาไม่ยอมจำนน มันก็มีแต่ต้องตายอย่างแน่นอน พวกเขาก็ใช้ดวงตามองไปที่ร่างอันเย็นเฉียบของหลินหยูที่อยู่บนพื้นไม่ห่างไกลไปจากพวกเขา

หวงเสี่ยวหลงยังคงอดทนรอการตัดสินใจของพวกเขาอย่างไม่รีบร้อน

“ดี ข้ายินดียอมจำนนและรับใช้เจ้าเป็นนายของข้า!”ไม่นานนัก เกาฉิงก้พูดออกมาด้วยแฝงความลังเล ในท้ายที่สุด เขาก็เลือกที่จะยอมจำนนแก่หวงเสี่ยวหลง และเลือกมีชีวิตอยู่ต่อ

หวูหงกังก็มองดูเกาฉิงยอมจำนน ทำให้ความมุ่งมั่นของเขาถูกสั่นคลอน จากนั้นเขาก็ถอนหายใจอยู่ภายในและพูดออกมาแบบเดียวกัน “ข้าก็เต็มใจยอมจำนนด้วยเหมือนกัน”

หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าพึงพอใจกับผลลัพธ์นี้

ไม่มีใครคนใหนอยากตาย ต่อหน้าตัวเลือกเป็นตาย ในหนึ่งหมื่นคน เก้าพันเก้ารอยเก้าสิบเก้าคนนั้นเลือกที่จะยอมจำนน ประนีประนอมและยอมแพ้

“เปิดเผยทะเลปราณของเจ้าซะ ข้าจะประทับตราจิตวิญญาณลงไว้”หวงเสี่ยวหลงก็สั่งการอย่างไม่แยแส

“ประทับตราจิตวิญญาณ!”เกาฉิงและหวูหงกังก็ตกตะลึงและหวาดกลัว

เคล็ดวิชาอย่างการประทับจิตวิญญาณนั้น เกาฉิงและหวูหงกังเคยได้ยินมาผ่านๆ พวกเขานั้นได้หันหน้าไปหาตู่ซินและเติงกวงเหลียง และในเวลานี้ ในที่สุดพวกเขาก็เข่ใจแล้วว่าทำไมศิษย์พี่ของพวกเขานั้นถึงรับใช้หวงเสี่ยวหลงอย่างเต็มใจ

“ถูกแล้ว ข้าได้ประทับตราจิตวิญญาณลงในทะเลปราณของพวกนั้น”พอสังเกตเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของพวกนั้น หวงเสี่ยวหลงก็พูดออกไป และคำพูดของเขานั้นก็เป็นการยืนยันถึงความสงสัยของพวกเขา

และแล้ว เกาฉิงและหวูหงกังก็ลังเลและสงสัยขึ้นอีกครั้ง

ในตอนแรก เกาฉิงและหวูหงกังก็มีความคิดเดียวกันกับที่ตู่ซินและเติงกวงเหลียงนั้นเคยมีในตอนแรก ตอนแรกพวกเขาจะแกล้งยอมจำนนต่อหวงเสี่ยวหลงและหาโอกาสจัดการหวงเสี่ยวหลงทีหลัง แต่ถ้าหากพวกเขาถูกประทับตราจิตวิญญาณหล่ะก็ ชีวิตของพวกเขานั้นจะต้องถูกหวงเสี่ยวหลงควบคุมไปตลอดชีวิต และพอถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเต็มใจรับใช้หวงเสี่ยวหลง

ไม่ว่าจะมีความคิดพุ่งขึ้นในมาใจของเขากี่ครั้ง ในท้ายที่สุดเกาฉิงและหวูหงกังก็ต้องเปิดทะเลปราณ เมื่อทั้งสองสลายกำแพงป้องกันทะเลปราณต่อหน้าหวงเสี่ยวหลงแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ได้ทำการผสมเคล็ดวิชาเชิดหุ่นโบราณและบัญญัติวิญญาณในการสร้างตราจิตวิญญาณและประทับลงในทะเลปราณของทั้งสอง

พอถึงขั้นนี้ ทั้งเกาฉิงและหวูหงกังก็อยู่ภายใต้การควบคุมของหวงเสี่ยวหลงอย่างเต็มที่ เมื่อเสร็จลง หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกโล่ง ถ้าหากทั้งสามคนปฏิเสธยอมจำนนหล่ะก็ เขาก็คงไม่มีทางเลือกนอกเสียกจากฆ่าทั้งสามคน และมันก็เป็นผลลัพธ์ที่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

หลังจากประทับตราจิตวิญญาณ หวงเสี่ยวหลงก็ได้เอาโอสถวิญญาณระดับ 6 มาให้ทั้งสอง พอเห็นโอสถวิญญาณระดับ 6 ในมือของตัวเอง เกาฉิงและหวูหงกังก็รู้สึกตื่นเต้น จากนั้นพวกเขาก็รีบทำความเคารพอย่างสุดซึ้ง

พอสั่งการให้ทั้งสี่จัดการศพหลินหยูและเรื่องอื่นๆ เขาก็บอกให้เกาฉิงและหวูหงกังกลับไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ดูเหมือนว่าข้าจะต้องเร่งแผนการให้เร็วขึ้นเสียแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ได้ครุ่นคิดกับตัวเอง

หวงเสี่ยวหลงได้บอกให้เกาฉิงและหวูหงกังจัดฉากการตายของหลินหยู และบอกคนภายนอกว่าหลินหยูนั้นได้ออกไปทำภารกิจ และบางทีเขาอาจจะไม่กลับมาสักพัก ด้วยวิธี เฉินเสี่ยวเทียนก็จะไม่รู้สึกสงสัยในตอนนี้แต่ถ้าหากผ่านไปนานกว่านี้หล่ก็ มันคงจะไม่ยากที่เฉินเสียวเทียนจะพบสิ่งผิดปกติ

ดังนั้นหวงเสี่ยวหลงจึงได้จะเข้าควบคุมผู้อาวุโสนิกายพ่อมดนภาคนอื่นใน 2 เดือน ซึ่งรวมไปถึงเกิงเคนด้วย!

แต่แล้วแม้ว่าเฉินเสี่ยวเทียนจะสงสัย แต่แผนการของเขาก็ได้ลุล่วงไปแล้ว เฉินเสี่ยวเทียนคนเดียวคงไม่สามารถทำอะไรได้นัก

ต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็ได้เข้าไปในหุบเขาเทวะซูมี่และทำการฟื้นฟูพลังจิตที่เหือดแห้งในขณะที่เขาบ่มเพาะเคล็ดวิชาซูมี่เทวะ เคล็ดวิชาเทพอสูร และพระคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น

5 วันต่อมา พลังจิตของหวงเสี่ยวลหงก็ฟื้นฟูขึ้นมาเต็มที่ จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ได้สั่งการให้ตู่ซินและเติงกวงเหลียงจัดงานเลี้ยงขึ้นอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เป็นการชวนเหล่าผู้อาวุโสนิกายพ่อมดนภามา

ตู่ซินและเติงกวงเหลียงนั้นเป็นศิษย์อาวุโสลำดับที่หนึ่ง และสอง ดังนั้น ในนิกายพ่อมดนภาทั้งสองคนจึงเป็นที่เคารพนับถือ ทำให้คำเชิญของพวกเขานั้นต่างได้รับการตอบรับและไว้หน้าซึ่งผู้อาวุโสในนิกายหลายคนก็ได้เข้ามาร่วมงานเลี้ยงนี้

คำเชิญของพวกเขานั้นไม่ได้ทำให้ผู้อาวุโสคนอื่นเกิดความสงสัย อย่างไรก็ตาม หวงเสี่ยวหลงก็ได้จำกัดจำนวนคนไว้ที่ 3คนต่อครั้ง

อาศัยความแข็งแกร่งของพลังจิตในปัจจุบันของเขานั้น ทำให้หวงเสี่ยวหลงประทับตราจิตวิญญาณลงในตัวพวกเขาได้เพียง 3 คนในเวลาเดียวกันเท่านั้น

20 วันต่อมา หวงเสี่ยวหลงได้ทำการประทับตราจิตวิญญาณลงในร่างของอาวุโสนิกายพ่อมดนภาทั้งหมด 18 คน ซึ่งได้รวม 4 คนนี้เข้าไปด้วยนั่นคือ––ตู่ซิน เติงกวงเหลียง เกาฉิง และหวูหงกัง ผู้อาวุโสนิกายพ่อมนภานั้นมีทั้งหมด 24 คน โดยมีผู้อาวุโส 18 คนยอมจำนนแก่เขา นั่นหมายความว่าหวงเสี่ยวหลงนั้นได้ควบคุมกำลังส่วนใหญ่ของนิกายแล้วซึ่งเหลืออยู่เพียงแค่ 6 คนเท่านั้นที่เขายังไม่ได้ควบคุม

อีก 10 วันข้าจะได้ควบคุมผู้อาวุโสในนิกายได้ทั้งหมด หวงเสี่ยวหลงก็ได้คำนวณในใจ

มาพอถึงจุดนี้ ทุกสิ่งอย่างก็ได้มาสู่บทสรุป

…..

ในเมืองปีศาจทมิฬทางด้านเหนือที่มีคฤหาสน์ยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งมันมีขนาดใหญ่มากกว่าคฤหาสน์ของตู่ซินและเติงกวงเหลียง กำแพงทั้งสี่ทิศนั้นเป็นสีแดงเพลิงและบนพื้นนั้นมีดอกไม้สีแดงเพลิงขนาดใหญ่เบ่งบางนับไม่ถ้วน

ภายในห้องโถงของคฤหาสน์แห่งนี้นั้นมีชายชราตัวเล็กแต่งชุดที่หรูหราสีแดงเพลิง ชายชราคนนี้นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้อาวุโสสูงสุดแห่งนิกายพ่อมดนภา เกิงเคน เขาเป็นชราตัวขนาดคนแคระที่ดูธรรมดามากๆ

“เมื่อกี้เจ้าบอกว่า ทุกๆ 5 วัน ตู่ซินและเติงกวงเหลียงได้จัดงานเลี้ยงและเชิญผู้อาวุโสนิกายเราครั้งละ 3 คนงั้นหรือ?”เกิงเคนก็ถามผู้อาวุโสนิกายพ่อมดนภา หวังเจียงที่อยู่ด้านข้างเขา

“ใช่แล้วขอรับ ท่านผู้อาวุโสสูงสุด”หวังเจียงก็พูดยืนยันอย่างเคารพ

เกิงเคนก็ขมวดคิ้วแน่น “แล้วเป้าหมายของพวกมันเล่า?”

หวังเจียงก็หัวเราะ “ในอีกสองเดือนจะเป็นวันที่นิกายพ่อมดนภาของเรานั้นจะส่งตัวแทนเข้าไปในสุสานพ่อมด ในความคิดของข้า พอถึงตอนนั้น พวกมันทั้งสองคงต้องการให้สนับสนุนและหวังจะให้เจ้าพวกนั้นช่วย พวกมันมีเทคนิคอะไรกันถึงทำสามารถทำแบบนั้นได้กัน?”

เกิงเคนก็ส่ายหัว “ข้ารู้สึกว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้นสิ ลองตรวจสอบเพิ่มดูว่า พวกมันพูดอะไรกับพวกผู้อาวุโสที่พวกมันได้เชิญไปกันแน่”

“ได้ขอรับ ท่านผู้อาวุโสสูงสุด”หวังเจียงก็ตอบรับด้วยความเคารพอย่างสูง

“ตู่ซินและเติงกวงเหลียงมันได้ชวนไปแล้ว 18 คน แต่ยังคงเหลืออยู่อีก 6คน” เกิงเคนพูดอกมาอย่างเคร่งขรึม “ถ้าหากไม่ผิดหล่ะก็ พวกมันจะต้องเชิญผู้อาวุโสอีก 3 คน และเมื่อพวกมันทำ เจ้าต้องมารายงานข้า”

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ท่านวางแผนจะทำอะไรงั้นหรือ?”หวังเจียงก็ถามออกมาอย่างระมัดระวัง

ดวงตาของเกิงเคนก็เปล่งประกาย “ข้าต้องการไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

5วันผ่านไป

หวงเสี่ยวก็ได้ออกมาจากหุบเขาเทวะซูมี่ การบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังจิตของเขา

นอกจากนี้ ในที่สุดเคล็ดวิชาเทพอสูรของหวงเสี่ยวหลงนั้นก็ได้ทะลวงเข้าสู่ระดับ 4 แล้ว พอออกมาจากมิติของหุบเขาเทวะซูมี่ หวงเสี่ยวหลงก็ได้ทำการไหลเวียนปราณเทพอสูร ทำให้เกิดรอยแยกตรงกลางหน้าผากและเผยให้เห็นดวงตาสีแดงราวกับโลหิตอันสดใส

เนตรนรก!!

หวงเสี่ยวหลงก็ใช้ดวงตาใหม่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆและทุกสิ่งอย่างภายในคฤหาสน์ซึ่งทำให้เขามองเห็นได้อย่างชัดเจน

แม้กระทั่งด้านหลังกำแพงหินไปหลายเมตร เขาก็ยังมองเห็นได้ชัด

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท