บทที่ 776 หลิงจูจื่อในรูปแบบนี้ (2)
“ท่านไป๋” หลี่ฉางโซ่วมองไปที่นักพรตเต่าวัยกลางคนที่กำลังเปล่งประกายเรืองแสงอยู่ตรงหน้าเขา
“ไฉนวันนี้ท่านถึงไม่แสดงทักษะการทำอาหารของท่านเล่า?
ข้าจะเชิญเจ้าสำนัก และผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ดูแลข้าในสำนักมาดื่มและพูดคุยกันด้วย”
ไป๋เจ๋อกล่าวอย่างมีความสุขว่า “ได้! ครั้งนี้ข้าต้องแสดงฝีมือของข้า!”
กล่าวจบ เขาก็หันหลังกลับและเดินตรงไปทางห้องครัวซึ่งมีพื้นที่ที่กำลังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทั้งร่างของสัตว์มงคลนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ฮึกเหิมจิตใจเบิกบาน
จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ขี่เมฆไปยังยอดเขาตันติ่งเพื่อเชิญปรมาจารย์อาวุโสว่านหลินหยุนเข้าร่วมงานเลี้ยง
ในขณะนี้ ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนอยู่ห่างจากทัณฑ์สวรรค์เซียนจินไปไม่ไกลแล้ว เขาน่าจะสามารถข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เซียนจินได้สำเร็จภายในหนึ่งถึงสองร้อยปี
และมันคงจะดีไม่น้อยหากเขายังได้สัมผัสกับกลิ่นอายลมปราณอันเป็นมงคลของสัตว์มงคลอีกด้วย…
แน่นอนว่า เขาไม่อาจเชิญท่านเจ้าสำนักด้วยตัวเองได้
เพราะในท้ายที่สุดแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็เป็นเพียงศิษย์ธรรมดาของสำนักตู้เซียน ยันต์หยกหนึ่งชิ้นก็เพียงพอแล้ว
ครึ่งชั่วยามต่อมา พวกเขาสองสามคนก็มารวมตัวกันที่ยอดเขาเฮยฉือ
ไป๋เจ๋อจัดงานเลี้ยง ส่วนหลิงเอ๋อแสดงดนตรีในขณะที่หลี่ฉางโซ่วและปรมาจารย์อาวุโสว่านหลินหยุนหารือเรื่องเต๋าหลอมโอสถและโอสถพิษในระหว่างงานเลี้ยงนี้
จากนั้นเจ้าสำนักจี้อู๋โหย่วก็เริ่มขันอาสา
เขาสวมผ้ากันเปื้อนที่หลี่ฉางโซ่วมอบให้ไป๋เจ๋อ แล้วเข้าไปในครัว ไป๋เจ๋อยังพบว่าเขางุ่มง่ามอยู่…
หากบรรดาศิษย์ของสำนักตู้เซียนได้เห็นเช่นนั้น พวกเขาคงจะปากอ้ากรามค้างด้วยความตกตะลึง
และหากปรมาจารย์เผ่าปีศาจที่กำลังตามหาไป๋เจ๋อได้เห็นภาพเหตุการณ์นั้น พวกเขาก็อาจจะโกรธแทบบ้าไปแล้ว…
……
ในวังที่ซ่อนอยู่ในภูเขาบริเวณขอบดินแดนเทวะอุดร นักพรตเต๋าลู่หยาเอามือไพล่หลังขณะที่กำลังเดินไปมาที่หน้าบัลลังก์บนแท่นสูง
มีปีศาจที่มีชื่อเสียงมากกว่าสิบตนกำลังนั่งอยู่บนแท่นสูง และพวกมันส่วนใหญ่ก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ใต้แท่นนั้น ราชาปีศาจสองสามตนกำลังตัวสั่นขณะนั่งคุกเข่าอยู่ในโถงตำหนัก…
“สวะ!”
ในตอนท้ายของแท่นนั้น ปีศาจชายที่มีรูปร่างเหมือนงูก็ส่งเสียงกรีดแหลมเสียดแทงหูของเขา และก่นด่าสาปแช่งราชาปีศาจหนุ่ม
“ให้เจ้าไปค้นหาว่าข่าวลือเกี่ยวกับจอมทัพไป๋เจ๋อมาจากที่ใดกัน?
ปีศาจน้อยนับหมื่นได้ถูกปล่อยกระจัดกระจายออกมาเพื่อค้นหาข้อมูล แต่สิ่งที่เจ้าได้รับและพูดมาก็แค่สองคำเท่านั้น
ไม่รู้ เช่นนั้นหรือ?
ดูเหมือนว่า เจ้าจะคุ้นเคยกับการเกียจคร้านหย่อนยาน ข้าต้องสั่งสอนเจ้าแล้ว!”
ราชาปีศาจรีบร้องตะโกนว่า “ไว้ชีวิตพวกเราด้วย! โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย ท่านผู้นำ!”
“ไม่ต้องถามถึงที่มาของข่าวลือ”
ปีศาจเฒ่าที่มีหัวแพะลูบเคราของมันกล่าวแล้วยิ้ม “ข้าคิดว่าคงมีคนต้องการล่อให้จอมทัพไป๋เจ๋อปรากฏตัวออกไปแทนที่จะหาจอมพลไป๋เจ๋อ”
ลู่หยาขมวดคิ้วและนั่งลงบนบัลลังก์ของเขา เขายกมือขึ้นโบกให้เหล่าราชาปีศาจด้านล่างเพื่อไล่พวกเขาออกไป
ปีศาจเฒ่าสองสามตัวต่างก็เคลื่อนไหวพร้อมกันและแยกโถงตำหนักออกจากโลกภายนอก
ลู่หยากล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “เป็นไปได้มากว่าจอมทัพไป๋เจ๋อน่าจะออกจากดินแดนเทวะทั้งห้าไปแล้ว
เขาไม่มีเจตนาแทรกแซงในเรื่องนี้ การที่เขาจะวางแผนให้เรานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“ฝ่าบาท!”
ผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงในตำนานแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจ ลู่กง กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และประสานมือคารวะ
เขาเอ่ยถามว่า “ก่อนหน้านี้ท่านไปหาจอมทัพไป๋เจ๋อ แล้วจอมทัพไป๋เจ๋อก็แนะนำให้เราหาทางแก้แค้นโดยใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของศาลสวรรค์
จากนั้นก็ใช้โอกาสนี้ขับไล่บรรดาทหารสวรรค์และต่อรองกับศาลสวรรค์…
แล้วจอมทัพไป๋เจ๋อบอกหรือไม่ว่าจะจัดการกับสถานการณ์ในยามนี้อย่างไร?
ไม่เพียงแต่ศาลสวรรค์จะไม่ส่งกองทหารมาเท่านั้น แต่พวกเขายังใช้คำพูดเพื่อทำลายขวัญกำลังใจของพวกเราอีกด้วย พวกเราได้แต่กำหมัดแน่นแต่ก็สู้กลับไม่ได้
เราสงสัยว่าเทพเฒ่าจันทราแห่งศาลสวรรค์นั้นก็ก่อปัญหาด้วยเช่นกัน!”
วิญญาณหมีขาวส่งเสียงร้องคำรามและกล่าวเสียงอู้อี้ว่า “ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา มีคู่รักสามคู่ในหมู่ลูกหลานของพวกเรา
พวกเขาทั้งหมดต่างก็เลิกรากันเพราะมีปีศาจตัวอื่นเข้ามาขัดขวางการแต่งงานของพวกเขา!
ข้าก็พิศวงนัก เหตุใดปีศาจชายจากตระกูลจิ้งจอกถึงชมชอบหลานสาวของข้าที่สูงใหญ่เท่าหมีสูงสิบฉื่อกว้างสิบฉื่อได้เล่า?
เขายังคงภักดีและมุ่งมั่นทุ่มเทยิ่ง แม้ตายก็ไม่แปรเปลี่ยน…”
“บางทีพวกเขาอาจจะชอบพอกันจริงๆ ก็ได้”
“ไม่ ไม่ เรื่องนี้ผิดปกติทีเดียว คู่รักทั้งชรา และหนุ่มสาวหลายคู่ล้วนหลุดลอยเลิกราไป”
ในที่สุด ปีศาจเฒ่าที่มีหัวจระเข้ก็ตอบสนอง
“ฮ่าๆๆ! สูงสิบฉื่อกว้างสิบฉื่อ!”
“หือ?” หมีขาวเฒ่าขมวดคิ้ว
“แค่กๆ ข้าคิดถึงบางอย่างที่ข้ามีความสุขได้”
“เจ้าหัวเราะเยาะเผ่าพันธุ์หมีของเราชัดๆ!”
หมีขาวลุกขึ้นยืน ร่างราวกับภูเขาของเขาแผ่พุ่งพลังลมปราณปีศาจพลุ่งพล่านออกมา!
“วันนี้ ข้าจะให้เจ้าปลาน้อยได้รู้ถึงพลังของหมี!”
“เจ้าเป็นปลา! ทั้งตระกูลของเจ้าเป็นปลา!
ข้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าปลามาก ข้าไม่กลัวเจ้า!”
“พอแล้ว!”
ลู่หยาตะโกนด้วยเสียงต่ำ และมีน้ำเต้าสีม่วงขนาดมหึมาปรากฏขึ้นในมือของเขา
ทันใดนั้นปีศาจเฒ่าทั้งสองที่กำลังจะต่อสู้ก็สงบลงทันที พวกเขาแค่นเสียงฮึดฮัดและกลับไปนั่งยังที่นั่งของตน
ลู่หยากระตุกมุมปากเล็กน้อยในขณะที่กล่าวอย่างสงบว่า “ส่งคนออกค้นหาแหล่งที่มาของข่าวลือเกี่ยวกับจอมทัพไป๋เจ๋อต่อไป อย่าสร้างปัญหา
เราทั้งคู่ล้วนรู้ดีว่า ศาลสวรรค์ได้รับการสนับสนุนจากจอมปราชญ์
หากเราไม่เริ่มโจมตีประตูสวรรค์ จะฆ่าทหารสวรรค์บางคน ก็ไม่เป็นไร
ทุกคน โปรดใช้ความยับยั้งชั่งใจและอดทนไว้ในช่วงเวลาสำคัญนี้
สิ่งที่เราต้องการก็คือ ให้ศาลสวรรค์รับรู้สถานะของเผ่าปีศาจโบราณในโลกบรรพกาล
หากเราสู้ตายกับศาลสวรรค์ ก็รังแต่จะพาเราไปสู่ความตายเท่านั้น
นอกจากนี้ จงดูดซับราชาปีศาจที่ไม่มีสายเลือดโบราณซึ่งอยู่รอบนอกต่อไป
ยิ่งมากยิ่งดี เมื่อถึงเวลา เราจะต้องใช้พวกมันเพื่อระงับโทสะของศาลสวรรค์”
………………………………………………………………..