Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 256

ตอนที่ 256

พอมองเห็นหวงเสี่ยวหลงเดินเข้ามาใกล้ หัวใจของเกิงเคนก็รู้สึกหนาวสั่นอย่างอธิบายไม่ได้

“ยอมจำนนต่อข้าหรือตาย!”หวงเสี่ยวหลงก็ค่อยๆพูดเน้นทีละคำและให้เวลาเกิงเคนคิดไตร่ตรอง

ใบหน้าของเกิงเคนก็ปรากฏขึ้นหลากหลายอารมณ์ จากวิธีที่หวงเสี่ยวหลงได้จัดการกับผู้อาวุโสนิกายพ่อมดนภาเมื่อกี้นี้ ทำให้เกิงเคนรู้ว่า ทันทีที่เขาส่ายหัว หวงเสี่ยวก็จะกำจัดการเขาทันทีโดยไม่ลังเล!

กำจัด!

เมื่อความคิดเรื่องความตายปรากฏขึ้นในใจของเกิงเคน ความหวาดกลัวก็ได้แพร่กระจายไปทั่วจิตใจของเขา

เขาได้ใช้ชีวิตมายาวนานและจำนวนผู้คนที่ตายในมือของเขานั้นก็ไม่น้อยไปกว่าหลักหมื่น!

ในตอนนั้น การมองดูศัตรูตะเกียกตะกายในความหวาดกลัวและความเจ็บปวดช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้น ทำให้ใจของเขารู้สึกมีความสุขและพึงพอใจต่อภาพตรงหน้าแบบนี้ แต่ตอนนี้ เมื่อเขาได้พบความตายที่อยู่ตรงหน้าด้วยตัวเขาเองนั้นจึงทำให้เขาเป็นอัมพาตเพราะหวาดกลัว

หวงเสี่ยวหลงได้มองเห็นอารมณ์มากมายที่ปรากฏบนใบหน้าของเกิงเคนอย่างเงียบๆและรอคอยการพูดตัดสินใจ

ปกติคนอย่างเกิงเคน––ที่ทะเยอทะยานและใฝ่หาอำนาจนั้นกลัวตายมากกว่าใครหลายคนซะอีก

และก็เป็นไปตามที่คาด เกิงเคนนั้นใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะยอมแพ้ “ได้ ข้ายอมจำนนต่อเจ้า!…ข้าสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเจ้า”

พอได้ฟังการยอมแพ้ของเกิงเคน ตู่ซินและเติงกวงเหลียงก็รู้สึกโล่งอกมา

อิทธิของเกิงเคนนั้นหยั่งรากลึกลงไปในนิกายพ่อมดนภาและโดยการที่เขาเลือกอยู่ข้างหวงเสี่ยวหลงนั้น เขาก็จะกลายเป็นคนที่ช่วยเหลืแหวงเสี่ยวหลงในการยึดครองนิกายพ่อมดนภาได้มากที่สุด

หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกโล่งอกอยู่ลับๆ ถ้าหากเกิงเคนดื้อดึงที่จะยอมแพ้หล่ะก็ ตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่ของเขานั้นก็คือการลบตัวแปรที่จะส่งผลเสียในแผนการของหวงเสี่ยวหลง

ซึ่งผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ 7 นั้นค่อนข้างจะสำคัญกับขุมกำลังอย่างนิกายพ่อมดนภา การใช้นิกายพ่อมดนภาเป็นหินหยั่งเท้านั้น จะทำให้เขาดำเนินการดูดกลืนสถาบันกลืนกินโลหิตได้อย่างราบรื่นขึ้น ดังนั้นชีวิตของเกิงเคนนั้นมีค่ามากกว่าตายเสียอีก

“ดี ตอนนี้ก็ปลดปล่อยทะเลปราณของเจ้ามาซะ ข้าจะทำการประทับตราจิตวิญญาณลงไป”หวงเสี่ยวหลงก็ได้สั่งการ

“ว่าไงนะ ตราประทับจิตวิญญาณ?”เกิงเคนก็ใบหน้าซีดเผือดหลังจากได้ยิน

ปฏิกิริยาของเกิงเคนนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากตู่ซิน เติงกวงเหลียงและผู้อาวุโสนิกายพ่อมดนภาคนอื่นๆเลย เมื่อพวกเขาได้ยินการประทับตราจิตวิญญาณ พวกเขาจะกังวลแทนที่จะเงียบสงบแบบเกิงเคน

“ใช่แล้ว ประทับตราจิตวิญญาณ”หวงเสี่ยวหลงก็พูดยืนยังอย่างสบายๆ

เกิงเคนก็มองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก ชายหนุ่มคนรู้เคล็ดวิชาการประทับตราจิตวิญญาณด้วยจริงๆ!

การประทับตราจิตวิญญาณ!

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงข่าวลือของมารนรกเมื่อ 600 ปีก่อน! พอจำได้ถึงตำนานเกี่ยวกับมารนรก เกิงเคนก็เหงื่อแตกพลั่กราวกับเขาได้มองเห็นประวัติศาสตร์อันโชกเลือดที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในไม่กี่ร้อยปีซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้พื้นปฐพีของโลกแห่งจิตวิญญาณต่อสู้ต่างเปียกโชกไปด้วยเลือดหลั่งนอง

แต่ในสุดท้าย เขาก็ยอมทำตามปลดปล่อยทะเลปราณแต่โดยดีเพื่อให้หวงเสี่ยวหลงประทับตราจิตวิญญาณ ไม่ว่าหวงเสี่ยวหลงจะกลายเป็นมารนรกคนที่ 2 หรือไม่นั้น เกิงเคนก็ไม่รู้และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะต้องใส่ใจ ในตอนนี้เขาทำได้เพียงยอมจำนนแด่หวงเสี่ยวหลง

หวงเสี่ยวหลงก็ได้ผ่อนคลายเต็มที่หลังจากที่เขาได้ประทับตราจิตวิญญาณลงในทะเลปราณของเกิงเคน ด้วยการควบคุมเกิงเคน ก็มีเพียงแค่เฉินเสี่ยวเทียนที่เหลืออยู่ เฉินเสี่ยวเทียนอาจจะเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ 7 ปลาย แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำเรื่องใหญ่โตอะไรได้

สามารถสรุปได้ว่าแผนการนั้นได้เข้าสู่ขั้นสุดท้ายแล้ว

อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลงก็ยังต้องระมัดระวังการกระทำ เขาเลยสั่งให้เกิงเคนกลับไปจับตาดูเฉินเสี่ยวเทียนและรายงานเขาทันทีถ้าหากเฉินเสี่ยวเทียนมีพฤติกรรมอันน่าสงสัย

พอเข้าใจคำสั่งของหวงเสี่ยวหลง เกิงเคนก็รับคำสั่งอย่างเคารพและออกไปจากคฤหาสน์ ก่อนหน้านั้น หวงเสี่ยวหลงก็ไม่ลืมเอายาโอสถวิญญาณระดับ 6 ให้เขา

จากนั้นหวงเสี่ยวก็หันไปหาตู่ซินและเติงกวงเหลียงและบอกให้พวกเขาจับตาดูการเคลื่อนไหวของสถาบันกลืนกินโลหิตและนิกายเก้าอสูร ทันทีที่ทั้งสองขุมกำลังเคลื่อนไหว พวกเขาจะต้องรายงานหวงเสี่ยวหลงทันที

พอตอบรับอย่างพร้อมเพรียง ตู่ซินและเติงกวงเหลียงก็ถอนตัวออกไปจากห้องโถง

เมื่อทั้งสองคนออกไปแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ได้เปิดการใช้งานหุบเขาเทวะซูมี่และเข้าไปในวิหารด้านใน ในนั้นเขาได้กลืนโอสถพุทธจักวาลและทำการบ่มเพาะเพื่อฟื้นฟูพลังจิต

10วันต่อมา พลังจิตของหวงเสี่ยวหลงก็ได้ฟื้นฟูกลับมาเต็มที่ ไม่เพียงแค่นั้น ทุกครั้งที่เขาใช้พลังจิตจนเกือบหมด เมื่อเขาบ่เมพาเพื่อฟื้นฟูมันก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม หวงเสี่ยวหลงก็ไม่รีบออกไปจากวิหารหุบเขาเทวะซูมี่แต่กลับเลือกอยู่บ่มเพาะต่อไป

ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขานั้นอยู่ที่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 6 กลาง-สูงสุดซึ่งใกล้จะทะลวงเข้าสู่ขั้นปลายแล้ว เมื่อเขาทะลวงเข้าสู่ขั้นปลาย การต่อสู้กับเฉินเสี่ยวก็จะใช้ความพยายามน้อยลง

ไม่ว่าหวงเสี่ยวหลงจะเร่งรีบหรืไม่ เขาก็รู้สึกว่าภายในเดือนนี้เขาจะสามารถบรรลุตามที่เขาปรารถนาไว้ได้ซึ่งก็คือการทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 6 ปลาย

หวงเสี่ยวหลงได้อยู่ในใจกลางของข่ายอาคมพระพุทธ 10 องค์ของหุบเขาเทวะซูมี่ เวลาได้ไหลผ่านไปในช่วงที่เขาบ่มเพาะเคล็ดวิชาซูมี่เทวะและในช่วงเวลานั้น ก็ได้มีพลังงานอันทรงพลังหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาในขณะที่เขาบ่มเพาะเคล็ดวิชาเทพอสูรและพระคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น

กลิ่นอายแห่งมักกรที่ปลดปล่อยออกมาจากมังกรคู่นั้นก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ปราณพุทธโบราณ และปราณโลกใต้พิภพ ปราณมังกรที่แท้จริง และปรษรแห่งโลกใบนี้ได้พุ่งใส่ร่างหวงเสี่ยวหลงราวกับพายุพัดใส่

ฮู่~~!

ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงหายใจเข้าออก ก็ได้มีคลื่นเกิดขึ้นรอบเขาตามจังหวะหายใจ ทุกครั้งที่เขาหายใจเข้า เขาสามารถสัมผัสได้ถึงรูขุมขนที่ทำหน้าที่ราวกับน้ำวนที่ดูซับสิ่งต่างๆเข้าไปข้างใน

หลายวันได้ผ่านไป

ใน๘ณะที่หวงเสี่ยวหลงจดจ่อกับการฝึกอยู่ในวิหารซูมี่นั้น ภายในห้องโถงหลักนิกายพ่อมดนภา เฉินเสี่ยวที่สูงกำยำก็กำลังสอบปากคำเกาฉิงและหวูหงกังด้วยความเย็นชา

ห้องโถงก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบงันที่น่าอึดอัด

ทั้งเกาฉิงและหวูหงกังก็ยืนอยู่ต่อหน้าเฉินเสี่ยวเทียนก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

“พูด ศิษย์พี่สามของเจ้านั้นหายไปตัวไปใหน!?”เฉินเสี่ยวเทียนก็ตะคอก “อย่ากล้ามาบอกข้าว่าศิษย์พี่สามของเจ้าออกไปทำภารกิจหล่ะ!”

เกาฉิงและหวูหงกังก็ก้มหน่และคุกเข้าอย่างหวาดกลัว

“พูด!”เฉินเสี่ยวเทียนก็ไล่ต้อนให้จนมุม

ทั้งสองคนก็ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด

“ตอบนายท่าน ความจริงแล้ว ศิษย์พี่สามนั้นไม่ได้ออกไปทำภารกิจ”ในตอนนี้ เกาฉิงก็ได้พูดออกมา “ศิษย์พี่สาม เขา เขาตายแล้ว!”

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?!”เฉินเสี่ยวเทียนก็กระโดดลุกขึ้นในขณะที่แรงกดดันอันมหาศาลระเบิดออกจาร่างราวกับน้ำท่วมฉับพลัน

“ข้า ข้าไม่ได้โกหกนายท่าน ศิษย์พี่สามตายแล้ว! มันฝีมือของสถาบันกลืนกินโลหิต ฉุยหมิง มันฆ่าศิษย์พี่สาม!”หวูหงกังก็กล่าวแทรก

“ฉุยหมิงแห่งสถาบันกลืนกินโลหิต!”ในดวงตาของเฉินเสี่ยวเทียนก็ได้เกิดประกายความดุร้ายกระพริบขึ้น “พูดออกมาซะ! ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน!”

ที่จริงแล้ว เรื่องนี้เป็นสิ่งที่หวงเสี่ยวหลงแต่งขึ้นมา เขาได้สั่งการให้เกาฉิงและหวุหงกังว่าถ้าหากวันหนึ่งเฉินเสี่ยวเทียนเกิดสงสัยในการตายของหลินหยู ก็ให้พวกเขาป้ายความผิดไปที่ฉุยหมิงแห่งนิกายกลืนกินโลหิต

ดังนั้น เกาฉิงและหวูหงกังจึงทำตามหน้าที่ที่หวงเสี่ยวหลงสั่งการและอธิบาย ‘ความจริง’ที่เกิดขึ้นให้เฉินเสี่วยเทียน

พอฟังสิ่งที่เกิดขึ้นจากศิษย์ทั้งสองของเขา ก็ได้มีประกายแสงกระพริบขึ้นในตาของเฉินเสี่ยวเทียน จากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นลังเลราวกับเขาไม่มั่นใจในความจริงของเรื่องนี้ “ข้าจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้แน่ใจ ถ้าหากข้าพบว่าพวกเจ้าทั้งสองโกหกข้า ฮืม!”

เกาฉิงและหวูหงกังก็รีบคำนับอย่างมั่นใจว่าเขาไม่กล้าโกหก

“แต่ เนื่องจากเจ้ารู้ว่าศิษย์พี่สามของเจ้าถูก ผู้แทนของสถาบันกลืนกินโลหิต ฉุยหมิงฆ่า ทำไมเจ้าถึงไม่รายงานเรื่องนี้มาก่อนเล่า?”เฉินเสี่ยวเทียนก็ระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันทีและส่งเกาฉิงและหวูหงกังลอยออกไปด้วยการฟาดมือใส่ “ไปรับบทลงโทษที่ห้องโถงวินัยซะ!”

ทั้งสองคนก็หลบหนีออกไปอย่างตื่นตระหนกหลังจากทำความเคารพเฉินเสี่ยวเทียน

ทันที หวงเสี่ยวหลงก็ได้รับข่าวเรื่องนี้

“เฉินเสี่ยวเทียนใอ้เฒ่านั้นเริ่มสงสัยแล้วงั้นหรือ?”หวงเสี่ยวหลงก็แสดงสีหน้าซุกซนออกมา

“นายน้อย พวกเรา…?”ก็ถามออกมาอย่างระมัดระวัง

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท