ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – บทที่ 796 การมาถึง (8)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 796 การมาถึง (8)

วี้ด วี้ด

บนยอดไม้นอกหน้าต่าง วิหควิญญาณสองตัวกำลังก็ร้องขับขานเบาๆ

ในห้องเดินหมากเล่นไพ่ บนยอดเขาหยกน้อย

หลิงเอ๋อร์ถือถ้วยชา นางก้มศีรษะลงแล้วจิบชาเบาๆ พลางพูดคุยถึงเคล็ดลับในการชงชากับจิ๋วอวี่ซือ ผู้ที่กำลังชงชา

ขณะนั้นจิ่วจิ่วก็จิบชาจากถ้วยของนาง แล้วปล่อยให้ชาหวานยังคงค้างอยู่ในปากของนางพลางพึมพำออกมา

“ข้าก็รู้สึกว่าไม่เลวเหมือนกัน

ว่าแต่ หลิงเอ๋อร์น้อย ช่วงนี้ศิษย์พี่ของเจ้ายุ่งเรื่องอะไรอยู่? ข้าเห็นค่ายกลใหญ่ที่หอโอสถถูกเปิดใช้งานมาหกเดือนแล้ว”

“ฝึกบำเพ็ญเจ้าค่ะ” หลิงเอ๋อร์ตอบเบาๆ

นางมองไปทางหอโอสถ และเห็นความเขียวขจีและกล่าวต่อว่า “บางที เขาอาจออกไปเพราะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น…”

“อืม? เขาออกไปเพื่ออันใดกัน? ”

“เขากำลังเก็บสมุนไพรและขายโอสถ” หลิงเอ๋อร์กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ แต่สายตาจ้องมองของนางนั้นดูห่างไกลออกไปเล็กน้อย

สายลมพัดมา พัดปลายเส้นผมและชายกระโปรงบางๆ ของนาง และยังรวมถึงระลอกคลื่นในหัวใจเต๋าของนางอีกด้วย

“ข้าได้รับการคุ้มครองจากศิษย์พี่ของข้ามาโดยตลอด”

ในขณะนั้น จิ่วจิ่วก็อดจะเอียงศีรษะไม่ได้

……

ในดินแดนเทวะอุดร บรรดาทหารสวรรค์จำนวนมากยังคงทะลักหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่องจากเสาแสงสีทองสองต้นที่พุ่งทะลุผ่านสวรรค์ยันปฐพี

มีร่างเงาดำแหวกว่ายอยู่ใต้พื้นผิวทะเล และเหล่าปรมาจารย์เผ่ามังกรก็ปรากฏตัวขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ

พวกเขาออกปฏิบัติการโจมตีในเวลาเดียวกันกับบรรดาทหารสวรรค์ที่สร้างค่ายกลขึ้นเพื่อสกัดกั้นและขับไล่กองทัพปีศาจที่จะโจมตี

ดูเหมือนว่าพวกเผ่าปีศาจจะถูกแบ่งแยกออกจากกัน พวกมันครึ่งหนึ่งหันไปต่อสู้โจมตีเหล่าทหารสวรรค์และเผ่ามังกร และอีกครึ่งหนึ่งก็บุกโจมตีภูเขาทมิฬ!

ในขณะนั้น ค่ายกลป้องกันบนภูเขาทมิฬเริ่มสั่นไหว และดูเหมือนว่า อีกเพียงชั่วครู่ มันก็จะทนคงอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว…

ตึ้ง!

เสียงตึ้งที่ควรเบามากนั้น มันชัดเจนมากในสถานการณ์การรบพุ่งที่มีเสียงดังอึกทึกและกว้างใหญ่นี้

เสี้ยวอักขระเต๋ามาจากทางทิศตะวันออกพร้อมกับสายลมโชย และแทบจะในพริบตา มันก็กวาดผ่านไปทั่วหัวใจเต๋าของทุกชีวิต…

อักขระเต๋านี้สงบสุข ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดลืมความโกรธและการต่อสู้แย่งชิงไปพักหนึ่ง

จากนั้นก็ราวกับว่า มีคลื่นบางๆ ผ่านไป อาบย้อมท้องฟ้าจนกลายเป็นสีฟ้าอ่อนและชำระล้าง ทำให้ไอปีศาจบริสุทธิ์และดับเพลิงแห่งกรรมร้ายได้ชั่วคราว

ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตที่นี่ก็มีพลังและมีความหวังเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย

ระหว่างทะเลสีครามและท้องฟ้าสีคราม มีสัตว์มงคลขนยาวสีขาวอ่อน กำลังเดินเล่นอยู่อย่างสง่างามจากขอบฟ้าบนรัศมีระลอกคลื่นที่กระเพื่อมอย่างช้าๆ

รูปร่างที่สวยงาม ดวงตาสีเหลืองอ่อน และขนยาวสีสันสดใสทั้งสามเส้นบนหน้าผากของมัน กำลังพลิ้วกระพือไปทางด้านหลัง

มันมีเขาเพียงเขาเดียวที่แผ่พุ่งอักขระเต๋าอันเงียบสงบออกมาอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา ซึ่งดูราวกับว่าจะกำลังเตือนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดให้หยุดต่อสู้ เอาชนะซึ่งกันและกัน

บัดนั้น เหล่าปีศาจพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที!

“ไป๋เจ๋อ…ผู้อาวุโสไป๋เจ๋อ! ผู้อาวุโสไป๋เจ๋อปรากฏตัวแล้ว!”

“เป็นจอมทัพไป๋เจ๋อของเรา!”

“สวรรค์จะไม่ทำลายเผ่าปราชญ์ของข้า สวรรค์จะไม่ทำลายเผ่าปราชญ์ของข้า! ฝ่าบาทผู้อาวุโสไป๋เจ๋อปรากฏตัวแล้ว!”

แม่ทัพลู่ที่กำลังร้องไห้ จู่ๆ ก็หยุดพูดไปชั่วขณะ

ปีศาจผู้โด่งดังในตำนานเบิกตากว้างขึ้น เขาอ้าปากค้างเล็กน้อย และชี้ไปที่สัตว์มงคล ไป่เจ๋อ ที่กำลังเดินเล่นมาจากขอบฟ้า และช่วงบนของลำคอของเขาก็ส่งเสียงแปลกๆ ดัง “โฮ่ โฮ” ออกมา

สามารถได้ยินสถานการณ์การรบในดินแดนเทวะอุดรทั้งหมด และในสถานที่ซึ่งมีอักขระเต๋าแห่งน้ำไหลเวียน ก็เงียบสงัด!

อารมณ์ต่างๆ ของเหล่าปีศาจจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนได้เปลี่ยนจากความตื่นเต้นไปสู่ความตื่นตกใจ ไปสู่ความเหลือเชื่อ และหวาดความกลัว

และแม้แต่หัวใจเต๋าของเผ่าปีศาจก็ยังสั่นสะท้านจนแทบจะแตกสลาย

“เป็นไปได้อย่างไรกัน! มันเป็นภาพลวงตา! นี่มันต้องเป็นภาพลวงตา!”

“เหตุใดผู้อาวุโสไป่เจ๋อถึงทิ้งพวกเราไป!?!!”

“ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย!

จอมทัพไป่เจ๋อจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร!

เขาจะกลายเป็นสัตว์พาหนะของเทพวารีไปได้อย่างไร!?! ”

สัตว์พาหนะ?

บนหลังของสัตว์มงคล ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วซึ่งมีหนวดเคราสีขาวและเส้นผมสีขาว กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่อย่างเงียบๆ

มีเจดีย์เสวียนหวงกำลังลอยอยู่เหนือศีรษะของเขาในขณะที่เขาถือไม้เฉียนคุนเอาไว้ในฝ่ามือซ้าย ใบหน้าของเขาดูเฉยเมยไร้อารมณ์ และเปลือกตาตกลง

เขาใช้มือขวา ตบหลังของไป๋เจ๋อเบาๆ ในขณะที่ ไป๋เจ๋อหยุดอยู่นอกการต่อสู้และก้มศีรษะลงเล็กน้อย

หลี่ฉางโซ่วลอยร่างลงมาและลุกขึ้นยืนจากท่านั่งของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ แขนเสื้อยาวของเขาพลิ้วไหว และเส้นผมสีขาวเงินของเขาก็ปลิวสะบัดเล็กน้อย

จากนั้นเขาก็ค่อยๆ วาดไม้เฉียนคุนในมือของเขา แล้วแสงสีทองก็ปกคลุมไปทั่วแผ่นฟ้า

ทันใดนั้นเสียงอันเงียบสงบของหลี่ฉางโซ่ว ฟังดูเหมือนเสียงฟ้าร้องอู้อี้ดังขึ้นในหูของพวกเผ่าปีศาจ

“ด้วยบัญชาแห่งสวรรค์”

………………………………………………………………..

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท