ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – บทที่ 819 การออกจากภูเขาของหลิงเอ๋อร์ (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 819 การออกจากภูเขาของหลิงเอ๋อร์ (2)

“นี่สำหรับท่าน แลกกับตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ซึ่งมีความเป็นมนุษย์ที่ข้าให้ท่านไป”

หลี่ฉางโซ่วมอบป้ายคำสั่งของท่านเจ้าสำนักผู้ว่างเปล่า[1]ให้กับหลิงเอ๋อร์ และหลิงเอ๋อร์ก็หยิบตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ออกมาจากแขนเสื้อของนางและส่งคืนให้ศิษย์พี่ของนาง

“ศิษย์พี่ ข้าจะลงจากภูเขาตอนนี้แล้วเจ้าค่ะ”

นางหยักโค้งมุมปากขึ้นเล็กน้อย และดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ

หลี่ฉางโซ่วกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนว่า “เมื่อเจ้าออกจากสำนักด้วยป้ายคำสั่งนี้ จะไม่มีใครทำเรื่องยากให้เจ้า

เจ้าไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้ผู้อื่นฟัง และจงอย่าเปิดเผยตำแหน่งที่อยู่ของเจ้าง่ายๆ

จำไว้ว่า ทันทีที่เจ้าออกจากยอดเขาหยกน้อย เจ้าจะต้องพึ่งพาตัวเองในทุกๆ เรื่อง”

“ศิษย์พี่ไม่ต้องห่วง ข้ารู้แล้วเจ้าค่ะ!” หลิงเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึก และดึงตัวเองเข้าหากัน

นางประสานมือและโค้งคารวะให้หลี่ฉางโซ่วก่อนที่จะโค้งคารวะให้ฉีหยวน ท่านอาจารย์ของนาง

“ศิษย์ไปแล้วเจ้าค่ะ!”

จากนั้นนางก็หันหลังและขี่เมฆก้อนหนึ่ง บินไปทางประตูภูเขาเพื่อออกไปจากสำนัก

“เฮ้อ…”

ฉีหยวนมองไปที่แผ่นหลังของหลิงเอ๋อร์ และถอนหายใจ

“พริบตาเดียว หลิงเอ๋อร์ก็สามารถลงจากภูเขาเพื่อออกไปฝึกฝนได้แล้ว ครั้งแรกที่ข้าพานางกลับมา นางยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลย

ฉางโซ่ว ฐานพลังของนางเพียงพอหรือไม่? การไปยังสถานที่ที่เราสังหารเหล่าปีศาจนั้นอันตรายหรือไม่? เจ้าพร้อมที่จะแอบปกป้องนางอยู่ลับๆ แล้วหรือไม่?”

“ขอท่านอาจารย์โปรดอย่ากังวล” หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “แม้ศิษย์จะไม่อาจกล่าวได้ว่ามันจะไม่มีภัยอันตรายใดๆ ได้ แต่ศิษย์ก็จะพยายามปกป้องหลิงเอ๋อร์อย่างสุดกำลังขอรับ”

ฉีหยวนกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้ารู้ว่า ตอนนี้เจ้าเก่งกาจเลิศล้ำยิ่ง แต่เจ้าก็มีศิษย์น้องหญิงคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น”

“ได้ ได้ขอรับ ท่านอาจารย์ ท่านไม่ต้องกังวล” หลี่ฉางโซ่วโค้งคำนับเล็กน้อยและกล่าวให้คำรับรองเต็มที่

เพียงเท่านั้น นักพรตเต๋าชราฉีหยวนก็รู้สึกโล่งใจผ่อนคลายลง จากนั้น เขาจึงหันหลัง และกลับไปที่กระท่อมมุงจากเพื่อ… ฝึกบำเพ็ญต่อไป

จากนั้น ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วก็กลับไปที่หอโอสถ และปล่อยสัมผัสเซียนรับรู้ของเขาตรึงอยู่บนร่างของหลิงเอ๋อร์

หลังจากที่หลิงเอ๋อร์บินออกจากสำนักไปได้อย่างราบรื่น หลี่ฉางโซ่วก็เบนจิตสนใจของเขาไปที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์คนขับรถม้าภายนอกสำนัก

ครั้นเมื่อสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของหลิงเอ๋อร์ เขาจึงใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายเพื่อติดตามนางไปอย่างมั่นคงเรื่อยๆ

กองทัพตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ธรรมดาของหลิงเอ๋อร์ถูกโจมตี!

……

ลูกนกตัวน้อยต้องเรียนรู้ที่จะสยายปีกและบินเอง และหมู่เมฆก็ต้องล่องลอยออกไปจากจุดกำเนิดของมันเองเสมอ

หลี่ฉางโซ่วไม่ต้องการให้หลิงเอ๋อร์ออกจากข้างกายเขา เขาเพียงต้องการให้หลิงเอ๋อร์มีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นเท่านั้น

แม้ว่าสภาพการณ์ต่างๆ จะเอื้ออำนวย และหลิงเอ๋อร์ก็แข็งแกร่งและระมัดระวังตัวเพียงพอ มันคงเป็นความรัก ความใฝ่ฝันแบบโบราณที่นางต้องเดินทางท่องเที่ยวไปเป็นเวลานานนับพันปีเหมือนกับท่านปรมาจารย์ใหญ่ เจียงหลินเอ๋อร์ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยหันหลังกลับไปยังสถานที่ต้นทางที่นางจากมาเพราะคนคนเดียวและเรื่องเดียว

ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการปล่อยให้หลิงเอ๋อร์ออกไปดูโลก การได้ฝึกบำเพ็ญอยู่ในภูเขาและเข้าสู่ระยะปล่อยวางของชีวิตล่วงหน้านั้น จริงๆ แล้วมันก็ไม่ยุติธรรมกับหลิงเอ๋อร์เลย

แต่หลี่ฉางโซ่วก็ตัดสินใจที่จะปล่อยให้หลิงเอ๋อร์ออกไปฝึกฝนมานานพอสมควรแล้ว และเขาก็ได้พิจารณาถึงผลที่ตามมาต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบแล้วจึงตัดสินใจ

นางไม่ใช่ลูกน้องที่ผูกติดขึ้นอยู่กับใคร และนางก็ไม่ควรเป็นเครื่องประดับด้วยเช่นกัน

นางควรเข้าใจว่า โลกไม่ได้จำกัดอยู่แต่เพียงสิ่งที่นางเห็นอยู่ตรงหน้าเท่านั้น ยังมีทางเลือกมากมายหลายอย่างในชีวิตอีกด้วย

แน่นอนว่า การเลือกคู่บำเพ็ญเต๋าก็จะต้องเรียบง่ายและบริสุทธิ์

หลี่ฉางโซ่วรู้สึกขัดแย้งเล็กน้อยด้วยเกิดความคิดที่ค่อนข้างซับซ้อนและยุ่งเหยิง แล้วตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วตัวหนึ่งก็ไปที่ยอดเขาเฮยฉือ และ… เริ่มแอบสังเกตอย่างลับๆ อยู่ร่วมกับไป๋เจ๋อ

ห่างจากสำนักไปสองพันลี้ บัดนี้นางได้บินออกไปจากเขตชายแดนที่กำหนดของสำนักแล้ว

หลิงเอ๋อร์ขี่เมฆและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า นางเผยแผ่สัมผัสเซียนรับรู้ของนางให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้และยังคงระมัดระวังตัว

มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องฝึกฝน แต่มันสำคัญกว่าในการทำให้ศิษย์พี่พอใจ!

นางไม่สามารถสูญเสียสิ่งใดไปได้เพียงเพราะมีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้น…

“ช่วยด้วย!”

ทันใดนั้น ก็มีเสียงตะโกนอย่างเร่งรีบที่ถูกนำกลับมาด้วยเวทวายุวัจน์

สัมผัสเซียนรับรู้ของหลิงเอ๋อร์ยังได้สังเกตเห็นค่ายกลอำพรางหยาบๆ อยู่ที่บริเวณชายป่าแห่งหนึ่งอีกด้วย

จากนั้นหลิงเอ๋อร์ยังได้รวบรวมสัมผัสเซียนรับรู้ของนางและมองทะลุผ่านกำแพงค่ายกลไปได้อย่างง่ายดายราวกับสายน้ำไหล และทันใดนั้นหลิงเอ๋อร์ก็เห็น… ภาพเหตุการณ์ที่ไม่อาจทนรับได้ไหว

มันเป็นภาพเหตุการณ์ของการฝึกบำเพ็ญเซียนขั้นพื้นฐานสุดๆ!

เซียนบุรุษ ซึ่งมีระดับฐานพลังอยู่ที่เซียนเสิ่นกำลังรังแกเซียนสตรี ซึ่งอยู่ในขอบเขตเซียนหยวน

ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้มาถึงขั้นร้องตะโกนแล้ว “ร้องสิ เจ้าร้องสิ หากเจ้าร้องตะโกนดังกว่านี้ ก็จะมีคนมาช่วยเจ้า”

หลิงเอ๋อร์เงียบงันกะทันหันพร้อมด้วยหน้าผากเรียบเนียนของหลิงเอ๋อร์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเส้นสายสีดำทันที

นางขี่เมฆบินวนไปรอบๆ สถานที่แห่งนั้นท่ามกลางหมู่เมฆอย่างเงียบๆ และคิดอยู่ตลอดเวลาว่า นี่ไม่ใช่เซียนบุรุษที่หมิ่นหยามเซียนสตรี ทว่า…

ศิษย์พี่กำลังดูถูกสติปัญญาของข้า!

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นี่เป็นกรณีศึกษาในการสอนของศิษย์พี่อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าขอบเขตพลังของกรณีนี้แตกต่างกันเล็กน้อย

ท่านกำลังทำอะไร? ตอนนี้ท่านมาถึงขั้นเล่นกับอารมณ์แล้วหรือ?

หลิงเอ๋อร์ส่ายศีรษะในใจ แต่ยังมีสีหน้าลังเลอยู่พอควร

ทันใดนั้น หลิงเอ๋อร์ก็มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในใจ ดวงตาที่ฉายแววสิ้นหวังและเดือดดาลใจของเซียนสตรีนั้น ยังคงปรากฏขึ้นอีกครั้งในใจของนาง

นั่นทำให้หลิงเอ๋อร์ตกอยู่ในภาวะลำบากใจที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อย

ศิษย์พี่จะใช้กลอุบายที่โหดร้ายหยาบช้าเช่นนี้ได้จริงๆ หรือ?

ไม่ เซียนบุรุษผู้นั้นกระทำสิ่งที่เลวร้ายถึงเพียงนี้ แล้วเขาจะไม่สร้างค่ายกลกั้นเสียงได้อย่างไร?

หัวใจเต๋าของเซียนบุรุษผู้นั้นบิดเบี้ยวในค่ายกลอำพรางหยาบๆ เช่นนี้หรือ? เขาอยากให้ใครมาเห็นเขาหรือไม่?

มีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่า ความจริงแล้ว นี่เป็นการทดสอบที่ศิษย์พี่ของนางได้จัดเตรียมไว้

ทว่าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเล่า…

………………………………………………………………..

[1] เจ้าสำนักจี้อู๋โหย่ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท