Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 272

ตอนที่ 272

“เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ?!”ฮูหานก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ภายในพริบตาเดียวร่างของเขาก็ได้หายไปจากบัลลังก์และมาโผล่ขึ้นด้านหน้าศิษย์นิกายเก้าอสูร เขายื่นมือทั้งสองออกไปและจับคอเสื้อของศิษย์คนนั้นยกขึ้นในขณะที่เขาได้ปลดปล่อยจิตสังหารอันหนาแน่นออกมาจากร่างราวกับพายุเฮอริเคน

ศิษย์นิกายเก้าอสูรคนนั้นก็หน้าซีดเซียวเพราะความหวาดกลัว

“นาย––นายน้อย เขา เขา…”ศิษย์คนนั้นก็พูดตะกุตะกัก

ความโกรธของฮูหานก็เพิ่มมากขึ้น เขาได้โจมตีใส่ศิษย์เพราะมัวรีรอ ฝ่ามือของฮูหานได้ซัดเข้าใส่หน้าอกของศิษย์คนนั้น ทำให้ศิษย์คนนั้นไถลไปตามพื้นจนไปถึงมุมห้องโถงและได้พุ่งชนเสาหินและหยุดอยู่ตรงนั้น

พอถูกฮูหานไนโจมตี ศิษย์คนนั้นก็พยายามลุกกขึ้นขึ้นคุกเข่าและขอความเมตตา “ท่านประมุข โปรดเมตตา ท่านประมุข โปรดเมตตา อ่า!”

ฮูหานก็พูดออกมาอย่างรวดเร็ว “พูด รายละเอียดเหตุการณ์ให้ชัดเจน!”ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องการจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นหล่ะก็ เขาคงได้ฆ่าศิษย์คนนี้ด้วยการโมตีนั้นไปแล้ว

“ขอรับ ขอรับ ท่านประมุข!”ศิษย์นิกายเก้าอสูรคนนั้นก็รีบตอบออกมาด้วยความกลัวในขณะที่เล่าเรื่องราวที่เขารู้อย่างละเอียด

พอได้ยินว่ามีชายหนุ่มชกใส่หน้าอกลูกชายของเขาและส่วนล่างถูกตอน ใบหน้าของอูหานก็แข็งค้าง แต่เมื่อเขาได้ยินว่าหลังจากหลินชวงและผู้อาวุโสอีก 3คนไปถึง หลินชวงก็ได้รับบาดเจ็บจากชายหนุ่มคนนี้ด้วยการชกหมัดครั้งเดียวแต่ทว่าผู้อาวุโสอีก 3 คน ซูเกา เฉินเนียนหัว และลู่ยี่กลับถูกโค่นล้มพร้อมกันโดยเพียงแค่ฝ่ามือเดียว ทำให้ฮูหาน ซูเหมยเหมย และผู้อาวุโสที่อยู่ในห้องโถงต่างแสดงสีหน้าตกตะลึง

ศิษย์นิกายเก้าอสูรคนนั้นก็พูดออกมาต่อด้วยเสียงสั่นๆ “หลังจากชายหนุ่มผมดำทำร้ายผู้อาวุโสทั้งสี่แล้ว เขาก็ปาดคอทั้งสี่ด้วยดาบ ผู้อาวุโสหลินชวงและผู้อาวุโสคนอื่นนั้นได้ตายก่อนที่พวกเขาจะมีเวลาหลบหนีเสียอีก”

ใบหน้าของฮูหานก็กลายเป็นหน้าเกลียดและได้แสดงแววตาอันประหลาดใจที่ไม่สามารถปกปิดได้ขึ้นในขณะที่เขาฟังเรื่องราวนี่

“หลังจากนั้นหล่ะ?”ฮูหานก็ได้ถามออกมาอย่างจริงจัง

“หลังจากฆ่าผู้อาวุโสทั้ง4คน ชายหนุ่มผมดำคนนั้นก็ลากนายน้อยไปทางศูนย์หลักนิกายพ่อมดนภา”ศิษย์คนนั้นก็รีบตอบออกมา

“ศูนย์หลักนิกายพ่อมดนภา?”ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงหลักก็มึนงงง

“หรือว่าชายหนุ่มผมดำคนนี้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนที่ประมุขนิกายพ่อมดนภา เฉินเสี่ยวเทียนจ้างมา?”

“ไม่ว่าเขาจะเป็นหรือไม่ ชายหนุ่มคนนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายพ่อมดนภาอย่างแน่นอน”ผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรก็เริ่มแสดงความคิดออกมาทีละคนในขณะที่ใบหน้าของฮูหานเศร้าหมองขึ้นเรื่อยๆ

เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามจะทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มผมดำและนิกายพ่อมดนภา ถ้าหากชายหนุ่มผมดำเป็นคนที่เฉินเสี่ยวเทียนจ้างหล่ะก็ แล้วการที่พวกมันจับตัวลูกชายของเขาไปนั้นหมายความว่าอย่างไรกัน? หรือว่านิกายพ่อมดนภาจะประกาศสงครามกับนิกายเก้าอสูร?”

ซูเหมยซูเหมยก็ครุ่นคิดเรื่องไปในขณะที่เธอนั่งอยู่เงียบๆบนเก้าอี้โดยไม่พูดไม่จา

“ท่านประมุข ไม่ว่าใอ้สารเลวนั้นจะเป็นใคร เนื่องจากนายน้อยถูกพาตัวไปที่ศูนย์หลักนิกายพ่อมดนภา งั้นเราก็ควรจะไปนิกายพ่อมดนภาแล้วช่วยเหลือนายน้อยทันที!” ณ จุดๆนี้ ก็ได้มีหนึ่งในผู้อาวุโสลุกยืนขึ้นแสดงความคิดเห็น

ดวงตาของฮูหานก็เปล่งประกายขึ้น

“รองประมุข ท่านคิดว่าอย่างไร?”ฮูหานหันหน้าไปสอบถามรองประมุขซูเหมยเหมย

ซูเหมยเหมยก็พูดออกมาอย่างจริงจัง “ท่านประมุข ก่อนอื่นส่งคนไปบอกประมุขนิกายพ่อมดนภาเฉินเสี่ยวเทียนให้ส่งตัวนายน้อยมาในขณะที่ท่านส่งคนไปตรวจสอบตัวตนของชายหนุ่มผมดำ”

ฮูหานก็พยักหน้า ความคิดของเขานั้นเหมือนกับที่ซูเหมยเหมยคิด การโมตีศูนย์หลักนิกายพ่อมดนภาโดยไม่รู้ถึงตัวตนของชายหนุ่มผมดำนั้นไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย ก่อนออื่น ต้องตรวจสอบพื้นหลังของชายหนุ่มผมดำแล้วค่อยกำจัดเขาและนิกายพ่อมดนภาก็ยังไม่สายเกินไป!

ฮูหานก็ได้สั่งผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรคนหนึ่งมุ่งหน้าไปนิกายพ่อมดนภาแล้วบอกเฉินเสี่ยวเทียนให้ส่งลูกชายเขา ฮูแง คืนมาในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ส่งคนไปตรวจสอบเรื่องชายหนุ่มผมดำ

อย่างไรก็ตาม ไม่นาน ผู้อาวุโสที่ฮูหานส่งออกไปก็กลับมาพร้อมกับมีรอยคาบเลือดติดอยู่ชุดพร้อมกับมีแผลบนหน้าอก นอกจากนี้ เขานั้นได้กลับมาคนเดียว พอเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรทั้งหมดก็กำหมัดอย่างโกรธเกรี้ยว แลถใบหน้าของฮูหานที่หมองหม่นนั้นมืดครึ้มกว่าเดิมอีก

“ท่านประมุข เฉินเสี่ยวเทียน บอกว่าถ้าหากต้องการนายน้อยกลับมา ท่านต้องไปศูนย์หลักนิกายพ่อมดนภาด้วยตัวท่านเองและ……คุกเข่าขอร้องต่อหน้าเขา”ขณะที่ผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรคนนั้นกลับมาที่ห้องโถง เขาก็พูดออกมาโดยไม่มีใครถาม

“ว่าไงนะ?!”ผู้อาวุโสนิกายที่อยู่ในห้องโถงต่างก็โกรธเกรี้ยว

“เฉินเสี่ยวเทียนคนนี้ช่างจองหองจิรงๆ!”

“ท่านประมุข พวกเรารีบไปที่ศูนย์หลักนิกายพ่อมดนภาแล้วช่วยเหลือนายน้อยตอนนี้กันเถอะ!”

“ใช่แล้ว ช่วยเหลือนายน้อยและทำลายนิกายพ่อมดนภา จับตัวเฉินเสี่ยวเทียนให้มาคุกเข่าต่อหน้าท่านประมุข!”

“เขาคิดว่ามีชายหนุ่มผมดำช่วยมัน แล้วนิกายเก้าอสูรของเราจะไม่กล้าทำอะไรมันหรือไง!”

“ทำลายนิกายพ่อมดนภา!”

“ทำลายนิกายพ่อมดนภา!”

ผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรทุกคนต่างตะโกนเสียงกึกก้อง

ฮูหานรู้สึกเจ็บใจในขณะเดียวกันในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยจิตสังหารอันหนาแน่นที่ปะทุขึ้นมา

เขา คือประมุขนิกายเก้าอสูร เจ้าเมืองแห่งเมืองปีศาจทมิฬ ด้วยพลังทั้งหมดที่เขามีในเมืองปีศาจทมิฬแห่งนี้ เขาไม่เคยรู้สึกเดือดร้อนแบบนี้มาก่อน! ในอดีต แค่เพียงเขากระทืบเท้า มันก็พอจะทำให้เฉินเสี่ยวเทียนกลัวจนฉี่ราด

พอผ่านไปสักพัก ฮูหานก็ได้ระงับจิตสังหารที่ปะทุขึ้นในใจของเขา จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นเพื่อให้ทุกคนใจเย็น เมื่อห้องโถงหลักกลับมาเงียบ เขาก็ได้มองทุกใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าของเขา จากนั้นเขาก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริง “นิกายพ่อมดนภาจะต้องถูกล้างบาง เฉินเสี่ยวเทียนและชายหนุ่มผมดำนั่นจะต้องตายแต่ไม่ใช่ตอนนี้!”

ยิ่งเฉินเสี่ยวเทียนทำตัวแบบนี้ ยิ่งทำให้ฮูหานหวาดระแวงมากขึ้น

“บอกให้พวกนั้นเร่งการตรวจสอบเรื่องของชายหนุ่มผมดำ” ฮูหานก็มองไปที่ซูเหมยเหมย “แล้วก็นอกจากชายหนุ่มผมดำนั่น ก็ตรวจสอบว่านิกายพ่อมดนภามีผู้เชี่ยวชาญแอบปกป้องอยู่หรือไม่!”

“รับทราบ ท่านประมุข”ซูเหมยเหมยก็ยืนขึ้นและทำความเคารพ

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสที่กลับมาจากนิกายพ่อมดนภาที่เต็มไปด้วยคราบเลือดก็เปิดปากพูดออกมาหลังจกลังเลไปชั่วขณะ “ท่านประมุข เฉินเสี่ยวเทียนบอกข้าอีกว่าให้เอาข้อความของมันมาฝากท่าน เขาได้บอกว่า พรุ่งนี้เขาจะตัดแขนของนายน้อยหนึ่งข้าง และวันถัดจากนั้นเขาก็จะขาและแขน ในวันที่ 3 เขาก็จะตัดขาที่เหลืออยู่ของนายน้อย!”

“เมื่อกี้เจ้าว่าไงนะ?!”ฮูหานที่กำลังโมโหอยู่นั่นก็พยายามจะระงับความโกรธที่ปะทุขึ้นราวกับภูเขาไฟ กำแพงทั้งสี่ด้าน เสาหิน และพื้นของห้องโถงนั้นได้ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งสีขาว เบื้องหลังของฮูหานนั้นได้งูน้ำแข็งผลุบๆโผล่ ไม่เพียงฮูหานที่โมโหคนเดียว กระทั่งผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรทุกคนต่างก็โมโหด้วยเหมือนกัน

“ท่านประมุข เฉินเสี่ยวเทียนคนนี้มันหยิ่งยโสเกินไปแล้ว! ได้โปรดสั่งการเถอะขอรับ พวกเราจะรวมรวมพลและไปทำลายนิกายพ่อมดนภาทันที!”ผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรก็ทนอดกลั้นความโกรธนี้ไม่ไหวอีกแล้ว ทำให้เขากระโดดขึ้นมาจากที่นั่งแล้วตะโกนออกมาอีกครั้ง

“ใช่แล้ว ท่านประมุข ได้โปรดสั่งการเถอะขอรับ!”ผู้อาวุโสคนอื่นก็ได้พูดแนะนำออกมา

ฮูหานก็สูดหายใจเข้าลึกๆในขณะที่มีแสดงสีดำกระพริบขึ้นในดวงตาของเขา “สั่งการไปลงไป ตั้งแต่ตอนนี้ ฆ่าศิษย์นิกายพ่อมดนภาทุกคนที่พบเห็น!”

“ได้ขอรับท่านจักรพรรดิ!”ประมุขนิกายเก้าอสูรก็ตอบออกมาพร้อมเพรีงโดยไม่กล้าเถียงอะไรไปมากกว่านี้

…..

ในเวลาเดียวกัน ที่ห้องโถงหลักของศูนย์หลักนิกายพ่อมดนภา

หวงเสี่ยวหลงนั้นกำลังอยู่บนบัลลังก์แต่ทว่าเฉินเสี่ยวเทียน เกิงเคน เจียงเทียนหัวและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของนิกายพ่อมดนภาและสถาบันกลืนกินโลหิตยืนอยู่ในห้องโถงในสภาพเป็นระเบียบ และในห้องโถงแห่งนี้ก็ยังมีฮูเฉิงที่จ้องมองผู้เชี่ยวชาญจากนิกายพ่อมดนภาและสถาบันกลืนกินโลหิตทั้งสองฝั่งด้วยดวงตาเบิงกว้าง

ผู้เชี่ยวชาญของนิกายพ่อมดนภาและสถาบันกลืนกินโลหิต….?! เขาจ้องมองหวงเสี่ยวหลงด้วยความหวาดกลัว ชายหนุ่มผมดำคนจริงๆแล้วเป็นใครกัน? เขาต้องการทำอะไรกันแน่?! ฮูเฉิงไม่กล้าคิดอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท