ตอนที่ 754 เรื่องลับส่วนตัว
ท่าทางของหลี่ว์เฉิงเหวิน ดูเหมือนตัวตลก แต่มีความประหลาดพิลึกในขั้นที่ลึกกว่า ทว่าเป็นภาพที่โจวเจ๋อชอบมองมากที่สุด
เถ้าแก่โจวขลุกตัวอยู่ในบ้านหลังนี้เป็นเวลานาน แถมยังเชิดสิงโตกระโดดมุดขึ้นลงไปมา ผลสุดท้ายแม้แต่ขนสิงโตก็หาไม่เจอ
ตอนนี้มีเป้าหมายแล้ว เมื่อมีเป้าหมาย เรื่องก็ง่าย ไม่ว่าอย่างไรสไตล์การทำงานของเถ้าแก่โจวแสนจะเรียบง่ายและหยาบกระด้าง สามารถต่อยคุณเละได้จะไม่หยุดแม้แต่นิดเดียว
เรื่องช่วยเหลือคนให้ได้ทำตามความปรารถนา ช่วยให้คนหลุดพ้นจากความยึดติดอะไรพวกนี้ โจวเจ๋อไม่มีเวลาไปสนใจ บนโลกนี้มีคนน่าสงสารอยู่มากมาย คนที่มีชีวิตยากลำบากก็มากล้น คนเป็นเขายังขี้เกียจสนใจ แล้วคนตายเขาจะไปยุ่งทำไม ครั้งนี้พูดตามหลักการแล้วเรื่องของหลี่ว์เย่าจู่ โจวเจ๋อก็ไม่อยากสนใจ แต่สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเหล่าจาง สองคือเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว จะไม่สนใจก็ไม่ได้
โจวเจ๋อผลักประตูเดินเข้าไป
“เอ๊ะ” หลี่ว์เฉิงเหวินที่ทั้งแขนและขาหมอบอยู่บนโต๊ะหันหน้ามองโจวเจ๋อทันที แววตาแฝงไปด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดถึงความตกตะลึง
จากนั้น ฉากต่อไปทำให้โจวเจ๋อประหลาดใจ หลี่ว์เฉิงเหวินลงจากโต๊ะ ไม่ได้กระโจนเข้าหาเขา แต่กลับยืนตัวตรง แล้วพูดด้วยความฉงนว่า “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
หืม กลับเป็นปกติแล้ว โจวเจ๋อไม่พูดอะไรไร้สาระ เดินไปข้างหน้าล็อกคอเขาทันที นี่เป็นวิธีที่ที่สุด ประสบการณ์การต่อสู้ตลอดสองปีนี้บอกโจวเจ๋อว่า หากสามารถเข้าไปต่อสู้ได้ก็ทำเลย อย่ามัวเสียเวลาพูดพล่ามหรือทำอย่างอื่นที่ไร้ประโยชน์ จับจุดตายไว้ก่อน แล้วค่อยพูดทีหลังก็ยังไม่สาย
หลี่ว์เฉิงเหวินเห็นโจวเจ๋อลงมือกับเขา จึงเบี่ยงตัวทันที ทำท่าก้าวเท้าคันธนูไปด้านหน้า ยกศอกตั้งท่า ย่อตัวเหยียดขา แขนข้างหนึ่งยื่นไปตามแขนของโจวเจ๋อ นี่คือกระบวนท่ากังฟูพื้นฐาน มีภูมิหลังเป็นคนที่ฝึกวิชายุทธ์
โจวเจ๋อหรี่ตา แต่ไม่ได้เปลี่ยนท่าของตัวเอง
‘พลั่ก!’
‘พลั่ก!’
‘พลั่ก!’
ภายในระยะเวลาอันสั้น หลี่ว์เฉิงเหวินใช้ฝ่ามือปะทะไปที่แขน หน้าอก และลำคอของโจวเจ๋อสามครั้ง แต่โจวเจ๋อกลับนิ่งไม่ขยับ
“คุณ…คุณ…” หลี่ว์เฉิงเหวินถูกบีบคอ หน้าเริ่มแดงทันที สองมือจับแขนของโจวเจ๋อ แต่กลับไม่อาจหลุดพ้น
ทว่าโจวเจ๋อกลับรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
“คุณ…จะทำ…อะไร…” หลี่ว์เฉิงเหวินถามด้วยความยากลำบาก
“เมื่อกี้คุณทำอะไร” โจวเจ๋อถาม
“ผม…ผม…กำลัง…ฝึกวิชา…”
“…” โจวเจ๋อ
โจวเจ๋อปล่อยมือ หลี่ว์เฉิงเหวินร่วงลงไปบนพื้นโดยตรง สองมือจับคอของตัวเอง แล้วไอไม่หยุด แววตาที่มองโจวเจ๋อเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ในมุมมองของเขา ตอนที่โจวเจ๋อเชิดสิงโตกับเหล่าจางก่อนหน้านี้ ได้แสดงพลังออกมาแล้ว เชิดสิงโตเก่ง พิสูจน์ได้ว่ากังฟูของเขาอยู่ในขั้นดี เมื่อก่อนหลี่ว์เฉิงเหวินเคยได้ยินผู้อาวุโสของตัวเองเล่าว่า ในยุคสาธารณรัฐจีน คนที่ทำอาชีพเชิดสิงโตเมื่อทิ้งหัวสิงโตสามารถรับบทโหดถือมีดถือปืนไปฆ่าคนได้เลย
มาถึงตอนนี้ มีความสงบสุขมาอย่างยาวนาน อันที่จริงรับสืบทอดมาจากยุคนั้นเพียงสามส่วนเท่านั้น ปรับเปลี่ยนท่าทางให้มีสีสันมากเกินไป แต่ความสามารถที่แท้จริง ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังถดถอยลงอย่างช้าๆ
ตัวของหลี่ว์เฉิงเหวินเองเป็นคนที่ฝึกฝนวิชามาเป็นเวลานาน เขามีวิชายุทธ์ติดตัวอยู่บ้าง แต่ตอนที่โจวเจ๋อลงมือ เขากลับรู้สึกถึงความอ่อนแรงได้อย่างลึกซึ้ง พลังยุทธ์ของอีกฝ่ายต้องน่ากลัวถึงขั้นไหน โดยเฉพาะการฝึกร่างกายให้แกร่งไปทั้งตัว ยามที่ซัดลงไปบนตัวของอีกฝ่าย อีกฝ่ายไม่กะพริบตาเลยสักนิด กระทั่งตัวเขาเองเจ็บฝ่ามือและยังเจ็บมาจนถึงตอนนี้
“เมื่อกี้คุณพูดว่ากำลังทำอะไรนะ”
“กำลัง….กำลังฝึกวิชา” หลี่ว์เฉิงเหวินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วอธิบายว่า “ผมกำลังเลียนแบบท่าทางของสิงโต” การเลียนแบบนี้ เขาทุ่มเทกับมันมากจริงๆ
โจวเจ๋อส่ายหน้าอย่างจนใจ สรุปว่าเข้าใจผิด
“เหอะ…” แต่ราชาสิงโตตัวนั้น ซ่อนอยู่ที่ไหนกันแน่
หลี่ว์เฉิงเหวินอยากจะถามโจวเจ๋อจริงๆ ว่าทำไมยังอยู่ในบ้านของเขา และยังวิ่งมาอยู่ตรงนี้ แต่พอคิดดูแล้ว ไม่ถามดีกว่า ตอนเป็นเด็กเขาเดินทางกับหลี่ว์เย่าจู่ไปทั่วทุกที่ ดังนั้นจึงเห็นโลกที่ต่างออกไป ตอนนั้นอยากกินข้าวอยากออกแสดง ไม่ว่าสิ่งดีหรือไม่ดี ก็ต้องเข้าหาทั้งหมด ไม่เหมือนตอนนี้ที่สามารถใช้ชื่อเสียงของ ‘ศิลปิน’ ‘วัฒนธรรมดั้งเดิม’ ชีวิตความเป็นอยู่จึงสบายมากขึ้น
เมื่อครู่ เขารู้สึกอย่างชัดเจนว่าในแววตาของโจวเจ๋อ มาพร้อมเจตนาฆ่าอย่างเปิดเผย!
“อ้อใช่ เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น” โจวเจ๋อถาม “คุณขึ้นมาได้ยังไง”
ปัญหานี้ โจวเจ๋อยังไม่เข้าใจ ตังเองเห็นเขาเดินลงไปแล้วแท้ๆ จากนั้นตัวเองจึงตามลงไป แต่หลังจากที่ตัวเองขึ้นมา กลับพบว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ชั้นสามแล้ว
ควรทราบว่า โจวเจ๋อไม่ได้อยู่ห่างจากบันได!
“ผมลงไปคุยธุระกับแม่ของผมนิดหน่อย แล้วจึงขึ้นมา” หลี่ว์เฉิงเหวินพูดอย่างจริงใจเปิดเผย
โจวเจ๋ออยากจะพูดหนึ่งประโยคว่า คุณกำลังโกหก แต่พอคิดดูแล้ว อีกฝ่ายแทบไม่จำเป็นต้องพูดโกหก แต่เสียงร้องนั่น คืออะไรกันแน่ โจวเจ๋อหมุนตัวทันที กวาดตามองรูปแบบการแตกแต่งของห้องนี้ พลางเอ่ยว่า “บ้านของคุณ ใครเป็นคนสร้าง”
“พ่อสร้างขึ้นมาตอนที่ยังมีอยู่ชีวิต ภาพการออกแบบเขาก็เป็นคนทำ”
โจวเจ๋อพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหาสวี่ชิงหล่าง
“ฮัลโหล มีอะไร” สวี่ชิงหล่างกำลังเป่าผมอยู่ เสียงเครื่องเป่าผมดังแสบแก้วหู
“นายมาที่นี่หน่อย ฉันเจอปัญหาที่เกี่ยวกับงานเฉพาะทางของนาย เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ให้นาย”
“โอเค” สวี่ชิงหลางหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ด่วนไหม”
โจวเจ๋อลังเลเล็กน้อย ตอบว่า “ไม่ถึงกับด่วนมาก”
“อย่างนั้นรอครึ่งชั่วโมง ผมเพิ่งจะมาส์กหน้า ราคาแพงมาก”
“นายลอกคราบได้ไม่ใช่เหรอ ใช้ของแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไร”
ผิวของเหล่าสวี่เดิมทีดีอยู่แล้ว ตอนนี้เพิ่มความสามารถในการลอกคราบเข้ามาอีก โอ้ว วันนี้ผิวหมองคล้ำเล็กน้อยลอกผิวออกหนึ่งชั้น โอ๊ย วันนี้ขอบตาคล้ำ ลอกผิวออกหนึ่งชั้น เอ้า วันนี้มีสิว ลอกผิวต่อไป…
“แล้วใครบอกบอกคุณว่ามาส์กหน้ามีประโยชน์จริงๆ” สวี่ชิงหล่างย้อนถามอย่างไม่พอใจ “แค่อยากเสพสุขกับขั้นตอนที่สงบสุขและผ่อนคลายนี้เฉยๆ”
โจวเจ๋อพยักหน้า แล้วตัดสาย จากนั้นนั่งลงยองๆ เขานั่งสบตากับหลี่ว์เฉิงเหวินที่นั่งอยู่บนพื้น ยื่นมือลูบศีรษะของหลี่ว์เฉิงเหวิน พลางเอ่ยว่า “ผมยังต้องอยู่ที่นี่อีกสักพักหนึ่ง ผมจะไม่ฆ่าคุณ แต่ขอให้คุณอยู่เงียบๆ ผมไม่ได้อยากได้เงินของคุณ และไม่ได้อยากให้คุณต้องตาย…” โจวเจ๋อส่ายหน้า “เอาเป็นว่าคุณนั่งอยู่ตรงนี้อย่าขยับ ก็ไม่เป็นไรแล้ว เข้าใจไหม”
หลี่ว์เฉิงเหวินพยักหน้า
สำหรับท่าทีของหลี่ว์เฉิงเหวิน โจวเจ๋อค่อนข้างพึงพอใจ ไม่ว่าเขากับแม่สาวสวยของเขาจะทำอะไรลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรนั่นก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเขา ถ้าหากคุณอยากให้หลี่ว์เย่าจู่เหมือนนักพรตเฒ่า ชอบสาวใหญ่เท่านั้น ต้องการรักษาหน้าตา คุณคิดว่าหลี่ว์เฉิงเหวินจะทำต่อไปไหม
โจวเจ๋อนั่งลงกับพื้นเลยเช่นกัน นั่งตรงข้ามกับหลี่ว์เฉิงเหวิน หลังจากห้านาทีผ่านไป รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย โจวเจ๋อจึงเอ่ยว่า “พ่อของคุณตายได้ยังไง”
“มะเร็ง ตอนที่รู้ก็อยู่ระยะสุดท้ายแล้ว ยื้อมาสองปี ก็ยื้อไม่อยู่ สุดท้ายก็จากไป”
“ก่อนตาย เขาได้พูดอะไรไหม” โจวเจ๋อหยิบบุหรี่ออกมา โยนให้หลี่ว์เฉิงเหวินหนึ่งมวน หลังจากจุดให้ตัวเองแล้วจึงโยนไฟแช็กให้หลี่ว์เฉิงเหวิน
“ไม่มีครับ พ่อจากไปอย่างสงบ”
โจวเจ๋อพยักหน้า เผยแววตาเฉียบคมออกมาแวบหนึ่ง
ไม่รีบๆ หลังจากรอเหล่าสวี่มาส์กหน้าเสร็จแล้ว ต้องหาคำตอบในบ้านหลังนี้ให้ชัดเจนก่อน ถึงตอนนั้นคุณไม่พูดความจริง ก็มีวิธีให้คุณพูดความจริง
“การแข่งขันครั้งนี้ มีเบื้องหลังยังไงกันแน่”
“คณะผู้จัดงานเป็นคนกำหนดแชมป์และรองแชมป์ แชมป์คือวงขับร้องประสานเสียงวัยรุ่น ให้พวกเขามาเชิดสิงโตเพื่อสร้างความนิยมให้พวกเขา รองแชมป์คือคนเชิดสิงโตในบริษัทที่กำหนดโดยคณะผู้จัดงาน คนพวกนี้ ไม่นับว่าเป็นคนในวงการของพวกเขา พวกเขาจะเข้าใจการเชิดสิงโตได้ยังไง” พอพูดถึงตรงนี้ หลี่ว์เฉิงเหวินยิ่งฮึกเหิม “หลังจากพ่อได้ยินข่าวนี้ จึงโกรธแล้วล้มป่วย บวกกับสุขภาพร่างกายแต่เดิมก็… ดังนั้นจึงทนไม่ไหว”
“กำหนดผู้ชนะกันภายในก่อนแล้ว จากนั้นล่ะ คุณคิดจะทำอะไร”
“พวกเราคนในวงการเลือกที่จะต่อต้าน จริงๆ แล้ว คนเชิดสิงโตล้วนมีคุณธรรมเป็นของตัวเอง เมื่อเชิดสิงโตมานาน ก็เหมือนตัวเองกลายเป็นสิงโตจริงๆ”
“วิธีการที่ชัดเจนล่ะ”
“ไม่มีครับ” หลี่ว์เฉิงเหวินหัวเราะอย่างน่าเศร้า
“แต่เวลาแข่งขัน คณะผู้จัดงานจะเชิญเว็บไซต์วิดีโอเจ้าใหญ่หลายแห่งและแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดสองสามเจ้าเข้ามาดำเนินการถ่ายทอดสด โดยสร้างกระแสก่อนล่วงหน้าด้วยการโปรโมตบนอินเทอร์เน็ต ถึงตอนนั้นพวกเราจะทำการต่อต้าน โดยยึดการแสดงเป็นหลักก่อน แสดงความสง่างามของการเชิดสิงโตของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร นี่คือโอกาสและเวทีที่ดีมากในการโปรโมตวัฒนธรรมการเชิดสิงโต รอจนถึงช่วงมอบรางวัล ผมจะรวมตัวทุกคนให้คลุมสิงโตขึ้นไปห้ามพร้อมกัน” เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลี่ว์เฉิงเหวินตื่นเต้นเป็นอย่างมาก โบกมือไปมาเป็นระยะ
แต่เมื่อฟังถึงตรงนี้ โจวเจ๋อกลับรู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะตั้งแต่ตอนแรกที่หลี่ว์เฉิงเหวินมาต้อนรับเขากับเหล่าจาง ให้ความรู้สึกบางอย่างแก่โจวเจ๋อ เขาเหมือนคนคนหนึ่ง เหมือนทนายอัน ทนายอันเป็นคนดีมากนักเหรอ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่
ทนายอันจะยอมทุ่มเทตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม เดินไปข้างหน้าโดยที่ตัวเองไม่สนใจผลประโยชน์ได้อย่างไร โดยพื้นฐานแล้วเป็นไปไม่ได้ แม้แต่ตอนนั้นที่เรื่องเกี่ยวพันไปถึงการก่อกบฏในนรก ทนายอันก็เข้าร่วมเพื่อฉวยโอกาสทางการเมือง เมื่อไรที่คุณสั่งทนายอันให้ไปทำงานที่เหล่าจางต้องทำ คุณจะรู้สึกแปลกไม่เข้าพวก
ดังนั้นหลี่ว์เฉิงเหวินที่อยู่ตรงหน้ายิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น โจวเจ๋อยิ่งรู้สึกว่าไม่เหมาะกับตัวตนของเขา ขณะที่พูดคุยกันไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากข้างนอก ‘ก๊อกๆๆ…’
“เฉิงเหวิน คุณอยู่ข้างไหนใช่ไหม” เป็น ‘แม่’ ของหลี่ว์เฉิงเหวิน หลี่ว์เฉิงเหวินมองโจวเจ๋อ ไม่พูดอะไร แต่ผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกเห็นได้ชัดว่ายังไม่ไปไหน เธอพูดต่อ “เฉิงเหวิน ฉันได้ยินเสียงคุณพูด คุณอยู่ข้างใน คุณกลับคำแล้วใช่ไหม จริงๆ ฉันรู้สึกว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่ว่ายังไงพ่อของคุณเพิ่งเสียไป วันนี้พวกเราไม่ค่อยเหมาะสมจริงๆ ถ้าหากอีกสักพักคุณยังต้องการอยู่ละก็ สามารถลงมาหาฉันที่ห้องของฉันได้เลย ฉันทำตามคำสั่งของคุณแล้ว เปลี่ยนชุดไว้ทุกข์สีขาวเป็นชุดราตรีสีดำกับถุงน่องสีดำ”
……………………………………………………………………….