Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 275

ตอนที่ 275

ฮูหานก็หน้าซีดเมื่อเขาเห็นดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมพุ่งลงมาใส่เขา เขารู้ดีว่าดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมของเจียงเทียนหัวนั้นทรงพลังขนาดใหน ถ้าหากเขาบอกว่าอะไรที่เป็นภัยคุกคามของเขาในเมืองปีศาจทมิฬนี้ มันจะต้องเป็นดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมของเจียงเทียนหัวอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขาที่อยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8 การรับการโจมตีจากดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมของเจียงเทียนหัวนั้นพอจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

พอมองเห็นดัชนีปีศาจของเจียงเทียนหัวที่เข้ามาใกล้ ฮูหานก็โห่ร้องออกมาในขณะที่ปราณฉีสีม่วงดำหลั่งไหลออกมาจากร่างแต่ในครู่ต่อมา ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมืดมัวและร่างของเขานั้นได้หายไป

ทำให้ดัชนีปีศาจพุ่งลงกระแทกพื้นส่งผลให้ห้องโถงสั่นไหวและในอากาศมีแต่เศษฝุ่นหินลอยไปมา หลุมขน่าดใหญ่บนพื้นนั้นทำให้ทุกคนต่างจ้องมองด้วยดวงตาตกตะลึงนั่นก็รวมไปถึงซูเหมยเหมย หัวใจของเธอสั่นไหวเมื่อเธอเห็นหลุมขนาดใหญ่นี้

แต่ทว่าในขณะนี้เจียงเทียนหัว เฉินเสี่ยวเทียน เกิงเคน และฉุยหมิงนั้นขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด เพราะในหมู่พวกเขานั้นไม่มีใครสามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของฮูหานด้วยสัมผัสวิญญาณได้เลยสักคน

หวงเสี่ยวหลงก็เย้ยหยัน ในกลางหน้าผากของเขานั้น จู่ๆก็ได้มีดวงสีแดงปรากฏขึ้นเป็นแนวตั้ง

เนตรนรก!

เนตรนรกนั้นได้ปลดปล่อยแสงที่ดูเหมือนจะเข้าปกคลุมห้องโถงทั้งหมด จากนั้นหงเสี่ยวหลงก็ได้ยกนิ้วชี้ไปที่ตรงมุมซ้ายของห้อง จากนั้นก็ได้มีหมอกสีเทาเข้มพุ่งออกมาราวกับคลื่นน้ำพร้อมกับมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นในขณะเดียวกันปราณดัชนีก็ได้พุ่งผ่านหมอกสีเทาเข้มนี้ไป

จากนั้นก็ได้เกิดเสียงกรีดร้องดึงดูดความสนใจจากทุกคน พอหันไป พวกเขาก็มองเห็นฮูหานร่วงหล่นบนพื้นจากอากาศซึ่งอยู่ตรงแถวด้านซ้ายของห้องโถง เขานั้นได้หล่นกระแทกพื้นอย่างแรงและกลิ้งถไลไปในขณะเดียวก็ได้มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา

พอเช็ดเลือดออกจากมุมปาก ฮูหานก็จ้องมองหวงเสี่ยวหลง “เจ้ามองเห็นกายาทมิฬของข้างั้นหรือ?!”เขานั้นไม่เคยเปิดเผยกายาทมิฬนี้ต่อหน้าในมาก่อนเลย เฉินเสี่ยวเทียน เจียงเทียนหัว และแม้กระทั่งซูเหมยเหมยก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับวิชานี้เลย ซึ่งมันทำให้ฮูหานนั้นมั่นใจในเคล็ดวิชากายาซ่อนเร้นนี้มาก

ตอนแรก เขาคิดว่าเขาจะสามารถใช้กายาทมิฬออกไปจากศูนย์หลักนิกายพ่อมดนภาแล้วออกไปจากเมืองปีศาจทมิฬ จากนั้นเขาก็จะสามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเขาแล้วค่อยกลับมาล้างแค้นในอนาคต

นี่เป็นไพ่ตายของเขา! แต่ตอนนี้ เขารู้สึกผิดหวังและในใจของเขานั้นได้ถูกปกคลุมไปด้วยความสิ้นหวังและความตาย

หวงเสี่ยวหลงจ้องมองฮูหานโดยไม่ตอบอะไร จากนั้นเขาก็ได้ส่งสัญญาณให้เจียงเทียนหัว เฉินเสี่ยวเทียนและคนที่เหลือด้วยการมอง ทำให้ทั้ง 4 คนนั้นเข้าใจในความหมายที่หวงเสี่ยวหลงจะสื่อ ดังนั้นทั้งสี่คนจึงได้โจมตีฮูหานต่อ

ฮูหานนั้นไม่เหลือไพ่ตายอะไรอีกหลังจากที่หวงเสี่ยวหลงทำลายกายาทมิฬของเขา โดยไม่มีอะไรเหลือให้เข้าใช้สู้ ในความคิดของเขานั้นก็มีแค่ความคิดเดียวเท่านั้นนั่นคือหนี อย่างไรก็ตาม พอทั้ง 4 คนเห็นความตั้งใจของฮูหานพวกเขาก็ได้ลอมกรอบฮูหานพร้อมกับปิดกั้นทางหนีทุกทาง เนื่องจากอากรบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการโจมตีด้วยดัชนีวิญญาณสัมบูรณ์ของหวงเสี่ยวหลง และในไม่ช้าเขาก็ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีอย่างต่อเนื่องของเฉินเสี่ยวเทียน เจียงเทียนหัว เกิงเคนและฉุยหมิงต่อ ในช่วงที่เขาละเลยความสนใจ เขาก็ได้โดนดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมของเจียงเทียนหัวที่หน้าอกขวา และเขาก็โดนหมัดฝ่ามือเพลิงวายุหลั่งไหลเข้ามาเกือบจะในเวลาเดียวกัน

พอถูกโจมตีโดยการโมตีอันทรงพลังทั้ง 3 จากหวงเสี่ยวหลง เจียงเทียนหัว เฉินเสี่ยวเทียน ฮูหานก็ได้ตกอยู่ในสภาพสาหัส ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้านั้นเต็มไปด้วยลอยคลายเลือดซึ่งมันแตกต่างจากภาพลักษณ์เจ้าเมืองปีศาจทมิฬที่ดูสูงส่งสง่างามอย่างสิ้นเชิง!

ในขณะที่เขายืนขึ้นฮูหานก็โซเซไปมาราวกับเขาจะล้มได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงยิ้มออกมาในขณะที่เฝ้ามอองคนทั้งสี่ จากนั้นก็มองหวงเสี่ยวหลง นิกายพ่อมดนภาและผู้เชี่ยวชาญสถาบันกลืนกินโลหิต มันเป็นรอยยิ้มที่ว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง

“ท่านพ่อ!”ฮูเฉิงก็กรีดร้องออกมา

ฮูหานก็ยิ้มให้ลูกชายของเขาอย่างเศร้าสร้อย “ข้าขอโทษเฉิงเอ๋อ ครั้งนี้พ่อไม่สามารถปกป้องเจ้าได้!”

ฮูเฉิงก็ร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น

ฮูหานก็หันหน้าไปมองหวงเสี่ยวหลงและพูดว่า “ข้าหวังว่าเจ้าจะปล่อยลูกชายข้าไป”

“เจ้าคิดว่ามันได้งั้นหรือ?”หวงเสี่ยวหลงก็ถามกลับคืน

ฮูหานเงยหน้ามองท้องฟ้าและถอนหายใจ ตามตรรกะแล้วเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมามันต้องถอนรากถอนโคน แล้วเขาจะไม่เข้าใจได้ยังไง ซึ่งในกรณีเขาก็แค่หวังไว้เล็กๆน้อยๆ….

ท้ายที่สุด ฮูหานก็ยืนจ้องมองซูเหมยเหมยหลายนาทีอย่างเงียบๆ จากนั้นราวกับไม่มีใครอยู่ใกล้ตัวฮูหานก็ได้คำรามออกมาอย่างไม่เต็มใจในขณะที่เขายืนอยู่ตรงนั้น ตรงหน้าอกของเขาได้เกิดรอยเส้นเลือดแตกแขนงออกมามันแผ่กระจายออกไปราวกับใยแมงมุม ในครู่ต่อมา หน้าอกของเขาก็ได้ระเบิดออก! จากนั้นแขนขาและส่วนที่เหลือของเขาก็ระเบิดตาม

เลือดของฮูหานั้นได้กระจัดกระจายไปตามเสาหินของห้องโถง

ฮูหานนั้นเลือกที่จะระเบิดทะเลปราณและฆ่าตัวตายโดยการระเบิดเส้นลมปราณของตัวเองทั้งหมด! ทุกคนๆที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ประหลาดใจกับตัวเลือกของฮูหาน แม้กระทั่งหวงเสี่ยวหลงก็ด้วย

“ท่านพ่อ!”ฮูเฉิงก็ร้องไห้ออกมาในขณะที่ใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษ

หวงเสี่ยวหลงมองร่างของฮูหาน “เอามันออกไปแล้วจัดการงานศพให้เจ้าเมืองปีศาจทมิฬด้วย”ความหมายของหวงเสี่ยวหลงนั้นชัดเจน นั้นคือเขาให้ความเคารพกับศพของฮูหานฐานะที่เป็นเจ้าเมืองปีศาจทมิฬ เจียงเทียนหัว เฉินเสี่ยวเทียนและผู้อาวุโสที่เหลือก็ตอบรับพร้อมกัน

สำหรับฮูเฉิงนั้น หวงเสี่ยวหลงได้ส่งสัญญาณให้ฆ่ากับเจียงเทียนหัว พอเห็นท่าทางของหวงเสี่ยวหลง เจียงเทียนหัวก็ยกดับในมือขึ้นและเดินไปหาฮูเฉิง และจบชีวิตของมันด้วยการฟันดาบทีเดียว

ฮูหานและฮูเฉิง สองพ่อลูก ตายแล้ว!

เมื่อจัดาการเรื่องนั้นเสร็จลง หวงเสี่ยวหลงก็หันเหนความสนใจมาที่ซูเหมยเหมย ซูเหมยเหมยก็ก้มหัวในขณะที่เดินเข้าไปหาหวงเสี่ยวหลง และคุกเข่าต่อหน้าพร้อมกับทำความเคารพ “ซูเหมยเหมยยืนดีที่ได้พบนายน้อย!”

หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้า การที่ซูเหมยเหมยยอมจำนนนั้นเป็นผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม มิฉะนั้นเขาคงทำได้เพียงฆ่าเธอ ตามที่เฉินเสี่ยวเทียนได้รายงานมานั้น ฮูหานนั้นได้เก็บงำความรู้สึกที่มีต่อซูเหมยเหมยคนนี้มาตลอด แต่เรื่องนั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรอีกแล้ว หลังจากที่เขาประทับตราจิตวิญญาณลงในทะเลปราณของซูเหมยเหมย เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องที่เธอนั้นจะคิดร้ายอีก

หวงเสี่ยวหลงได้สั่งการให้ซูเหมยเหมยและผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรที่เหลืออยู่ 3 คนให้ปล่อยทะเลปราณของตัวเองออกมา หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดหวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกโล่งอกหลังจากที่เขาได้ประทับตราจิตวิญญาณทั้งสี่คน

ตอนนี้ ขุมกำลังยักษ์ใหญ่ทั้งสามในเมืองปีศาจทมิฬ––นิกายพ่อมดนภา สถาบันกลืนกินโลหิต และนิกายเก้าอสูร––ทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การควบคุมของหวงเสี่ยวหลงแล้ว เมืองปีศาจทมิฬในตอนนี้ได้กลายเป็นเขตแดนของเขาแล้ว และมันจะเป็นที่ตั้งหลักของเขาในดินแดนแห่งความโกลาหล

แน่นอนว่ามีที่ปักหลักไม่ได้หมายความว่าหวงเสี่ยวหลงจะสามารถเป็นขุนนางได้ ในดินแดนแห่งความโกลาหล เมืองทุกเมืองสามารถเปลี่ยนเจ้าของได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม การได้ครอบครองเมืองปีศาจทมิฬนั้น หวงเสี่ยวหลงจะสามารถใช้มันเป็นฐานหลักของเขาและจะค่อยๆเข้ายึดครองเมืองข้างเคียงอย่างช้าๆจนกระทั่งขุมกำลังของเขานั้นกลายเป็นขุมกำลังอันยิ่งใหญ่ในดินแดนแห่งความโกลาหลแห่งนี้

แม้ว่าขุมกำลังทั้ง 3 จะมาอยู่ในมือของเขา หวงเสี่ยวหลงก็ไม่ได้วางแผนจะเปิดเผยตัวตนของเขา เขาจึงได้สั่งเจียงเทียนหัวอย่างลับๆว่าให้ไปเป็นเจ้าเมืองปีศาจทมิฬในขณะที่เขาชักใยอยู่ในเงามืด

ในเช้าวันต่อมา ข่าวการตายของฮูหานก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองปีศาจทมิฬ จึงทำให้เกิดความวุ่นวายเรื่องการตายของเจ้าเมืองอย่างกระทันและข่าวยังแพร่กระจายไปเมืองรอบข้างอย่างรวดเร็ว

…….

เมืองแม่น้ำโลหิต ห่างออกไปหลายพันไมล์จากเมืองปีศาจทมิฬ

ในเวลานี้ มีชายวัยกลางคน 5 คนนั่งอยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์เจ้าเมืองแม่น้ำหิต และแต่ละคนนั้นก็มีฝ่ามือที่ใหญ่กว่าคนธรรมดาถึง 2 เท่า นอกจากนี้ฝ่ามือและเล็บของทั้ง 5คนนั้นก็เป็นสีดำ

คนทั้ง 5 ก็คือ 5 ประมุขแห่งนิกายเบญจพิษที่ควบคุมเมืองแม่น้ำโลหิต คนที่นั่งอยู่ตรงกลางนั้นคือพี่ใหญ่ หลิว หมิงไห่

ในห้องโถงนี้ก็กตอยู่ในความเงียบงัน

“พวกเจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวข่าวการตายของฮูหาน?”หลิวหมิงไห่มองคนทั้ง 4 แล้วถามขึ้น น้ำเสียงของเขานั้นแหบแห้ง

“พี่ใหญ่ ตอนนี้ฮูหานได้ตายแล้ว เมืองปีศาจทมิฬนั้นจะต้องอยู่ในช่วงวุ่นวาย นี่เป็นโอกาสที่พวกเราจะยึดเมืองปีศาจทมิฬ!”น้องสี่ หลิวกวงก็พูดขึ้น

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท