คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 650 ได้มาเจอข้านับเป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่จากชาติที่แล้วของท่าน

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 650 ได้มาเจอข้านับเป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่จากชาติที่แล้วของท่าน

ร่างกายทั่วทั้งร่างของตู้เหมี่ยน มีบาดแผลรอยดาบกว่าสามสิบห้าแผล ส่วนใหญ่อยู่ทางฝั่งซ้ายของร่างกาย บาดแผลส่วนใหญ่บิดเบี้ยวและยังไม่ได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ยังมีหนองและเลือดอยู่ในนั้น ทันทีที่เปิดเสื้อออก กลิ่นเหม็นเน่าก็ลอยเข้ามาเตะจมูกทันที

สีหน้าของเถิงเจาเปลี่ยนเป็นซีดขาวไปหลายส่วน ท้องไส้ปั่นป่วน กดหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เอาไว้ บังคับตนเองให้สงบนิ่ง

นี่ไม่นับประสาอะไร ศพในสุสานไร้ญาติเขาก็เคยเจอมาแล้ว แย่ยิ่งกว่านี้เสียอีก

“สามเดือนก่อน ข้าประสบภัยครั้งใหญ่ อย่างที่ท่านว่า ตายไปเก้าชีวิตเหลือหนึ่งชีวิตรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ตอนนั้นรีบเชิญหมอหลายคนมารักษา รักษาชีวิตเอาไว้ได้ รักษาตัวมาหลายเดือน บาดแผลบนร่างกายกลับไม่หายยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ” ตู้เหมี่ยนเอ่ยหน้าซีด “ข้าไม่อยากตาย ได้ข่าวว่าท่านเจ้าอาวาสน้อยมีวิชาการแพทย์ล้ำเลิศ จึงได้ลากสังขารมาที่นี่”

ฉินหลิวซีมองความไม่ยอมแพ้ในดวงตาของเขา เอ่ย “ภูเขายาวไกลสายน้ำยืดยาว การเดินทางเหน็ดเหนื่อย ท่านบาดเจ็บเพียงนี้ยังทรมานเพื่อมาหาข้า ความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ของท่านช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก”

ตู้เหมี่ยนยิ้มขมขื่น “หากข้าไม่เคลื่อนไหว ก็คงต้องรอความตาย”

ร่างกายของตนเองตัวเขาย่อมรู้ดีที่สุด เพียงร่างกายนี้ เลือดของเขาคงเกือบไหลออกมาหมดตัวแล้ว กระดูกและกล้ามเนื้อของเขาหัก สลบไปกว่าครึ่งเดือนก่อนที่เขาจะฟื้นขึ้นมา นอนรักษาตัวอยู่บนเตียงมาโดยตลอด ร้อยวันมานี้บาดแผลบนร่างกายของเขาส่วนที่ไม่ลึกเริ่มดีขึ้น แต่บาดแผลลึกเหล่านั้น เนื้อเริ่มกลายเป็นสีดำเน่าเปื่อย ไม่อาจทนได้

ความรู้สึกเจ็บจากภายนอกจนชาไม่มีผู้ใดสัมผัสได้ดีกว่าเขาอีกแล้ว

ตู้เหมี่ยนนอนอยู่บนเตียง ต่อให้ดื่มยาบำรุงทุกวัน แต่เขารู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอและเหี่ยวเฉาลงทุกวัน

เขาไม่อยากตาย

เขาเป็นทายาทรุ่นต่อไปของสมาคมชาวเรือ หากเขาตายไป สมาคมเฉาปังที่ปู่ของเขาได้สร้างขึ้นมาก็คงพังทลายลงในมือของเขาแล้ว

ทว่าการประสบภัยในครั้งนี้ เขารู้กีว่าไม่ใช่กองเรือโจรทางน้ำทั่วไปเท่านั้น

หากเขาตายไป จะทำให้ผู้คนที่มุ่งหมายตำแหน่งของเขาได้สมดังปรารถนา

ร้อยวันมานี้ นอกจากรักษาบาดแผล เขายังทำงานหนักเพื่อกำจัดพวกคนไม่ลงรอยเหล่านั้น ดึงคนพวกนั้นออกมา นับว่าเป็นการสร้างความสมดุลรักษาเสถียรภาพให้มั่นคงในใจคน

ความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่เป็นที่ยึดเหนี่ยวให้ร่างกายนี้ของเขา และเพราะเหตุนี้ จึงได้ยินเรื่องท่านหมอฉินหลิวซีผู้นี้ จึงหอบเอาความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ หลังจากจัดการเรื่องภายในเฉาปังให้เรียบร้อยก็พาคนเดินทางมาขอรับการรักษา

เขาไม่ได้ประกาศข่าวเรื่องนี้ เพียงพาบ่าวรับใช้เคียงกายและองครักษ์ และมีองครักษ์เงาคอยติดตามมาจำนวนหนึ่ง ป้องกันการคิดปองร้ายอีกครั้ง

และเขานับว่ามีวาสนาอยู่บ้างจึงได้พบฉินหลิวซีในเมืองฝู่แห่งนี้

สวรรค์ไม่ปฏิเสธข้า

ตู้เหมี่ยนมองฉินหลิวซี ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายดุจดวงตา

“ท่านมั่นใจว่าข้าจะรักษาท่านได้หรือ” ฉินหลิวซียกแขนข้างขวาเขาขึ้นมาเริ่มตรวจชีพจร

“แม้ไม่กล้าเชื่อ ตอนนี้ก็เชื่อแล้ว เพราะข้าได้พบกับท่านเจ้าอาวาสน้อย นี่เป็นความประสงค์ของสวรรค์ สวรรค์ไม่ปฏิเสธข้า”

“รักษาลมหายใจเอาไว้ฟื้นฟูร่างกายเถิด ไม่ต้องใช้กำลังไปกับการพูดแล้ว” ฉินหลิวซีย่นจมูก ไม่เอ่ยมากความ ตรวจชีพจรโดยละเอียด

ตู้เหมี่ยนเงียบลง

ฉินหลิวซีตรวจชีพจรนาน หัวคิ้วขมวดขึ้น

“ท่านช่าง…”

ตู้เหมี่ยนยิ้มขมขื่น “ข้ารู้ว่าข้าดวงแข็ง ท่านไม่ต้องเอ่ยว่าข้าไม่ตายอีกแล้ว”

ฉินหลิวซีเคาะจมูก เอ่ย “อืม ดวงแข็ง ร่างกายนี้ของท่านหากเอ่ยไม่น่าฟัง ก็คือเหลือแค่กายว่างเปล่า ด้านในไม่เหลือแล้ว บาดแผลนี้ปรากฏอยู่เช่นนี้ อย่างเช่นที่ท่านบอกว่าเมื่อก่อนนั้นนอนเฝ้ารอความตาย”

ใบหน้าตู้เหมี่ยนยิ้มเจื่อน

“หมอที่รักษาท่าน จ่ายยาอะไรบ้างหรือ เป็นยาบรรเทาความเจ็บปวด สร้างกล้ามเนื้อบำรุงหยินหยางบำรุงเลือดใช่หรือไม่”

หว่าซื่อบ่าวรับใช้ข้างกายรู้อย่างชัดเจนที่สุดแล้ว พยักหน้าพลางเอ่ย “ใช่แล้วขอรับ เพราะบาดแผลมีมากเกินไป ตอนที่นายท่านของข้าประสบภัย ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด เลือดในร่างกายไหลออกมาแทบหมดแล้ว ร้อยวันมานี้ยาที่กินส่วนใหญ่ล้วนเป็นยาที่ท่านเอ่ย บรรเทาอาการปวด บำรุงเลือดบำรุงร่างกายไม่เคยหยุดเลยสักวัน แม้แต่น้ำที่ดื่มก็ยังแช่พุทราแดง”

ต้องรู้อย่างนี้ ใบหน้าตู้เหมี่ยนซีดขาว ไม่มีสีเลือดแม้เพียงนิด

“บำรุงมากเกินไป กลายเป็นอาการหนักแล้ว” ฉินหลิวซีส่ายศีรษะ เอ่ย “กินสิ่งเหล่านี้ทั้งวัน มีแต่จะทำให้ท่านไม่มีความอยากอาหาร กระเพาะไม่ได้รับอาหารทำให้เกิดบาดแผล ยิ่งยากต่อการรักษามากขึ้น จะบำรุงร่างกายต้องกินดีนอนหลับสบาย หากทำไม่ได้ยังจะเอ่ยถึงการรักษาได้เช่นไร นอกจากนี้ท่านยังกังวลมากเกินไป ทำให้จิตใจเหนื่อยล้า ยากต่อการฟื้นฟู สามารถอดทนจนได้มาพบข้าที่นี่ นับว่าเป็นกุศลยิ่งใหญ่ที่ท่านได้สร้างเอาไว้ในชาติที่แล้ว”

รักษาอาการป่วย เดิมก็ต้องการการผ่อนคลาย ไร้ความกังวล และสิ่งรบกวน

แต่ตู้เหมี่ยนไม่ใช่ คนแทบไม่มีลมหายใจ ยังทำงานหนักวางแผนมากมาย ร่างกายไม่ต้องเอ่ยถึงยังทำลายจิตใจไปด้วย บาดแผลบนร่างกายจะดีขึ้นได้ก็นับว่าแปลก

ไม่เห็นชีวิตตนเองเป็นชีวิตแล้วด้วยซ้ำ

ฉินหลิวซีผู้เป็นหมอรักษา ตามหลักไม่ชอบเห็นผู้ป่วยที่ไม่ใส่ใจร่างกายตนเองและพาตนเองไปสู่ความตาย แต่นางก็รู้ในจุดนี้ ร่างกายไม่ใช่ของตนเอง

ดังนั้นนางจึงไม่ได้ตำหนิมาก มองไปยังมือซ้ายของเขา เปิดผ้าพันแผลออก มองเห็นบาดแผลแนวนอนหลายแผลนั่น เหลือบมองตู้เหมี่ยนเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ ประสบภัยอะไรกัน เห็นได้ชัดว่าเจอกับมือสังหารชัดๆ นี่วางแผนยิ่งใหญ่มาเพื่อสังหารเขาให้ตายอย่างแน่นอน

“มือนี้ของท่าน บาดเจ็บอยู่ในจุดจับชีพจรฝั่งซ้าย จุดตรวจชีพจรมือซ้ายตรงกับหัวใจและลำไส้เล็ก บาดแผลของท่านไม่ได้รักษาดีนัก น้ำหนองและเลือดยังไหลออกมา อ่อนแอไม่น้อย สูญเสียหยินหยาง พลังชี่และเลือดลดน้อย ปากแผลไม่ปิดสนิท จะรักษาหายได้อย่างไร ตอนนี้คงไม่มีแรงยกมันขึ้นมาด้วยซ้ำกระมัง”

“มือนี้ของข้า คงเสียไปแล้ว” ตู้เหมี่ยนนิ่งสนิทเป็นอย่างยิ่ง

ฉินหลิวซีนิ่งเงียบ บาดแผลบนร่างกายของคนผู้นี้ เป็นความยุ่งยากอย่างแท้จริง

“ท่านเจ้าอาวาสน้อย เอ่ยมามากมาย ท่านว่านายท่านของข้าจะรักษาให้หายได้หรือไม่” หว่าซงเอ่ยถามกระบอกตาแดงก่ำ

ตู้เหมี่ยนเองก็เงยหน้าขึ้นมามองนาง

“ไม่ตายหรอก เพียงแต่ระหว่างการรักษาอาจทรมานสักหน่อย” ฉินหลิวซีชี้ไปยังบาดแผลน่ากลัวสีดำที่ท้องของเขาและเอ่ย “นอกเหนือจากตำแหน่งชีพจร ยังมีแผลตรงนี้ที่หนักมาก หากลึกลงอีกนิดท่านก็แย่แล้ว และสองจุดนี้ เป็นจุดที่ยุ่งยากที่สุด บาดแผลดูแลไม่ดี ทำให้เนื้อเน่าเปื่อย เปื่อยไปเรื่อยๆ คนก็คงต้องตายแล้ว หากต้องการรักษา ต้องกำจัดเนื้อเน่าพวกนั้นก่อน เลือดแห้งกรังจึงจะสร้างเนื้อขึ้นมาใหม่ได้”

ตู้เหมี่ยนตัวแข็งทื่อ

หว่าซงเอ่ยด้วยความตกใจ “ท่านหมายความว่า ต้องตัดเนื้อพวกนี้ทิ้งอย่างนั้นหรือขอรับ”

“แน่นอน”

มือหว่าซงสั่นระริก

บาดแผลหลายจุดบนร่างกายนายท่านของเขาเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่จะต้องตัดออกหมดหรือ

ความเจ็บปวดของมีดดาบเขาก็เคยเผชิญ เจ็บปวดไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นการตัดชิ้นเนื้อเล่า

“ขอเพียงรักษาได้ ข้าอดทนได้” ตู้เหมี่ยนเม้มริมฝีปากเอ่ย ตัดเนื้อยังดีกว่าเสียชีวิต

ฉินหลิวซีเอ่ยชัดเจน “การตัดเนื้อพูดง่าย ขั้นตอนการรักษาไม่ได้ทำได้ในชั่วข้ามคืน อย่างไรท่านก็เต็มไปด้วยบาดแผลหนักหน่วง บาดแผลบางส่วนเริ่มหดตัว แต่ด้านในยังไม่หายดี ต้องผ่าและเอาเนื้อตายด้านในออก เมื่อจัดการสิ่งเหล่านี้เสร็จแล้วจึงจะเริ่มการรักษา หากจะกลับมาเคลื่อนไหวได้ดังเดิม ต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งปี ท่านต้องเตรียมการให้เรียบร้อย”

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท