ตอนที่ 408 วิธียั่วยุไม่ได้ผล
“ท่านยโสโอหังเกินไปหรือไม่! เรือนพักร่ำรวยจะรักษาไว้ได้หรือไม่ เวลานี้ยังไม่แน่นอน!”
ในที่สุดเฟ่ยกงกงก็เลือกที่จะแตกคอ
ก่อนหน้านี้เป็นเวลานาน เขาก็อยากทำเช่นนี้แล้ว
ระบายความแค้นภายในใจ
ก่อนหน้านี้เป็นเวลานาน เขาก็ไม่ชอบใจเยียนอวิ๋นเกอมากแล้ว
ท่านอ๋องของเขา สูงส่งเลอค่า แต่กลับกลายเป็นทหารหน้าม้าของเยียนอวิ๋นเกอ รังแกกันเกินไปแล้ว!
เขาจะเป็นศัตรูกับเยียนอวิ๋นเกอ!
เยียนอวิ๋นเกอยิ้มอย่างมีนัย “ฟังที่เฟ่ยกงกงพูด ท่านคิดจะสนับสนุนศัตรู ร่วมมือกับโจรกบฏ?”
“อย่าได้พูดจาเหลวไหล! ข้าเป็นขุนนางฝ่ายในข้างกายท่านอ๋องผิงชิน ความจงรักภักดีย่อมพิสูจน์ได้! ถึงแม้จะต้องตาย ก็ไม่มีทางร่วมมือกับโจรกบฏ”
เฟ่ยกงกงส่งเสียงด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
เยียนอวิ๋นเกอก้มหน้ายิ้ม “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านไม่พอใจต่อข้ามานานแล้ว แต่เสียดาย ท่านอ๋องของท่านยืนหยัดในความคิดของตนเอง จะต้องแต่งงานกับพี่สองของข้าให้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราทั้งสองตระกูลไม่อยากเกี่ยวข้องกันก็ไม่ได้ เฟ่ยกงกงอดทนต่อข้ามาหลายปี ในที่สุดวันนี้ก็เลือกที่จะไม่ทนแล้วหรือ มีเรื่องใดท่านก็พูดมาตามตรง! วันนี้ทุกคนต่างตรงไปตรงมากหน่อย”
เฟ่ยกงกงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้าไม่มีเรื่องต้องพูดกับท่าน มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้าต้องการ ขอให้ท่านออกห่างจากท่านอ๋องของข้านับจากนี้”
เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะออกมา หัวเราะจนน้ำตาแทบจะไหล
นางเช็ดหางตา พูดกลั้วหัวเราะ “คำพูดนี้เป็นสิ่งที่ข้าอยากพูด ขอให้ท่านอ๋องของเจ้าออกห่างจากข้า แทรกแซงเรื่องของข้าให้น้อย มีเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว ไม่มีครั้งหน้า!”
เฟ่ยกงกงตำหนิเสียงดุ “หากไม่ใช่เซียวอี้มาขอร้องท่านอ๋องของข้า เสนอเงื่อนไขต่าง ๆ นานา ท่านคิดว่าท่านอ๋องของข้าจะแทรกแซงเรื่องแต่งงานของท่านหรือ”
เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะออกมา สายตาดูถูก
“ในเมื่อเขาไม่เต็มใจ ย่อมสามารถปฏิเสธเซียวอี้ได้อย่างสิ้นเชิง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะร่วมมือกับเซียวอี้ เห็นได้ชัดว่าเซียวอี้ให้เหตุผลที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ รวมถึงผลประโยชน์ที่เพียงพอ
เพื่อผลประโยชน์ เขาสามารถแทรกแซงเรื่องแต่งงานของข้า คราวหน้าเพื่อผลประโยชน์ เขาก็สามารถแทรกแซงชีวิตของข้า
พี่สองแต่งงานให้กับท่านอ๋องของเจ้าหลายปีนี้ ข้ารักษาสัญญา ส่งมอบเสบียงตามเวลาทุกปี อีกทั้งไม่เคยแทรกแซงเรื่องเล็กใหญ่ในจวนอ๋องขงพวกเจ้า
ข้าเป็นสตรียังรู้ว่าอย่าได้ยุ่งเรื่องคนอื่นมากเกินไป ท่านอ๋องของเจ้าก็อายุไม่น้อยแล้ว เหตุใดเขาจึงไม่รู้หลักการนี้ เขาว่างมากหรือ”
เฟ่ยกงกงโกรธยิ่งนัก
“วันนี้คุณหนูสี่ตั้งใจจะยั่วยุให้ข้าโกรธหรือ ท่านคิดว่ายั่วยุให้ข้าโกรธ ข้าก็จะพูดไม่คิด หลุดพูดเนื้อหาข้อแลกเปลี่ยนระหว่างเซียวอี้กับท่านอ๋องออกมา คุณหนูสี่ดูถูกข้าเกิดนไป วันนี้ ท่านมีกลอุบายใดก็แสดงออกมาให้หมด หากข้าพูดหลุดไปแม้แต่คำเดียว ข้าก็ไม่สมควรปรนนิบัติอยู่ข้างกายท่านอ๋อง!”
เฟ่ยกงกงโต้เถียงกับเยียนอวิ๋นเกอ
เขาไม่เชื่อว่าสมาธิของเขาจะสู้คุณหนูตัวน้อยไม่ได้
ล้อเล่นหรือ!
เยียนอวิ๋นเกอ “…”
น่าผิดหวัง!
ข้างกายเซียวเฉิงเหวินไม่มีคนโง่แม้แต่คนเดียวเสียจริง
แต่ละคนล้วนเฉลียวฉลาด
ปูทางมายาวเพียงนี้ แต่ยังคงถูกเฟ่ยกงกงมองออก!
ช่างไม่น่าพอใจยิ่งนัก!
ข้างกายเซียวเฉิงเหวินจะมี “คนโง่” สักคนสองคนไม่ได้หรือ
นางหัวเราะ “มีคนเคยบอกหรือไม่ว่าท่านระแวงมากเกินไป ต้องกินยา”
เฟ่ยกงกงโกรธจนอกแทบแตก คิ้วของเขากระตุก
เขาพูดเสียงดัง “เจ้าอย่าคิดจะทำสำเร็จ! ข้าไม่มีทางเปิดเผยแม้แต่คำเดียว”
เยียนอวิ๋นเกอกรอกตาระรัว “เอาเถิด เอาเถิด! ข้ารู้ว่าท่านปิดปากสนิท รักษาความลับได้ดี ไม่มีทางเปิดเผยแม้แต่คำเดียว ข้าก็ไม่อยากจะสืบข่าวจากท่านแล้ว ท่านไปเถิด รีบกลับไปรายงานภารกิจที่จวนอ๋อง อย่าลืมบอกท่านอ๋องในสิ่งที่ข้าพูด! ถึงแม้ข้าอาจมีกำลังไม่เพียงพอ แต่ข้าก็มีกำลังที่จะต่อสู้”
เฟ่ยกงกงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จึงระงับความโกรธนี้ลงได้
เขายกมือขึ้น “คุณหนูสี่รักษาตัว ข้าขอตัว!”
“รองานแต่งของข้า เฟ่ยกงกงอย่าลืมมาดื่มสุรามงคล!”
เยียนอวิ๋นเกอตะโกนตามหลังเขาไป
เฟ่ยกงกงที่กำลังจะก้าวเท้าผ่านธรณีประตูได้ยิน ขาของเขาก็เกือบสะดุดหกล้ม!
เขารีบตั้งตัวให้มั่น
ภายในใจตักเตือนตัวเองซ้ำไปซ้ำมา อย่าหันกลับไป อย่าหันกลับไป
เยียนอวิ๋นเกอต้องตั้งใจอย่างแน่นอน
ดังนั้น เขาจึงไม่ได้หันหน้ากลับไป เพียงแค่ตอบ “ขอบพระคุณคุณหนูสี่ที่เชื้อเชิญ! ไม่รู้งานแต่งกำหนดไว้เมื่อใด”
“ว่าที่สามียังตามตัวไม่เจอ จะกำหนดงานแต่งได้อย่างไร หรือไม่ท่านบอกกับท่านอ๋องผิงชิน ยกเซียวอี้ให้ข้า อย่างน้อยก็ให้ข้าได้พบเขาสักครั้ง กำหนดงานแต่งลงมา หรือว่าการทูลขอพระราชโองการเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความจริงแล้วท่านอ๋องผิงชินไม่ต้องการให้ข้าเป็นสามีภรรยากับเซียวอี้”
คราวนี้ เฟ่ยกงกงไม่หันหน้ากลับมาก็ไม่ได้
เขาหันกลับมามองอีกฝ่าย “คุณหนูสี่อย่าได้พูดเหลวไหล! ท่านอ๋องของข้าไม่มีเจตนาส่วนตัวในเรื่องนี้อย่างแน่นอน”
“อ๋อ? ได้ยินท่านพูดเช่นนี้ หรือว่าข้อแลกเปลี่ยนของเซียวอี้กับท่านอ๋องผิงชินจะเกี่ยวกับเรื่องส่วนรวม อำนาจทางการทหาร?”
เฟ่ยกงกงหัวเราะเสียงเย็น
กลอุบายของเยียนอวิ๋นเกอชุดแล้วชุดเล่า ทำให้คนไม่ทันระวัง
เดิมทีคิดว่าบทสนทนาจบลงแล้ว นางล้มเลิกที่จะเค้นถามแล้ว
แต่ไม่คิดว่าจะวนกลับมาสู่ที่เดิม
เขาสะบัดแขนเสื้อ “คุณหนูสี่รีบตายใจเถิด ของขวัญถูกส่งถึงแล้ว ข้าขอตัว!”
“เฟ่ยกงกงไปดี! ผู้ใดก็ได้ ส่งเฟ่ยกงกงออกจากจวนแทนข้า!”
ฝีเท้าของเฟ่ยกงกงเร็วมาก
ราวกับมีหมาป่าไล่ตามอยู่ด้านหลัง ทำให้เขาหวาดผวา
เมื่อขึ้นรถม้า เขาครุ่นคิดถึงบทสนทนาก่อนหน้านี้ ยิ่งรู้สึกว่าตนเองพูดผิด พลาดท่าให้ศัตรู
ทำอย่างไรดี
…
หลังกลับถึงจวนอ๋อง เฟ่ยกงกงยืนขอโทษต่อหน้าท่านอ๋องผิงชิน เซียวเฉิงเหวิน
“กระหม่อมอาจพูดพลั้งไป บอกว่าท่านอ๋องไม่มีเจตนาส่วนตัวเรื่องงานแต่งพระราชทาน คุณหนูสี่ราวกับคาดเดาบางอย่างได้แล้ว กระหม่อมมีความผิด ขอท่านอ๋องโปรดลงโทษ”
เซียวเฉิงเหวิน “…”
เขายกชาสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ก่อนจะนวดคลึงขมับ
“เจ้าทะเลาะกับนางหรือ”
“นางพูดจาเกินกว่าเหตุ”
“เจ้าไม่ได้สังเกตว่านางตั้งใจยั่วยุเจ้า?”
“กระหม่อมเพิ่งตระหนักได้ในภายหลังว่านางตั้งใจยั่วยุกระหม่อม พยายามให้กระหม่อมพูดพลั้งท่ามกลางความโกรธ กระหม่อมทรยศท่านอ๋อง ขอท่านอ๋องโปรดลงโทษ!”
เซียวเฉิงเหวินโบกมือ “ไม่โทษเจ้า! เยียนอวิ๋นเกอตอนสิบกว่าขวบก็ใช้ความสามารถของตนเองก่อตั้งเรือนพักร่ำรวยขึ้นมา อีกทั้งยังหลอกล่อให้ข้าทำงานให้นาง นางในเวลานี้มีแต่จะรับมือยากกว่าปีนั้น เจ้าไม่คุ้นเคยกับนาง อีกทั้งยังดูถูกศัตรูเกินไป จึงทำให้นางฉวยโอกาสได้ มันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ขอบพระคุณท่านอ๋อง! นางจะคาดเดาความจริง ทำลายการใหญ่ของท่านอ๋องหรือไม่”
“ข้าจะมีการใหญ่ใดกัน โจรกบฏล้อมเมือง ข้าไม่มีหนทางแม้แต่น้อย”
“ทางนายน้อยอี้ ผ่านไปนานเพียงนี้ เหตุใดจึงยังไม่มีความเคลื่อนไหว หรือว่าเขากลับใจแล้ว”
เซียวเฉิงเหวินพูดเสียงเบา “หากคิดจะคัดศีรษะของคนผู้หนึ่งท่ามกลางกองกำลังนับพันย่อมไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย ซือหม่าโต่วเป็นแค่ภัยอันตรายระดับล่าง เป็นแค่เด็กชนบท ดูจากการกระทำของเขาก่อนหน้านี้ การที่เขายังมีชีวิตรอดอยู่ถึงวันนี้ไม่เกี่ยวกับความสามารถของเขา เพียงแค่เขาโชคดีเกินไป
สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นคนที่โชคดีที่สุดในหมู่โจรกบฏ เขามักจะหลบเลี่ยงอันตรายได้ในเวลาวิกฤต เรื่องสำคัญคือต้องสืบหาว่าผู้ใดเป็นผู้มีความสามารถข้างกายเขา มาจากที่ใด มีเบื้องหลังอย่างไร ผู้มีความสามารถข้างกายเขาจึงจะเป็นภัยอันตรายที่แท้จริง! ไม่มีผู้มีความสามารถข้างกายเขาคอยชี้แนะ เวลานี้ซือหม่าโต่วยังคงขุดดินอยู่ในหุบเขา”
เฟ่ยกงกงพูด “หวังว่านายน้อยอี้จะทำภารกิจได้สำเร็จ นำศีรษะของศัตรูมาได้ท่ามกลางกำลังพลนับพัน จัดการโจรกบฏกลุ่มนี้ให้สิ้นซากเสียที!”
เซียวเฉิงเหวินไม่รีบร้อน “รอก่อนเถิด! อย่างไรก็ต้องให้เวลาเขาในการวางแผน ซือหม่าโต่วกลัวตายอย่างมาก ไม่ว่าเวลาใดข้างกายก็ต้องมีคนคอยอารักขาอย่างน้อยร้อยนาย อีกทั้งคนที่เข้าใกล้ตัวเพื่อปรนนิบัติ ล้วนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันที่รู้จักกันมากว่าสิบยี่สิบปี คนแปลกหน้าต้องการเข้าใกล้เขาไม่ใช่เรื่องง่าย”
คนที่กลัวตายมักจะมีความระแวงที่มาก ระมัดระวังไปทุกอย่าง
หากต้องการตัดศีรษะของคนผู้หนึ่งท่ามกลางกองกำลังนับพัน ในแผ่นดินนี้อาจมีเพียงเซียวอี้ที่ทำได้
เซียวเฉิงเหวินเคาะโต๊ะเบาๆ “ความกังวลของเจ้ามีเหตุผล เยียนอวิ๋นเกอฉลาดเพียงนั้น เซียวอี้ไม่มีข่าวคราว อีกทั้งยังติดต่อไม่ได้เป็นเวลานาน นางย่อมจะสงสัย อีกทั้งวันนี้เจ้าพูดหลุดปาก เมื่อนางปะติปะต่อกับสถานการณ์ในเมืองหลวงขึ้นมา มีความเป็นไปได้ว่านางอาจคาดเดาความจริงได้แล้ว”
“แล้วจะทำอย่างไร”
“ทำได้แค่รอ! ข้าทำได้เพียงแสร้งไม่รู้เรื่อง เป็นท่านอ๋องที่ไม่มีงาน!”
เซียวเฉิงเหวินก็กลุ้มใจ
เพียงแค่ไม่ระวังก็จะถูกมองจนทะลุปรุโปร่ง
โธ่เอ้ย!
เยียนอวิ๋นเกอ เหตุใดเจ้าจึงไม่โง่เสียบ้าง
เขาครุ่นคิด ก่อนจะพูด “วันพรุ่ง เจ้าไปจวนองค์หญิงอีกครั้ง มอบของขวัญอีกชิ้นให้เยียนอวิ๋นเกอ”
“ยังต้องมอบของขวัญอีก?”
เฟ่ยกงกงเจ็บใจแทนท่านอ๋องของตนเอง
เสียเงินปิดปากคน!
นอกจากนี้ หากเงินเสียไปได้ไม่ดี ยังไม่อาจไม่พอใจได้แม้แต่น้อย
ช่าง…
ช่างน่าหงุดหงิดยิ่งนัก!
เซียวเฉิงเหวินพูดอย่างจริงจัง “ไม่มอบให้เวลานี้ รอภายหน้าเยียนอวิ๋นเกอมาเรียกร้องจะยิ่งเสียมากขึ้น เหตุใดก่อนหน้านี้ข้าจึงคิดไม่ถึงว่าควรเลียนแบบเซียวอี้ ขอโทษนางตั้งแต่แรกจึงจะทำให้นางหายโกรธได้อย่างแท้จริง
อย่ามองว่าเซียวอี้นำสมบัติทุกอย่างให้เยียนอวิ๋นเกอจนหมดก็คิดว่าเขาเสียเปรียบ กลายเป็นคนที่กลัวภรรยา แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนฉลาด นับจาดนี้ เขาไม่ต้องแบ่งความสนใจไปดูแลสมบัติ อีกทั้งใช้เงินก็ไม่ถูกควบคุม
ไม่ต้องกังวลกำไรหรือขาดทุน หากไม่มีเงินก็ไปเบิกโรงรับเงิน เท่ากับว่าเขาไม่เสียเงินแม้แต่น้อยในการเชิญคนที่เชี่ยวชาญดูแลเงิน เซียวอี้เจ้าเล่ห์เสียจริง!”
เขาโกรธจนปวดฟัน!
ทุกคนต่างคิดว่าเซียวอี้กลัวภรรยา
แต่หารู้ไม่ว่า เขาเพียงแค่มอบหมายเรื่องเฉพาะทางให้คนที่เชี่ยวชาญดูแล
ยังมีผู้ใดเชี่ยวชาญในการบริหารเงินมากกว่าเยียนอวิ๋นเกออีก
บางครั้ง เขายังคิดเยียนอวิ๋นเกอจะสู้พระราชบุตรเขยจ้งได้หรือไม่เรื่องการบริหารเงิน
หากเยียนอวิ๋นเกอดูแลสำนักเส้าฝู่ นางจะทำอย่างไร
เฟ่ยกงกงรู้สึกเจ็บใจแทนท่านอ๋องของตนเองอีกครั้ง
อีกทั้งทุกครั้งที่เจ็บใจ ล้วนมีสาเหตุจากเยียนอวิ๋นเกอ
เยียนอวิ๋นเกอ หายนะ!
ข้า…
ฮือๆ…
ข้าจะเป็นศัตรูกับเยียนอวิ๋นเกอ ระบายความแค้นแทนท่านอ๋อง!
…
ห่างไปอีกวัน เยียนอวิ๋นเกอได้รับของขวัญอีกชิ้นจากท่านอ๋องผิงชิน เซียวเฉิงเหวิน
นางรู้สึกร้อนมือเมื่อรับมา
“ท่านอ๋องผิงชินใจกว้างเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด มอบของขวัญให้ข้าต่อเนื่อง คิดจะซื้อใจข้าหรือ”
“ท่านอ๋องของข้าใจกว้างเสมอ ซื้อใจใดกัน คุณหนูสี่คิดมากแล้ว ข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องทำ ขอตัว!”
คราวนี้ เฟ่ยกงกงวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ปฏิเสธที่จะพูดคุยกับเยียนอวิ๋นเกอ