บทที่ 170 ทำสิ่งใดก็ล้มเหลว
บทที่ 170 ทำสิ่งใดก็ล้มเหลว
ความจริงแล้ว… มันมีผลทำให้พลังปราณกลับมา อีกทั้งรสชาติยังอร่อยจนชวนให้หลงใหลอีกด้วย
ขณะที่อาจารย์ใหญ่นึกอยากกินอีก แต่ตะกร้าก็ว่างเปล่าไปเสียแล้ว เหล่าอาจารย์ที่เมื่อครู่ไม่พอใจหลิงเยว่ เนื่องจากนางทำลายพืชสมุนไพรวิญญาณ ต่างรู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อย
หากพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง คงยากที่จะเชื่อว่าหลิงเยว่สามารถทำโอสถฟื้นปราณได้มากกว่าสองร้อยเม็ดในเวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วยาม และนางยังใช้สมุนไพรฟื้นฟูปราณเพียงยี่สิบชุดเท่านั้น
สมุนไพรฟื้นฟูปราณยี่สิบชุด หากใช้ตามอัตราการกลั่นโอสถปกติแล้ว น่าจะได้โอสถฟื้นปราณเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบถึงหนึ่งร้อยห้าสิบเม็ด แต่หลิงเยว่กลับทำได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
อาจเป็นเพราะว่านางใส่วัตถุดิบอื่นลงไปด้วยหรือไม่?
อัตราการปรุงอาหารวิญญาณพิเศษออกมานั้นน่าทึ่งยิ่งนัก จนทำให้พวกเขาเผลอลืมเรื่องโอสถฟื้นปราณไปชั่วขณะ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องนี้หลิงเยว่ก็ได้อธิบายไปแล้ว พวกเขาจึงพอเข้าใจ
ศิษย์ทั้งห้าสิบคนมองไปยังเม็ดโอสถสีทองบนโต๊ะด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าวิธีทำจะยุ่งยากไปบ้าง
แต่เรื่องอัตราการปรุงอาหารวิญญาณพิเศษก็เพียงพอที่จะเอาชนะโอสถฟื้นปราณทุกชนิดได้แล้ว
“อาจารย์ ข้าคิดว่าอัตราการปรุงอาหารวิญญาณพิเศษเป็นเช่นนี้ เพราะท่านมีพันธสัญญาผูกมัดกับตะขาบมรกตสี่ปีกด้วยใช่หรือไม่?” ทันใดนั้น จื่อเฉาอวี่ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดพลันพูดขึ้น
ที่แท้นางรอจังหวะอยู่เช่นนี้เองหรือ!
“ข้าไม่ได้ทำพันธสัญญาผูกมัดกับนางแต่อย่างใด” หัวหน้าตะขาบมรกตยกคอเสื้อตัวเองขึ้นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์
โดยปกติแล้ว หลังจากทำพันธสัญญากับสัตว์อสูร บริเวณเหนือหน้าอกใต้กระดูกไหปลาร้าจะมีสัญลักษณ์พันธสัญญาปรากฏขึ้น ซึ่งไม่สามารถซ่อนหรือลบออกได้ ดังนั้นเรื่องการทำพันธสัญญานั้นไม่อาจหลอกกันได้
“หากเป็นเช่นนี้ท่านก็ไม่ได้ทำพันธสัญญา แล้วท่าน… ” จื่อเฉาอวี่รู้สึกยินดีและแฝงความรู้สึกอิจฉาอยู่ไม่น้อย หลิงเยว่ไม่ได้ทำพันธสัญญา แต่เหตุใดหัวหน้าเผ่าตะขาบมรกตสี่ปีกยังคงยอมรับใช้นาง!
หรือว่าเสน่ห์ของอาหารวิญญาณพิเศษจะมีอิทธิพลต่อตะขาบมรกตสี่ปีกมากมายถึงเพียงนี้?
“เหตุใดจึงต้องทำพันธสัญญาด้วยเล่า? ถึงแม้ไม่ได้ทำพันธสัญญา ข้ากับเจ้าก็ยังคงเป็นสหายและมิตรที่ดีต่อกันได้ไม่ใช่หรือ”
หัวหน้าตะขาบมรกตคิดจะคัดค้าน แต่สุดท้ายเขาก็ทำหน้าบึ้งตึงแต่ไม่ได้กล่าวอะไร ถือเสียว่าเป็นการให้เกียรติเจ้ามนุษย์เปราะบางน้อยแล้วกัน
“อัตราสำเร็จในการปรุงอาหารวิญญาณพิเศษมักสูงกว่าการกลั่นโอสถทั่วไป ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะเราได้ใส่ส่วนผสมอื่นเข้าไปด้วย”
หลังจากหลิงเยว่อธิบายเสร็จ จึงให้นักเหล่าศิษย์รีบลงมือทำ จากนั้นนางก็ใช้ศิลาสะท้อนภาพ บันทึกขั้นตอนการสอนของตนเองเพื่อให้ลูกศิษย์ดูได้สะดวกขึ้น ตอนนี้นางกำลังเปิดภาพวนซ้ำไปเรื่อย ๆ หากลูกศิษย์คนใดติดปัญหาตรงไหนก็สามารถถามนางได้
ขณะที่หลิงเยว่กับหัวหน้าตะขาบมรกตกำลังนั่งดื่มชานมพร้อมกินลูกชิ้นทอดกันอย่างเพลิดเพลินบนแท่นประจำตำแหน่งผู้สอน ก็เริ่มมีกลิ่นไหม้โชยมาจากหลายทิศทาง
“เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าสามารถทำให้มันฝรั่งที่ต้มสุกกลายเป็นถ่านไหม้ได้ด้วยหรือ?” หลิงเยว่หันไปมองจื่อเฉาอวี่ด้วยความแปลกใจ ก่อนจะจ้องมันฝรั่งสีดำแห้งกรังในหม้อนึ่ง
“ข้าสามารถกล่าวได้หรือไม่ว่าท่านช่างมีพรสวรรค์เสียเหลือเกิน?”
จื่อเฉาอวี่รู้สึกอับอายอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงหยิ่งผยอง “ข้าเพียงแค่ควบคุมไฟไม่ดีเท่านั้นเอง ทำเป็นตื่นตระหนกกันใหญ่โต!”
“ในฐานะนักกลั่นโอสถ แม้แต่ควบคุมไฟก็ทำไม่ได้เชียว?” หลิงเยว่ส่ายศีรษะด้วยความขัน
จื่อเฉาอวี่ถือไข่อยู่ในมือ นางกำมันจนแตกกระเซ็นไปทั่วร่าง
“เจ้าโกรธอย่างนั้นหรือ?”
หลิงเยว่มองด้วยสายตาดูถูก ก่อนที่คนผู้นั้นจะระเบิดก็รีบหันมาหาเซี่ยซิ่นรุ่ย สีหน้าเปลี่ยนจากเหยียดหยามกลายเป็นตกตะลึงจนพูดไม่ออก เขาทำได้ถึงเพียงนี้เชียว ความสามารถในการเรียนรู้นี่ช่างสูงส่ง แต่ว่ามันฝรั่งทอดในหม้อบางชิ้นก็ระเบิด บางชิ้นก็ไหม้จนเป็นสีดำ…
“ครั้งแรกยังไม่ค่อยชำนาญนัก” เซี่ยซิ่นรุ่ยฝืนยิ้ม ทั้งที่เห็นอาจารย์ทำช่างดูง่ายดาย แต่พอลงมือทำเองแล้ว…
หลิงเยว่คีบมันฝรั่งทอดที่หน้าตาดูดีที่สุดและคาดว่าน่าจะกินได้ขึ้นมาหนึ่งชิ้น นางเพิ่งจะเคี้ยวไปได้สองคำ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูแล้วคายออกมาทันที
“เจ้าคิดจะลอบฆ่าข้าหรืออย่างไร?!”
“ทั้งขมทั้งฝาด เจ้าไม่ได้ชิมของที่เจ้าปรุงเองเลยหรือ เจ้าใส่น้ำตาลไปหลายชั่งหรือไม่?”
เซี่ยซิ่นรุ่ยส่ายหน้าอย่างซื่อสัตย์ เขาเชื่อมั่นในฝีมือกลั่นโอสถของตนเองเลยไม่ได้ลองชิมดู ส่วนน้ำตาลนั้นฮวนฮวนชอบของหวาน เขาจึงใส่เพิ่มลงไปอีกเล็กน้อย
“เจ้าจงชิมฝีมือของตนเองดู!”
หลิงเยว่ละสายตาไปที่ฮวนฮวนน้อยที่อยู่ข้างกาย นางยังคง… ปอกมันฝรั่งอยู่
“ท่านอาจารย์หลิง อย่าเพิ่งเร่งรัดฮวนฮวนเลย นางจะรีบทำให้เร็วขึ้นเอง!”
เช่นนั้นย่อมได้
หลิงเยว่จึงเดินวนไปรอบ ๆ แล้วสั่งสอนเหล่าศิษย์ทีละคนเพื่อให้คลายความคับข้องใจ ในวันนี้มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำมันฝรั่งทอดออกมาได้ ส่วนผลในการฟื้นฟูก็ยังไม่เป็นไปตามความต้องการของนางเท่าไหร่นัก
มันยากเย็นเข็ญใจถึงเพียงนั้นเลยหรือ?
อาจารย์ทั้งหลายที่ยืนดูอยู่ไม่เชื่อสายตาตัวเอง ตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องเรียน ผลักเหล่าศิษย์ที่เพิ่งถูกตักเตือนออกไป แล้วลงมือทำด้วยตัวของพวกเขาเอง
ในจำนวนนั้นมีเถาวั่ง หรือแม้แต่อาจารย์ใหญ่แห่งสำนักกลั่นโอสถรวมไปถึงผู้อาวุโสที่ปลอมตัวเป็นชายชราก็เข้าร่วมด้วย พวกเขามองว่ามันช่างเป็นเรื่องง่ายดายนัก แต่เหตุใดศิษย์กลุ่มนี้จึงเงอะงะถึงเพียงนี้
ดูพวกนั้นสิ!
เหล่าศิษย์จำใจต้องถอยไป แล้วให้อาจารย์ขึ้นมาทำแทน
“อาจารย์ ข้าจำได้ว่าท่านอาจารย์หลิงไม่ได้สอนให้ขจัดความขมเช่นนี้ ท่าน… ”
“อย่ามาเอะอะโวยวาย! ตัวเจ้าเองยังทำพลาด แล้วมีหน้ามาเตือนข้าอีกหรือ ไปอยู่ไกล ๆ ไป!”
เซี่ยซิ่นรุ่ยจึงถอยหลังกลับไปด้วยความอับอาย
ผู้ที่น้อมรับความอับอายเช่นเดียวกับเขามีไม่ใช่น้อย นักเรียนทั้งหลายทำได้เพียงเฝ้าดูตาละห้อย เมื่อเห็นว่าอาจารย์ทำผิดพลาดก็เพียงอดทนกล้ำกลืน และพร่ำเตือนตนเองไม่ให้กระทำผิดพลาดเช่นนั้น
ภายในห้องเรียนวุ่นวายราวกับหม้อกลั่นโอสถ กลิ่นอากาศรอบข้างช่างซับซ้อนยิ่งนัก ด้วยการรับกลิ่นได้ดีหัวหน้าตะขาบมรกตนั้น ทำให้มันทนอยู่ไม่ได้ วิ่งหนีออกไปทันที จึงเหลือเพียงหลิงเยว่ที่ต้องทนทุกข์อยู่ในห้อง
นางหันมองท้องฟ้าที่มืดมิดด้านนอกหน้าต่าง จากรุ่งเช้าจวบเย็น นี่ลำบากยิ่งกว่าการทำงานในจีนแผ่นดินใหญ่เสียอีก และดูจากท่าทางของพวกเขา เห็นทีว่าคงไม่ยอมเลิกราเป็นแน่ หากเช่นนั้น นางคงต้องกลับไปงีบเสียก่อนแล้วค่อยมาอีกครั้งกระมัง
เมื่อหลิงเยว่คิดเช่นนั้นแล้วก็ลงมือทันที
หลังจากที่หลิงเยว่ออกไปแล้ว บรรยากาศการเรียนรู้ภายในห้องเรียนไม่ได้ซบเซาลงแต่อย่างใด แต่กลับยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก
“วิธีการจัดการนั้นง่ายดายเช่นนี้ เหตุใดเมื่อกำจัดความขมแล้วคุณสมบัติจึงหายไปเล่า?”
“เหตุใดมันฝรั่งที่ปั้นเป็นก้อนกลมถึงเหนียวเหนอะหนะและแตกสลายตอนทอด ทั้ง ๆ ที่ใช้ปริมาณส่วนผสมเท่ากัน?”
“ไม่คิดว่าการทำมันฝรั่งจะยากถึงเพียงนี้ ต้องลองทำใหม่ดูอีกที!”
เหล่าอาจารย์มุ่งมั่นไม่ลดละ ยึดครองเครื่องครัวและที่นั่งของศิษย์เอาไว้ ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกิน ยกเว้นแต่ฮวนฮวน ผู้ซึ่งปอกมันฝรั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเพียงนึ่งให้สุกเท่านั้น
“ฮวนฮวน ไม่เช่นนั้นเจ้ากลับไปก่อนได้หรือไม่? ส่วนที่เหลือพี่จะทำให้เสร็จเอง”
เซี่ยซิ่นรุ่ยไม่ยอมแพ้ คิดจะลองทำมันฝรั่งทอดอีกครั้ง เขาเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูง ไม่ยอมให้ตัวเองพ่ายแพ้ต่อการทำมันฝรั่งทอดอย่างง่าย ๆ เช่นนี้เด็ดขาด!
“ไม่เอา พี่กลับไปก่อนเถิด ฮวนฮวนจะทำให้เสร็จภายในพรุ่งนี้แน่นอน”
ฮวนฮวนวัยหกขวบไม่ยอมล่าถอยสักก้าว นางไม่ได้รู้สึกง่วงแต่อย่างใด เพราะนางเริ่มกลั่นลมปราณแล้ว การอดหลับอดนอนสักคืนจึงไม่ใช่เรื่องยาก!
“การอดนอนจะทำให้ตัวไม่สูงนะ”
ส่วนเซี่ยซิ่นรุ่ยก็ไม่ได้ละความพยายาม ยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจต่อ แต่ก็น่าเสียดายที่ฮวนฮวนดันเอาแต่จดจ่ออยู่กับมันฝรั่งบดจนไม่อยากจะมองหน้าพี่ชายของตนแม้แต่น้อย สายตาของนางจดจ่ออยู่ที่ศิลาสะท้อนภาพ พร้อมลงมือจัดการกับสมุนไพรวิญญาณต่อ
เด็กหญิงตัวน้อยได้แสดงฝีไม้ลายมือราวกับผู้ชำนาญ ใบหน้าของนางแสดงถึงความตั้งใจ ทว่าเซี่ยซิ่นรุ่ยได้แต่ถอนหายใจเมื่อเห็นเช่นนั้น เขาจึงได้แต่คอยช่วยเหลือและแนะนำน้องสาวของตนเองแทน
เมื่อค่ำคืนได้ผ่านพ้นไป หลิงเยว่ก็ได้กลับมายังห้องเรียนด้วยความกระปรี้กระเปร่า นางคิดว่าเหล่าอาจารย์คงจะต้องจากไปแล้ว แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น…
สภาพของห้องเรียนยังคงวุ่นวายเหมือนเดิมและยิ่งแย่ลงกว่าตอนที่นางจากไปเสียอีก
“พวกเจ้าใช้ความพยายามทั้งคืน แต่กลับไม่มีสักคนที่ประสบความสำเร็จเลยหรือ?”
คำถามของหลิงเยว่ทำให้เสียงภายในห้องเรียนพลันเงียบลงทันที เหลือไว้เพียงแต่เสียงของมันฝรั่งก้อนกลมที่กำลังทอดอยู่ในหม้อน้ำมันส่งเสียงดังฉ่า แล้วระเบิดโพละออกมา