บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – บทที่ 1323 พลังของราชันเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 1323 พลังของราชันเซียน

บทที่ 1323 พลังของราชันเซียน

เมืองคนบาปเป็นสถานที่ไร้ซึ่งความสงบ เป็นที่หลบภัยของความชั่ว ระเบียบทั้งหลายพังทลาย และเหล่าวายร้ายต่างมารวมตัวกันที่นี่

มีทั้งวายร้ายที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ ส่วนใหญ่อยู่ที่ขอบเขตเซียนลึกลับ และผู้ที่มีการบ่มเพาะขอบเขตเซียนทองคำก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองคนบาปได้อย่างสุขสบาย

ในขณะเดียวกัน วายร้ายที่ขอบเขตเซียนปราชญ์ก็เหมือนกับเจ้าเหนือหัวในเมือง ไม่มีใครกล้าล่วงเกิน แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือตัวตนที่ขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น!

ตัวอย่างเช่น ผู้เฒ่าเกออวิ๋นที่อยู่ในระยะสายตา คือการดำรงอยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นซึ่งมีบาปมหันต์ เขาเป็นเหมือนราชาผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางเหล่าวายร้าย และดูแคลนเมืองอย่างหยิ่งยโส ซึ่งไม่มีใครกล้าขัดเจตจำนงของคนผู้นี้แม้แต่คนเดียว

“เพียงแค่หนึ่งชั่วยาม เจ้ากลับสังหารบุตรบุญธรรมของข้าไปสามสิบเจ็ดคน และอนุอีกเก้าคน ไอ้หนู! บังอาจยิ่งนัก!”

ผู้เฒ่าเกออวิ๋นเอามือไพล่หลัง ขณะที่ยืนอยู่กลางอากาศ และร่างกายก็แผ่แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมฟ้าดินอันกว้างใหญ่

ว่านเจี้ยนเซิงกระอักเลือด ยืนเผชิญหน้ากับผู้เฒ่าเกออวิ๋น สีหน้าซีดเซียวเผยท่าทางที่ไม่ยอมจำนนอยู่ในที

แม้ตนจะเป็นหนึ่งในเจ็ดสุริยันอันเจิดจ้าของภพเซียน แต่เขาก็ยังเป็นเหมือนมดเมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนที่ขอบเขตราชันเเซียนครึ่งขั้น

ในขณะนี้ เฉินซีสังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่า เวลาและพื้นที่บนถนนดูเหมือนจะถูกแช่แข็ง ฉากในระยะสายตาก็ดูคล้ายหยุดนิ่ง

นี่คืออานุภาพของราชันเซียนครึ่งขั้นหรือ?

เฉินซีพลันตกตะลึง และรู้สึกกังวลต่อว่านเจียนเฉิง เนื่องจากพื้นที่ถูกจำกัด แล้วเขาจะหลบหนีไปจากราชันเซียนครึ่งขั้นได้อย่างไร?

ว่านเจี้ยนเซิงย่อมไม่อาจขยับเขยื้อนได้อย่างอิสระ เหมือนแมลงที่ติดใยแมงมุม ปลาที่ถูกแช่แข็งอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง แม้แต่กะพริบตาก็ไม่อาจทำได้

ดูเหมือนคนผู้นั้นจะเป็นลูกแกะที่รอถูกเชือด และมันทำให้หัวใจของเฉินซีบีบรัด

ส่วนเรื่องที่ว่านเจี้ยนเซิงสังหารบุตรบุญธรรมสามสิบเจ็ดคนและอนุเก้าคนของผู้เฒ่าเกออวิ๋นนั้น เฉินซีไม่สนใจแม้แต่น้อย

เพราะตนมั่นใจว่า ว่านเจี้ยนเซิงจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์อย่างแน่นอน

“ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนขัดขืน หากเจ้าสามารถหลบหนีภายใต้อิทธิพลของกฎแห่งมิติของข้าได้ ข้าคนนี้จะเป็นฝ่ายปลิดชีพตนเอง!” ผู้เฒ่าเกออวิ๋นกล่าวอย่างไม่แยแส และจ้องว่านเจี้ยนเซิงเขม็ง โดยเผยให้เห็นถึงความเหนือกว่า ประหนึ่งกำลังจ้องมองนักโทษที่ถูกตัดสินโทษตาย

โดยเฉพาะน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการควบคุมและความมั่นใจอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้คนในบริเวณใกล้เคียงรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น นี่คือพลังของราชันเซียนครึ่งขั้น ทำให้แม้แต่วิญญาณยังต้องหวาดกลัว

“เขาเป็นสหายเจ้าหรือ?” ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบงัน กังวล และกดดัน จู่ ๆ เตียนเตี้ยนก็กล่าวขึ้น พลางมองเฉินซี เสียงของนางชัดเจนและไพเราะดุจฤดูใบไม้ผลิที่ส่งเสียงหวานหู

ทุกคนต่างตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าจะมีผู้ใดกล้ากล่าวในเวลาเช่นนี้

ผู้เฒ่าเกออวิ๋นที่ยืนอยู่กลางอากาศก็ตกตะลึงเช่นกัน และก็หันศีรษะอย่างรวดเร็ว แววตาประหนึ่งสายฟ้าสีดำสองสายจ้องมองเตียนเตี้ยนอย่างเย็นชา

เตียนเตี้ยนดูคล้ายกับไม่ได้สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น และท่าทางยังคงนิ่งสงบ

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้เฒ่าเกออวิ๋นจึงขมวดคิ้วฉับ

“ใช่” เฉินซีพยักหน้า

หลังจากนั้น เตียนเตี้ยนก็แย้มยิ้ม ริมฝีปากสีแดงและชุ่มชื้นโค้งเป็นรอยยิ้มอ่อนหวาน “แล้วไยถึงไม่กล่าวตั้งแต่แรกเล่า”

ทันทีที่สิ้นคำ นางก็เคาะเบา ๆ ไปที่ความว่างเปล่าตรงหน้า

กริ้ง!

เสียงใสและไพเราะที่ฟังเหมือนกระจกแตกดังขึ้น มันค่อย ๆ ดังขึ้นจนดังลั่น และท้ายที่สุดก็ดังก้องเหมือนคลื่นพายุที่กวาดไปทั่วฟ้าดิน

หลังจากนั้น เฉินซีสังเกตเห็นด้วยความตกใจว่า สิ่งที่อยู่ในระยะสายตาของเขา ดูคล้ายกระจกที่ถูกกระแทกจนแตกร้าว รอยแตกนับไม่ถ้วนแผ่ซ่านประหนึ่งใยแมงมุม และแพร่กระจายไปยังบริเวณโดยรอบอย่างรวดเร็ว

ครืน!

ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของฝูงชน ฟ้าดินดูเหมือนแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ และพลังห้วงมิติอันไร้ขอบเขตก็ส่งเสียงดังก้องอย่างไม่มีสิ้นสุดดุจคลื่นพายุ

เสียงอุทานด้วยความตกใจดังก้อง บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยความแตกตื่น

ในยามนี้ แม้แต่นัยน์ตาของเฉินซีก็หดตัว และรู้สึกถึงความกลัวสุดจะพรรณนา ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด ชายหนุ่มสามารถแยกแยะได้ว่า ฟ้าดินที่พังทลายนั้น เป็นเพราะพลังห้วงมิติถูกทำลายจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ!

“เจ้า…เป็นใครกันแน่…” ท่ามกลางการทำลายล้าง เสียงของผู้อาวุโสเกอวิ๋นที่ตกตะลึงและโมโหสุดขีดก็ดังขึ้น ท่าทางดูโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง ทว่าน้ำเสียงกลับเจือกระแสหวาดกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้

แต่หลังจากนั้น เสียงของเขาก็หยุดกะทันหัน

บางทีโลกทั้งใบอาจตกอยู่ในสภาวะหยุดนิ่งก็เป็นได้ พื้นที่ เวลา ฝุ่น แสง เสียง แมลงสีแดงเลือดที่มุมกำแพง ผู้คนในภัตตาคาร… ดูเหมือนทุกอย่างถูกแช่แข็ง!

รวมถึงผู้เฒ่าเกออวิ๋น ชายชรายืนค้างอยู่กลางอากาศเหมือนรูปปั้น และไม่ขยับใด ๆ ใบหน้ายังคงมีท่าทางตกใจและโกรธเกรี้ยว

ตนเป็นถึงราชันเซียนครึ่งขั้น!

แต่ในยามนี้ กลับไม่สามารถขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย เหตุการณ์นี้น่าตกตะลึง และไม่อาจจินตนาการได้อย่างแท้จริง

เฉินซีก็ตกตะลึงในใจเช่นกัน เพราะในขณะที่สรรพสิ่งรอบกายหยุดนิ่ง แต่เขายังขยับเขยื้อนได้!

ชายหนุ่มหันกลับไปมองเตียนเตี้ยน แต่นางกลับแย้มยิ้มให้เขาด้วยสีหน้าสงบ ราวกับทั้งหมดนี้เป็นเพียงสิ่งง่าย ๆ ที่นางไม่ต้องใช้กำลังมากมาย

สบาย ๆ และเรียบง่าย

แต่มันก็น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง!

ขอบเขตราชันเซียน! นางเป็นราชันเซียนที่ยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดของสามภพอย่างภาคภูมิ!

ในเวลานี้ เฉินซีก็เชื่ออย่างแน่วแน่ว่า หญิงงามที่มักยิ้มหวานอยู่เนืองนิจคนนี้ คือราชันเซียนอย่างไม่ต้องสงสัย!

เพราะมีเพียงราชันเซียนเท่านั้น ที่สามารถบรรลุกฎแห่งมิติที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ และควบคุมฟ้าดินได้ตามใจต้องการ!

“แค่ก! แค่ก!” เสียงไออย่างรุนแรงดังขึ้น ทำให้เฉินซีกลับมามีสติอีกครั้ง ชายหนุ่มหันกลับไปมอง และพบว่า ว่านเจี้ยนเซิงที่นอนอยู่บนถนนก็จ้องมองมาทางนี้เช่นกัน สายตานั้นหยุดอยู่ที่เตียนเตี้ยน

ยามนี้ใบหน้าที่ภาคภูมิใจและไม่แยแส เผยให้เห็นร่องรอยของความหวาดกลัวและความตกใจที่หาได้ยาก คล้ายไม่กล้าเชื่อสายตาว่าจะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตนในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้

หรือบางที เขาอาจจะตกใจกับพลังของเตียนเตี้ยนยิ่งกว่าก็เป็นได้

“ขอบคุณ” ว่านเจี้ยนเซิงประสานมือด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เหตุการณ์นี้แปลกนัก ถนนทั้งสาย ภัตตาคาร และแม้แต่ฟ้าดิน ทุกสิ่งล้วนอยู่ในสภาวะหยุดนิ่ง มันเหมือนกับถูกแช่แข็ง แต่เฉินซี ว่านเจี้ยนเซิง และเตียนเตี้ยน กลับสามารถขยับเขยื้อนได้ปกติ

นี่คือพลังของกฎแห่งมิติ

ด้วยการเข้าใจกฎแห่งมิติของเฉินซี สำหรับเขามันยังเป็นเรื่องยากที่จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ ฉากนี้จึงน่าตกใจอย่างยิ่ง

“เจ้าต้องขอบคุณเฉินซี ไม่ใช่ข้า ยังไงซะข้าก็ไม่รู้จักเจ้า” เตียนเตี้ยนกล่าว ใบหน้างดงามฟื้นคืนสู่ความสงบ ซึ่งแผ่กลิ่นอายสูงส่ง ทรงพลัง และภาคภูมิ

มันเป็นกลิ่นอายอันน่าเกรงขามที่มีเพียงตัวตนในขอบเขตราชันเซียนเท่านั้น ที่จะสามารถครอบครองได้

ว่านเจี้ยนเซิงยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งนี้ คล้ายไม่คาดคิดว่า เฉินซีจะมีความสัมพันธ์อันดีกับราชันเซียนเช่นนี้

เขาหายใจเข้าลึก และประสานมือให้เฉินซี “ขอบคุณพี่เฉิน วันนี้ข้าว่านเจี้ยนเซิง เป็นหนี้ชีวิตเจ้า”

เฉินซีตกตะลึงและรีบกล่าว “พี่ว่าน ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น”

เขายิ้มอย่างขมขื่นในใจ ตั้งแต่เริ่มบ่มเพาะจนถึงบัดนี้ เขาได้ช่วยเหลือผู้คนนับไม่ถ้วน และทุกคนล้วนกล่าวว่าเป็นหนี้ชีวิตตนด้วยสีหน้าจริงจัง

แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่สัญญาปากเปล่า ไม่ว่าจะเป็นว่านเจี้ยนเซิงหรือผู้คนในอดีต พวกเขาจะจดจำบุญคุณของเฉินซีสลักลึกไว้ในใจ แต่วิธีการทดแทนบุญเช่นนี้ ทำให้เฉินซีรู้สึกค่อนข้างกดดันอยู่ไม่น้อย

เห็นได้ชัดว่าว่านเจี้ยนเซิงเป็นคนพูดไม่เก่ง ดังนั้นจึงไม่กล่าวอะไรต่อ

เฉินซีจึงมองไปทางเตียนเตี้ยนแทน

“เรามีสิ่งที่ต้องทำในเวลานี้ ดังนั้นข้าจะส่งเขาออกไปก่อน” เตียนเตี้ยนกล่าว

ฟึบ!

นางโบกมือเปิดทางเดินในห้วงมิติ แล้วหันไปกล่าวกับว่านเจี้ยนเซิง “อาการบาดเจ็บของเจ้าสาหัส ดังนั้นการอยู่ที่นี่จะทำให้เจ้าเป็นอันตรายมากขึ้น ทวีปรัตติกาลอยู่อีกด้านหนึ่งของทางเดินนี้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ว่านเจี้ยนเซิงเข้าใจว่าเตียนเตี้ยนหมายถึงสิ่งใด เขาประสานมือให้กับเฉินซีอีกครั้ง จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ทางเดินในห้วงมิติโดยไม่ลังเล ก่อนจะหายไปในพริบตา

หลังจากส่งว่านเจี้ยนเซิงออกไปแล้ว เฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความตกใจ …พลังของราชันเซียนนั่นน่ากลัวเหลือเกิน พวกเขายังสามารถเปิดทางเดินห้วงมิติได้ด้วยการโบกมือ มีอะไรในโลกนี้ที่ ราชันเซียนทำไม่ได้บ้าง?

“นี่คือกฎแห่งมิติ” เมื่อว่านเจี้ยนเซิงจากไป รอยยิ้มคุ้นเคยได้ปรากฏที่มุมปากของนางอีกครั้ง จากนั้นก็เหลือบมองทางเฉินซี ก่อนจะจับมือขวาที่เรียวยาวและไร้ที่ติของตนเบา ๆ

โครม!

ในฉากที่หยุดนิ่ง ผู้เฒ่าเกออวิ๋นที่ยืนกลางอากาศคล้ายกับถูกคว้าด้วยมือที่ไร้รูปร่าง และร่างกายของเขาก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที กลายเป็นละอองเลือด แล้วหายไปในความว่างเปล่า!

ง่ายไม่ต่างจากการขยี้มด!

ม่านตาของเฉินซีขยายออกอย่างกะทันหัน นั่น…คือราชันเซียนครึ่งขั้น! แต่กลับถูกบดขยี้อย่างง่ายดายเช่นนั้นหรือ?”

นี่คือพลังของราชันเซียน!

พวกเขาทะลวงผ่านข้อจำกัดแห่งฟ้าดิน และจ้องมองไปยังประตูแห่งชีวิตและความตาย!

เมื่อผู้เฒ่าเกออวิ๋นสิ้นชีพ กฎแห่งมิติในฟ้าดินก็กลับเป็นปกติทันที แต่ร่างของเฉินซีและเตียนเตี้ยนได้หายไปแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนในภัตตาคารก็กลับมาได้สติอีกครั้ง ทว่าใบหน้าของพวกเขาในยามนี้เต็มไปด้วยความตกใจและความหวาดกลัวอย่างแท้จริง บางคนถึงกับกลัวจนขาสั่นและปัสสาวะรดตนเอง

แม้พวกเขาจะไม่สามารถขยับเขยื้อนกายได้ แต่ยังคงใช้ความคิดได้ และเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อตอนที่ผู้เฒ่าเกออวิ๋นถูกบดขยี้อย่างง่ายดาย พวกเขาจึงแทบไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง!

“ราชันเซียน! ชายหนุ่มคนนั้นคือราชันเซียนจริง ๆ!”

“โอ้สวรรค์! ช่างน่ากลัวยิ่งนัก! เหตุใดราชันเซียนจึงมาที่เมืองคนบาป? หรือกลียุคกำลังจะเกิดขึ้น?”

ทุกคนต่างร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว ในขณะนี้ เหล่าวายร้ายที่โหดเหี้ยม ผู้ซึ่งมือแปดเปื้อนไปด้วยเลือด ต่างก็หวาดกลัวราวกับบิดามารดาได้จากพวกเขาไปแล้ว แสดงให้เห็นว่าตกใจกับฉากตรงหน้ามากเพียงใด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลู่เปียว เขารู้สึกหวาดกลัวจนร่างกายสั่นเทาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แข้งขาอ่อนทรุดลงกับพื้น ปากสีแดงสดพึมพำไม่หยุด “ข้า… นี่ข้าได้ไปล่วงเกินราชันเซียนหรือนี่ … โอ้สวรรค์… หัวใจดวงน้อย ๆ ของข้ากำลังจะหลุดลอย…”

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท