ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 493 เรียกร้องสิทธิ์(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 493 เรียกร้องสิทธิ์(2)

ตอนที่ 493 เรียกร้องสิทธิ์(2)

“พ่อครับ วันนี้ผมหิวมาก ก็เลยกินข้าวที่มหาวิทยาลัยมาก่อนแล้ว”

ทุกคนได้ยินแบบนี้ก็ไม่ได้ว่าอะไร หลังจากนั้นก็ออกไปกินข้าวกับเซี่ยปิงหรุ่ย

แต่เซี่ยปิงหรุ่ยก็ยังหาโอกาส ขยิบตาให้ฉินเคอวั่ง ให้เขาออกไปพร้อมกับหล่อนในเช้าวันพรุ่งนี้

เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ขณะที่ฉินเคอวั่งกำลังจะออกไปข้างนอก เซี่ยปิงหรุ่ยก็มาตามนัดหมายแล้ว ทั้งยังมาพร้อมกับชายวัยกลางคนตัวสูงใหญ่อีกสองคน

ฉินเคอวั่งเห็นแบบนี้ก็ตกใจ

“พี่ปิงหรุ่ย พวกคุณปู่เซี่ยกำลังจะกลับซีอานแล้วไม่ใช่เหรอครับ พี่ไม่ไปส่งพวกเขาเหรอ?”

เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแบบนี้ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ฉันไปส่งพวกเขาที่สถานีรถไฟเรียบร้อยแล้วล่ะ หลังจากไปส่งพวกเขาก็มาหานาย ไป พวกเราออกเดินทางกันเลยเถอะ”

ฉินเคอวั่งได้ยินแบบนี้ก็เหลือบมองอีกสองคนที่อยู่ด้านหลังเซี่ยปิงชิง เอ่ยถาม “พี่ปิงชิง พวกเขาคือใครกันครับ?”

“อ๋อ…ฉันกลัวว่าถึงตอนนั้นเราจะรับมือกันไม่ไหว จึงพาพวกเขามาเป็นกำลังเสริมน่ะ”

สีหน้าของฉินเคอวั่งเต็มไปด้วยความซับซ้อนบางอย่าง “พี่ปิงหรุ่ย พวกเราไปมหาวิทยาลัยเพื่อจะไปเจอเกาเชี่ยนเชี่ยนไม่ใช่เหรอ พี่ชายหล่อนไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยพวกเรา เพราะฉะนั้นวันนี้ไม่ได้เจอกันหรอกครับ”

“ไม่เป็นไร พร้อมหรือยัง พวกเราออกเดินทางกันเลย”

ฉินเคอวั่งเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยเดินนำหน้าไปแล้ว เขาจึงรีบเดินตามไปติด ๆ หลังจากนั้นก็ทนไม่ไหว แล้วบอกกล่าว “พี่ปิงหรุ่ยครับ คงไม่ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือ ถ้าอย่างนั้นให้พวกเขาสองคนกลับไปก่อนก็ได้”

“วางใจ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวไปถึงมหาวิทยาลัยนายก็ให้พวกเขารอเราหน้าประตูมหาวิทยาลัยก็ได้ เพราะถ้ามีเรื่องทะเลาะวิวาทยังไงก็ต้องออกมาข้างนอกมหาวิทยาลัย ไม่อย่างนั้นถ้าโดนลงโทษขึ้นมาจะทำยังไง”

ฉินเคอวั่งไม่คาดคิดว่าเซี่ยปิงหรุ่ยจะคิดมากขนาดนี้ ซ้ำยังคิดถึงสถานที่ทะเลาะวิวาทด้วย ในตอนนั้นเองเขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

จนกระทั่งหลายคนมาถึงมหาวิทยาลัยชิงหัว เซี่ยปิงหรุ่ยก็เข้าไปข้างในกับฉินเคอวั่ง และชายวัยกลางคนสองคนนั้นก็อยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย

“พี่ปิงหรุ่ยครับ จะไปหาเกาเชี่ยนเชี่ยนจริงเหรอ จริง ๆ ผมก็ไม่ได้เป็นฝ่ายโดนนะ ผมบาดเจ็บก็จริง แต่พี่ชายของเกาเชี่ยนเชี่ยนก็บาดเจ็บเหมือนกัน พวกเราเสมอกันนะ”

เซี่ยปิงหรุ่ยเหลือบมองฉินเคอวั่ง แล้วเอ่ยขึ้น “พอเถอะเคอวั่ง พี่สาวนายบอกฉันแล้ว ว่าเธอเป็นคนกลบรอยให้หน้านาย ไม่อย่างนั้นหน้านายคงดูไม่ได้ด้วยซ้ำ เป็นแบบนี้แล้ว นายไม่อยากเรียกร้องสิทธิ์เหรอ”

“ผม…”

ฉินเคอวั่งลังเลนิดหน่อย “จริง ๆ แล้วเกาเชี่ยนเชี่ยนก็ไม่เลว แต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่อยากมีแฟนก็เลยปฏิเสธหล่อนไป และหล่อนก็คงไม่รู้เลยว่าพี่ชายมาหาเรื่องผม”

“ถ้าหล่อนไม่รู้ ก็ยิ่งต้องบอกให้หล่อนทราบ เพราะสิ่งที่พี่ชายหล่อนทำเป็นเรื่องผิด”

ฉินเคอวั่งพบว่าตัวเองไม่เข้าใจเซี่ยปิงหรุ่ยเลย ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน

ก็ค่อย ๆ เดินไปที่อาคารเรียน

“ฉินเคอวั่ง เกิดอะไรขึ้นกับหน้านาย?”

นักศึกษาหญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามาหา เมื่อเห็นฉินเคอวั่ง

ก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

ฉินเคอวั่งเห็นนักศึกษาหญิงคนนั้น สีหน้าก็เต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาไม่อยากพาเซี่ยปิงหรุ่ยไปหาหล่อนเลย ไม่คิดเลยว่าระหว่างทางทั้งสองจะได้มาเจอกันพอดี

ตอนแรกเซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่หลังจากเห็นแววตาของฉินเคอวั่ง ก็อดหันไปมองแล้วเอ่ยถามนักศึกษาสาวตรงหน้าเสียไม่ได้ “เธอคือเกาเชี่ยนเชี่ยนใช่ไหม”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เกาเชี่ยนเชี่ยนก็หันไปมองเซี่ยปิงหรุ่ย และเห็นหญิงสาวผู้ดูท่าทางเย็นชา ใบหน้าสวยงามประณีต ดุจดั่งหญิงสาวผู้งดงามแสนเยือกเย็น

เมื่อเห็นแบบนี้ เกาเชี่ยนเชี่ยนก็หันมองฉินเคอวั่งด้วยความเจ็บปวดแล้วพูดขึ้น

“ที่แท้นายก็มีแฟนแล้วนี่เอง ก็เลยปฏิเสธฉัน ถ้าอย่างนั้นนายก็ควรจะบอกกันดี ๆ สิ

ไม่ใช่บอกว่าตอนนี้ยังไม่อยากมีแฟน”

“เธออย่าพูดไร้สาระ นี่พี่ปิงหรุ่ยของผม”

ฉินเคอวั่งรีบส่ายหัวทันที เซี่ยปิงหรุ่ยและพี่สาวเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาก็ถือว่าหล่อนเป็นพี่สาวของเขาด้วย

แต่เกาเชี่ยนเชี่ยนไม่ค่อยอยากเชื่อเรื่องนี้

เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นแบบนี้จึงพูดขึ้นตามตรง “เธอไม่ได้เข้าใจผิดหรอก ฉันเป็นพี่สาวของเคอวั่งจริง ๆ แต่วันนี้ที่มาหาเธอ เป็นเพราะอยากจะคุยเรื่องพี่ชายเธอสักหน่อย”

“พี่ชายฉันเหรอ?”

สีหน้าของเกาเชี่ยนเชี่ยนเต็มไปด้วยความสงสัย

เซี่ยปิงหรุ่ยดึงฉินเคอวั่งไปโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็จับบนใบหน้าของเขา ก่อนจะชี้ไปที่ใบหน้าของเขาแล้วพูดขึ้น “เป็นเพราะฉินเคอวั่งปฏิเสธเธอ พี่ชายเธอก็เลยมาทำร้ายเขา เธอบอกหน่อยสิว่าพี่ชายของเธอทำเกินไปไหม”

“อะไรนะ…”

สีหน้าของเกาเชี่ยนเชี่ยนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“เป็นไปได้ไง ทำไมพี่ชายฉันถึงทำแบบนั้น” แต่หลังจากนั้นหล่อนก็นึกถึงสีหน้าของพี่ชายตอนที่ฟังสิ่งที่หล่อนเล่าขึ้นมาได้ และตอนที่พี่ชายกลับมาบ้านเมื่อวานนี้ ก็มีแผลตรงมุมปากนิดหน่อย

“นี่…พี่ชายฉันทำจริงเหรอ”

“เรื่องนี้มีอะไรต้องโกหก พี่ชายของเธอเป็นคนทำอยู่แล้ว”

ตอนแรกเซี่ยปิงหรุ่ยคิดว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เกาเชี่ยนเชี่ยนจึงจะยอมบอกว่าพี่ชายของหล่อนอยู่ที่ไหน ไม่คิดว่าจะได้มาเจออีกฝ่ายโดยตรง

“เชี่ยนเชี่ยน ทำไมเธอถึงเอาแต่อิดออดโดยไม่สนใจว่าจะเกิดเรื่องอะไรตามมาแบบนี้”

เกาเชี่ยนเชี่ยนได้ยินแบบนี้ ก็รีบหันไปมองทันที

เกาอวิ๋นเซียวก้าวเดินมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วส่งของทั้งหมดให้น้องสาวตัวเอง แต่ไม่นานนัก เขาก็หันมาประจันหน้ากับฉินเคอวั่ง “เหอะ…แกปฏิเสธน้องสาวฉัน แล้วทำไมยังเสนอหน้ามาหาหล่อนอีก ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อวานฉันบอกเอาไว้ว่ายังไง”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ก็ไม่มีตรงไหนไม่ชัดเจนอีกว่าเกาอวิ๋นเซียวเป็นคนลงไม้ลงมือกับฉินเคอวั่ง

เซี่ยปิงหรุ่ยดึงฉินเคอวั่งเข้าไปหลบข้างหลัง ก่อนจะมองเกาอวิ๋นเซียวด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วเอ่ยขึ้น “เป็นแกนี่เองที่นายทำร้ายน้องชายฉัน”

ตอนแรกเกาอวิ๋นเซียวสนใจเพียงฉินเคอวั่ง แต่หลังได้ยินเสียงของเซี่ยปิงหรุ่ย

เขาจึงหันกลับไปมอง เพียงสบตาครั้งเดียวก็ทำให้เขาประหลาดใจ คนสวยแสนเย็นชาคนนี้ช่างสวยเหลือเกิน “เธอคือพี่สาวของฉินเคอวั่งเหรอ?”

เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ปฏิเสธพลางพยักหน้าเอ่ยตามตรง “ใช่ ฉันเป็นพี่สาวของเคอวั่ง เมื่อวานนายทำร้ายเคอวั่งของเรา ฉันมาเพื่อเรียกร้องให้นายขอโทษเขา”

เดิมทีเกาอวิ๋นเซียวจับจ้องเซี่ยปิงหรุ่ยตาไม่กระพริบ เพราะอีกฝ่ายเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก แต่หลังจากได้ยินแบบนี้ เขาก็แค่นหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วเอ่ย “ทำไมฉันจะต้องขอโทษมันด้วย แล้วตอนที่มันปฏิเสธน้องสาวฉันล่ะ มันทำให้น้องสาวฉนต้องร้องไห้เสียใจอยู่ที่บ้านตั้งนาน”

“พี่…”

เกาเชี่ยนเชี่ยนไม่คิดว่าพี่ชายตัวเองจะขายหล่อน สีหน้าจึงแดงก่ำเต็มไปด้วยความอับอาย หล่อนเสียใจมากที่โดนปฏิเสธ นอกจากนี้ยังทำให้คนรู้ว่าตัวเองร้องไห้หนักมากอีก

ฉินเคอวั่งมองเกาเชี่ยนเชี่ยนด้วยความแปลกใจ เขาไม่คิดว่าเป็นเพราะคำปฏิเสธของตัวเอง จึงทำให้หล่อนรู้สึกเสียใจขนาดนี้

แต่เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย

“ถึงยังไงการทำร้ายร่างกายคนอื่นก็เป็นความผิด รีบขอโทษเคอวั่งซะ”

เกาอวิ๋นเซียวยังคงเชิดคอ ไม่เอ่ยขอโทษเลยสักนิด

“เหอะ…นี่เธอกำลังบังคับให้ฉันลงมืออย่างนั้นเหรอ”

ฉินเคอวั่งได้ยินแบบนี้ ก็จับเซี่ยปิงหรุ่ยแล้วรีบพูดขึ้น “พี่ปิงหรุ่ย พี่ก็บอกอยู่ว่าจะไม่ตีกันในมหาวิทยาลัย”

“วางใจเถอะ เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว”

เซี่ยปิงหรุ่ยหันไปมองเกาอวิ๋นเซียว แล้วเอ่ยขึ้น “นายกล้าออกไปข้างนอกกับฉันไหม”

“เหอะ…มีอะไรต้องกลัว”

เกาอวิ๋นเซียวเดินตามเซี่ยปิงหรุ่ยออกไปนอกประตูมหาวิทยาลัย โดยที่ฉินเคอวั่งและเกาเชี่ยนเชี่ยนเดินตามมาด้วย

เพียงแต่เซี่ยปิงหรุ่ยเดินออกมาไกลมากก่อนจะหยุดลง

เกาอวิ๋นเซียวก็ตามหล่อนมาแล้วเหมือนกัน

ในตอนนั้นเอง ชายวัยกลางคนทั้งสองคนก็ได้มาอยู่ข้างหลังเซี่ยปิงหรุ่ยเรียบร้อย

เซี่ยปิงหรุ่ยกวักมือเรียกพลางเอ่ยขึ้น “ลงมือกับฉันสิ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ปกป้องน้องไม่ใช่เรื่องผิด แต่ฟังเหตุผลจากอีกฝ่ายด้วยสิไอ้หนุ่ม

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท