ปลายจวักครองใจ – ตอนที่ 365 ไปบอกนายท่าน

ปลายจวักครองใจ

ตอนที่ 365 ไปบอกนายท่าน

ตรงข้ามบ่อนพนันหรือ

คนที่มุงดูสับสนขึ้นมาชั่วขณะ

ตรงข้ามบ่อนพนันคืออะไรน่ะ สามารถนำไปส่งเพื่อทำเงินได้หรือ

โรงรับจำนำ?

ไม่มีโรงรับจำนำที่มีมโนธรรมแบบนั้นอยู่หรอก แม้ว่าเสื้อผ้าที่คุณชายใหญ่สวี่สวมใส่จะไม่เลว แต่หากนำเข้าไปแลกในโรงรับจำนำ ก็ได้เงินไม่เท่าไร

คนที่เคยไปบ่อนทองพันชั่งรู้สึกตัวขึ้นมา “ไอ้หยา ตรงข้ามบ่อนทองพันชั่งไม่ใช่หอคณิกาชายแห่งหนึ่งหรือ!”

เมื่อวาจานี้หลุดออกมาก็คล้ายกับหยดน้ำร่วงหล่นในกระทะซึ่งมีน้ำมันเดือดอยู่ บรรยากาศดุเดือดขึ้นมาทันที

สวรรค์ คุณชายใหญ่สวี่จะถูกขายเข้าหอคณิกาชายเพื่อคืนหนี้พนันแล้ว!

จวนฉางชุนโหวจะรู้ไหมนะ

ข้ารับใช้จวนฉางชุนโหวที่วิ่งกลับไปรายงานคนนั้นยังไม่กลับมา ข้ารับใช้อีกคนที่ปะปนอยู่ในกลุ่มคนก็อยู่ต่อไปไม่ได้ วิ่งกลับไปเช่นกัน

สวี่ซีสีหน้าเปลี่ยนสี แหกปากร้องว่า “พวกเจ้ากล้าหรือ!”

ชายที่มือใหญ่เหมือนใบพัดตบข้างแก้มเขาอย่างไม่รีบร้อน มือนั้นหยาบดุจเปลือกไม้ ทำให้ผิวเนียนนุ่มของเด็กหนุ่มสากระคาย

“คุณชายใหญ่สวี่ ท่านลองพูดมาดูสิว่า เหตุใดพวกข้าจะไม่กล้า ท่านนึกว่าท่านยังเป็นคุณชายจวนโหวอีกหรือ จุ๊ๆ ยังไม่ตื่นจากฝันหรือไร”

คนอื่นๆ ก็หัวเราะเสียงดังครืน

“เป็นถึงคุณชายจวนโหวผู้มีเกียรติ แค่ห้าร้อยตำลึงก็ไล่ออกมาได้แล้ว ช่างทำให้ผู้คนได้เปิดโลกทัศน์จริงๆ”

“นั่นสิ ได้ยินมาว่า เงินของตระกูลสูงศักดิ์และขุนนางมีมากเหมือนกองหิมะ ใช้ไข่มุกดีดเล่นแทนลูกแก้ว สาวใช้ที่มีหน้ามีตาหน่อยคนหนึ่งจะแต่งงาน สิ่งที่นายท่านให้ล้วนไม่ใช่แค่เงินเหล่านี้…”

คนที่มุงดูไม่ขาดแคลนข้ารับใช้ในตระกูลผู้มีอำนาจ เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็มุมปากกระตุกเงียบๆ

อันธพาลเหล่านี้จะต้องเข้าใจอะไรผิดในตระกูลสูงศักดิ์และขุนนางแน่นอน!

เปิดโปงน่ะไม่มีทางเปิดโปงหรอก ใครไม่อยากได้หน้าบ้างล่ะ

และวาจาเหล่านี้ก็กลายเป็นดาบแหลมคมนับไม่ถ้วนที่ปักลงบนหัวใจของสวี่ซี จนถึงขั้นลืมหลบมือใหญ่ที่ตบแก้มเขาอย่างดูหมิ่น

คนที่เป็นหัวหน้าเอามือไพล่หลัง “พาตัวไป!”

สวี่ซีถูกผลักจนเดินเซก็ได้สติกลับคืนมาและเริ่มดิ้นรนอย่างรุนแรง

“ปิดปากเขา!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของลูกพี่ คนหนึ่งในนั้นก็นำผ้าเช็ดเหงื่อยัดเข้าไปในปากสวี่ซี

สวี่ซีโมโหสุดขีด แต่กลับตะโกนออกมาไม่ได้แม้สักคำ

เขาทอดสายตาขอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวังไปทางกลุ่มคนที่มุงดู

ตอนนี้ หัวใจของเด็กหนุ่มไร้ซึ่งความหวังว่าจวนฉางชุนโหวจะปกป้องเขาแล้ว

เหล่าคนมุงดูยังคงยืนหยัดในบทบาทของคนมุงดู

สามร้อยตำลึงเงินเลยนะ ใครจะออกไหวกัน!

อีกอย่าง ไม่ใช่แม่นางน้อยขายตัวฝังศพบิดาถูกนักเลงลากตัวไปบังคับขายตัวสักหน่อย เป็นลูกล้างผลาญคนนี้ที่แพ้พนันเองแท้ๆ

ความสิ้นหวังในแววตาของสวี่ซีเข้มขึ้น เขากวาดตามองไปรอบด้านตามจิตใต้สำนึก ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งก็สะท้อนเข้ามาในสายตาของเขา

ในกลุ่มคน เด็กสาวในเสื้อคลุมสีเขียวเรียบง่ายสะอาดตา แต่กลับกลบความงดงามวิจิตรของดวงหน้านั้นไม่ได้

นั่นเป็นดวงหน้าที่ทำให้ผู้คนนึกถึงความอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิในเดือนสาม

สวี่ซีนัยน์ตาพลันเปล่งประกาย จ้องเขม็งไปยังทิศทางนั้นแล้วส่งเสียงอือๆ อาๆ

หลังจากนั้น เขาก็เห็นเด็กสาวเอียงหน้าไปยิ้มหวาน พูดอะไรบางอย่างกับสาวใช้ซึ่งสวมเสื้อกั๊กยาวสีแดงที่อยู่ข้างๆ

สาวใช้นางนั้นสีหน้าเบิกบานใจ รอยยิ้มนั้นดูไม่ต่างจากคนที่มุงดูอยู่รอบๆ

นัยน์ตาของสวี่ซีพลันเบิกกว้างขึ้นหลายส่วน ทั้งยังจ้องเขม็งไปยังทิศทางนั้นครู่หนึ่ง ประกายในแววตาก็ค่อยๆ อับแสงลงไป

ลั่วเซิงโค้งมุมปากเล็กน้อย

นางเคยช่วยสวี่ซีออกมาจากวงล้อมของเด็กหนุ่มหลายคนแล้วครั้งหนึ่ง แม้ว่าตอนนั้นสวี่ซีจะไม่รับน้ำใจเลยสักนิดก็ตาม แต่พอถึงตอนที่ตัวเขาต้องเผชิญกับสภาพอับจนหนทางเขาก็จะคิดว่านางสมควรช่วยเขาอีกเช่นเคย

นางไม่ชอบนิสัยไม่ดีเช่นนี้

ลั่วเซิงมองสวี่ซีถูกชายกำยำหลายคนลากไปด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกแล้วยกชายกระโปรงขึ้นตามไปเงียบๆ

ฉางชุนโหวยังไม่หายโมโหก็ได้รับรายงานจากข้ารับใช้อีกแล้ว

“อะไรนะ ขายไปหอคณิกาชายหรือ” เสียงถ้วยชาถูกปาจนแตกละเอียดดังขึ้นตามเสียงตวาดด้วยความโมโหของฉางชุนโหว

ข้ารับใช้ก้มหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

ฉางชุนโหวโมโหเสียจนเดินวนไปวนมาในห้อง ในใจก็ด่าหยางซื่อสาดเสียเทเสียอีกครั้ง

หากนังแพศยาคนนั้นไม่ใจดำขนาดนี้ ให้เงินที่ขับไล่สวี่ซีไปมากอีกหน่อย ไหนเลยจะมีเรื่องในภายหลังเหล่านี้!

จวนโหวในตอนนี้อยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก

ออกหน้าแก้ปัญหาให้สวี่ซี ผู้คนก็จะยึดมั่นว่า สวี่ซีกับจวนโหวยังมีความสัมพันธ์กันอยู่ หลังจากนี้เจ้าลูกทรพีนั่นก็สามารถเหิมเกริมกระทำความผิดภายใต้ชื่อของจวนโหวได้

แต่หากไม่สนใจ อย่างไรสวี่ซีก็เป็นบุตรชายของเขา เขายินยอมให้บุตรชายที่ถูกไล่ออกจากตระกูลคนนี้หนาวตาย หิวตาย แต่ทนที่จะให้ถูกขายไปหอคณิกาชายไม่ได้

เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ฉางชุนโหวก็หยุดนิ่ง เอ่ยเสียงเข้มว่า “คิดหาวิธีให้คุณชายรองหลินรู้สถานการณ์ในตอนนี้ของสวี่ซี”

ในเมื่อเขาไม่สะดวกช่วยคน ก็ให้ตระกูลหลินออกหน้าแล้วกัน

หลินซูคือญาติผู้พี่ของสวี่ซี หลายปีมานี้ สองตระกูลสวี่และหลินไม่ได้ไปมาหาสู่กันอย่างเปิดเผย แต่เขารู้ว่าญาติผู้พี่ผู้น้องคู่นี้ติดต่อกันเป็นการส่วนตัว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ญาติผู้น้องตกทุกข์ได้ยาก ญาติผู้พี่จะยืนมองอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร

ฉางชุนโหวมีวิธีแก้ปัญหาแล้วก็โล่งใจเล็กน้อย พลางเอ่ยเร่ง “รีบไปจัดการ!”

ข้ารับใช้รับคำแล้วรีบไปดำเนินการ

ตอนนี้สวี่ซีถูกพามาถึงประตูหอคณิกาชายแล้ว

ฟ้าพลบค่ำแล้ว โคมไฟสีแดงหน้าประตูหอคณิกาชายทั้งใหญ่ทั้งสว่าง ดูโอ้อวดดึงดูดความสนใจอย่างน่าประหลาด

เด็กหนุ่มหน้าตาน่ามองเป็นพิเศษ สวมเสื้อนวมรีดเรียบสองชั้นยืนอยู่หน้าประตูสองคน ราวกับไม่กลัววันหิมะตกแบบนี้เลยแม้แต่น้อย

แต่แก้มของพวกเขากลับมีริ้วแดงเพราะความหนาวเย็นเสียอย่างนั้นจึงปรากฏท่าทางน่าสงสารออกมาหลายส่วน

เมื่อเห็นคนมากมายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา เด็กหนุ่มหน้าตาน่ามองพลันเบิกตากว้างอย่างงุนงง มองดูแล้วน่าสงสารยิ่งกว่าเดิม

เกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ?

พวกเขาที่นี่ต่างจากสถานที่อื่นๆ คนส่วนใหญ่ล้วนมาคนเดียว แม้ว่าจะมีสหายมาด้วย มากที่สุดก็สามคนห้าคน แต่นี่มองดูแล้วร้อยคนขึ้นไปเลยนะ!

เด็กหนุ่มสองคนมองหน้ากันไปมา

ในมุมหนึ่งซึ่งไม่สะดุดตาผู้คน มีชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่หลายคน เป็นคนของหอคณิกาชายเช่นกัน พบเจอคนมาก่อเรื่องก็ถึงเวลาที่จะพวกเขาจะทำหน้าที่แล้ว

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ หลายคนก็เดินเข้ามา

พวกเขาย่อมรู้จักกับอันธพาลของบ่อนทองพันชั่ง

“หวังต้า นี่มันเรื่องอะไรกัน”

คนที่เป็นหัวหน้าผลักสวี่ซีไปตรงหน้าหลายคนนั้น พลางหัวเราะเหอะๆ “มาส่งของ ดูสิว่าเป็นอย่างไร”

“เอ๋ นี่ไม่ใช่คุณชายใหญ่สวี่แห่งจวนฉางชุนโหวหรือ ของน่ะเป็นของดี แต่ว่าจะมีปัญหาหรือไม่”

“ไม่มีปัญหา ถูกไล่ออกจากตระกูลแล้ว แถมยังติดเงินพวกเราบ่อนพนันด้วย…”

อีกฝ่ายถึงได้เปิดทางให้ พลางยิ้มอย่างเป็นมิตร “เช่นนั้นก็รีบเข้าไปเถอะ อันดับหนึ่งของพวกเราอายุมากแล้ว ตอนนี้กำลังขาดต้นกล้าชั้นดีอยู่พอดี”

สวี่ซีได้ยินก็โศกเศร้าอย่างยิ่ง แต่ดันถูกกดไว้จนขยับเขยื้อนไม่ได้ ทำได้แค่อาศัยเท้าสองข้างไม่ให้เดินไปข้ามธรณีประตูไป

แต่ทว่านี่เป็นการต่อสู้อย่างจนตรอก เด็กหนุ่มถูกลากเข้าไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงแค่รองเท้าข้างหนึ่งที่ตกอยู่นอกประตูอย่างโดดเดี่ยว

คนที่มุงดูนิ่งเงียบไปทันที

จวนฉางชุนโหว…ไม่สิ ผู้ซึ่งเคยเป็นคุณชายใหญ่แห่งจวนฉางชุนโหว ถูกขายเข้าหอคณิกาชายทั้งแบบนี้แล้วหรือ

ชีวิตคนเรา…ช่างไม่แน่นอนเลยจริงๆ!

ตอนนี้ลั่วเซิงก็ก้าวออกจากกลุ่มคน เดินตรงไปทางหอคณิกาชาย

ในกลุ่มคน สือเยี่ยนเห็นการกระทำของลั่วเซิงก็เป็นคนแรกที่รู้สึกตัวขึ้นมา คุณหนูลั่วจะไปซื้อคุณชายใหญ่สวี่ที่หอคณิกาชายแล้ว!

เขารู้ว่า คุณหนูลั่วปฏิบัติต่อสวี่ซีอย่างไม่ธรรมดา

ตอนที่เขาเพิ่งถูกนายท่านไล่ไปเลี้ยงห่านให้คุณหนูลั่ว ยังไม่ทันถึงจวนแม่ทัพใหญ่เลย เรื่องแรกที่ทำก็คือช่วยคุณหนูลั่วแบกสวี่ซีกลับจวน

แน่นอนว่า คนมีหงโต้วเป็นผู้แบก แต่เขาก็รับบทเป็นมืออันธพาลด้วยเช่นกัน

ไม่ได้การ เขาต้องไปบอกนายท่าน!

ปลายจวักครองใจ

ปลายจวักครองใจ

Status: Ongoing
อาหารแม้เลิศรสเพียงไหน แต่หากซ่อนไว้ซึ่งพิษร้ายเล่า? แม้เขาจะดีเพียงใด แต่หากแซ่ ‘เว่ย’ แล้วไซร้ พวกเขาคงถูกลิขิตให้ไม่อาจร่วมโลก! จากผู้เขียน ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ยนิยายโรแมนติก เข้มข้นสอดแทรกความตลกอย่างลงตัว จากผู้เขียน ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ยสิบสองปีก่อนจวนเจิ้นหนานอ๋องถูกราชสำนักสั่งกวาดล้าง คนในจวนทั้งหมดโดนสังหาร โลหิตย้อมจนพื้นเป็นสีแดงฉานท่านหญิงชิงหยางที่ออกเรือนไปในวันเดียวกันนั้นพอทราบข่าวก็เร่งรุดกลับมาที่จวนกลับถูกสามีหมาดๆ อย่างผิงหนานอ๋องซื่อจื่อยิงธนูใส่จนสิ้นใจผิงหนานอ๋องซื่อจื่อ เว่ยเชียง คือผู้ที่รวบรวมหลักฐานการก่อกบฏของจวนเจิ้นหนานอ๋องรายงานต่อราชสำนัก ได้รับการยกย่องในความสามารถและถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นรัชทายาทองค์ปัจจุบัน…สิบสองปีต่อมาท่านหญิงชิงหยางกลับฟื้นขึ้นอีกครั้งในร่างของ ลั่วเซิง คุณหนูสายตรงผู้เป็นดวงใจของแม่ทัพใหญ่ลั่ว เพราะนิสัยมักมากในกามของร่างเดิมจึงล่วงเกิน ไคหยางอ๋อง พระอนุชาในฮ่องเต้องค์ปัจจุบันผู้มีฉายาว่าเทพสงครามเข้า บิดาจึงจำใจส่งนางมาอยู่ที่บ้านท่านตาที่จินซาชื่อเสียงของแม่นางลั่วนั้นเรียกได้ว่าฉาวโฉ่ เอาแต่ใจ หยาบคาย มักมาก เจ้าอารมณ์ ถือว่ามีบิดาคอยให้ท้ายไม่มีสิ่งใดไม่กล้าทำหลังกลับคืนเมืองหลวงนางและ ไคหยางอ๋อง กลับมีเรื่องราวให้ต้องเกี่ยวพันกันอยู่เรื่อยๆแม้เขาจะเป็นคนซื่อสัตย์เพียงไร แต่ในเมื่อเขาแซ่ ‘เว่ย’ นางและเขาก็ถูกลิขิตมาให้ไม่อาจอยู่ร่วมโลก!“ข้ากับแม่นางลั่วไม่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า” ชายชุดสีแดงเข้มเดินเข้ามาและสบตากับลั่วเซิง “ไม่ทราบว่าแม่นางลั่วจำข้าได้หรือยัง”“ก็นึกถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ แต่ไม่รู้จำผิดหรือไม่ คุณชายจะให้ข้าพูดออกมาตอนนี้เลยหรือ”เวลานี้เอง เว่ยหานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าคิดว่าหลังจากแม่นางลั่วปลดเข็มขัดข้าแล้วจะจำข้าได้เสียอีก”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท