บทที่ 932 มัจฉาสัตมายา ‘หัวใจมนุษย์ไม่อาจคาดเดา!’
บทที่ 932 มัจฉาสัตมายา ‘หัวใจมนุษย์ไม่อาจคาดเดา!’
อารมณ์ของซีจมดิ่งลงเป็นพิเศษ คำพูดของร่างพร่ามัวหรือก็คือความคิดสุญตาทำให้นางไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง คำตอบของปริศนานี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป!
อนาคตชวนให้รู้สึกหวาดหวั่นอย่างแท้จริง
สุดท้ายนางก็เดินทาง จากออกไปพร้อมกับเต่าชรา
ก่อนจากไป นางยังถามกับความคิดสุญตาว่าเส้นทางภายในดินแดนว่างเปล่านั้นเชื่อมต่อกับดินแดนใด ทว่าความคิดว่างเปล่ากลับบอกนางว่าไม่แน่ชัด
นั่นเป็นเส้นทางที่กล่องสี่เหลี่ยมเปิดขึ้นมา มันไม่รู้ว่านำพาไปที่ใดกันแน่ และมันเองก็ไม่กล้าติดตามสืบเสาะกล่องสี่เหลี่ยมที่นำพาความคุกคามอย่างมากมาสู่มันได้
“กล่องสี่เหลี่ยมต้องการบอกเรื่องราวเหล่านี้กับข้าหรือ?”
หลังออกจากดินแดนว่างเปล่า ซีก็รำพึงกับตนเอง
นางตระหนักขึ้นมาได้ว่าเส้นทางที่กล่องสี่เหลี่ยมเปิดขึ้นมาในดินแดนว่างเปล่านั้น แท้จริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดมากมายกับดินแดนว่างเปล่า เส้นทางดังกล่าวจะเปิดในดินแดนแห่งอื่นก็ย่อมทำได้
ทว่ากล่องสี่เหลี่ยมกลับเลือกมายังดินแดนว่างเปล่า จากนั้นก็เปิดเส้นทางขึ้นภายใน
‘กล่องสี่เหลี่ยมอยากให้ข้าช่วยความคิดสุญตาอย่างนั้นหรือ?’
ภายในใจของนางคิดเชื่อมโยง
หรือว่ากล่องสี่เหลี่ยมจะรู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่แล้ว ทั้งยังทราบว่านางจะต้องติดตามมา จึงคิดให้นางได้พบกับปัญหาของความคิดสุญตา
เพื่อให้นางสามารถแก้ไขปัญหาของความคิดสุญตาได้หรือ?
แต่นางจะสามารถทำได้หรือ?
นางไม่สามารถมองต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงของความคิดสุญตาได้อย่างถ่องแท้ เช่นนั้นจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไร? อย่างน้อยสุดก็ไม่ใช่ในยามนี้ ช่องว่างที่มีนั้นมากเกินไป!
“ตอนนี้ทำไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าอนาคตจะทำไม่ได้ บางทีอาจมีความเป็นไปได้หลังจากเจอกล่องสี่เหลี่ยมแล้ว”
ซีเอ่ยกับตนเอง
จากนั้นนางและเต่าชราก็ออกเดินทางต่อ
นี่เป็นฉากใหม่ของจักรวาลหมื่นดาราโดยสิ้นเชิง ทว่าเส้นทางยังคงไปต่อไม่หยุดลงเพียงแค่นั้น
…
ด้านนอกเมืองชิงซาน ริมแม่น้ำสายเล็ก
“ไปกันเถิด”
ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินออกเดินทาง พวกมันผ่านการปรับเปลี่ยนร่างและยกระดับเป็นที่เรียบร้อย กำลังจะไปยังแดนธุลีเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องจิตวิญญาณหลักของเจ้าก้อนหิน
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเองก็เตรียมตัวออกเดินทางเช่นกัน
ภายในพื้นที่พิเศษที่ต้นหลิวสร้างให้กับเขา เวลาไหลอย่างเชื่องช้ายิ่ง ด้านนอกเพียงหนึ่งวันอาจเท่ากับด้านในหนึ่งร้อยปีเสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินยังช่วยเหลือเขาด้านการฝึกตนอย่างต่อเนื่อง ขอบเขตพลังพัฒนาขึ้นอย่างบ้าคลั่ง วิถีหมากล้อมเองยามนี้ก็สูงขึ้นจนอยู่ในจุดที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้เขาได้มาถึงขอบเขตนิรันดร์แล้ว สามารถดึงพลังแข็งแกร่งของกระดานหมากรุกออกมาได้ และยังดูดซับพลังของจิตหลักความมืดมิดจนหมดสิ้น
กระดานหมากรุกปกป้องจิตวิญญาณของเขาเอาไว้ ทำให้ต้านทานพลังมืดมิดได้ เขารู้สึกว่าตนเองพร้อมแล้ว ได้เวลาไปเป็นไส้ศึกที่ฝั่งความมืดมิดแล้ว!
“ข้าคือมารจิว!”
เขาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ปรับเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นรูปลักษณ์จิตหลักความมืดมิด
นี่คือรูปลักษณ์ดั้งเดิมของจิตหลักความมืดมิด มารจิวเป็นชื่อเรียกของจิตหลักความมืดมิดในกองกำลังมืดมิด เขาต้องการจะลอบเข้าไปในกองกำลังมืดมิดด้วยตัวตนของมารจิว
แม้จะมีช่องว่างความแตกต่างขนาดใหญ่ระหว่างพลังของตัวเขากับมารจิว อย่างไรเสียมารจิวก็สามารถต่อกรกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้ เป็นถึงขั้นที่ห้าของขอบเขตอิสระ
และตอนนี้เขาอยู่เพียงขอบเขตนิรันดร์
ทว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด
สามารถอ้างได้ว่าระหว่างการต่อสู้ของมารจิวกับพระอมิตาภะพุทธเจ้า เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังจึงไม่อยู่ในจุดสูงสุด
“ไปกันเถิดสหาย พวกเรามาต่อสู้เคียงข้างกัน ร่วมต่อกรความมืดมิด!”
เขาตบไหล่ของเจ้าหลวงเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มร่า
เจ้าหลวงเองก็ได้ฝึกฝนในพื้นที่พิเศษแห่งนี้ด้วย ขอบเขตของมันเพิ่มสูงขึ้นจนมาถึงขั้นที่แปดขอบเขตผู้บงการแล้ว
เขาต้องการให้เจ้าหลวงไปยังกองกำลังมืดมิดเพื่อทำ ‘เรื่องสำคัญ’ บางประการให้ แต่หากขอบเขตของเจ้าหลวงต่ำเกินไปก็จะไม่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวก
ดังนั้นเขาจึงให้เจ้าหลวงอยู่ในพื้นที่พิเศษเพื่อฝึกฝนด้วย
นอกจากนี้เขายังขอให้ต้นหลิวช่วยประทับข้อห้ามลงบนร่างของเจ้าหลวง ทำให้เจ้าหลวงไม่สามารถทรยศได้
อีกทั้งต้นหลิวยังได้ทิ้งพลังสายหนึ่งเอาไว้บนตัวเจ้าหลวง ป้องกันไม่ให้เจ้าหลวงถูกสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่มาตรวจสอบล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริง
“อ่า ไม่ใช่ ๆ สหายอันใดกัน ข้าไม่ใช่!”
ทันใดนั้นเอง จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงพลันเหมือนจะคิดบางสิ่งออก รีบเปลี่ยนคำพูดทันที การเรียกว่า ‘สหาย’ นับเป็นเรื่องอันตรายยิ่งนัก
เขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ของเจ้าหลวง
เจ้าหลวงไม่เพียงแต่พิฆาตบิดาบุญธรรมเท่านั้น กระทั่งเหล่าสหาย พี่ใหญ่ที่แสนดีเอย ต่างก็ล้วนเผชิญเคราะห์ร้าย เขาไม่ได้ต้องการจบสิ้นลงด้วยความแปลกประหลาดเช่นนี้
“ไม่ไปไม่ได้หรือ!”
เจ้าหลวงร่ำไห้เอ่ยออกมา
หากไปครั้งนี้ ไม่รู้ว่ามันยังจะกลับมาได้อีกหรือไม่ ความมืดมิดนั้นน่าสะพรึงกลัวเกินไป
“เจ้ากังวลสิ่งใด? วางใจได้ เจ้าจะไม่เป็นอันใด อย่างไรเสียเจ้าก็พิฆาตผู้อื่นมามายมาก ทว่าตนเองกลับไม่เคยเกิดเรื่องอันใด!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงพาเจ้าหลวงจากไป มุ่งหน้าสู่สมรภูมิมืดมิด
…
ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่ง สสารระดับสูงหลั่งไหลออกมาอย่างเข้มข้นและรุนแรงมากขึ้น ทั้งอาณาจักรเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง แตกต่างจากก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับเหว!
ก่อนหน้านี้อาณาจักรแห่งนี้นับได้ว่าก้าวสู่ยุคสุดท้ายของการฝึกตน ทว่ายามนี้สามารถเอ่ยได้อย่างเต็มปากว่าเป็นยุคทองแห่งการฝึกตน ขอเพียงมีพรสวรรค์เล็กน้อย การฝึกฝนล้วนกลายเป็นเรื่องง่ายดาย ขอบเขตและพลังได้รับการปรับปรุงเป็นอย่างมาก!
กระทั่งปุถุชนธรรมดายังได้รับคุณประโยชน์อย่างมาก มีอายุขัยเพิ่มขึ้น ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่เจ็บปวดอย่างง่ายดายอีกต่อได้ ต่างสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์
ตอนนี้คนอายุหกสิบเจ็ดสิบปียังแข็งแกร่งพอ ๆ กับชายฉกรรจ์ สามารถยกของหนักกว่างร้อยจินได้อย่างง่ายดาย วิ่งได้ไกลว่ายี่สิบลี้โดยไม่มีเหนื่อย
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรต่าง ๆ รวมถึงสิ่งมีชีวิตต่างจักรวาลโกลาหลจำนวนไม่น้อยมาเยือนยังอาณาจักรแห่งนี้ กระทั่งสิ่งมีชีวิตเทวโลกเองก็ยังมา
ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้ก่อความวุ่นวายขึ้นในอาณาจักรแห่งนี้แต่อย่างใด ซ้ำยังสงบนิ่งเป็นอย่างมาก พวกเขาได้ยินมาก่อนแล้วว่าอาณาจักรแห่งนี้ไม่ธรรมดา มีตัวตนอันน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุดประทับอยู่
ยังดีที่อาณาจักรแห่งนี้ใหญ่โตขึ้นมโหฬาร สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่มาได้
หากจะกล่าวว่าอาณาจักรแห่งนี้กลายเป็นอาณาจักรที่ใหญ่สุดก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง จำนวนสิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายในเองก็ห่างไกลเกินกว่าอาณาจักรอื่นเป็นอย่างมาก
สิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักรภายในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ได้แต่ทอดถอนใจออกมาด้วยอารมณ์มากมาย
ครั้งหนึ่งอาณาจักรแห่งนี้เคยเป็นอาณาจักรที่อ่อนแอที่สุด เป็นเพียงอาณาจักรระดับต่ำ ทว่าตอนนี้เพียงผ่านไปไม่นาน กลับกลายเป็นอาณาจักรอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง กระทั่งเทวโลกยังไม่อาจเปรียบเทียบได้!
สิ่งมีชีวิตภายนอก รวมทั้งสิ่งมีชีวิตจากเทวโลก ต่างล้วนเก็บความผยองเอาไว้ เต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง
เมื่อลองคิดดูแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น!
ก่อนหน้าอาณาจักรแห่งนี้อ่อนแอยิ่งนัก ไม่ว่าอาณาจักรแห่งใดล้วนแข็งแกร่งกว่า เมื่อสิ่งมีชีวิตภายนอกเข้ามายังอาณาจักรแห่งนี้ล้วนหยิ่งผยองดูแคลนสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองของอาณาจักรแห่งนี้ ทั้งวาจาและการกระทำล้วนเต็มไปด้วยความไม่เคารพ
ยามนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าดูหมิ่นสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองของอาณาจักรแห่งนี้ ล้วนแต่เต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง ไม่กล้ายั่วยุโดยง่ายเนื่องจากกลัวจะสร้างเรื่องเข้าตัว!
“เช่นนี้จึงนับว่าถูกต้อง ทุกคนต่างฝึกฝนกันไป ไม่จำเป็นต้องดูแคลนกัน ความภาคภูมิใจอันใดก็เก็บเอาไว้ในใจ”
มัจฉาสัตมายาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม มันกับชางเหยาท่องเที่ยวไปทั่วอาณาจักร ทั้งยังพึงพอใจอย่างมากกับสถานการณ์ภายในอาณาจักรยามนี้
จำเป็นต้องรู้ว่าก่อนหน้านี้ คนรอบกายของคุณชายต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการจัดการสิ่งมีชีวิตภายนอก
สิ่งมีชีวิตภายนอกนั้นไร้เหตุผล ต้องการยึดครองสถานที่ต่าง ๆ ด้วยกำลัง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตภายนอกกระทำการสำเร็จ คนรอบกายคุณชายทุกคนจึงเข้าต่อสู้อย่างดุเดือด
ยามนี้ทุกคนต่างอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องดีที่สุด
ทว่าเพียงพริบตาต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง
เขาเพิ่งเห็นฉากหนึ่งที่ทำให้เกิดโทสะขึ้นภายในใจเป็นอย่างมาก
“หัวใจมนุษย์ไม่อาจคาดเดา!”
เขาอดเอ่ยออกมาไม่ได้