บทที่ 939 ความหวังอันใด คุณชายต่างหากคือความหวัง!
บทที่ 939 ความหวังอันใด คุณชายต่างหากคือความหวัง!
ขุนพลทั้งแปดพุ่งนำหน้า ตามด้วยสิ่งมีชีวิตธุลีตนอื่น ๆ นับว่าเป็นกำลังรบที่สูงยิ่ง ต่างอยู่เหนือขั้นที่ห้าขอบเขตอิสระขึ้นไป!
สีหน้าของจิตวิญญาณหลักก้อนหินนิ่งเฉย ดวงตาเปล่งประกายเย็นเยียบ มือถือดาบใหญ่เอาไว้ เตรียมพร้อมจู่โจมทุกเมื่อ หายเผด็จศึกต้นหลิวและเจ้าก้อนหินในคราเดียว
จ้าวแดนธุลีเองก็ออกมาแล้ว ทว่าไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด เพียงคอยเฝ้าดูการต่อสู้จากส่วนลึก
“นี่คือการประกาศสงครามหรือ? น่าสนใจอยู่บ้าง!”
มันรำพึงกับตนเอง
ผู้อยู่เบื้องหลังต้นหลิวและเจ้าก้อนหินคือหลี่จิ่วเต้า มันคิดว่าหลี่จิ่วเต้าเป็นคนสั่งให้ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินมาที่นี่เพื่อประกาศสงครามกับมัน
ตู้ม!
มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา ฮุยอีนำด้านหน้าสุด ในมือถือหอกสงครามแทงออกไปด้านหน้า เปี่ยมด้วยพลังมหาศาลไร้ขอบเขตพลุ่งพล่าน สามารถสังหารสิ่งมีชีวิตในขั้นที่แปดได้อย่างง่ายดาย
ขุนพลอีกเจ็ดคนตามติด ต่างล้วนดุดันอย่างถึงที่สุด ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินกล้าบุกเข้ามายังแดนธุลีโดยตรงเช่นนี้ จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน พวกมันล้วนแล้วแต่ไม่ประมาท
สิ่งมีชีวิตธุลีที่เหลือเองก็พุ่งเข้าใส่ ล้อมรอบต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน
หมอกสีเทาแผ่กระจายปกคลุมทั่วฟ้าดิน กระทั่งพื้นที่บริสุทธิ์รอบกายต้นหลิวและเจ้าก้อนหินยังไม่ได้รับการยกเว้น ถูกหมอกสีเทาเข้าปกคลุม
จิตวิญญาณหลักก้อนหินยกดาบใหญ่ขึ้น ดวงตาเปล่งประกายดุร้าย เมื่อพบช่องโหว่ของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินมันก็จะส่งพลังจัดการทันทีภายในพริบตา!
ตู้ม!
ลำแสงเจิดจ้านับพันล้านเส้นพุ่งออกมา ทำลายหมอกสีเทา ดินแดนบริสุทธิ์ของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว!
เจ้าก้อนหินลงมือ กำหมัดต่อยออกไป ปะทะเข้ากับหอกสงครามของฮุยอีจนระเบิดออกมาสนั่น!
บึ้ม!
หอกสงครามพลันพังทลายลงเป็นชิ้น ๆ ภายในพริบตา ประหนึ่งเป็นเพียงแค่สิ่งของเปราะบางให้ก้อนหินทำลายทิ้งได้อย่างง่ายดาย!
เลือดสีเทาสาดกระเซ็น เจ้าก้อนหินพุ่งเข้าใส่ฮุยอีที่อยู่ด้านหน้า แม้ฮุยอีจะอยู่ในขั้นที่แปดขอบเขตอิสระ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าก้อนหินแล้วไม่อาจเปรียบเทียบได้ ถูกเจ้าก้อนหินทุบเข้าใส่!
เพียงไม่กี่ลมหายใจ ฮุยอีก็ปลิวกระเด็นออกไป กลายเป็นก้อนหมอกสีเทา!
กิ่งหลิวแผ่กระจาย ประกายสีเขียวขจีสว่างวาบ ความเร็วนั้นมากเกินกว่าขีดสุด กระทั่งขุนพลทั้งเจ็ดก็ยังจับไม่ได้แม้แต่เงาของกิ่งหลิว!
กิ่งของต้นหลิวพุ่งทะลุผ่านร่างของขุนพลทั้งเจ็ด จากนั้นร่างทั้งเจ็ดก็พลันระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มหมอกสีเทาเช่นกัน!
สีหน้าจิตวิญญาณหลักก้อนหินแปรเปลี่ยน นี่มันอันใดกัน? มันยังคงรอหาช่องโหว่ของต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ทว่าฮุยอีและสมาชิกแดนธุลีคนอื่น ๆ กลับเหมือนส่งอาหารเข้าปาก พ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินภายในพริบตา!
มันถือดาบใหญ่พุ่งเข้าไป ไม่มีกำลังรบที่ใช้การได้เหลืออยู่แล้ว นอกจากตัวมันและจ้าวธุลี…
พลังธุลีเคลื่อนไหวพลุ่งพล่าน มันตระหนักเป็นอย่างดีถึงความน่ากลัวของต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน รีบระดมพลังภายในแดนธุลีมาเสริมกำลังให้กับตนเอง!
พลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล หนึ่งดาบฟาดลงไป พลังน่าสะพรึงกลัวเกินคณา สามารถสังหารคนอย่างฮุยอีได้นับพันในคราวเดียว!
พลังอยู่ในขั้นที่เก้า ตำแหน่งตัวมันในแดนธุลีนั้นสูงจริง ๆ จ้าวธุลีจะต้องโปรดปรานมันเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นมันคงไม่อาจเข้าสู่ขั้นที่เก้าได้
เจ้าก้อนหินพุ่งตรงเข้าใส่ มันระเบิดพลัง เปล่งแสงนับไม่ถ้วนขึ้นสกัดกั้นดาบที่ฟาดลงมา!
“ยังจะเอาแต่ชมดูอยู่หรือ?”
ต้นหลิวแปลงเป็นร่างมนุษย์ ดวงตาเย็นชาอย่างถึงที่สุด กิ่งหลิวโผทะยานควบรวมกลายเป็นหอกสีเขียวพุ่งตรงไปทางจ้าวธุลี!
มันดุดันและทรงพลัง เปิดฉากโจมตีเข้าใส่จ้าวธุลี!
จ้าวธุลีลงมือสกัดกั้น รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
มันเฝ้าดูการต่อสู้จากส่วนลึก ไม่ปรากฏกายออกมา น่าแปลกใจที่ต้นหลิวสามารถตรวจจับตัวตนของมันได้
ตู้ม!
หอกสีเขียวซึ่งสร้างจากกิ่งของต้นหลิวระเบิดออกมา จ้าวธุลีน่าสะพรึงกลัวเกินหยั่งถึง เพียงแค่ก้าวออกไปด้านหน้าไม่ได้ลงมือทำสิ่งใด พลังอันน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขตก็พุ่งเข้ามาทำลายหอกสีเขียวเสียแล้ว
“ก้าวข้ามขอบเขตอิสระแล้วหรือ?!”
จ้าวธุลีจับจ้องต้นหลิวด้วยสายตาลึกล้ำอย่างถึงที่สุด
หลี่จิ่วเต้าได้รับสิ่งใดมากันแน่? เหตุใดจึงสามารถทำให้ต้นหลิวก้าวข้ามขอบเขตอิสระได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้!
หากไม่ก้าวข้ามขอบเขตอิสระ ต้นหลิวย่อมไม่มีทางตรวจพบมันที่ก้าวข้ามขอบเขตอิสระไปแล้วได้!
วูบ!
รัศมีแสงเจิดจ้า เจตจำนงกระบี่สูงสุดแผ่ระลอก กิ่งหลิวรวมกันกลายเป็นกระบี่ยาวในมือของต้นหลิว
มันสำแดงเคล็ดกระบี่ไทเก๊ก อนุมานความล้ำลึกของวิชาออกมา ดำและขาว หยินและหยาง อ่อนและแข็ง ความหมายอันลึกซึ้งของเคล็ดกระบี่ไทเก๊กถูกสำแดงออกมาอย่างเต็มที่!
กระทั่งธุลีอันไร้การเสื่อมสลายยังได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ถูกตัดแยกออกจากกัน!
“เป็นวิชาดาบที่คุ้นเคยยิ่งนัก…!”
รูม่านตาของจ้าวธุลีหดแคบลง สัมผัสได้ถึงความคุ้นเคย ทว่าน่าเสียดาย มันเป็นเพียง ‘โรค’ อย่างหนึ่งบนร่างของคนผู้นั้น ก่อนหน้านี้ไม่มีจิตสำนึกแต่อย่างใด เกิดจิตสำนึกขึ้นมาหลังถูกแยกจากออกมาแล้ว ไม่รู้สิ่งใดมากนัก
มันพุ่งออกไป แสงสีเทาเปล่งประกายไร้ที่สิ้นสุด เปี่ยมด้วยพลังระเบิดออกมา เข้าปะทะกับเคล็ดกระบี่ไทเก๊ก ทำลายแสงกระบี่จำนวนมากลงไป
ภายในใจของต้นหลิวรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา หลังจากได้สู้จริงจังกับจ้าวธุลี มันถึงค่อยตระหนักได้ว่าจ้าวธุลีแข็งแกร่งมากเพียงใด!
ยังดีที่มันผ่านการปรับเปลี่ยนร่างและยกระดับขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่เช่นนั้นเกรงว่าจ้าวธุลีคงไม่จำเป็นต้องต่อสู้ เพียงแค่ยกมือขึ้นมาก็สามารถปราบปรามมันในตอนก่อนหน้าลงได้แล้ว
บนท้องฟ้าสูงกลายเป็นสีเทา จ้าวธุลีลงมือต่อเนื่อง รบกวนขาวและดำ หยินและหยาง อ่อนและแข็ง กฎเกณฑ์อย่างหนึ่งอันแสนพิเศษปรากฏออกมา เปี่ยมด้วยพลังกลืนกินอันแข็งแกร่ง เคล็ดกระบี่ไทเก๊กของต้นหลิวถูกรบกวนจนพลังลดลงอย่างมาก
แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ต้นหลิวสามารถฟื้นจังหวะกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เคล็ดกระบี่ไทเก๊กสำแดงออกมาราวธารน้ำไหล ทำลายกฎเกณฑ์พิเศษเหล่านั้น
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ในตอนนั้นเองจ้าวธุลีก็โบกมือ ฝุ่นที่แตกกระจายไปลอยกลับมาทันที ทุกธุลีราวกับสามารถทำลายดวงดาราลงได้ พุ่งตรงเข้าใส่ไปทางต้นหลิว
สีหน้าต้นหลิวสงบนิ่ง แสงกระบี่นับไม่ถ้วนเปล่งประกายออกมาจากเคล็ดกระบี่ไทเก๊ก ประหนึ่งดาวตกอันสว่างไสวดวงแล้วดวงเล่าเข้าชนเศษธุลี เกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่!
จ้าวธุลีฝ่าเคล็ดกระบี่ไทเก๊ก มาปรากฏขึ้นเบื้องหน้าใกล้กับต้นหลิวภายในพริบตา
ฝ่ามือของมันพุ่งออกไปด้านหน้า ทำลายทุกขีดจำกัด แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งเช่นต้นหลิวยังไม่อาจตอบสนองได้ในทันที
ต้นหลิวถูกกระแทกอย่างแรง ทั้งร่างระเบิดออกทันที!
จ้าวธุลีลงมือสังหารอย่างเด็ดขาด โจมตีอย่างแข็งแกร่งโดยใช้พลังอันไร้ขอบเขตมุ่งเป้าไปที่ต้นหลิว หมายให้ต้นหลิวถูกทำลายสิ้น
ทว่าสิ่งที่ทำให้มันประหลาดใจก็ปรากฏขึ้น มันล้มเหลวในการจัดการต้นหลิว ร่างที่ระเบิดออกของต้นหลิวอันตรธานหายไปจากจุดเดิม!
พริบตาต่อมา ต้นหลิวที่สูงเทียมฟ้าได้ปรากฏออกมา รากหยั่งลึกลงไปในจักรวาลอันเต็มไปด้วยดวงดารา ใบหลิวส่องแสงสว่างจ้า สุกสกาวเสียยิ่งกว่าดวงดาว
กิ่งหลิวขยับไหวทั้งนภา ประหนึ่งมังกรร่ายร่ำ พลังอันน่าสะพรึงกลัวกระเพื่อมออกมา ระเบิดตรงเข้าใส่จ้าวธุลี
“ตาย!”
จ้าวธุลีตวาดเสียงเย็นชา ร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นใหญ่โตขึ้น ลมหายใจธุลีหลั่งไหลออกมาจากร่างจ้าวธุลีอย่างต่อเนื่อง เข้าต่อกรกับกิ่งหลิวที่ระเบิดออกมาอยู่เหนือท้องฟ้า
หัวใจของต้นหลิวจมดิ่มลง จ้าวธุลีเป็นเพียงแค่ ‘โรค’ อย่างหนึ่ง เช่นนั้นแล้วคนผู้นั้นจะแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัวเพียงใด มันไม่กล้าคิดเลย
เป็นเพราะคุณชายมอบดินโกลาหลและน้ำพิสุทธิ์ไร้รากให้กับมัน ทำให้มันเกิดการปรับเปลี่ยนร่างกายและยกระดับ ไม่เช่นนั้นมันย่อมไม่อาจต่อกรกับจ้าวธุลีได้!
สงครามยิ่งดำเนินยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อถึงระดับพวกมันแล้ว แพ้ชนะยากจะตัดสินใจ
ไม่มีอาการบาดเจ็บหนักอีกต่อไป ระดับของพวกเขานับว่าสูงส่งยิ่ง เกรงว่าต่อให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ยังสามารถลงมือได้ในตอนนี้!
“จริงและเท็จ วิกฤตและความหวัง พวกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย ทำลายความหวังสิ้น!”
จ้าวธุลีตะโกน “อย่าได้มีความคิดเพ้อฝันไม่เป็นจริงนัก การอยู่ข้างข้าคือหนทางที่ดีสุดของพวกเจ้า!”
“ไม่ เจ้าผิดแล้ว ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร เจ้าต่างหากที่ไม่มีความหวัง!”
ต้นหลิวตะโกนกลับ มันไว้ใจในตัวคุณชายอย่างถึงที่สุด
อีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ระหว่างเจ้าก้อนหินและจิตวิญญาณหลักไม่ได้น่าตื่นเต้นอันใดนัก
จิตวิญญาณหลักก้อนหินนั้นไม่อ่อนแอ อยู่ถึงขั้นเก้าขอบเขตอิสระ หลังจากใช้พลังธุลีในดินแดนแห่งนี้ พลังการต่อสู้ของมันก็เพิ่มขึ้ม
ทว่าเจ้าก้อนหินไม่เหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป มันได้เสร็จสิ้นการปรับเปลี่ยนร่างและยกระดับ ได้ก้าวข้ามขอบเขตอิสระไม่ต่างกัน
ช่องว่างความแตกต่างนี้ไม่อาจเปรียบเทียบได้อย่างสิ้นเชิง!
“เหตุใดเจ้าจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?!”
จิตวิญญาณหลักก้อนหินกู่ร้องออกมาด้วยความไม่เต็มใจ ด้านหลังมันคือจ้าวธุลี จ้าวธุลีนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมากคอยให้มันพึ่งพิงอยู่
มันมองขึ้นลง เห็นเช่นนี้แล้วจะเต็มใจยอมรับได้อย่างไร?
ตามความเข้าใจของมันแล้ว หลี่จิ่วเต้าที่อยู่เบื้องหลังเจ้าก้อนหินหาได้แข็งแกร่งเท่ากับจ้าวธุลีไม่
“เหตุใดจึงเป็นไปไม่ได้!?”
เจ้าก้อนหินตะโกน “เจ้าคิดว่าจ้าวธุลีที่หนุนหลังเจ้าอยู่ ทั้งแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ความจริงแล้วจ้าวธุลีไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ คุณชายต่างหากที่นับว่าทรงพลังอย่างแท้จริง อยู่ไกลเกินกว่าที่จะสามารถเอื้อมถึงได้”
มันยื่นมือข้างหนึ่งออก พลังอันไร้ขอบเขตสำแดงออกมา กักขังจิตวิญญาหลักเอาไว้
“เจ้าดูให้ดีเสียเถิด วันนี้เจ้าจะได้รู้ว่าผู้ที่เจ้าพึ่งพิงจะพังทลายลงเช่นใด!”
มันมุ่งตรงไปทางจ้าวธุลี เข้าร่วมการต่อสู้ ต่อกรกับจ้าวธุลีพร้อมต้นหลิว
รูม่านตาจ้าวธุลีหดแคบลง เจ้าก้อนหินเองก็ก้าวข้ามขอบเขตอิสระแล้วหรือ?
ภายในใจของมันสั่นสะท้านเป็นอย่างมาก เมื่อใดกันที่การก้าวข้ามขอบเขตอิสระสามารถทำได้ตามใจชอบ?
ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินร่วมมือกัน เพิ่มแรงกดดันให้จ้าวธุลีขึ้นทวี!
เดิมทีเพียงแค่ต้นหลิวก็ยากแก่การต่อกร ทว่าตอนนี้กลับเพิ่มเจ้าก้อนหินขึ้นมาอีกหนึ่ง กลายเป็นการต่อสู้หนึ่งต่อสองที่ยากเย็นยิ่ง
“พวกเจ้ากำลังเล่นกับไฟ! แน่ใจหรือที่ต้องการทำเช่นนี้ต่อไป? บีบคั้นข้าเช่นนี้ พวกเจ้าล้วนรนหาที่ตาย!”
จ้าวธุลีตวาดออกมาเสียงเย็นชา ประกายแววตาดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง
ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินยิ่งสู้ยิ่งดุดัน มันเริ่มสกัดกั้นไม่ไหว ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
จ้าวธุลีตื่นตะลึงอย่างแท้จริง ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินแข็งแกร่งเกินไป ไม่ต้องพูดถึงว่ามีเจ้าก้อนหินเข้าร่วมด้วย กระทั่งต้นหลิวผู้เดียวมันก็ไม่อาจต่อกรได้
ทำได้อย่างไรกัน?
หลี่จิ่วเต้าสามารถทำให้ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินยกระดับขึ้นอย่างน่ากลัวในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!
“ฆ่า!”
คำตอบที่จ้าวธุลีได้รับมีเพียง ‘ฆ่า’ เท่านั้น
จ้าวธุลีลงมือกับคุณชาย พวกมันย่อมไม่อาจปล่อยจ้าวธุลีไปได้ จำเป็นต้องกำจัดทิ้ง
ตู้มมม!
จ้าวธุลีถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง กิ่งหลิวทะลุร่างของมัน หมัดขนาดใหญ่ของเจ้าก้อนหินเองก็กระแทกลงบนร่างของมัน ทำให้ทั้งร่างระเบิดออกทันที
“เช่นนั้นก็มาพินาศไปด้วยกัน!”
มันคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ไม่ยับยั้งความคิดที่คนผู้นั้นทิ้งเอาไว้อีกต่อไป
ทันใดนั้นเอง ลมหายใจบนร่างของมันทั้งหมดพลันแปรเปลี่ยนเป็นอย่างมาก ความคิดที่คนผู้นั้นทิ้งเอาไว้ฟื้นกลับมาอย่างสมบูรณ์!
นั่นคือความคิดต้องการให้ทุกสิ่งพินาศลง!
มันเหมือนกับความคิดสุญตา เดิมทีถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อทำให้ทุกสิ่งพินาศ แต่ต่อมาก็ก่อเกิดจิตสำนึกของตนเองขึ้นมา ยับยั้งความคิดทุกอย่างเอาไว้
แต่ตอนนี้มันไม่ระงับเอาไว้อีกต่อไป ปล่อยให้ความคิดนี้แทรกซึมไปทั่วร่างกายเป็นผู้บังคับหลัก!
“ตาย ตาย ตาย!”
เสียงจากปากของมันเก่าแก่อึมครึม เปี่ยมด้วยจิตสังหารพวยพุ่ง หมอกสีเทาไร้ขอบเขตแผ่กระจายกลืนกินดวงดาราทั้งดวงลงไป!
ขณะเดียวกันพลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับตอนก่อนหน้านี้ได้เลย
มันปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่!