รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 939 ความหวังอันใด คุณชายต่างหากคือความหวัง!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 939 ความหวังอันใด คุณชายต่างหากคือความหวัง!

บทที่ 939 ความหวังอันใด คุณชายต่างหากคือความหวัง!

ขุนพลทั้งแปดพุ่งนำหน้า ตามด้วยสิ่งมีชีวิตธุลีตนอื่น ๆ นับว่าเป็นกำลังรบที่สูงยิ่ง ต่างอยู่เหนือขั้นที่ห้าขอบเขตอิสระขึ้นไป!

สีหน้าของจิตวิญญาณหลักก้อนหินนิ่งเฉย ดวงตาเปล่งประกายเย็นเยียบ มือถือดาบใหญ่เอาไว้ เตรียมพร้อมจู่โจมทุกเมื่อ หายเผด็จศึกต้นหลิวและเจ้าก้อนหินในคราเดียว

จ้าวแดนธุลีเองก็ออกมาแล้ว ทว่าไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด เพียงคอยเฝ้าดูการต่อสู้จากส่วนลึก

“นี่คือการประกาศสงครามหรือ? น่าสนใจอยู่บ้าง!”

มันรำพึงกับตนเอง

ผู้อยู่เบื้องหลังต้นหลิวและเจ้าก้อนหินคือหลี่จิ่วเต้า มันคิดว่าหลี่จิ่วเต้าเป็นคนสั่งให้ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินมาที่นี่เพื่อประกาศสงครามกับมัน

ตู้ม!

มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา ฮุยอีนำด้านหน้าสุด ในมือถือหอกสงครามแทงออกไปด้านหน้า เปี่ยมด้วยพลังมหาศาลไร้ขอบเขตพลุ่งพล่าน สามารถสังหารสิ่งมีชีวิตในขั้นที่แปดได้อย่างง่ายดาย

ขุนพลอีกเจ็ดคนตามติด ต่างล้วนดุดันอย่างถึงที่สุด ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินกล้าบุกเข้ามายังแดนธุลีโดยตรงเช่นนี้ จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน พวกมันล้วนแล้วแต่ไม่ประมาท

สิ่งมีชีวิตธุลีที่เหลือเองก็พุ่งเข้าใส่ ล้อมรอบต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน

หมอกสีเทาแผ่กระจายปกคลุมทั่วฟ้าดิน กระทั่งพื้นที่บริสุทธิ์รอบกายต้นหลิวและเจ้าก้อนหินยังไม่ได้รับการยกเว้น ถูกหมอกสีเทาเข้าปกคลุม

จิตวิญญาณหลักก้อนหินยกดาบใหญ่ขึ้น ดวงตาเปล่งประกายดุร้าย เมื่อพบช่องโหว่ของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินมันก็จะส่งพลังจัดการทันทีภายในพริบตา!

ตู้ม!

ลำแสงเจิดจ้านับพันล้านเส้นพุ่งออกมา ทำลายหมอกสีเทา ดินแดนบริสุทธิ์ของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว!

เจ้าก้อนหินลงมือ กำหมัดต่อยออกไป ปะทะเข้ากับหอกสงครามของฮุยอีจนระเบิดออกมาสนั่น!

บึ้ม!

หอกสงครามพลันพังทลายลงเป็นชิ้น ๆ ภายในพริบตา ประหนึ่งเป็นเพียงแค่สิ่งของเปราะบางให้ก้อนหินทำลายทิ้งได้อย่างง่ายดาย!

เลือดสีเทาสาดกระเซ็น เจ้าก้อนหินพุ่งเข้าใส่ฮุยอีที่อยู่ด้านหน้า แม้ฮุยอีจะอยู่ในขั้นที่แปดขอบเขตอิสระ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าก้อนหินแล้วไม่อาจเปรียบเทียบได้ ถูกเจ้าก้อนหินทุบเข้าใส่!

เพียงไม่กี่ลมหายใจ ฮุยอีก็ปลิวกระเด็นออกไป กลายเป็นก้อนหมอกสีเทา!

กิ่งหลิวแผ่กระจาย ประกายสีเขียวขจีสว่างวาบ ความเร็วนั้นมากเกินกว่าขีดสุด กระทั่งขุนพลทั้งเจ็ดก็ยังจับไม่ได้แม้แต่เงาของกิ่งหลิว!

กิ่งของต้นหลิวพุ่งทะลุผ่านร่างของขุนพลทั้งเจ็ด จากนั้นร่างทั้งเจ็ดก็พลันระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มหมอกสีเทาเช่นกัน!

สีหน้าจิตวิญญาณหลักก้อนหินแปรเปลี่ยน นี่มันอันใดกัน? มันยังคงรอหาช่องโหว่ของต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ทว่าฮุยอีและสมาชิกแดนธุลีคนอื่น ๆ กลับเหมือนส่งอาหารเข้าปาก พ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินภายในพริบตา!

มันถือดาบใหญ่พุ่งเข้าไป ไม่มีกำลังรบที่ใช้การได้เหลืออยู่แล้ว นอกจากตัวมันและจ้าวธุลี…

พลังธุลีเคลื่อนไหวพลุ่งพล่าน มันตระหนักเป็นอย่างดีถึงความน่ากลัวของต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน รีบระดมพลังภายในแดนธุลีมาเสริมกำลังให้กับตนเอง!

พลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล หนึ่งดาบฟาดลงไป พลังน่าสะพรึงกลัวเกินคณา สามารถสังหารคนอย่างฮุยอีได้นับพันในคราวเดียว!

พลังอยู่ในขั้นที่เก้า ตำแหน่งตัวมันในแดนธุลีนั้นสูงจริง ๆ จ้าวธุลีจะต้องโปรดปรานมันเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นมันคงไม่อาจเข้าสู่ขั้นที่เก้าได้

เจ้าก้อนหินพุ่งตรงเข้าใส่ มันระเบิดพลัง เปล่งแสงนับไม่ถ้วนขึ้นสกัดกั้นดาบที่ฟาดลงมา!

“ยังจะเอาแต่ชมดูอยู่หรือ?”

ต้นหลิวแปลงเป็นร่างมนุษย์ ดวงตาเย็นชาอย่างถึงที่สุด กิ่งหลิวโผทะยานควบรวมกลายเป็นหอกสีเขียวพุ่งตรงไปทางจ้าวธุลี!

มันดุดันและทรงพลัง เปิดฉากโจมตีเข้าใส่จ้าวธุลี!

จ้าวธุลีลงมือสกัดกั้น รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง

มันเฝ้าดูการต่อสู้จากส่วนลึก ไม่ปรากฏกายออกมา น่าแปลกใจที่ต้นหลิวสามารถตรวจจับตัวตนของมันได้

ตู้ม!

หอกสีเขียวซึ่งสร้างจากกิ่งของต้นหลิวระเบิดออกมา จ้าวธุลีน่าสะพรึงกลัวเกินหยั่งถึง เพียงแค่ก้าวออกไปด้านหน้าไม่ได้ลงมือทำสิ่งใด พลังอันน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขตก็พุ่งเข้ามาทำลายหอกสีเขียวเสียแล้ว

“ก้าวข้ามขอบเขตอิสระแล้วหรือ?!”

จ้าวธุลีจับจ้องต้นหลิวด้วยสายตาลึกล้ำอย่างถึงที่สุด

หลี่จิ่วเต้าได้รับสิ่งใดมากันแน่? เหตุใดจึงสามารถทำให้ต้นหลิวก้าวข้ามขอบเขตอิสระได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้!

หากไม่ก้าวข้ามขอบเขตอิสระ ต้นหลิวย่อมไม่มีทางตรวจพบมันที่ก้าวข้ามขอบเขตอิสระไปแล้วได้!

วูบ!

รัศมีแสงเจิดจ้า เจตจำนงกระบี่สูงสุดแผ่ระลอก กิ่งหลิวรวมกันกลายเป็นกระบี่ยาวในมือของต้นหลิว

มันสำแดงเคล็ดกระบี่ไทเก๊ก อนุมานความล้ำลึกของวิชาออกมา ดำและขาว หยินและหยาง อ่อนและแข็ง ความหมายอันลึกซึ้งของเคล็ดกระบี่ไทเก๊กถูกสำแดงออกมาอย่างเต็มที่!

กระทั่งธุลีอันไร้การเสื่อมสลายยังได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ถูกตัดแยกออกจากกัน!

“เป็นวิชาดาบที่คุ้นเคยยิ่งนัก…!”

รูม่านตาของจ้าวธุลีหดแคบลง สัมผัสได้ถึงความคุ้นเคย ทว่าน่าเสียดาย มันเป็นเพียง ‘โรค’ อย่างหนึ่งบนร่างของคนผู้นั้น ก่อนหน้านี้ไม่มีจิตสำนึกแต่อย่างใด เกิดจิตสำนึกขึ้นมาหลังถูกแยกจากออกมาแล้ว ไม่รู้สิ่งใดมากนัก

มันพุ่งออกไป แสงสีเทาเปล่งประกายไร้ที่สิ้นสุด เปี่ยมด้วยพลังระเบิดออกมา เข้าปะทะกับเคล็ดกระบี่ไทเก๊ก ทำลายแสงกระบี่จำนวนมากลงไป

ภายในใจของต้นหลิวรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา หลังจากได้สู้จริงจังกับจ้าวธุลี มันถึงค่อยตระหนักได้ว่าจ้าวธุลีแข็งแกร่งมากเพียงใด!

ยังดีที่มันผ่านการปรับเปลี่ยนร่างและยกระดับขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่เช่นนั้นเกรงว่าจ้าวธุลีคงไม่จำเป็นต้องต่อสู้ เพียงแค่ยกมือขึ้นมาก็สามารถปราบปรามมันในตอนก่อนหน้าลงได้แล้ว

บนท้องฟ้าสูงกลายเป็นสีเทา จ้าวธุลีลงมือต่อเนื่อง รบกวนขาวและดำ หยินและหยาง อ่อนและแข็ง กฎเกณฑ์อย่างหนึ่งอันแสนพิเศษปรากฏออกมา เปี่ยมด้วยพลังกลืนกินอันแข็งแกร่ง เคล็ดกระบี่ไทเก๊กของต้นหลิวถูกรบกวนจนพลังลดลงอย่างมาก

แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ต้นหลิวสามารถฟื้นจังหวะกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เคล็ดกระบี่ไทเก๊กสำแดงออกมาราวธารน้ำไหล ทำลายกฎเกณฑ์พิเศษเหล่านั้น

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ในตอนนั้นเองจ้าวธุลีก็โบกมือ ฝุ่นที่แตกกระจายไปลอยกลับมาทันที ทุกธุลีราวกับสามารถทำลายดวงดาราลงได้ พุ่งตรงเข้าใส่ไปทางต้นหลิว

สีหน้าต้นหลิวสงบนิ่ง แสงกระบี่นับไม่ถ้วนเปล่งประกายออกมาจากเคล็ดกระบี่ไทเก๊ก ประหนึ่งดาวตกอันสว่างไสวดวงแล้วดวงเล่าเข้าชนเศษธุลี เกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่!

จ้าวธุลีฝ่าเคล็ดกระบี่ไทเก๊ก มาปรากฏขึ้นเบื้องหน้าใกล้กับต้นหลิวภายในพริบตา

ฝ่ามือของมันพุ่งออกไปด้านหน้า ทำลายทุกขีดจำกัด แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งเช่นต้นหลิวยังไม่อาจตอบสนองได้ในทันที

ต้นหลิวถูกกระแทกอย่างแรง ทั้งร่างระเบิดออกทันที!

จ้าวธุลีลงมือสังหารอย่างเด็ดขาด โจมตีอย่างแข็งแกร่งโดยใช้พลังอันไร้ขอบเขตมุ่งเป้าไปที่ต้นหลิว หมายให้ต้นหลิวถูกทำลายสิ้น

ทว่าสิ่งที่ทำให้มันประหลาดใจก็ปรากฏขึ้น มันล้มเหลวในการจัดการต้นหลิว ร่างที่ระเบิดออกของต้นหลิวอันตรธานหายไปจากจุดเดิม!

พริบตาต่อมา ต้นหลิวที่สูงเทียมฟ้าได้ปรากฏออกมา รากหยั่งลึกลงไปในจักรวาลอันเต็มไปด้วยดวงดารา ใบหลิวส่องแสงสว่างจ้า สุกสกาวเสียยิ่งกว่าดวงดาว

กิ่งหลิวขยับไหวทั้งนภา ประหนึ่งมังกรร่ายร่ำ พลังอันน่าสะพรึงกลัวกระเพื่อมออกมา ระเบิดตรงเข้าใส่จ้าวธุลี

“ตาย!”

จ้าวธุลีตวาดเสียงเย็นชา ร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นใหญ่โตขึ้น ลมหายใจธุลีหลั่งไหลออกมาจากร่างจ้าวธุลีอย่างต่อเนื่อง เข้าต่อกรกับกิ่งหลิวที่ระเบิดออกมาอยู่เหนือท้องฟ้า

หัวใจของต้นหลิวจมดิ่มลง จ้าวธุลีเป็นเพียงแค่ ‘โรค’ อย่างหนึ่ง เช่นนั้นแล้วคนผู้นั้นจะแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัวเพียงใด มันไม่กล้าคิดเลย

เป็นเพราะคุณชายมอบดินโกลาหลและน้ำพิสุทธิ์ไร้รากให้กับมัน ทำให้มันเกิดการปรับเปลี่ยนร่างกายและยกระดับ ไม่เช่นนั้นมันย่อมไม่อาจต่อกรกับจ้าวธุลีได้!

สงครามยิ่งดำเนินยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อถึงระดับพวกมันแล้ว แพ้ชนะยากจะตัดสินใจ

ไม่มีอาการบาดเจ็บหนักอีกต่อไป ระดับของพวกเขานับว่าสูงส่งยิ่ง เกรงว่าต่อให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ยังสามารถลงมือได้ในตอนนี้!

“จริงและเท็จ วิกฤตและความหวัง พวกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย ทำลายความหวังสิ้น!”

จ้าวธุลีตะโกน “อย่าได้มีความคิดเพ้อฝันไม่เป็นจริงนัก การอยู่ข้างข้าคือหนทางที่ดีสุดของพวกเจ้า!”

“ไม่ เจ้าผิดแล้ว ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร เจ้าต่างหากที่ไม่มีความหวัง!”

ต้นหลิวตะโกนกลับ มันไว้ใจในตัวคุณชายอย่างถึงที่สุด

อีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ระหว่างเจ้าก้อนหินและจิตวิญญาณหลักไม่ได้น่าตื่นเต้นอันใดนัก

จิตวิญญาณหลักก้อนหินนั้นไม่อ่อนแอ อยู่ถึงขั้นเก้าขอบเขตอิสระ หลังจากใช้พลังธุลีในดินแดนแห่งนี้ พลังการต่อสู้ของมันก็เพิ่มขึ้ม

ทว่าเจ้าก้อนหินไม่เหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป มันได้เสร็จสิ้นการปรับเปลี่ยนร่างและยกระดับ ได้ก้าวข้ามขอบเขตอิสระไม่ต่างกัน

ช่องว่างความแตกต่างนี้ไม่อาจเปรียบเทียบได้อย่างสิ้นเชิง!

“เหตุใดเจ้าจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?!”

จิตวิญญาณหลักก้อนหินกู่ร้องออกมาด้วยความไม่เต็มใจ ด้านหลังมันคือจ้าวธุลี จ้าวธุลีนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมากคอยให้มันพึ่งพิงอยู่

มันมองขึ้นลง เห็นเช่นนี้แล้วจะเต็มใจยอมรับได้อย่างไร?

ตามความเข้าใจของมันแล้ว หลี่จิ่วเต้าที่อยู่เบื้องหลังเจ้าก้อนหินหาได้แข็งแกร่งเท่ากับจ้าวธุลีไม่

“เหตุใดจึงเป็นไปไม่ได้!?”

เจ้าก้อนหินตะโกน “เจ้าคิดว่าจ้าวธุลีที่หนุนหลังเจ้าอยู่ ทั้งแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ความจริงแล้วจ้าวธุลีไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ คุณชายต่างหากที่นับว่าทรงพลังอย่างแท้จริง อยู่ไกลเกินกว่าที่จะสามารถเอื้อมถึงได้”

มันยื่นมือข้างหนึ่งออก พลังอันไร้ขอบเขตสำแดงออกมา กักขังจิตวิญญาหลักเอาไว้

“เจ้าดูให้ดีเสียเถิด วันนี้เจ้าจะได้รู้ว่าผู้ที่เจ้าพึ่งพิงจะพังทลายลงเช่นใด!”

มันมุ่งตรงไปทางจ้าวธุลี เข้าร่วมการต่อสู้ ต่อกรกับจ้าวธุลีพร้อมต้นหลิว

รูม่านตาจ้าวธุลีหดแคบลง เจ้าก้อนหินเองก็ก้าวข้ามขอบเขตอิสระแล้วหรือ?

ภายในใจของมันสั่นสะท้านเป็นอย่างมาก เมื่อใดกันที่การก้าวข้ามขอบเขตอิสระสามารถทำได้ตามใจชอบ?

ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินร่วมมือกัน เพิ่มแรงกดดันให้จ้าวธุลีขึ้นทวี!

เดิมทีเพียงแค่ต้นหลิวก็ยากแก่การต่อกร ทว่าตอนนี้กลับเพิ่มเจ้าก้อนหินขึ้นมาอีกหนึ่ง กลายเป็นการต่อสู้หนึ่งต่อสองที่ยากเย็นยิ่ง

“พวกเจ้ากำลังเล่นกับไฟ! แน่ใจหรือที่ต้องการทำเช่นนี้ต่อไป? บีบคั้นข้าเช่นนี้ พวกเจ้าล้วนรนหาที่ตาย!”

จ้าวธุลีตวาดออกมาเสียงเย็นชา ประกายแววตาดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง

ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินยิ่งสู้ยิ่งดุดัน มันเริ่มสกัดกั้นไม่ไหว ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

จ้าวธุลีตื่นตะลึงอย่างแท้จริง ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินแข็งแกร่งเกินไป ไม่ต้องพูดถึงว่ามีเจ้าก้อนหินเข้าร่วมด้วย กระทั่งต้นหลิวผู้เดียวมันก็ไม่อาจต่อกรได้

ทำได้อย่างไรกัน?

หลี่จิ่วเต้าสามารถทำให้ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินยกระดับขึ้นอย่างน่ากลัวในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!

“ฆ่า!”

คำตอบที่จ้าวธุลีได้รับมีเพียง ‘ฆ่า’ เท่านั้น

จ้าวธุลีลงมือกับคุณชาย พวกมันย่อมไม่อาจปล่อยจ้าวธุลีไปได้ จำเป็นต้องกำจัดทิ้ง

ตู้มมม!

จ้าวธุลีถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง กิ่งหลิวทะลุร่างของมัน หมัดขนาดใหญ่ของเจ้าก้อนหินเองก็กระแทกลงบนร่างของมัน ทำให้ทั้งร่างระเบิดออกทันที

“เช่นนั้นก็มาพินาศไปด้วยกัน!”

มันคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ไม่ยับยั้งความคิดที่คนผู้นั้นทิ้งเอาไว้อีกต่อไป

ทันใดนั้นเอง ลมหายใจบนร่างของมันทั้งหมดพลันแปรเปลี่ยนเป็นอย่างมาก ความคิดที่คนผู้นั้นทิ้งเอาไว้ฟื้นกลับมาอย่างสมบูรณ์!

นั่นคือความคิดต้องการให้ทุกสิ่งพินาศลง!

มันเหมือนกับความคิดสุญตา เดิมทีถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อทำให้ทุกสิ่งพินาศ แต่ต่อมาก็ก่อเกิดจิตสำนึกของตนเองขึ้นมา ยับยั้งความคิดทุกอย่างเอาไว้

แต่ตอนนี้มันไม่ระงับเอาไว้อีกต่อไป ปล่อยให้ความคิดนี้แทรกซึมไปทั่วร่างกายเป็นผู้บังคับหลัก!

“ตาย ตาย ตาย!”

เสียงจากปากของมันเก่าแก่อึมครึม เปี่ยมด้วยจิตสังหารพวยพุ่ง หมอกสีเทาไร้ขอบเขตแผ่กระจายกลืนกินดวงดาราทั้งดวงลงไป!

ขณะเดียวกันพลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับตอนก่อนหน้านี้ได้เลย

มันปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท