บทที่ 940 นักพรตอ้วน ‘จบแล้ว ข้าโดนตัดไฟตั้งแต่ต้นลมหรือ!’
บทที่ 940 นักพรตอ้วน ‘จบแล้ว ข้าโดนตัดไฟตั้งแต่ต้นลมหรือ!’
มันไม่ยับยั้งอีกต่อไป ความแข็งแกร่งของจ้าวธุลีเพิ่มขึ้นมหาศาลอย่างเห็นได้ชัด!
กิ่งหลิวพุ่งพันรอบ มันออกแรงเพียงแผ่วเบา กิ่งหลิวทั้งหมดก็ถูกตัดออก เจ้าก้อนหินที่พุ่งเข้าไปพร้อมดาบหินก็ถูกแสงสองเส้นที่พุ่งออกจากดวงตาของมันกระทบเข้าจนดาบหินพังทลายลงทันที!
“เป็นโรคจริงหรือ?”
ต้นหลิวรำพึง สัมผัสได้ถึงความคิดที่ต้องการให้ทุกสิ่งพังพินาศ ภายในใจของมันหนักอึ้ง นี่คือโรคของผู้เบิกทางผู้นั้นหรือ
ต้องการทำลายทุกสรรพสิ่ง!
เหตุใดกัน?
มันคิดแล้วไม่อาจเข้าใจได้
ผู้เบิกทางผู้นั้นถ่ายทอดเต๋าและกฎเกณฑ์ เปิดเส้นทางการฝึกตน ผลสุดท้ายกลับต้องการทำลายสิ้นทุกสิ่ง?
สิ่งนี้ค่อนข้างจะขัดแย้ง ไม่อาจเข้าใจได้
จริงและเท็จ ภาพมายาและความจริง คำที่จ้าวธุลีเอ่ยซ้ำหลายครั้งหมายความว่าอย่างไร?
ความจริงอันยุ่งเหยิงซับซ้อน ทำให้คนไม่อาจสงบใจ
ตู้ม!
จ้าวธุลีลงมือ ลมหายใจฆ่าล้างทะลักฟ้า ยามนี้มันดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก เพียงแค่ลมหายใจฆ่าล้างที่แผ่เล็ดลอดออกมา ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตในขั้นที่เก้าขอบเขตอิสระไม่อาจทนได้เข้าสู่การพังทลาย
ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินเองก็รู้สึกไม่สบายเช่นกัน ทว่าพวกมันก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ได้รับผลกระทบอีกต่อไป!
พวกมันทั้งสองรีบพุ่งตรงเข้าไปทันที!
จ้าวธุลีแยกร่างออกมาเป็นสอง มันยังคงระเบิดพลังออกมาอย่างแข็งแกร่งสมบูรณ์ เข้าต่อกรกับต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน
มันทั้งทรงพลังและดุร้าย เมื่อมาถึงระดับมันแล้ว ทุกการยกมือเป็นกฎเกณฑ์ ทุกการโบกมือมีวิชา ทุกการเคลื่อนไหวเปี่ยมด้วยพลังอันไร้ขอบเขต!
น่าเสียดาย แต่ทั้งต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ไม่มีผู้ใดสามารถจัดการได้โดยง่าย
ต้นหลิวกวัดแกว่ง ใบหลิวร่วงหล่นเต็มท้องฟ้า แต่ละใบประหนึ่งกระบี่สวรรค์ แฝงด้วยพลังทำลายฟ้าสะท้านดิน ปรากฏเป็นระลอกคลื่นอันไม่อาจสกัดกั้น!
เจ้าก้อนหินสำแดงพลังลวดลายออกไป ราวกับกำลังสวมชุดเกราะทาสี ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจนดูเสมือนจะไม่อาจหาคู่ต่อกรได้!
หลังจากผ่านการต่อสู้ไปไม่นานนัก จ้าวธุลีก็ถูกสยบลง ร่างที่แยกออกมาแตกกระจายสลายหายไป ร่างหลักได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน!
“ข้าเป็นความคิดของคนผู้นั้น ไฉนจะถูกพวกเจ้าทำลายลงเช่นนี้ได้?!”
จ้าวธุลีกู่ร้องออกมา พลังอันพิเศษระเบิดออกมา ร่างแปรเปลี่ยนเป็นเส้นแสงสีเทาต้องการจะหลบหนีออกไป
ทว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินก็ลงมือในทันที ปิดกั้นแสงสีเทาเอาไว้ ไม่คิดปล่อยให้จ้าวธุลีหนีไปได้ ต้องการจะทำลายจ้าวธุลีลงให้สิ้นซาก
ตู้ม!
ภายในกลุ่มควันสีเทาพลันปรากฏร่างหนึ่งออกมา สูงใหญ่สง่างาม ดูเหนือชั้นไม่ธรรมดา ราวกับทุกอย่างล้วนเล็กจ้อยเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน ไม่มีค่าอันใดให้เอ่ยถึง!
พลังของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินพังทลายลง ควันสีเทาเลือนหาย จ้าวธุลีหนีออกไปจากที่นี่ได้เรียบร้อย
“!!!”
จิตวิญญาณหลักก้อนหินหวาดกลัวจนแทบปัสสาวะราดออกมา
จ้าวธุลีผู้ไร้เทียมทายภายในใจของมันกลับถูกทุบตีจนต้องหนีเตลิดเปิดเปิง มันจะไม่ตื่นตกใจกลัวได้อย่างไร!
คำพูดของเจ้าก้อนหินนั้นไม่ผิดเลย จ้าวธุลีที่หนุนหลังมันไม่อาจเทียบได้กับหลี่จิ่วเต้าผู้อยู่เบื้องหลังต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ซ้ำยังแตกต่างกันเป็นอย่างมาก!
“จะจัดการมันเช่นไรดี?”
ต้นหลิวมองจิตวิญญาณหลักก้อนหิน จากนั้นก็หันไปถามเจ้าก้อนหิน
“มันเองก็เป็นเหยื่อเช่นเดียวกัน ถูกพลังของจ้าวธุลีกลืนกิน น่าเสียดาย มันกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพลังนั่นไปแล้ว ยากที่จะแยกจากกัน”
เจ้าก้อนหินกล่าว
มันและต้นหลิวแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง แต่ด้วยพลังในตอนนี้ของพวกมัน หากคิดจะทำยังนับเป็นเรื่องยากยิ่ง
ท้ายสุด พวกมันก็พาจิตวิญญาณหลักก้อนหินไป รอหลังจากนี้เมื่อมีความสามารถเพียงพอค่อยช่วยแยกจิตวิญญาณหลักเจ้าก้อนหินออกมา
…
ขณะเดียวกัน นักพรตอ้วนก็รีบตรงไปยังสถานที่วาสนาการเปลี่ยนแปลงในความทรงจำ
“วาสนาการเปลี่ยนแปลงที่ทิ้งไว้เพื่อข้าโดยเฉพาะ ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว หลังจากข้าแข็งแกร่งขึ้น จะต้องตรงไปจัดการพวกมันโดยเร็วที่สุด!”
เขายกยิ้มมุมปาก หน้าตาดูแล้วไม่ต้องกล่าวเลยว่าอัปลักษณ์เพียงใด
วาสนาการเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่บนดิน ทว่าอยู่ใต้ดิน มีข้อห้ามดำรงปกคลุม ทว่าภายในความทรงจำของเขานั้นมีวิธีทำลายข้อห้ามอยู่
เขาผ่านข้อห้ามเข้าไปได้สำเร็จ เมื่อลงไปใต้ดินก็พบเข้ากับพระราชวังขนาดใหญ่อันเต็มไปด้วยความสง่างามผ่านกาลอย่างยาวนานตรงหน้าของเขา
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม เพียงแต่ตัวพระราชวังโบราณแห่งนี้ก็ดูแล้วไม่ธรรมดา!”
มันเอ่ยด้วยรอยยิ้มร่า
ในตอนนั้นเอง ประตูใหญ่ของราชวังพลันเปิดออก มีชายชราสองคนเดินออกมา
“ยินดีต้อนรับนายท่าน!”
“พวกข้ารอนายท่านที่นี่มานานมากแล้ว!”
ชายชราทั้งสองเอ่ยกับนักพรตเฒ่าด้วยความเคารพนอบน้อม
“ไม่จำเป็นต้องสุภาพเพียงนี้ ที่นี่ยังมีของที่ทิ้งไว้สำหรับข้าใช่หรือไม่ รีบไปนำมาให้ข้าเร็วเข้า!”
นักพรตอ้วยเอ่ยด้วยความกระตือรือร้น
เขาต้องการรู้เป็นอย่างมากว่าสิ่งของเหล่านั้นคือสิ่งใด สามารถมอบพลังที่จะใช้แก้แค้นให้กับเขาได้หรือไม่
“นั่น…”
หลังจากได้ยินคำของนักพรตอ้วน ชายชราทั้งสองก็มีท่าทีอึกอัก
เมื่อนักพรตอ้วนเห็นท่าทางของชายชราทั้งสอง ภายในใจพลันเกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
เขาขมวดคิ้วถามออกมา “อันใดกัน มีเรื่องเกิดขึ้นหรือ?”
“มีเรื่อง…เกิดขึ้นจริง สิ่งที่ท่านผู้นั้นทิ้งเอาไว้ให้ท่านไม่มีอยู่แล้ว…”
ชายชราผู้หนึ่งทำใจกล้าเอ่ยออกมา
ใช่แล้ว เขาคือนักตกปลาผู้นั้น ตาอวี๋
ชายชราที่อยู่ด้านข้างเขาย่อมเป็นตาหวัง
พวกเขาทั้งสองต้องคอยปกป้องสถานที่แห่งนี้ ทำให้ตาอวี๋เกิดความเบื่อหน่าย มักหย่อนเบ็ดล่อเหยื่ออยู่บ่อยครั้งเป็นการแก้เบื่อ ทำให้ได้พบเข้ากับหลี่จิ่วเต้า ต้องการจะหย่อนเบ็ดล่อตกหลี่จิ่วเต้า ทว่ากลับต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสีย
หลังจากนั้นผู้ยินดีก็ออกหน้าช่วยเหลือเขา ทว่าอีกฝ่ายกลับถูกหลี่จิ่วเต้านำไปแล้ว
สมบัติชิ้นอื่น ๆ ออกไปช่วยเหลือผู้ยินดี แต่กลับไม่สำเร็จ ทั้งหมดล้วนตกไปอยู่ในมือของหลี่จิ่วเต้า
“อันใดนะ?!”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็ราวกับพังทลายลง
ความหวังของเขาสิ้นสูญแล้วหรือ?!
เดิมทีเขาต้องการให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นแล้วกลับไปแก้แค้น ทว่าผลลัพธ์กลับเป็นเพียงการคิดเพ้อฝัน?
ยามนี้ภายในใจของเขาเปี่ยมด้วยรสชาติมากมาย
เขามาอย่างดีใจเบิกบาน แต่ผลลัพธ์กลับเป็นเช่นนี้!
“นายท่านโปรดอย่าโมโห คนผู้นั้นแข็งแกร่งเกินไปจริง ๆ พวกข้าไม่อาจต่อกรได้เลย!”
ชายชราทั้งสองคุกเข่าลงบนพื้นด้วยตัวสั่นเทา
“คนผู้นั้นคือใครกัน?”
สีหน้าของนักพรตอ้วนย่ำแย่ ผู้ใดกันที่บังอาจถึงเพียงนี้ ปล้นชิงสิ่งของของเขาไป!
“ไม่แน่ใจนัก เพียงรู้แค่เขาถูกผู้อื่นเรียกว่า ‘คุณชาย’!”
ตาอวี๋ตอบกลับ
“คุณชาย?”
แววตาของนักพรตอ้วนเริ่มแปลกประหลาด
ผู้ที่ถูกเรียกว่าคุณชาย ทั้งยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เขานึกถึงหลี่จิ่วเต้าขึ้นมาเป็นคนแรกทันที!
เขาบรรยายรูปลักษณ์ของหลี่จิ่วเต้าออกมา ทว่าไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เนื่องจากเขารู้มาว่าหากวาดเค้าโครงรูปลักษณ์ของผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงบางคนออกมาตามใจชอบ จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นได้
“ใช่แล้ว เป็นเขา!”
หลังจากตาอวี๋และตาหวังได้ยินคำบรรยายของนักพรตอ้วน พวกเขาก็ต่างพยักหน้าด้วยความมั่นใจทันที
“บัดซบ! เป็นเขาจริง ๆ ด้วย!”
นักพรตเต๋าเอ่ยด้วยความอึมครึม
เขาถูกตัดไฟตั้งแต่ต้นลมหรือ?
หลี่จิ่วเต้าทำลายความหวังในการแก้แค้นของเขา!
“นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวลไป ทุกสิ่งย่อมสามารถนำกลับมาได้!”
ตาอวี๋กล่าว “ท่านผู้นั้นไม่ได้ทิ้งแดนวาสนาการเปลี่ยนแปลงไว้เพียงแห่งเดียว แต่ยังมีอีกหลายที่ นอกจากนี้ผู้ถูกกำหนดไม่ได้มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น ยังมีผู้ถูกกำหนดอีกจำนวนมาก!”
เขาบอกเล่าถึงผู้ได้รับเลือกให้ได้วาสนาการเปลี่ยนแปลงที่อื่น ทั้งยังสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของพวกเขา เอ่ยเรียกให้ช่วยมาหา
“นายท่านสามารถรั้งรออยู่ที่นี่ได้จนกว่าผู้ถูกกำหนดท่านนั้นจะมา เมื่อถึงยามนั้นท่านสามารถร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ถูกกำหนดท่านนั้นให้ช่วยจัดการหลี่จิ่วเต้าได้ แล้วนำทุกสิ่งที่เป็นของท่านกลับคืนมา!”
ตาอวี๋กล่าว “ผู้ถูกกำหนดนั้นน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ได้รับยอดศาสตราชิ้นหนึ่งที่ท่านผู้นั้นสร้างขึ้นมา แม้จะไม่ใช่ยอดศาสตราที่สมบูรณ์แบบ เป็นเพียงยอดศาตราที่สร้างขึ้นตามใจชอบก็ตาม ทว่าก็ยังคงทรงพลังอย่างมาก การสยบหลี่จิ่วเต้าไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด!”
เขาติดต่อกับผู้ถูกกำหนดท่านนั้น ทำให้ทราบว่าวาสนาการเปลี่ยนแปลงของผู้ถูกกำหนดท่านนั้นแข็งแกร่งกว่าที่นี่มาก มียอดศาสตราชิ้นหนึ่งถึงกับถูกท่านผู้นั้นหลอมขึ้นมา
“เขาจะช่วยข้าหรือ?” นักพรตอ้วนถามด้วยความสงสัย
ความทรงจำของเขายังไม่ตื่นขึ้นอย่างเต็มที่ เรื่องที่รู้มีน้อยนิดเป็นอย่างยิ่ง ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าความจริงเรื่องราวเป็นมาเช่นไร
“ใช่แล้ว พวกท่านล้วนเป็นคนที่ท่านผู้นั้นกำหนดขึ้นมา การดำรงอยู่ล้วนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ผู้ถูกกำหนดท่านนั้นจะต้องช่วยเหลือท่านอย่างแน่นอน!”
ตาอวี๋กล่าวตอบอย่างหนักแน่น