ไม่นานคนบนบัลลังก์ก็คลายความตื่นเต้น แล้วมองมาทางพวกเรา
“ใช่แล้ว คลอสล่ะ? ทำไมข้าไม่เห็นเขา?”
“ฝ่าบาท ระหว่างที่พวกเราเดินทางกลับ มีคนวางแผนทำร้ายพวกเราหลายครั้ง เพื่อพยายามจะแย่งชิงของสิ่งนั้นไปจากพวกเรา ตอนอยู่ในเมืองก่อนหน้า พวกเราก็เกือบถูกพวกเขาจับได้ ถ้าไม่ใช่เพราะฟีลและท่านเดล ข้าคงตกอยู่ในมือศัตรูไปนานแล้ว ทว่า พวกท่านปู่พลัดหลงกับพวกเราระหว่างถูกพวกเขาโจมตี ดังนั้น…”
“อย่างนี้นี่เอง ต้องการกำลังพลของพวกน้องชายข้าใช่ไหม? สำหรับของสิ่งนี้แล้ว พวกเขาก็คงต้องการมันมากเหมือนกันสินะ?”
“ดังนั้น ถ้าหากเป็นไปได้ โปรด…”
“แน่นอน ข้าจะส่งคนไปช่วยเหลือพวกคลอส เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล แล้วก็พวกเจ้าล้วนเป็นผู้มีคุณูปการ เรื่องรางวัลย่อมขาดตกบกพร่องไม่ได้อยู่แล้ว ใช่แล้ว อัศวินญาริน ช่วงนี้หัวหน้ากองอัศวินที่เจ็ดกำลังว่าง เจ้าไปรับหน้าที่ซะ!”
“เอ๊ะ!!? คือว่า…ข้า…”
“ทำไม ไม่เต็มใจรึ?”
บนใบหน้าราชาปรากฏท่าทางเย้าแหย่ ถึงแม้ญารินดูมีท่าทีลุกลี้ลุกลน แต่อันที่จริงแล้วก็รู้สึกยินดีมาก
“ไม่ใช่อยู่แล้วเพคะ ขอบพระทัยที่ประทานรางวัลเพคะ!”
พูดจบญารินก็ก้มศีรษะลงไป
“ดีมาก เช่นนั้นก็ไปรับตำแหน่งทันที เพราะในไม่ช้า พวกเราก็มีเรื่องที่ต้องทำแล้ว”
“เอ๊ะ? คือว่า…”
ญารินมองผม จากนั้นก็เผยสีหน้ากระอักกระอ่วน
“วางใจเถอะ ข้าไม่ปล่อยให้คนผู้นี้ตายหรอก”
เดลโบกมือให้ญาริน
“อืม เข้าใจแล้ว”
พูดจบ ญารินก็ทำความเคารพราชาอีกครั้ง แล้วถอยออกไป
ครู่ต่อมา ราชาก็เอ่ยปากอีกครั้ง
“ลองบอกข้ามา เดล ข้าจำได้ว่าเจ้าน่าจะเป็นคนจากค่ายของน้องชายข้า? ทำไมครั้งนี้ถึงช่วยเหลือข้าล่ะ?”
“ช่างน่าขันซะจริง ครั้งนี้กระหม่อมแค่ช่วยเหลือเพื่อนของกระหม่อมนิดหน่อยเท่านั้น”
พูดเสร็จเขาก็มองมาที่ผม
“แต่ว่า กระหม่อมคงดีใจถ้ามีของรางวัล”
“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าพูดจามีอารมณ์ขันกับข้าถึงขนาดนี้ เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก! เบื่อเป็นรองประธานแล้วรึยัง? ตอนนี้เจ้าจะได้เป็นประธานแล้ว แล้วก็ ข้าอนุมัติทุนวิจัยมูลค่าหนึ่งแสนของเจ้าแล้ว”
“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”
เดลทำความเคารพพร้อมรอยยิ้ม
“แล้วก็เจ้า…”
ครั้งนี้ราชาปีศาจ…ไม่ใช่สิ ราชาเดินลงมาจากบนบัลลังก์ แล้วโผล่มาอยู่ตรงหน้าผมในพริบตาเดียว
เร็วมาก! สมกับเป็นคนที่มีเลเวลเป็นสองเท่าของผม ความเร็วนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ
“เจ้าเป็นใครกัน?”
เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย! อย่าใช้ท่าทางจริงจังพูดเรื่องน่าขันแบบนี้สิ! ไม่รู้จักก็พูดมาตามตรง! ทำตัวลึกลับจนใจฉันจะเด้งออกมาแล้ว!
“คนผู้นี้เป็นเพื่อนเก่าของกระหม่อม หลินฟีล เพื่อนเก่าแก่นานมากแล้ว เห็นเขากับญารินปรากฏตัวในครั้งนี้ก็ทำให้กระหม่อมตกใจไม่น้อย ฉะนั้นจึงลงมือช่วยเหลือ”
“โอ้ ฟีล”
ราชามองสำรวจผมขึ้นๆ ลงๆ จากนั้นก็กลับไปบนที่นั่งของตัวเองอย่างรวดเร็ว
หมอนี่อยากโชว์ว่าตัวเองเร็วมากนักรึไง? ไปเข้าแข่งวิ่งหนึ่งร้อยเมตรไหม!
“ขอบคุณเจ้ามากที่คุ้มกันญาริน มิฉะนั้นข้าคงไม่ได้ของสิ่งนี้กลับมา อย่างไรซะหากไม่ได้เจ้า เดลก็คงไม่ช่วยเหลือญาริน ฮ่าฮ่าฮ่า ดีมาก จะว่าอย่างไรนี่ก็เป็นคุณงามความดีครั้งใหญ่ เจ้าต้องการอะไร? ลาภยศ เงินทอง หรือว่าทรัพย์สมบัติอะไร”
“เงิน!”
ผมพูดอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“อ่า…”
แม้กระทั่งราชาก็ตกตะลึงกับการตอบสนองที่รวดเร็วของผม หลังจากมองที่ผมอย่างประหลาดใจครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจ น่าสนใจ เป็นเช่นนี้ งั้นก็ตามที่เจ้าปรารถนา! เฮนรี่”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากในเสา เสื้อคลุมยาวสีดำบนตัวดูคล้ายกับเดล
หรือว่ามันเป็นชุดเฉพาะของนักเวทจริงๆ?
เฮนรี่ ฟอลต์ ??? เลเวล 13 ???
น่าเสียดายที่ไม่เห็นอาชีพเลยตัดสินไม่ได้
“เจ้าพาฟีลไปที่ท้องพระคลังแล้วเบิกบัตรห้าแสนเหรียญทอง”
พ่ะย่ะค่ะ
“อะไรนะ?”
เดลเบิกตาโพลงมองผมอย่างไม่พอใจ
“ทำไมเงินของนายถึงเยอะกว่าฉันล่ะ…”
“นายก็ได้เลื่อนตำแหน่งแล้วไง อย่าบ่นไปเลยหน่า”
พูดจบ ผมก็ตามคนที่ชื่อเฮนรี่ เดินไปตามทางเดิน