Ch.14 – ราชามอบ[ชื่อ]ใหม่ให้กับอาวุธ
Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author
“นั้คือเวลาฉุกเฉิน ถ้าเป็นแบบนี้ยังไงก็ต้องใช้[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]ให้ได้แล้วสิ”
ถ้านี่เป็นสกิลสายเอนชานต์ มันก็มีประโยชน์ในตอนนี้
จริงๆก็ว่าจะทำในตอนที่สงบๆอยู่หรอก แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้ลังเล
ถ้าคนในหมู่บ้านตกอยู่ในอันตราย ก็ต้องรีบไปช่วย
ตอนนี้หน่วยต่อสู้ที่เคลื่อนไหวได้มีแค่ ริเซ็ต ฮารุกะ แล้วก็ผมรวม3คน จำนวนไม่พอชัดเจน
ถ้าอย่างนั้นก็มีแต่ต้องเสริมแกร่งอาวุธ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของทุกคนเท่านั้น
“[เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ]เป็นสกิลที่จะมอบชื่อสินะ”
ถ้าอย่างนั้น…ลองทดสอบในแบบตัวเองดูดีกว่า
วิธีเสริมแกร่งด้วยชื่อ ก็สำเร็จมาครั้งหนึ่งแล้ว ถ้า[คิริวโอ โชมะ]สามารถสำแดงพลังได้ในโลกนี้ ดังนั้นถ้าทำแบบเดียวกัน ก็อาจจะเอนชานต์อาวุธได้ก็ได้
ผมหยิบ[ดาบยาว]ออกมาจาก[ภาชนะแห่งราชา]
“อะไรน่ะ?” “ทำอะไรเหรอ?”
“จะทำเรื่องสุดยอดเหรอ?” “องค์ราชาสุดยอดเหรอ?”
พวกเด็กๆกับฮาร์ปี้มองมาที่ผมอย่างสนอกสนใจ
“ตอนนี้คิดว่าจะเสริมแกร่งให้ดาบนี้น่ะ ขอถามเป็นที่อ้างอิงหน่อย ทุกคนเรียกอาวุธนี้ว่าอะไรเหรอ?”
“ดาบยาว!” “ลองซอร์ด!”
ตอบกลับมาอย่างที่คิด
ทุกคนคิดว่าเจ้านี่คือ[ดาบยาว] คิดว่าเป็นอาวุธ
ถ้าอย่างนั้นถ้าให้ชื่อที่คล้ายๆกันล่ะ…จะเป็นยังไง?
“[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]–ทำงาน”
ผมกำดาบยาวแล้วพูดออกมา
พริบตาต่อมาก็มีหน้าต่างลอยขึ้นมาตรงหน้า
ตรงกลางก็มีตัวอักษรว่า[ดาบยาว][ลองซอร์ด]ลอยอยู่
สล็อทที่ใส่ตัวอักษรได้อยู่3 ดูเหมือนนั่นจะเป็นขีดจำกัดที่จะเพิ่มชื่อได้ในตอนนี้
“[สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้คือ วัจนะแห่งราชา]”
คำพูดไหลเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติ
“[ด้วยนามแห่งคิริวโอ โชมะ จะขอเพิ่มอัตลักณ์ใหม่ให้กับเจ้า]”
ดาบยาวเปล่งแสงสีฟ้าอ่อน
“[ชื่อของเจ้าคืออาวุธ ดาบยาว長剣(ちょうけんโชเคน)]–[จงรับถ้อยคำอันใกล้เคียงไปเถิด]–[อัตลักษณ์ที่จะมอบให้เจ้าก็คือ]–”
…ทำยังไงถึงจะสู้กับอสูรได้ง่ายๆล่ะ?
ทั้งก็อบลินดำ ทั้งลอร์ด ผิวหนังก็แข็งกันทั้งนั้น ขนาดที่ทำให้ดาบยาวหัก
งั้นสิ่งที่สำคัญก็ไม่ใช่ความคมแต่เป็นความแข็ง
ถ้าเป็นพลังของเผ่ายักษ์ ถ้าอาวุธไม่พังก่อนก็คงเป็นกำลังได้อย่างมาก
ถ้าอย่างนั้น…ทำให้แข็งก็พอแล้ว–
“[ดาบยาว]–จงแสดง[โคตรแข็ง超堅(ちょうけんโชเคน)]ออกมา”
สูดลมหายในแล้วผมก็พูดต่อ
“จะรับชื่อจากราชาไปซะ!! [Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]!!”
ผิวของดาบยาวมีเส้นสีฟ้าอ่อนวิ่งผ่าน
หมุนไปมาเขียนเป็นตัวอักษร[โคตรแข็ง]แล้วก็หายไป
มีปฏิกิริยาตอบสนองแสดงว่าทำถูก
“เอ๊ะ? ส่องแสง?” “ทำอะไรเหรอ องค์ราชา”
“อืมม นิดหน่อยน่ะ โทษทีลองถือเจ้านี่หน่อยสิ”
ผมส่งดาบยาวที่พึ่งเสริมแกร่งไปให้เด็กที่อยู่ใกล้มือ
“ขอถามหน่อย ข้อมือกับข้อศอกของเผ่ายักษ์เนี่ยแข็งแกร่งสินะ? ถึงจะฟันของแข็งๆไปก็ไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม?”“ก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่อย่างนั้นก็สู้กับอสูรดำไม่ได้สิ”
“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นลองตัดหินนั่นดูสิ”
ผมชี้ไปที่หินที่สูงพอๆกับเด็กที่ตั้งอยู่ปลายสวน
“พี่ชาย? ถ้าฟันของแบบนั้นเข้าไปดาบจะหักเอานะ?”
“ไม่เป็นไรหรอก ก็หักอยู่ แถมเป็นของที่ได้มาจากคนอื่นด้วย”
ผมพูดออกไป
“ไม่ต้องสนใจดาบแล้วฟันไปตามใจชอบเลย ระวังไม่ให้ข้อมือเป็นอะไรด้วย ฟันจากด้านบน เบาๆ”
“ถ้าพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็”
เด็กน้อยยอมหยิบดาบแต่โดยดี
“เอ้าฮึบ!”
ฉับ
หินถูกตัดออก
ถูกตัดเป็นสองท่อนจากด้านบน
“…เอ๊ะ?”
พวกเด็กๆกับฮาร์ปี้มองตาค้าง
“““เออออออออ๋!!!!?”””
ตัดไปด้วยครึ่งบนของดาบยาวที่[เพิ่มอัตลักษณ์]ไป แต่ทั้งๆอย่างนั้นดาบก็ไม่มีรอยร้าวสักนิด
สมกับเป็น[โคตรแข็ง]
“สุดยอด” “พี่ชายสุดยอด!!”
ถูกชมอย่างนี้นี่เขินนะ
ผมก็แค่ใช่สกิลของคนที่ชื่อว่าจักรพรรดิมังกรมาใช้เท่ๆสไตล์จูนิเบียวเท่านั้นเอง
การจะมอบชื่อให้พื้นดิน หรือมอบชื่อให้คน สำหรับผมยังไม่ไหว
ดังนั้นก็เหมือนกับการเพิ่มอัตลักษณ์ของ[ยักษ์ มังกร ปักษา มาร]เข้ามาในชื่อ[คิริว โชมะ] หรือตั้งชื่อ[ดินสอ]ว่า[ดินสอเพลิง]แล้วก็สามารถใช้เขียนวงเวทเรียกอีฟรีทออกมาได้ ด้วยการเพิ่มอัตลักษณ์[โคตรแข็ง]ให้กับ[ดาบยาว]
[แข็ง]นั้นตรงกันข้ามกับคำว่า[อ่อน]มีความหมายว่า[พังค่อนข้างยาก]
ดังนั้นดาบจึง[แข็งขึ้นอย่างมาก]
ผลลัพธ์ก็คือได้[ดาบที่ไม่หัก]ด้วยพลังของเผ่ายักษ์จนฟันหินได้
ยิ่งกว่านั้นพอได้ลองใช้ดูถึงได้เข้าใจ
[เพิ่มอัตลักษณ์]นั้นสามารถใช้ได้เฉพาะของที่เป็นของผม และผมยืมมาเท่านั้น
แต่ว่า หลังจากเอนชานต์แล้วไม่ว่าจะให้ใครไปความสามารถจะยังคงอยู่ บางที คงประมาณครึ่งวัน
“พี่โชมะ แล้วอาวุธนี่ล่ะ?”
ที่เด็กผู้หญิงเผ่ายักษ์ถือว่าก็คือกระบองไม้ที่ยาวพอๆกับตัวผม
“แบบเดียวกับที่ฮารุกะใช้เหรอ?”
“อืม เผ่ายักษ์ถนัดการใช้กระบองมากกว่าน่ะ”
เป็นกระบองหกเหลี่ยมที่ยิ่งไล่ไปส่วนปลายยิ่งหนาขึ้น ทั้งๆที่ทำจากไม้แต่ก็แข็งมาก ถ้าเป็นผมตอนปกติก็คงทำได้อย่างมากแค่ถือ แต่พวกเด็กๆสามารถเหวี่ยงของแบบนี้ได้ สุดยอดไปเลยนะ เผ่ายักษ์
“ถ้าอย่างนั้น ทุกคนเรียกเจ้านี่ว่าอะไรล่ะ?”
“กระบอง!” “กระบองพิฆาต!!”
ที่น่าจะใช้ได้ที่สุดก็[กระบอง]เหรอ
เอาล่ะ
“[–ด้วยนามแห่งคิริวโอ โชมะ]–[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)][ชื่อของเจ้าคืออาวุธ กระบอง棍棒(こんぼうคงโบ)]–[จงรับถ้อยคำอันใกล้เคียงไปเถิด]–[อัตลักษณ์ที่จะมอบให้เจ้าก็คือ]–”
ผมสูดลมหายใจแล้วพูด
อืม…คำที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งก็ยังมี[โลหะ]อยู่นี่นะ
ถ้าอย่างนั้น–
“[กระบอง]–จงแสดง[แท่งโลหะ金棒(こんぼうคงโบ)]ออกมา [เป็นแท่ง][ที่มีความแข็งของโลหะ] ความแข็ง ที่เหนือยิ่งกว่าเหล็กชั้นดีทั้งๆที่ยังคงความยืดหยุ่น! จะรับชื่อจากราชาไปซะ!!”
จากนั้นก็มีเส้นแสงไหลไปตามกระบอง
อัตลักษณ์ใหม่ก็คือ[แท่งโลหะ]–อาวุธ[แท่ง][ที่เหมือนโลหะ]
[กระบอง]นั้นมีความหมายว่า[สิ่งที่ตรงและยาว] หรือก็คือกระบองนี้จะมีลักษณะเป็นแท่งตรงที่แข็งเหมือนกับโลหะ งอยาก และหักยาก
เหมือนกับ[โคตรแข็ง]เมื่อกี้ ความแข็งคงจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“ไปล่ะนะ!”
เด็กสาวเผ่ายักษ์ฟาดกระบองลงบนหิน
บุ๊บ
กระบองทะลวงเข้าไปในหินโดยยังคงสภาพเดิม
เอาล่ะ ความแข็งพอได้แล้ว
“ถ้าอย่างนั้นอยากจะขอร้องทุกคนหน่อย”
ผมหันไปพูดกับเด็กๆ
“อยากให้ไปเอาดาบยาวกับกระบองมาจากที่บ้านเพื่อเอามาเสริมแกร่งหน่อย ถ้าเป็นไปได้ผมก็จะเสริมแกร่งให้กับอาวุธทั้งหมดในหมู่บ้าน ถ้าทำแบบนั้นก็จะทำให้สู้กับ[อัศวินดำ]ได้ง่ายขึ้น ระหว่างที่ไปช่วยคนหมู่ป่าถ้าเกิดถูก[อัศวินดำ]บุกหมู่บ้านก็จะได้ต้านได้
…ขอฝากได้ไหม?”
“““ครับ/ค่ะ พี่โชมะ!!”””
พวกเด็กๆถือดาบยาวกับกระบองวิ่งออกไป
ถ้าไม่รีบ ผลของ[ปลุกเผ่าปักษา]จะหมดเอา
พวกเด็กๆทำงานได้ไวมาก
ทุกคนไปรวบรวมอาวุธทั้งหมดมาจากหมู่บ้านโดยใช้เวลาไม่ถึง10นาที
เวลาที่ผมเสริมแกร่งให้พวกมันคือ3นาที ระหว่างนั้นดูเหมือนพวกริเซ็ตจะคุยกันเสร็จแล้ว
“ท่านโชมะ”
“ได้แผนแล้วเหรอ?”
“ค่ะ ต่อจากนี้ริเซ็ตกับฮารุกะจะรีบตรงไปช่วยคนในหมู่บ้านค่ะ ส่วนคนที่เหลือก็ให้ปกป้องหมู่บ้านค่ะ”
แล้วริเซ็ตก็จับดาบยาวที่ห้อยไว้ตรงเอว
“ด้วยดาบที่ท่านโชมะเสริมแกร่งให้ ทำให้สามารถต่อสู้ได้อย่างสบายใจค่ะ”
“ก็บอกไว้ว่าจะช่วยปกป้องหมู่บ้านนี่นา นี่ก็หนึ่งในงานล่ะนะ”
ก็ถูกดูแลมาแล้ว ก็ต้องตอบแทนล่ะนะ
“แถมแบบนั้นจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นด้วย ทั้งสองคนจะได้ไม่ฝืนมากไป”
ในโลกเดิมก็ตั้งใจทำงานให้ดีขึ้นเพื่อจะได้ทำตัวเรื่อยเปื่อย
แต่ก็นะ สุดท้ายก็กลายเป็นการทำให้มีงานมาเพิ่มอยู่ดี เพราะว่าไม่ใช่พวกเดียวกันงั้นเหรอ
“ขอฝากริเซ็ตกับฮารุกะลองตรวจสอบการใช้[เสริมแกร่ง]ของผมดูหน่อยสิ ผมน่ะเป็นแค่มือสมัครเล่นด้านการต่อสู้ อย่างน้อยก็ต้องให้มือโปรมาตรวจสอบดูซะก่อน”
“ค ค่ะ”
“แล้วปีกของผมยังสามารถใช้ได้อยู่”
ตอนนี้ล่ะคือหน้าที่หลักของอดีตจูนิเบียวที่เข้าใจความเป็นจริงไปอย่างดี
ดังนั้นก็มาใช้สกิลของ[คิริวโอ โชมะ]อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อความปลอดภัยของหมู่บ้านกันดีกว่า
“เพียงแต่สามารถขนไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น จะให้ขนริเซ็ตหรือฮารุกะไปดี…แต่การแยกกันก็จะส่งผลตรงกันข้ามอีก หรือผมควรจะพยายามรีบบินไปกลับมารับดี…”
ผมแทบไม่เคยต่อสู้จริงเลย
ถ้ายิง[มังกรคำราม(Breath)]เต็มกำลัง [ปลุกเผ่ามังกร]ก็จะคลายลงตรงนั้น
[ปลุกเผ่ายักษ์]นั้นยังไม่เคยใช้ เลยไม่มั่นใจเท่าไหร่
ดังนั้นผมเลยจำทำหน้าที่สนับสนุน แต่ว่า ถ้าทำแบบนั้นก็จะกลายเป็นว่าปล่อยให้ริเซ็ตหรือฮารุกะต้องต่อสู้คนเดียว แบบนั้นมันก็จะไร้ความหมาย เอายังไงดี…?
“องค์ราชา องค์ราชา” “ให้ช่วยไหมคะ?”
พอรู้สึกตัว พวกฮาร์ปี้ก็มองมาที่ผม
“ถ้าพวกเราช่วยกัน” “ก็พอจะสามารถขนคนคนหนึ่งไปได้ค่ะ”
“ได้่เหรอ?”
“ที่พวกเราฮาร์ปี้ชอบแกล้ง” “ก็เพราะไม่มีคนให้รับใช้ค่ะ”
““หลังจากถูกลูบปีกแล้ว จะขอยืมกำลังหรืออะไรก็ได้ค่ะ””
พวกฮาร์ปี้คุกเข่าลงตรงหน้าผม
ดูเหมือน[การยอมให้ลูบปีก]สำหรับพวกเธอ ก็เหมือนกับการยอมจำนน
…แถมคนที่บอกให้ยอมศิโรราบมันก็ผมเองด้วยสิ
สั่งแบบราชาไปซะแล้ว…
“…ไว้ค่อยยกเลิกทีหลังละกัน แล้วค่อยให้อะไรตอบแทนเอา”
รู้สึกเหมือนจะถลำตัวลึกลงไปเรื่อยๆ…
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกฮาร์ปี้ฝากพาฮารุกะไป ผมจะขนริเซ็ตกับอาวุธเอง ถ้าขนฮารุกะไปถึงที่แล้ว ก็รีบหนีไปที่ที่ปลอดภัยด้วยล่ะ”
““เข้าใจแล้วค่ะ องค์ราชา!!””
“พยายามเข้านะ องค์ราชา!”
พวกเด็กๆก็ด้วยเหรอ!?
“ขะ ขอโทษนะท่านพี่ เดี๋ยวจะดุให้ทีหลัง”
“ไม่เป็นไรหรอก”
ผมถอนหายใจ
หลังจบการต่อสู้ คงต้องทำตัวเรื่อยเปื่อยให้หยุดมองมาด้วยสายตาเคารพละกัน
“ริเซ็ต ขอฟังแผนหน่อย”
“ค่ะ ตามจริงแล้วริเซ็ตกับฮารุกะคิดว่าจะวิ่งไปที่[ปราสาทร้าง]ค่ะ ถ้ามีฮาร์ปี้อยู่ก็สามารถตรงไปยังจุดที่คนในหมู่บ้านสู้ได้ทันทีค่ะ จากนั้นก็ลอบโจมตีข้างหลังศัตรูจากบนท้องฟ้าจะดีกว่า”
“หรือก็คือ จะล้อมโจมตีด้วยคนในหมู่บ้านกับพวกริเซ็ต สินะ?”
“ใช่แล้วค่ะ ถ้ามีริเซ็ต ฮารุกะ แล้วก็อาวุธที่เสริมแกร่ง ก็สามารถทะลวงใจกลางทัพศัตรูได้ค่ะ แล้วถ้าศัตรูถูกแยกออก ก็รวมตัวกับพวกคนในหมู่บ้านแล้วจัดการศัตรูรวดเดียวค่ะ”
ก็รู้สึกสมเหตุสมผลดี
ความรู้ของผมก็มีแต้จากเกมซิมูเรชั่นที่เล่นกับบันทึกสงครามกับนิยายแฟนตาซีที่อ่านตอนสมัยเป็นนักเรียน ตรงจุดนี้ก็ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญละกัน
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกฮาร์ปี้กับฮารุกะนำไปเลย”
“เข้าใจแล้วค่ะ” “ค่ะ องค์ราชา!!”
“ผมกับริเซ็ตจะตามไปเอง อาวุธผมจะขนไปเอง ริเซ็ต จับแน่นๆนะ”
เพื่อไม่ให้รู้สึกจั๊กจี้
ผมเอาอาวุธที่เสริมแกร่งใส่[ภาชนะแห่งราชา]
จากนั้นก็อุ้มริเซ็ตด้วยสองมือ จากนั้นก็ขยับอีกพุ่งขึ้นไปรวดเดียว
“จับให้แน่นล่ะ ริเซ็ต!”
“ค่ะ–…ท่านพี่โชมะ”
ผมไล่ตามพวกฮาร์ปี้ที่บินนำพร้อมกับจับฮารุกะเอาไว้–แล้วก็มุ่งหน้าสู่สนามรบ