Ch.20 – ผลลัพธ์จากการแต่งตั้งเจ้าปราสาทกับ[เสริมแกร่ง]
Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author
หลังจากกางเขตแดน ก็มีพารามิเตอร์แสดงขึ้นมาที่สกิล[ชีพจรมังกร]
[เจ้าเมืองของราชา[วังนาคารชุนะ]
เจ้าปราสาท:ริเซ็ต รูจ
ความสัมพันธ์:น้องสาวร่วมสาบาน(เผ่า:สายเลือดมังกร)
ผลของเขตแดน:ไล่อสูร
ผลเพิ่มเติม:เพิ่มพลังป้องกัน15%
จุดเชื่อม:ไม่มี]
“…จุดเชื่อม?”
เพิ่มพลังป้องกันก็เข้าใจอยู่ แต่จุดเชื่อมนี่คือ?
…ไว้ลองตรวจสอบตอนถึงบ้านละกัน
“ยังมีเรื่องที่ไม่รู้เกี่ยวกับสกิลนี้อีกเยอะเลยนะเนี่ย”
“ท่านพี่โชมะ!”
ไม่ทันตั้งตัว
ริเซ็ตเข้ามากอดจากข้างหลัง
“ขอบคุณมากค่ะ! ท่านพี่! ขอบคุณ…”
“ริเซ็ต…?”
“เท่านี้ริเซ็ตก็มีประโยชน์กับทุกคนแล้วค่ะ ปราสาทร้างก็จะไม่มีอสูรมาอีกแล้ว สามารถที่จะถางป่ารอบๆได้ด้วยค่ะ ทุกคน…ได้ท่านพี่ช่วยเอาไว้ค่ะ…จริงด้วยสิคะ!”
ริเซ็ตตบมืออย่างดีใจ
“ลองดูสิคะ! ริเซ็ตในตอนนี้มีพลังเวทเต็มเปี่ยมเลยค่ะ! ท่าไม้ตาย[Craile Flare(เพลิงชำระล้าง)]!!”
ตูม
บอลไฟขนาดลูกบอลถูกยิงมาจากมือของริเซ็ต
ไปกระแทกลงที่พื้นดินใกลๆกำแพงปราสาท จนแหว่งเข้าไป แถมแรงระเบิดยังทำกำแพงปราสาทหายไปบางส่วน–
“เดี๋ยว อย่าทำลายปราสาทของตัวเองสิ!”
“ขะ ขอโทษค่ะ…คือว่า พอดี ดีใจไปหน่อย…”
ริเซ็ตเอามือจับแก้มแล้วก้มหน้าลงไป
เหมือนเด็กตอนที่ความลับแตกเลย
ริเซ็ตเป็นผู้สืบสายเลือดของจักรพรรดิมังกรแล้วก็ชอบพูดว่าจะปกป้องทุกคนอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังอายุแค่15ปีล่ะนะ ถ้ามองจากคนวัยสามสิบอย่างผมแล้วก็ช่างเจิดจ้าจริงๆ
“พลังสุดยอดไปเลยนะ…พี่ริส”
ฮารุกะเบิกตากว้าง
หลังจากนั้นก็เสยผมยาวสีแดง แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเด็กขี้แกล้ง–
“แบบนี้อาจจะทำให้ความฝันเป็นจริงก็ได้นะ พี่ริส!”
“หวา ฮารุกะ ตอนนี้อยู่ต่อหน้าท่านพี่โชมะนะคะ!?”
ริเซ็ตหน้าแดงแล้วส่ายมือไปมา
“ความฝัน?”
“อืม พี่ริสมีความฝันอยู่น่ะ”
“…ช่วยอย่าหัวเราะนะคะ?”
ริเซ็ตมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำตา
“ไม่หัวเราะหรอก”
“[การตามหาศัตรูของโลกแล้วจัดการ]กับ[การเปลี่ยนโลกที่ไร้ทางเยียวยานี้]ค่ะ”
“………เห~”
“หะ หัวเราะสินะคะ!? ท่านพี่”
“ไม่ได้หัวเราะ ไม่ได้หัวเราะสักนิดเลย”
…หรือก็คือ หัวเราะไม่ได้เด็ดขาด อย่างน้อยผมก็ไม่มีสิทธินั้น
ก็นั่น เหมือนกับผมตอนจูนิเบียวเลย…
“เป็นความฝันเด็กๆที่ผันไว้ตั้งแต่สมัยยังเล็กๆน่ะค่ะ…”
“พี่ริสถูกเลี้ยงดูมาโดยไม่รู้จักพ่อ แม่เองก็ตายไปตั้งแต่ยังเด็กน่ะ”
“คิดขึ้นมาตอนที่ท่านแม่ตายน่ะค่ะ ไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องโหดร้ายแบบนี้จะมีอยู่จริง ก็เลยคิดว่า โลกใบนี้ จะต้องมีคนชั่วที่สร้างโศกนาฎกรรมแบบนี้ไม่ผิดแน่ ค่ะ”
“แล้วก็ลากเราออกไปตามหาคนชั่วอยู่บ่อยๆน่ะ”
“น่าอายจังเลยค่ะ”
“เรื่องตอนเด็กนี่นา ก็ช่วยไม่ได้หรอก เนอะ ท่านพี่”
“…อะ โอ้”
เจ็บเจ็บเจ็บจริงๆ
ยิ่งได้ยินยิ่งรู้สึกเจ็บปวด
“แต่ว่า พี่ริสก็ยังฝันมาตลอดเลยนี่นา”
“ถึงจะไม่ได้ไปบอกคนอื่นก็เถอะค่ะ…แต่ไอ้การ[จัดการศัตรูของโลก]กับ[เปลี่ยนโลก]เนี่ยมันก็”
“…อึ อื้อ”
…เข้าใจเหตุผลที่รู้สึก“คุ้นเคย”จากริเซ็ตแล้ว
เพราะว่าเหมือนกับตัวเองในอดีตเลย
แต่เทียบกับผมในตอนนั้น พวกริเซ็ตดูจะเป็นจริงได้มากกว่า
“ไม่หัวเราะสินะคะ?”
“ไม่หัวเราะหรอกน่า”
กลับกัน…ทำเอาอยากจะช่วยเลย
เพราะว่าผมในโลกนั้นทำไม่ได้นี่นา
“นี่ ท่านโชมะ! ท่านริเซ็ต ฮารุกะ!!”
“ไม่รู้ทำไมอยู่ๆก็จัดการพวกอสูรได้ง่ายๆเลย เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ!?”
คุณกัลลุงก้ากับผู้ชายเผ่ายักษ์อีกคนก็โผล่หน้าออกมาจากอีกฝั่งของกำแพงปราสาท
พวกเราก็อธิบายสถานการณ์ให้ทั้งสองคนที่กำลังตกใจฟัง
ทั้งเรื่องที่ริเซ็ตกลายเป็นเจ้าปราสาทของปราสาทร้างนี้ ทั้งเรื่องที่เขตแดนจะอยู่ไปตลอด แล้วก็เรื่องที่ขอบเขตการไล่อสูรขยายใหญ่ขึ้น
พอผมพูดจบ ทั้งคู่ก็เอาตบมือ–
“คืนนี้ต้องฉลองด้วยเหล้าชุดใหญ่ซะแล้ว–!!”
แล้วก็ชูมือขึ้นฟ้าวิ่งไปทางหมู่บ้าน
ดีใจก็ดีแล้วล่ะ
แต่ผมไม่กินเหล้า ดังนั้นคงร่วมด้วยไม่ได้
“จะว่าไปแล้ว ระหว่างทางกลับผมว่าจะแวะที่[สุสานจักรพรรดิมังกร]น่ะ ริเซ็ตจะมาด้วยได้ไหม?”
“ได้แน่นอนค่ะ แต่ว่า มีอะไรเหรอคะ?”
“จะลองทดสอบว่าริเซ็ตเข้า[สุสานจักรพรรดิมังกร]ได้หรือเปล่าน่ะ”
ถ้าผมใช้[ปลุกเผ่ามังกร]ก็สามารถเปิดประตูได้
ถ้าทำแบบนั้นริเซ็ตเองก็น่าจะเข้าไปด้วยได้แน่ อยากจะลองทดสอบดูว่าความฝันของคุณจักรพรรดิมังกรจะเกิดขึ้นกับริเซ็ตด้วยหรือเปล่า ถ้าเธอสามารถใช้สกิลแบบเดียวกับผมได้ล่ะก็ จะได้สามารถปกป้องหมู่บ้านได้ง่ายขึ้น
“ริเซ็ตเองก็เป็นเจ้าปราสาทด้วยสกิลของจักรพรรดิมังกรแล้ว บางทีจักรพรรดิมังกรอาจจะยอมรับริเซ็ตแล้วก็ได้”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ริเซ็ตลังเลเล็กน้อยแล้วพยักหน้า
“จะลองดูค่ะ จะได้มีพลังของจักรพรรดิมังกรเหมือนกับท่านพี่โชมะค่ะ แบบนั้นก็จะได้ถูกเรียกว่าท่านจักรพรรดิมังกรเหมือนกันไงคะ”
“ฮารุกะจะเอายังไงล่ะ?”
“หืม? เราก็จะไปด้วยล่ะ”
ฮารุกะเอามือแตะหน้าหน้าผาก แล้วพยักหน้า
“[การเปลี่ยนโลก]คือความต้องการอย่างแรกของพี่ริสล่ะนะ เราเอง ก็อยากจะลองขอกับท่านจักรพรรดิมังกรให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงเหมือนกัน”
“ความฝันของฮารุกะเหรอ?”
“ตามหาบ้านเกิดของเผ่ายักษ์น่ะ”
ฮารุกะพูดออกมาพลางมองไปยังสถานที่ที่ห่างไกล
ใช้มือข้างหนึ่งดันหน้าอกขึ้นแล้วก็พยักหน้า
“บ้านเกิดของทุกคนเผ่ายักษ์จริงๆแล้วไม่ใช่ที่นี่หรอก แต่ว่ากันว่าเป็นพื้นที่ที่มีทะเลสาปอันงดงามและสงบสุขยิ่งกว่านี้ ที่นั่น องค์หญิงยักษ์องค์แรกได้ให้กำเนิดเผ่ายักษ์คนแรกขึ้นมา”
“มีตำนานแบบนั้นด้วยเหรอเนี่ย…”
“มันเป็นประวัติศาสตร์ค่ะ คุณทวดของทวดของเราดูเหมือนจะได้ยินมาจากคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นล่ะ”
งั้นเหรอ หลังการตายของคุณจักรพรรดิมังกร พวกอมนุษย์ก็ถูกขับไล่มาที่ชายแดนนี้นี่นะ
แน่นอนว่าก็คงจะมีหมู่บ้านหรือเมืองที่อยู่มาก่อน ก็เป็นปกติที่อยากจะกลับไปที่นั่น
“การที่สักวันจะไปกลับไปเจอบ้านเกิดคือความฝันของเผ่ายักษ์ มีตำนานว่าผู้ที่ได้กลับไปที่นั่น ท่านองค์หญิงยักษ์จะทำให้ความปรารถนาเป็นจริง เราเองก็ฝันว่าสักวันก็จะพาทุกคนกลับไปที่บ้านเกิด แล้วก็ทำให้ความต้องการของตัวเองเป็นจริงล่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง แล้ว ต้องการอะไรล่ะ?”
“…ความลับ”
ไม่รู้ทำไมฮารุกะถึงยืดอกแล้วพยักหน้า
“ขอพูดไว้แค่ว่าเกี่ยวกับอนาคตของเผ่ายักษ์ค่ะ สักวันจะบอกให้ท่านพี่รู้เอง”
พูดแบบนั้นแล้วฮารุกะก็เงียบ
ท่าทางจะมีเหตุผล ดังนั้นไม่คาดคั้นจะดีกว่า
เรื่องที่ผมจะทำมันก็ไม่ได้เปลี่ยน ปกป้องหมู่บ้าน และคอยสนับสนุนริเซ็ตและฮารุกะ
ทำเท่าที่ทำได้เพื่อตอบแทนที่ช่วยดูแล
ถ้าเป็นไปได้…ก็จะทำให้ความฝันของริเซ็ตและฮารุกะเป็นจริง
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปพักกันเถอะ”
“ค่ะ ท่านพี่โชมะ” “กลับกันเถอะ ท่านพี่”
จากนั้นพวกเราก็ออกเดินไปยังหมู่บ้าน