Ch.36 – เหล่าหญิงสาวข้ารับใช้ของราชา ร่วมกันคิดฉายาที่เท่าเทียม
Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author
“อย่างนี้นี่เอง…คะ คุณโชมะ มีพลังแบบเดียวกับ[นายที่แท้จริง]ของฉันสินะคะ!”
“…เอ๊ะ?”
…ความไม่ แตก
เพราะผมอยู่ในสภาพในสมัย[ราชามังกรแห่งเกษตรอินทรีย์(ออร์กานิคดราก้อนคิง)] ก็เลยคิดว่าความจะแตกแล้ว
แต่ยูกิโนะก็แค่ยืดอกในชุดนอนแล้วก็พยักหน้าอย่างยอมรับเท่านั้นเอง
“พอได้เห็นพลังกับรูปร่างของคุณโชมะเมื่อกี้ก็รู้ได้เลยค่ะ ด้วยการที่มีคนแบบพวกเราอยู่ที่นี่ทำให้เกิด[Vibration(คลื่นสั่นสะเทือน)]ขึ้น ณ ชายแดนแห่งนี้ ก็เลยใช้มันทำการสร้าง[Stage(เวที)]ที่เหมาะสมขึ้นมาเพื่อให้[นายที่แท้จริง]ปรากฎตัวมาสินะคะ มันคือกระบวนการที่จะฟื้นฟูกลียุคของโลกใบนี้ ก่อให้เกิด[True Innovation(นวัตกรรมโดยนายที่แท้จริง)]ขึ้นมาค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ ฉัน เข้าใจดีแล้วค่า”
พูดแบบนั้นแล้วยูกิโนะก็หันกลับไปด้านหลัง
“ดะ ด้วยเหตุนั้น ต่อจากนี้ฉันคิดว่าจะต่อสู้เคียงข้างคุณโชมะค่ะ ถ้าผสานพลังชนิดเดียวกันเข้าด้วยกัน ความสามารถของฉันอาจจะพัฒนาก็ได้นะคะ ในการต่อสู้ครั้งต่อไป ก็อย่าทำเหมือนกับฉันเป็นแขกอีกนะคะ ฉันเอง ก็อยากจะเป็นแบบเดียวกับคุณริเซ็ต กับคุณฮารุกะค่ะ!”
“ยูกิโนะ…?”
พับพับพับ
ถึงผมจะส่งเสียงไป แต่ยูกิโนะก็ทำแค่ส่ายหน้า
บางทีการที่ผมใส่ชุดเดียวกับ[นายที่แท้จริง] จะทำให้ช็อกไปแล้ว?
นั่นน่ะสินะ…สำหรับอดีตเด็กนักเรียนมอต้นก็คงจะรู้สึกขยะแขยงสินะ ตาลุงสามสิบมาคอสเพลย์ชุดจูนิเบียวเนี่ย แถมยัง ใช้ท่าอย่าง[มังกรสองเศียรผ่าสมบูรณ์]อีก
ถึงสำหรับดาเมจแล้ว ทางฝ่ายนี้ที่โดนเห็นจะมากกว่าก็เถอะ
“คะ คือว่าคือว่า คุณฮารุกะ!!”
ยูกิโนะยังคงหันหลังให้ทางนี้แล้วตะโกนออกมา
“ขะ ขอโทษที่พูดอะไรเอาแต่ใจนะคะ แต่เป้าหมายที่จะมาดูการต่อสู้ก็เสร็จแล้ว ขอกลับก่อนจะได้ไหมคะ?”
“ได้สิ…เอ๊ะ หวา ยูกิโนะจังหน้าแดงแจ๋เลย!? ตัวร้อนด้วย!! แย่แล้ววว!!”
ฮารุกะจ้องใบหน้าของยูกิโนะแล้วก็เบิกตากว้าง
เอามือแตะหน้าผากเล็กๆ แล้วก็อุ้มร่างของยูกิโนะที่ทำท่าจะล้ม
“โทษที ฮารุกะ ฝากยูกิโนะด้วยล่ะ พวกฮาร์ปั้ด้วย ต้องขออภัยจริงๆ ฝากพา2คนนี้ไปส่งที่หมู่บ้านที เดี๋ยวจะมอบรางวัลให้ทีหลัง”
“รับทราบค่า” “ยังไงทุกคนก็ต้องกลับอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาค่า” “ได้เห็นฉากเท่ขององค์ราชาแล้วด้วย” “แค่ได้เอาไปเล่าต่อ ก็เป็นรางวัลที่เพียงพอแล้วค่า”
รุรุย โรโรย แล้วก็พวกฮาร์ปี้อื่นๆก็ยิ้มตอบมา
แต่ว่า ไอ้เรื่องจะเอาร่างนั่นของผมไปเล่าน่ะหยุดเลย
“คือว่า ท่านพี่โชมะ”
พอรู้สึกตัว ก็เห็นว่าริเซ็ตมองตรงที่ผม
“ถ้ายังไงให้ริเซ็ตไปส่งคุณยูกิโนะแทนฮารุกะได้ไหมคะ”
“ก็ได้หรอก ทำไมล่ะ?”
“ต่อจากนี้จะต้องมีการคุยกันเรื่องจะทำยังไงกับพวก[ลัทธิ]ที่จับมาของหมู่บ้านนี้กับ[หมู่บ้านฮาซามะ]ใช่ไหมล่ะคะ?”
“อา”
ผมพยักหน้าเห็นด้วย
ด้วยการร่วมมือของเผ่ายักษ์กับพวกชาวบ้านถึงจับพวก[ลัทธิ]ได้
ใกล้ๆจากตรงนี้ก็มีคุณกัลลุงก้าเผ่ายักษ์คุยกับผู้เฒ่าของหมู่บ้านอยู่ เรื่องการทำข้อตกลงระหว่างหมู่บ้านนี้กับ[หมู่บ้านฮาซามะ]–เกี่ยวกับแลกเปลี่ยนข้อมูลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน–อะไรพวกนี้ พร้อมกับมองมาที่ผม
“ก็จริงที่จะมีการคุยกันระหว่างหมู่บ้านล่ะนะ”
“ค่ะ ดังนั้นแล้วแทนที่จะเป็นริเซ็ต ให้ฮารุกะที่เป็นผู้ใหญ่บ้านคุยจะดีกว่าค่ะ”
“เรื่องนั้นก็เข้าใจอยู่หรอก…แต่เรื่องเจรจาอะไรเนี่ยฮารุกะถนัดเหรอ?”
“ไม่ถนัดสุดๆเลยค่ะ”
พูดแบบชัดเจน
สมกับเป็นพี่สาว เข้าใจฮารุกะดีเลย
“แต่ว่า การตัดสินใจของฮารุกะ คือความตั้งใจของหมู่บ้านค่ะ คิดว่ายังไงให้อยู่ที่นี่จะดีกว่าค่ะ”
“เข้าใจแล้ว”
ผมพยักหน้า
แถมเรื่องการส่งยูกิโนะฝากริเซ็ตน่าจะดีกว่าด้วย
ฮารุกะแม้จะใจดี แต่ก็มีจุดที่ไม่พิถีพิถัน อย่างการพายูกิโนะที่ต้องพักฟื้นมาสนามรบเนี่ย
“ด้วยเหตุนั้นล่ะ ฝากด้วยนะ พวกฮาร์ปี้”
““““ค่าา””””
“ฮารุกะอยู่ที่นี่ต่อแล้วเข้าร่วมการเจรจาในฐานะตัวแทนหมู่บ้านด้วย”
“เอ๊ะ? ขากลับจะได้ท่านพี่ไปส่งเหรอ? เยี่ยม!!”
ฮารุกะยิ้มแก้มปริแล้วชูมือทั้งสองข้าง
แบบนั้นจะดีเหรอ
“ยูกิโนะเองก็ด้วย กำลังพักฟื้นก็ไม่ควรมาที่สนามรบไม่ใช่เหรอ?”
“…ขอโทษค่ะ”
ยูกิโนะเข้าไปใกล้ฮารุกะแล้วก็พาดบ่า แอบมองมาที่ผมแล้วพยักหน้า
“ได้เห็นการต่อสู้ของโลกนี้แล้วค่ะ ”
“เข้าใจแล้ว แต่เรื่องแบบนั้นมันควรทำตอนที่หายดีแล้ว รอบหน้าก็ระวังตัวด้วยล่ะ”
“ค่ะ ขอโทษค่ะ…”
“…ไม่หรอก ไม่ได้โกรธอะไรหรอก หันมาทางนี้สิ”
พับพับ พับ
ยูกิโนะส่ายหน้าจนผมสีฟ้าส่ายไปมา
ผมที่เป็นผู้ใหญ่แล้วสำหรับยูกิโนะ จะช็อกกับสภาพที่ใส่ชุดเดียวกับสมัยจูนิเบียวก็ไม่แปลก
สำหรับยูกิโนะที่รับถือผมในสมัยนั้นว่า[นายที่แท้จริง]การพบกันครั้งนั้นคือความทรงจำอันแสนสำคัญ เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างผมไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวด้วย
แม้แต่ผมที่เลิกเป็นจูนิเบียวจนเป็นผู้ใหญ่แล้ว เรื่องแบบนั้นก็พอจะเข้าใจอยู่
“ถ้าอย่างนั้นก็ฝากยูกิโนะด้วยล่ะ ริเซ็ต”
“ค่ะ ฝากได้เลยค่ะ ท่านพี่โชมะ”
จากนั้นพวกเราก็มองส่งริเซ็ต ยูกิโนะ แล้วก็พวกฮาร์ปี้กลับไปที่หมู่บ้าน
ผมกับฮารุกะแล้วก็เผ่ายักษ์ทุกคนที่เหลืออยู่ก็ไปคุยกันว่าจะเอายังไงกับการค้าขายไม้กับพวกลัทธิที่จับมา
──มุมมองริเซ็ต──
หลังจากนั้นหลายสิบนาที ริเซ็ตกับยูกิโนะก็กลับมาที่หมู่บ้าน
“ท่านริเซ็ต! ท่านยูกิโนะ! ปลอดภัยสินะ!”
“คนที่หมู่บ้านเป็นยังไงบ้าง!? เกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านข้างๆ!?”
“มีท่านโชมะอยู่ก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ทุกคนก็…เป็นห่วง”
“ทุกคน ใจเย็นๆค่ะ เรื่องทุกอย่างจบแล้วค่ะ ทั้งเผ่ายักษ์ทุกคน ทั้งคนของหมู่บ้านข้างเคียง ไม่มีแผลสักนิดค่ะ ทุกคน…ได้ท่านพี่โชมะช่วยไว้ค่ะ”
ริเซ็ตหันไปหาพวกชาวบ้านที่รวมตัวกันแล้วก็เริ่มอธิบายอย่างรวดเร็ว
เรื่องที่[ลัทธิปลุกแผ่นดิน]โจมตีหมู่บ้านข้างๆ
เรื่องที่เผ่ายักษ์กับชาวบ้านรวมกลุ่มกันปะทะกับลัทธิ
จากนั้นก็เชื่อที่โชมะที่ไปถึง จัดการกวาดล้างพวก[แมลง]อสูรรับใช้กับผู้บริหารลัทธิ
“ท่านพี่กับฮารุกะอยู่ที่หมู่บ้านข้างๆกับคนอื่นๆทุกคนค่ะ คิดว่าคงจะกลับมาพรุ่งนี้ค่ะ แล้วทุกคนของหมู่บ้านข้างๆ…ก็อยากจะทำข้อตกลงกับหมู่บ้านเราค่ะ ข้อตกลงว่าจะแลกข้อมูล แล้วก็ช่วยเหลือกัน”
โอ้อ้อ้อ้อ้อ้! เสียงยินดีดังขึ้น
ถึงจะอยู่ใกล้กัน แต่ระหว่างหมู่บ้านข้างๆและ[หมู่บ้านฮาซามะ]ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน
มนุษย์นั้นหวาดระแวงอมนุษย์ อมนุษย์นั้นก็เพราะถูกพวกมนุษย์ไล่ไปยังชายแดน จึงไม่เชื่อใจพวกเขา
ถึงจะซื้อขายสินค้ากัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้สนิทสนมขึ้น
แต่กำแพงที่หมู่บ้านทั้งสองตั้งไว้ ก็ถูกโชมะทำลายไปในพริบตา
แม้แต่ในหูของริเซ็ตอนนี้เอง ก็ยังมี[เสียงเรียกราชาผู้พิชิต]ของพวกชาวบ้านดังอยู่
เผลอหลุดยิ้มออกมา เพราะว่าสิ่งนั้นเปรียบเสมือนหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าท่านพี่ได้เชื่อมโยง[หมู่บ้านฮาซามะ]กับหมู่บ้านข้างเคียง
“…ท่านพี่โชมะเป็นคนที่สุดยอดจริงๆด้วยค่ะ”
โชมะในสภาพปกติคือมนุษย์
แต่ตอนที่ใช้ความสามารถ ก็จะเปลี่ยนเป็นมังกร ยักษ์ และเผ่าที่มีปีก
สำหรับเขาแล้วความต่างทางรูปร่างไม่มีความหมายอะไร
ได้เห็น[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์]กับตาแล้วถูกพลังนั้นช่วยเอาไว้–พวกคนของหมู่บ้านข้างๆ สายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับอมนุษย์ ก็อาจจะดีขึ้นก็ได้
“บางทีท่านพี่โชมะอาจจะเป็นผู้ที่จะมาเชื่อมโยงทุกเผ่าพันธุ์ก็ได้ค่ะ…”
“ฮัดชิ้ว”
อยู่ๆยูกิโนะที่อยู่ข้างๆริเซ็ตก็จามออกมา
การบินบนฟ้ามันหนาวสินะ ก็เลยเอามือจับชายผ้านอนแล้วก็ตัวสั่นเล็กน้อย
“ขอโทษด้วยค่ะทุกคน เรื่องก็มีเท่านี้ล่ะค่ะ เรื่องต่อจากนี้ ก็เอาไว้หลังจากท่านพี่โชมะกับฮารุกะกลับมาละกันนะคะ”
ริเซ็ตพูดแบบนั้นก็ให้ยูกิโนะพาดบ่า แล้วออกเดินไป
ร่างกายของยูกิโนะที่เซไปมานั้นตัวอุ่นเล็กน้อย ทั้งผิวหนังและใบหน้าก็แดง
แต่ว่า–
“…ฟุฟุ”
“คุณยูกิโนะ?”
ริเซ็ตถามออกไป
“ทำไมถึงเอาแต่หัวเราะมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเหรอคะ?”
“ฟุเอ๋~~~~~!?”
ยูกิโนะรีบเอามือจับหน้า
“ห หะหะหะ เห็นว่าหัวเราะเหรอคะ!?”
“แก้มปริเลยล่ะค่ะ ริมฝีปากก็เป็นรูปรอยยิ้มชัดเจนค่ะ แถมตั้งแต่เมื่อกี้ก็พ่นลมหายใจเบาๆว่า[หึหื้ม]มาตลอดค่ะ ไม่รู้ตัวเลยเหรอคะ?”
“คะ คิดไปเองค่ะ! ไม่ได้หัวเราะค่ะ ไม่ได้ดีใจอะไรทั้งนั้นค่ะ!”
“งั้นเหรอคะ คิดไปเองสินะคะ”
“คิดไปเองค่ะ”
“…งั้นเหรอคะ”
“…ใช่แล้วล่ะค่ะ”
“จะว่าไปแล้วนะคะ คุณยูกิโนะ”
“คะ”
“ท่านพี่โชมะ”
“ขาาาาา!?”
“–และ ริเซ็ตกับฮารุกะ เป็นพี่น้องร่วมสาบานค่ะ”
“–ค ค่ะ รู้แล้วค่ะ”
“ท่านพี่โชมะ”
“ฮี๊! ค คะ!”
“–ชื่อจริงก็คือ ท่านคิริว โชมะค่ะ”
“–รู้แล้วค่ะ! มาจากโลกเดียวกับฉันสินะคะ!?”
“ท่านพี่”
“…คะ”
“–กับ ริเซ็ตถึงจะเป็นพี่น้องร่วมสาบาน แต่ก็แต่งงานกันได้ค่ะ”
“……เอ๊ะ”
“ท่านพี่คือผู้ที่ถูกยอมรับโดย[จักรพรรดิมังกร]ที่เคยกอบกู้โลกนี้ในสมัยก่อนค่ะ ได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในเผ่ามังกรแล้วค่ะ ริเซ็ตเองถึงจะสืบสายเลือดของท่านจักรพรรดิมังกร แต่ก็เป็นตระกูลรอง สายเลือดก็เลยจางมากค่ะ แต่ว่า…ถ้าได้แต่งงานกับท่านพี่ล่ะก็–”
“อะหวา อะวะวะวะวะวะหวา”
“ิาจจะได้เด็กที่มีสายเลือดของมังกรอย่างเข็มข้นเกิดขึ้นมาก็ได้ค่ะ แน่นอนว่าถ้าท่านพี่ยอมรับก็จะทำแบบนั้นค่ะ แต่ก็อยากจะถามความเห็นของคุณยูกิโนะที่มาจากโลกเดียวกันด้วยค่ะ การสร้างเด็กจากโลกของคุณ กับอมนุษย์จากต่างโลก สุดแล้วจะยอมรับได้–”
“ไม่ได้น้าาาาาาาาาาาาาาาาา!?”
ทันทีทันใด
ยูกิโนะสะบัดมือของริเซ็ตแล้วตะโกนออกมาอย่างอดรนทนไม่ได้
“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ!”
“งั้นเหรอคะ คนบนโลกของคุณยูกิโนะ…เรื่องการมีลูกระหว่างมนุษย์กับอมนุษย์ ก็ยังมีคนที่ไม่ยอมรับสินะคะ…”
“ไม่ใช่ค่ะ! ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ! สำหรับคุณริเซ็ต ฉัน ก็ชอบค่ะ เรื่องอย่างอมนุษย์ก็ไม่สนใจด้วยค่ะ! แต่ว่าแต่ว่า ไม่ได้ค่ะ!”
ร่างกายของยูกิโนะสั่น
เพราะว่าใช้เสียงดังทั้งๆที่กำลังพักฟื้นสินะ
รู้สึกวิงเวียน แต่ยูกิโนะก็พยายามเหยียบพื้นให้มั่นเพื่อพยุงร่างกาย
“รู้แล้วค่ะ…ฉัน…ในที่สุดก็รู้ตัวแล้ว…ดังนั้น…”
มองตรงไปที่ริเซ็ต ยืดอก พยายามตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยร่างกายเล็กๆ
“ห้ามเอาไปเลยนะคะ! ก็ อุตส่าห์ได้เจอกันแล้วแท้ๆนี่คะ! ข้ามโลก ข้ามชีวิตและความตาย จนได้มาเจอกันแล้วค่ะ!! อย่าเอาคุณโชมะ…[นายที่แท้จริง]ของฉันไปนะ–!!”ฃ
ราวกับว่าตะโกนออกมาโดยใช้พลังทั้งหมดในตัว–
ยูกิโนะก็ทรุดลงกับพื้น
“ฉัน…เข้าใจผิดไปค่ะ ที่ไปคิดว่า[นายที่แท้จริง]จะถูกอัญเชิญมาด้วยอายุเท่าๆกับฉัน แต่ว่า…ไม่ใช่ค่ะ ท่าน[ราชามังกรแห่งเกษตรอินทรีย์(ออร์กานิคดราก้อนคิง)]หลังจากฉันตายไปแล้วก็ยังคงมีชีวิตอยู่…พัฒนาสกิล…จนร่างกายสามารถทนความสามารถอันยิ่งใหญ่–กลายเป็น[ร่างสมบูรณ์]จากนั้นก็มาที่ต่างโลกค่ะ ไม่เหมือนกับฉัน แต่มีพลังระดับที่สามารถตอบรับการอัญเชิญได้ด้วยพลังของตัวเอง”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นเหรอคะ?”
“ช่วยดู…สิ่งนี้ด้วยค่ะ”
ยูกิโนะหยิบจี้สีเงินออกมาจากใต้เสื้อนอน
มีขนาดเล็ก ตรงกลางติดคริสตัลกลมๆอยู่
“นี่คือหลักฐานของ[ผู้ที่ถูกอัญเชิญ]ค่ะ ถ้า[ผู้ที่ถูกอัญเชิญ]จัดการอสูรก็จะถูกนับไว้ในคริสตัลนี้ค่ะ จากนั้นผู้ที่มีผลงานในการกอบกู้ยุคมืดมากที่สุด ก็จะได้ฟื้นคืนชีพกลับไปที่โลกเดิมพร้อมทั้งความทรงจำและความสามารถค่ะ แต่คุณโชมะไม่มีเจ้านี่ค่ะ ทั้งๆที่ตอนสู้กับอสูรต้องเก็บติดตัวไว้ตลอดแท้ๆ”
“หมายความว่าท่านพี่พิเศษเหรอคะ?”
“ตอนที่ได้ยินว่าคุณโชมะเป็นคนจากโลกเดียวกันก็คิดว่ามันแปลกๆค่ะ ว่าทำไมถึงไม่มีจี้กัน”
พูดแบบนั้นแล้วยูกิโนะก็ถอนหายใจออกมา
“…ดังนั้นก็เลยคิดว่าอยากจะเห็นการต่อสู้ของคุณโชมะค่ะ”
“แต่แค่นั้น ก็ไม่ใช่หลักฐานว่าท่านพี่เป็น[นายที่แท้จริง]–”
“เมื่อคืนวาน คุณโชมะจับมือของฉันใช่ไหมล่ะคะ?”
ยูกิโนะเอามือกุมแก้มแล้วยิ้มออกมา
“ถึงจะลางๆ แต่ก็จำได้ค่ะ สัมผัสของมือนตอนนั้นเหมือนกับคนคนนั้นค่ะ เมื่อฤดูใบไม้ผลิเมื่อ1ปีก่อน มือที่ช่วยและกอดฉันเอาไว้ ตอนนั้นก็รู้แล้วค่ะ”
“แบบนั้นเอง เหรอคะ”
สำหรับโชมะ เรื่องที่เขาช่วยยูกิโนะคืออดีตมากกว่า10ปี
แต่ว่าสำหรับยูกิโนะมันก็แค่1ปีก่อน
ดังนั้นเธอก็เลยยังจำตอนที่โชมะจับมือได้ดี
“ถึงจะใหญ่และมีพลังมากขึ้นก็เถอะ…แต่ก็รู้ได้ค่ะ ก็เป็น มือของ[นายที่แท้จริง]ของฉันนี่นา ไม่มีทางลืมหรอกค่ะ!”
“คุณยูกิโนะ…”
“ดังนั้น! ดังนั้น! ถ้าอยากจะได้ลูกของ[นายที่แท้จริง]ล่ะก็ ก่อนอื่นก็จัดการยูกิโนะ คลาวดี้ ดราก้อนไชนด์คนนี้ลงให้ได้ก่อนค่ะ!
นะ แน่นอนว่า คนที่จะเลือกคู่ที่จะยืนเคียงคู่กันไปชั่วชีวิตก็คือตัว[นายที่แท้จริง]ค่ะ! แต่ว่า…ได้โปรดให้ฉันได้มีโอกาสยืนยันพลังในการ[เชื่อมต่อกายเนื้อกับวิญญาณ]ของท่าน[นายที่แท้จริง]ก่อนเถอะค่ะ! อย่างน้อย…ขอโอกาส…ให้ฉัน…ที่ตัดสินใจจะรับใช้เขาที่ข้ามโลกมา…ด้วยเถอ…อะ เอ๊ะ?”
“ขอโทษค่ะ!!”
ผงก
ก่อนที่ยูกิโนะจะเห็น ริเซ็ตก็ก้มหัวลงไป
“เมื่อกี้ โกหกค่ะ”
“โกหก…?”
“ค่ะ อยากจะรู้ใจจริงของคุณยูกิโนะก็เลยโกหกค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ!”
ริเซ็ตพูดออกมา
“…อะ อะไรกัน”
แรงหลุดออกจากร่างของยูกิโนะ
เพราะทำท่าจะล้ม ริเซ็ตเลยรีบเข้าไปอุ้ม
“ขอโทษค่ะ ริเซ็ตอยากจะรู้ว่าคุณยูกิโนะรู้ตัวหรือเปล่าว่าท่านพี่คือ[นายที่แท้จริง]…น่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น เรื่องที่อยากจะได้ลูกที่สืบสายเลือดมังกร…ก็เลยอยากจะได้ลูกของคุณโชมะก็…”
“ก็บอกว่าโกหกไงคะ ริเซ็ตไม่แต่งงานกับท่านพี่ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะได้เด็กที่มีสายเลือดมังกรเข้มข้นหรอกค่ะ”
“……เฮ้อ”
ยูกิโนะถอนหายใจยาว
“โหดร้ายค่ะ…คุณริเซ็ต”
“ขอโทษจริงๆค่ะ แต่ว่า ก็อยากจะยืนยันให้ชัดค่ะ”
ริเซ็ตพยุงตัวยูกิโนะแล้วก็พยักหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ว่าคุณยูกิโนะจะเป็นคนที่ร่วมเดินทางในยุคมือนี้กับท่านพี่หรือเปล่า”
พูดแบบนั้นแล้วริเซ็ตก็จับมือของยูกิโนะ
“ถ้าเกิด[นายที่แท้จริง]อยู่ที่อื่น คุณยูกิโนะก็ต้องจากไปใช่ไหมล่ะคะ? ดังนั้นนะคะ”
“…คุณริเซ็ต”
“ริเซ็ตกับฮารุกะ สาบานว่าจะซื่อตรงต่อท่านพี่ค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็เตรียมใจที่จะชีวิตรอดผ่านยุคมืดนี้ไปให้ได้ค่ะ ดังนั้น ถ้าคุณยูกิโนะเป็นคนที่จะมาช่วยท่านพี่…หรือ มาร่วมสู้ด้วยกัน ก็จำเป็นต้องยืนยันให้แน่ใจค่ะ”
“ถ้าแบบนั้น ก็เข้าใจแล้วค่ะ”
ยูกิโนะมองตาของริเซ็ตกลับไปแล้วพูดออกมา
“ขอบคุณค่ะ คุณริเซ็ต ที่คิดกับ[นายที่แท้จริง]ขนาดนั้น”
“ก็เป็นน้องสาวนี่คะ ก็แน่นอนค่ะ”
“…แต่ว่า หลังจากนี้ฉันจะต้องทำยังไงต่อดีคะ?”
“ทำยังไง เหรอคะ?”
“จะเรียกคุณโชมะว่า[นายที่แท้จริง]ดีหรือเปล่าคะ?”
“ลองทำดูก่อนไหมล่ะคะ”
“ลอง?”
“ตรงหน้านี้มีท่านพี่อยู่ค่ะ ลองทักดูสิคะ เอาเลยค่ะ”
“คุณโชมะ…ไม่สิท่าน[นายที่แท้จริง]!”
โป๊ะ
ยูกิโนะหน้าแดง
ร่างกายเล็กๆทรุดลงราวกับหน้ามืด
“…ดูเหมือนจะยัง…ไม่พร้อมค่ะ…”
“จนกว่าจะชินก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ก่อนน่าจะดีกว่านะคะ”
“เอาแบบนั้น เหรอคะ?”
“ทั้งท่านพี่และคุณยูกิโนะ ต่างก็พึ่งมาที่โลกนี้ใช่ไหมล่ะคะ? ไม่จำเป็นต้องรีบหรอกค่ะ ท่านพี่เอง ตอนนี้ก็ยังสับสนในพลังของตัวเองอยู่เลยค่ะ”
“ทั้งๆที่มีพลังที่สุดยอดขนาดนั้นเนี่ยนะคะ?”
“ริเซ็ตเองก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ดูเหมือนจะมีอะไรมากมายเกิดขึ้นที่โลกเดิมค่ะ?”
“มู๊ ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกแบบนั้นแท้ๆ”
ยูกิโนะทำแก้มป่อง
“เจ้าพวกคนธรรมดาสามัญที่ไม่สามารถฟัง[Eternal Chaos of Ragnarok Opera(บทเพลงแห่งจุดจบที่บรรเลงอยู่ ณ ห้วงลึกแห่งความโกลาหล)]ได้ ถ้าบังอาจมาทำร้ายจิตใจ[นายที่แท้จริง]ก็อภัยให้ไม่ได้ค่ะ ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ พวกมันทุกคนจะต้องถูกแช่กลายเป็นรูปปั้นอยู่ในคุกอุณหภูมิศูนย์องศาสัมบูรณ์ด้วย[Endless Cocytus(เยือกแข็งลำดับหก)]…”
“ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ แต่ริเซ็ตก็เห็นด้วยค่ะ”
ริเซ็ตจับมือของยูกิโนะ
“ยังไงก็จนกว่าอะไรๆจะสงบลง ก็เก็บเป็นความลับระหว่าง2คนกันเถอะค่ะ”
“นั่นสินะคะ ฉันขอแค่ได้อยู่ข้างๆท่าน[นายที่แท้จริง]…แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ”
ริเซ็ตกับยูกิโนะมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา
หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังคฤหาสน์ผู้ใหญ่บ้าน
“กลับเข้าบ้านแล้วริเซ็ตจะทำโจ๊กให้ค่ะ งานที่คุณยูกิโนะต้องทำคือทำตัวให้หายดีเร็วๆนะคะ?”
“เพราะว่าศึกตัดสินกับ[ลัทธิ]ใกล้เข้ามาแล้วเหรอคะ?”
“ใช่แล้วค่ะ ท่านพี่จะออกไปค้นหาวงเวทที่จะปลุกพลังของพื้นดินค่ะ ถ้ามีมันก็จะสามารถขับไล่อสูรได้อย่างสมบูรณ์ค่ะ”
“เป็นการขยายอาณาเขตของ[นายที่แท้จริง]สินะคะ?”
“ท่านพี่บอกมาว่า[จะใช้ชีวิตสบายๆที่ชายแดน]จนกว่าจะจบยุคมืดน่ะค่ะ”
ริเซ็ตจับมือของยูกิโนะแล้วพูดออกมา
“เพื่อการนั้นก็ต้องทำให้ชายแดนสงบสุขค่ะ แถมยิ่ง[เขตแดน]ของท่านพี่ขยายออกไป ชายแดนก็ต้องสงบสุขแน่นอนค่ะ”
“ฉันก็จะช่วยด้วยค่ะ ในฐานะลูกน้องอันดับหนึ่งของ[นายที่แท้จริง]!”
“…เดี๋ยวก่อนค่ะ ลูกน้องอันดับหนึ่งคือริเซ็ตค่ะ”
“…คิดว่าไม่ใช่แล้วค่ะ ฉันเป็นลูกน้องของท่านผู้นั้นมาตั้งแต่ชาติก่อนแล้วค่ะ”
“…มาคุยกันยาวๆดีกว่าค่ะ”
“…ได้เลยค่ะ”
ด้วยเหตุนี้–
การถกกันเพื่อตัดสินว่าใครเป็นลูกน้องหมายเลขหนึ่งของ[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธฺุ์}ก็ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้–
“ใช้ตัวเลขมาตัดสินคงจะไม่ได้เรื่องค่ะ ใช้ฉายาอื่นกันเถอะค่ะ”
“เอามาจากชื่อของคุณโชมะเป็นยังไงคะ?”
“เห็นด้วยค่ะ ถ้าอย่างนั้น ริเซ็ตเป็น[ขุนพลมังกร] ส่วนคุณยูกิโนะเป็น[ขุนพลมาร]นะคะ”
“ส่วนคุณฮารุกะให้เป็น[ขุนพลยักษ์]น่าจะเหมาะดีนะคะ!”
ในระหว่างที่โชมะไม่รู้ตัว ก็มีฉายาปริศนาถูกคิดขึ้นมาแล้ว