ณ ชานเมือง ในห้องใต้ดินสถาบันวิจัยของเดล ผมกับเดลกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่
แม้ผมจะไม่สะดวกวิจารณ์รสนิยมหรืออะไรต่างๆ ของคนอื่น แต่ว่า ในห้องเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเหรียญทองแห่งนี้ จะดูยังไงก็แปลกเกินไปอยู่ดี
ม้านั่งและโต๊ะที่ใช้เหรียญทองกองขึ้นไป ทั้งยังมีเครื่องมือสะท้อนแสงอันแปลกประหลาดอีก ไอ้หมอนี่ไม่รู้สึกแสบตารึไง?
“เพราะงั้น นายก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกเราถึงได้มาที่โลกใบนี้?”
ผมเสี่ยงอันตรายจากความแสบตา หรี่ตาแล้วเอ่ยถาม
“อืม ว่าไปแล้ว ฉันรู้แค่ว่าเมื่อก่อนฉันเคยเป็นนักฟิสิกส์ เรื่องอื่นกลับจำไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อก็ด้วย”
“จริงเหรอ…นายยังดีนะ เมื่อก่อนฉันเป็นแค่นักเรียน เพราะงั้นเลยไม่ได้…มีความคิดสร้างสรรค์แบบนายที่คิดอุปกรณ์ชะลอความเร็วแม่เหล็กไฟฟ้าอะไรนั่น”
“ฮ่าฮ่าฮ่า คือว่า…”
เดลมองไปยังกองพิมพ์เขียวบนพื้นแล้วพูดต่อ
“ฉันตั้งชื่อของชิ้นนั้นว่า ‘อาเรีย(บทร้องเพลง)แห่งสุดยอดวิทยาศาสตร์’!”
“เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย! นายเลียนแบบระบบฉายาแปลกประหลาดนั่นนี่! วิธีการตั้งชื่อนั่นน่ะ!”
“แหม…”
เดลผายมือ
“คนอื่นก็มองไม่เห็นไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อก่อนหมอนี่คงไม่ได้ทำงานในบริษัทเพนกวิน1 ที่มีระดับความชำนาญในการเลียนแบบนั้นหรอกนะ…
จะว่าไป เมื่อก่อนหมอนี่เป็นคนที่ไหนกัน พอถอดฮู้ดแล้ว หมอนี่กลับมีหน้าตาเหมือนคนยุโรปที่มีเส้นผมสีทองทั้งหัว
แล้วยังมีใบหน้าหล่อสุดๆ อีกด้วย ทำไมกันนะ! ถึงจะจำไม่ได้ว่าเมื่อก่อนผมมีหน้าตายังไง เลยไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าตาเหมือนกับเมื่อก่อนรึเปล่า แต่ว่า…
ในเมื่อเป็น RPG จะให้หน้าผมหล่ออีกนิดไม่ได้รึไง! ถึงตอนนี้ผมเองจะมีท่าทางสง่างาม แต่จะให้หล่อกว่านี้ไม่ได้เหรอ
ช่างเถอะ สอบถามข้อมูลที่มีประโยชน์ดีกว่า
“…เอาล่ะ จะว่าไป ฉายาของนายมันคืออะไร? เป็นกลางนั่นน่ะ”
“อ้อ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่คิดค้นของประหลาดบางอย่างได้ แล้วขายให้อาณาจักรในราคาเปิดตัวที่สูงที่สุดเท่านั้นเอง จากนั้นมันก็กลายเป็นแบบนี้”
“ไม่น่าล่ะ ระบบนี้ยุติธรรมดีทีเดียว ถึงนายจะซ่อนพฤติกรรมของตัวเองไว้ แต่มันก็ยังแยกแยะแนวโน้มพฤติกรรมของนายได้โดยอัตโนมัติ คนที่รับใช้ใครก็ได้อย่างนาย ย่อมมีความเป็นกลางเป็นธรรมดา”
“อย่างนี้นี่เอง…”
“แต่ว่า นายเป็นกลางตั้งแต่แรกเลยเหรอ? ตั้งแต่ตอนอยู่หมู่บ้านฝึกหัดเลย?”
“อืม ใช่สิ ฉันใช้เครื่องถ่ายวิดีโอที่คิดค้นขึ้นได้มาถ่ายภาพที่ลุงข้างบ้านแอบมีชู้กันไว้”
ไอ้หมอนี่สร้างเครื่องถ่ายวิดีโอ? ฟิสิกส์…ใช่แล้ว การสะท้อนภาพเหรอ?
“ฮะ? นี่มัน…แต่มันคงไม่ถึงกับ…”
“ที่พวกเขามีชู้กันเป็นเพราะฉันเอง”
…
หมอนี่อันตรายเกินไปแล้ว น่ากลัวเกินไป ถึงกับเล่นกับความรู้สึกของ NPC เชียวเหรอ
“แหม เพราะว่าเป็น NPC ฉันเลยอยากลองระดับ AI ของพวกเขา นึกไม่ถึงเลยว่าจะสูงขนาดนี้”
“พูดแล้วก็ถูก ตอนอยู่หมู่บ้านฝึกหัดยังมีความไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง แต่หลังจากมาถึงที่นี่ อีกฝ่ายก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนคนใน RPG เลย แต่เครื่องบันทึกวิดีโอของนาย…”
“นั่นน่ะเหรอ…”
เดลเดินออกจากห้อง ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็หยิบเอาของที่คล้ายกับกล่องสี่เหลี่ยมมา
อีกฝ่ายโยนสิ่งนั้นมาบนมือผมแล้วพูด
“คริสตัลเวทของที่นี่ ก็เป็นเครื่องมือกักเก็บพลังงานอย่างหนึ่ง หลังจากสูบพลังงานมาใช้จนหมด แล้วเชื่อมต่อกับเครื่องมือรับวิดีโอที่ฉันสร้างขึ้น ก็จะบันทึกภาพได้โดยตรง…แต่ว่า ของชิ้นนี้เปิดได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ฉันให้นายอันหนึ่ง เจออะไรน่าสนใจก็ลองเอามาถ่ายเล่นได้”
“ขอบใจ…”
ของเล่นชิ้นนี้…เปิดแล้ววางไว้ที่ห้องน้ำหญิงน่าจะใช้การได้ดีมากเลยใช่ไหม? ฮ่าฮ่าฮ่า…
“แล้วหลังจากนั้น นายมีแผนอะไร?”
“แผน? ก็รอให้สงครามเริ่มต้นแล้วค่อยอัพเลเวลไง”
“งั้นเหรอ…แต่ฉันได้แต่รู้สึกว่าเนื้อเรื่องหลักของที่นี่มันคลุมเครือไปหน่อย ถ้าหลายปีผ่านไปแล้วยังไม่เจอเนื้อเรื่องหลักจะทำยังไง? ต้องเก็บเลเวลไปเรื่อยๆ แล้วฆ่าราชาเหรอ?”
เดลฟังแล้วก็ตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็ไม่ใช่จะทำไม่ได้! แต่พอฉันมาถึงเลเวลนี้ จะต้องใช้ค่าประสบการณ์หนึ่งล้านหกแสนหน่วยเพื่ออัพเลเวล นายว่าถ้าเก็บเลเวลจากมอนสเตอร์อย่างเดียว จะใช้เวลานานแค่ไหนล่ะ?”
“หนึ่งล้านหกแสนหน่วย…”
แค่ผมได้ยินก็รู้สึกวิงเวียนอยู่ชั่วขณะ
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของ RPG ก็คือการเก็บค่าประสบการณ์…จนบางครั้งแทบจะทำให้อาเจียนออกมาจริงๆ…
“เอาล่ะ พวกเราได้รับฉายา ‘ราชทูตแห่งสงคราม’ แล้ว ค่าประสบการณ์ในสนามรบก็จะเพิ่มเป็นสองเท่า ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็ต้องตั้งทีมตอนอยู่ในสนามรบ! ถ้าเป็นแบบนั้นประสิทธิภาพก็จะสูงขึ้น!”
“พูดแล้วก็ถูก! จะว่าไปนายอาชีพอะไรล่ะ? เข้าวิทยาลัยเวทมนตร์ของฉันเถอะ! ถึงตอนนั้นก็มาตั้งทีมกัน!”
“คือว่า…”
จะว่าไป อาชีพของผมตอนนี้ยังคงเป็น ‘ไร้อาชีพ’ ไม่รู้ว่าทำไมไม่มีอาชีพก็เรียนสกิลได้ แต่ก็ไม่เป็นไร
“ฉันเป็นอัศวินเวท เพราะงั้นเรียนเวทมนตร์ก็คงไม่มีปัญหา”
“อัศวินเวท…น่าสนใจนี่! มิน่าล่ะฉันถึงไม่เห็นอาชีพของนาย ที่แท้ก็แปลกแบบนี้นี่เอง…แล้วคุณสมบัติของนายล่ะ? ฉันหาพวกหนังสือเวทมนตร์ให้นายแล้วกัน แบบนี้นายก็จะเก่งยิ่งขึ้น!”
“หนังสือเวทมนตร์!”
เยี่ยมไปเลย ก่อนหน้านี้ก็เกือบลืมไปเลย การเรียนหนังสือสกิลถึงเป็นทางลัด! ถ้ารู้แต่เนิ่นๆ คงให้ราชาเอาหนังสือสกิลให้ผมสักหน่อยก็คงดี! บางทีในท้องพระคลังอาจมีสกิลที่ล้ำค่าซ่อนไว้ก็ได้!
น่าเสียดายจัง
1 บริษัทแอพพลิเคชั่นโซเชียลเน็ตเวิร์คของจีน มีสัญลักษณ์เป็นรูปเพนกวิน