ตอนที่ 121
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
มันดูเหมือนทามะมูชิได้ทำหลายอย่าง และเธอบอกผมว่าเธอต้องการคนช่วย
นานะฟูชิเป็นคนช่วยที่ดีสำหรับทามะมูชิ แต่เธอมาจากภารกิจปกป้องบ้านไม่ได้
เพราะทั้งหมด การติดต่อจากองค์กรเองก็อาจเป็นกับดักด้วย
ด้วยนั่นที่พูด ทามะมูชิขอให้มารินะเป็นผู้ช่วย
「อา มันน่ารัก ♥ เพราะทั้งหมดมันเป็นกระโปรงสำหรับสาวๆ ♥」
「อุมุ เพราะทั้งหมด ชั้นสนใจเกี่ยวกับแฟชั่นแบบนั้น」
「เธอมีชุดนักเรียนเยอะเหรอ? เหมือนชุดนักเรียนลิลลี่สีดำที่ชั้นใส่อยู่ตอนนี้?」
「อืม มันเป็นงานอดิเรกของชั้นน่ะ」
「นี่คือภาพอะไร?」
「โอ้ ตรานี้เป็นตราของตระกูลของชั้นของประเทศที่ชั้นเกิดมาน่ะผู้ใช้แมลงแต่ละคนมีตราของตระกูลของแต่ละประเทศ เธอเธอมองดูมั้นเธอเห็นได้ว่าชั้นเกิดที่ประเทศไหน」
「เอ๋? เธอเอาเรื่องอย่างนี้ให้ดูอย่างภาคภูมิใจเลย ไม่ใช่ว่าตัวตนของเธอน่าทึ่งเหรอ?」
「อุมุ!」
「ไม่ อืม! …ทามะมูชิ-จังดูเหมือนจะฉลาด มีความรู้และแม่นยำ แต่จริงๆและเธอทื่อๆและน่ารัก ♥」
「ชั้นน่ารักเหรอ?」
「ใช่ เธอน่ารัก ♥ เธอตัวเล็ก มีผมสีเงิน ตาสีเขียว และทื่อๆนิดหน่อย น่ารักมาก ♥」
「ชั้นเป็นคนที่โตขึ้นเมื่อถูกชม ชั้นก็มีความสุขมากที่ได้ถูกบอกว่าชั้นน่ารัก ดังนั้น ชมชั้นมากกว่านี้」
ทามะมูชิและมารินะส่งเสียงข้างหลังห้องใต้ดิน
ที่ดีที่สุดของทั้งหมด มันดูสนุก แต่พวกเธอยังเตรียมตัวอยู่
มารินะเก่งที่จะทำให้คนทำที่ตัวเองอยากทำ และทามะมูชิชอบคุย
มันอาจจะอันตรายที่จะปล่อยงานไว้ให้สองคนนั้น
แต่ เพราะทั้งหมด ทั้งสองคนมีรากฐานที่จริงจัง
อย่างไรก็ตาม――
「ยูกะ ชั้นมีอะไรจะขอให้เธอทำ มีแค่เธอเท่านั้นที่ทำได้」
ยูกะเอียงหัวของเธอกับคำถามของผม
「เธอคิดว่ามันอันตรายที่จะลองความสามารถของเธอกับมารินะกับ “เพื่อน” ของเราเหรอ?」
เมื่อผมถาม ยูกะพยักหน้า
「ชั้นเข้าใจความรู้สึกของเธอ แต่ชั้นคิดว่าความสามารถของเธอจะแสงค่าที่แท้จริงออกมาเมื่อเธอใช้กับ “เพื่อน” ของเธอ และมีคนที่อยากให้เธอใช้มันด้วย」
เมื่อผมจ้องยูกะตรงๆและวางมือทั้งสองไปบนไหล่ของเธอ สีหน้าของยูกะกลายเป็นขุ่นมัว
ความสามารถของยูกะไม่ใช่เพื่อที่จะทำให้บางคนไม่มีความสุข แต่เพื่อที่จะสนับสนุนบางคน
การคาดเดาของมารินะที่ผมเห็นด้วย และผมคิดว่ายูกะก็เข้าใจมันด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้อย่างนั้น มันไม่ง่ายที่จะทดสอบพลังที่พิเศษเหนือความรู้ของมนุษย์กับ “เพื่อน”
เพราะทั้งหมดมันเป็นการล้างสมองที่สมบูรณ์
ขึ้นอยู่กับว่ามันจะใช้งานอย่างไร มันเป็นพลังที่น่ากลัวที่ทำลาย “ใจ” ของอีกคนได้
「ฮิซูกิอาจจะตายในไม่นานนี้」
ยูกะตอบสนองกับคำพึมพำของผม
「อย่างที่ทามะมูชิพูด ตาแห่งสวรรค์ของเธอไม่ใช่ความสามารถที่มนุษย์ธรรมดาจะใช้ได้ ยกเว้นว่าเธอเป็นนักบุญที่ละทิ้งความต้องการทางโลก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมความสามารถนั้น ไม่ ความคิดที่จะควบคุมนั้นเอง ที่ผิด」
ฮิซูกิสามารถจะใช้ความสามารถนั้นได้อย่างไรแม้ว่ามันจะแค่ชั่วคราว
น่าจะเพราะเธอเสียสติ
เมื่อตาแห่งสวรรค์ได้ตื่นขึ้นมา ฮิซูกิหมกมุ่นกับผมและบ้า
มันตรงกันข้ามกับนักบุญ มันเต็มไปด้วยความต้องการทางโลก
ความต้องการที่มันบริสุทธิ์เกินไป ปฏิเสธ และละเว้นทุกอย่างนอกเหนือจากผม
นั่นทำไมเธอถึงสามารถที่จะทนพลังที่ท่วมท้นของตาแห่งสวรรค์นั้นได้
แต่ฮิซูกิพ่ายแพ้และรู้จัก “เพื่อน” ของเธอ
พูดอีกอย่าง เธอได้กลายเป็น “สาวธรรมดา”
「แม้ว่ากายเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่มันเป็น “ใจ” ของเธอที่ตาย ถ้า “ใจ” ของเธอตายไป เธออาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง」
ผมอยากจะได้ความสามารถตาแห่งสวรรค์ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง ถ้าเราควบคุมตาแห่งสวรรค์ได้อย่างอิสระเราจะมีความได้เปรียบที่ท่วมท้น
อาซาฮินะอาจจะแก้ตาแห่งสวรรค์นั้นได้
ใช้ความสามารถของมารินะแทรกแซงตาแห่งสวรรค์และให้มันไหลเข้าไปในอาซาฮินะ ผมหวังว่ามันจะทำแบบนั้นได้
แต่ผมไม่มีเวลาตอนนี้ และความเสี่ยงมันใหญ่เกินไป
เพราะเมื่อมารินะที่เพื่องปลุกความสามารถของเธอ การแทรกแซงตาแห่งสวรรค์ ทำให้เธอไม่น่าจะปลอดภัย
ถ้าพวกเธอใช้มันไม่คล่องตัว ผมเสียทั้งฮิซูกิและมารินะได้ในเวลาเดียวกันเลย
งั้นมายอมแพ้เรื่องตาแห่งสวรรค์ตอนนี้ก่อน ไม่มีความจำเป็นกับความสามารถที่รับมือไม่ได้
「ยูกะ ชั้นคิดว่าความสามารถของเธอกันตาแห่งสวรรค์ได้」
ด้วยการล้างสมองที่สมบูรณ์ของยูกะ มันเป็นไปได้ที่จะใส่ความทรงจำที่ผิดไปให้ฮิซูกิ และทำให้ตาแห่งสวรรค์ดูเหมือนจะ “หายไป”
มากกว่านั้น ความสามารถของยูกะเป็นความสามารถที่จะใช่ “เสียง” ของเธอเป็นสื่อกลางควบคุมจิตใจ งั้น การล้างสมองทำได้โดยตรงโดยไม่ต้องไปแทรกแซงกับตาแห่งสวรรค์
「โอเค ชั้นจะช่วยฮิซูกิ-จัง」
ยูกะส่ายหัวของเธอและพึมพำ ทำสีหน้าของเธอให้เข้มขึ้นและจ้องตรงมาที่ผม จากนั้น เธอพยักหน้า
「มันช่วยชั้นได้มาก เพราะชั้นมีหนี้กับฮิซูกิเยอะ ชั้นไม่อยากจะตายก่อนชั้นจะจ่ายหนี้นั้น」
พูดจากใจ ผมไม่เก่งกับฮิซูกิเลย อย่างไรก็ตาม มันเป็นความจริงที่ผมได้ผลดีจากตาแห่งสวรรค์ของฮิซูกิ
เพราะผมไม่เก่งกับเธอ มันไม่สบายใจที่จะยืมพลังของเธอเรื่อยๆ
จากนั้น ผมพายูกะไปกับผมไปที่ห้องนั่งเล่น มีฮิซูกิและคาซะฮานะอยู่ในห้องนั่งเล่น
ฮิซูกิ ที่เกือบจะเสียความสามารถของเธอไปเนื่องด้วยพลังของตาแห่งสวรรค์และคาซะฮานะที่ปกป้องฮิซูกิ
จากจะเปลี่ยนความทรงจำของฮิซูกิด้วยความช่วยเหลือของความสามารถของยูกะจะช่วยได้จริงๆเหรอ?
ถ้าตาแห่งสวรรค์ดูเหมือนจะ “หายไป” มันเป็นไปได้ที่จะกลับไป “ก่อน” สภาพที่ตาแห่งสวรรค์จะตื่นขึ้นมา
งั้น เมื่อตาแห่งสวรรค์หายไปจากความทรงจำของฮิซูกิ ตาแห่งสวรรค์จะถูกใช้งานต่อไป
ความสามารถของยูกะคือการล้างสมองซึ่งพูดได้ว่าเป็น “ความเชื่อ” ที่ทรงพลังอย่างมาก
ดังนั้นแม้ว่าเธอเปลี่ยนความทรงจำของฮิซูกิ ยูกะไม่อาจจะ “ลบ” ตัวตาแห่งสวรรค์เอง
เพราะทั้งหมดมันเป็นการเปลี่ยนความทรงจำของเธอ
แม้อย่างนั้น ถ้าตาแห่งสวรรค์ยังใช้งานต่อได้ ฮิซูกิ ไม่น่าจะช่วยเราได้
เธอเสียความสามารถของเธอเพราะตาแห่งสวรรค์ เพราะถูกตาแห่งสวรรค์ครอบงำ
ผมหยุดตรงประตูของห้องนั่งเล่น และถอนหายใจแบบที่ไม่ให้ยูกะสังเกต
ถ้ายูกะช่วยฮิซูกิไม่ได้ เธอจะรู้สึกเป็นคนรับผิดชอบและเริ่มโทษตัวเอง
อย่างไรก็ตาม มีแค่ยูกะที่มีความสามารถที่จะช่วยฮิซูกิ
「ยูกะ นี่คือสิ่งที่ชั้นขอให้ทำ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ชั้นรับผิดชอบทุกอย่าง」
ถ้าเธอล้มเหลว ยูกะจะโทษตัวเอง ดังนั้น ผมเปิดปากของผมระหว่างที่คิดอย่างนั้น แต่ยูกะวางนิ้วของเธอบนริมฝีปากของผม
「ได้ มันจะใช้งานได้แน่นอน」
ยูกะยิ้มและส่งเสียงของเธอระหว่างที่วางนิ้วไว้บนริมฝีปากของผม
ใช่ นั่นถูกแล้ว ยูกะจะทำมันได้ดีอย่างแน่นอน
「ขอบคุณ โมตะ-คุง」
「อ๋า?」
「ชั้นจะใช้พลังของชั้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ตอนนี้ไป ชั้นใช้พลังเพื่อช่วย “เพื่อน” ของเรา ขอบคุณที่ชี้ทาง」
ยูกะพูดกับผมระหว่างที่ยิ้มอย่างมีความสุขจริงๆ
「ไม่ ไม่ ชั้นไม่…」
ผมมองตรงไปในตาของยูกะที่มองผมอย่างส่องสว่างไม่ได้
หัวใจของผมเต้นกระทันหัน
บางอย่างที่เจ็บมาก ต่างจากความเจ็บ ทำให้หน้าอกผมแน่น
เมื่อผมชำเลืองมองยูกะ บริเวณรอบยูกะได้ถูกห่อในแสงสีชมพูและส่องสว่างอย่างงดงาม
「โอ้ นั่น…」
「หืมม?」
ระหว่างที่ทนความเจ็บที่หน้าอกของผม ผมส่งเสียงระหว่างที่ชำเลืองมองยูกะ และเธอก้าวออกมาและมองที่หน้าผม
ความรู้สึกนุ่มนิ่มโดนแขนของผม
ยูกะเข้าหาผม และหน้าอกของเธอกดกับแขนของผม
ผมสามารถที่จะทนมันได้เพราะเอ็นของผมไม่ตอบสนอง แต่ความอยากที่จะดันยูกะลงเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีวันจบสิ้น และผมรู้สึกอารมณ์เสียกับความเจ็บที่หน้าอกของผม
「น-นั่น…ชั้นคิดว่ามันเหมาะกับเธอ」
「เอ๋?」
「หางม้า ชั้นชอบหางม้า งั้นมันก็ผูกอยู่ หือห์?」
「เอ๋? โอ้ นั่น…เอ่อ ใช่ ♥」
เมื่อผมสามารถที่จะสื่อมันเป็นคำพูด ยูกะที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสดในทันที หันไปอย่างอาย แต่เธอพยักหน้า
เมื่อผมเปิดประตูแล้วเข้าไปที่ห้อง ฮิซูกิได้นอนอยู่บนโซฟา คาซะฮานะวางหัวของฮิซูกิไว้ที่ตักของเธอและลูบมัน
「ซูซูฮาระ-ซัง…」
คาซะฮานะ ที่ยกหน้าของเธอขึ้น มองหน้าผมและเรียกชื่อผม จากนั้นยิ้มบางๆ
「เธอได้หลับอยู่ตลอดเวลา เธอมีหน้าตอนนีอนที่สงบสุขมาก มี “เพื่อน” อยู่เยอะที่นี่ ชั้นมั่นใจว่าฮิซูกิมีเวลาที่มีความสุขที่สุด」
คาซะฮานะพูดเงียบๆด้วยรอยยิ้มบางๆ
เมื่อไหร่ที่เป็นเวลาที่มีความสุขที่สุด?
แน่นอนว่า หน้าตอนนอนของฮิซูกินั้นสงบ
เหมือนผม ฮิซูกิได้ถูกปฏิบัติอย่างสัตว์ประหลาดเพราะความสามารถของเธอ และถูกบังคับให้จากบ้านเกิดมา มันดูเหมือนมีแค่คาซะฮานะและริกกะอยู่กับฮิซูกิในเวลานั้น
ใน “ที่นี่” ที่สัตว์ประหลาดมารวมตัวกัน อาจจะเป็นที่ที่สงบสุขสำหรับฮิซูกิเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ได้ทำอะไรเลย ฮิซูกิจะตายอย่างแน่นอน ดีที่สุดเธอจะอยู่ในสภาพผัก
「เธออยากจะช่วยฮิซูกิมั้ย? เธออยากจะให้เธอมองเธอ และเธอยิ้มอีกครั้งมั้ย?」
น้ำตาวิ่งอาบแก้มของคาซะฮานะกับคำถามของผม
「ซูซูฮาระมาเพื่อดูถูกชั้นเหรอ?」
คำนั่นบ่งบอกทุกอย่าง
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการกับตาแห่งสวรรค์
เพราะมันเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดและไร้คู่แข่งเหนือความรู้ของมนุษย์ มันไม่ใช่บางอย่างที่คนปรกติทำได้
คาซะฮานะ ที่รู้สิ่งนั้น ดูเหมือนจะตัดสินใจที่จะตายไปกับฮิซูกิ
เธอได้ยอมแพ้อย่างสมบูรณ์แล้ว
「ตาแห่งสวรรค์อาจจะเป็นความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดที่ไม่มีคนเทียบ นั่นทำไมชั้นทำอะไรเกี่วกับมันไม่ได้」
เมื่อผมมองดูคาซะฮานะ ผมพูดอย่างนั้น ผมที่ยิ้มสะกิดไหล่ของยูกะ
「แต่มีความสามารถที่ก้าวข้ามตาแห่งสวรรค์」
คาซะฮานะมองขึ้นมาหาผมและเอียงหัวของเธอระหว่างที่ร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม
「ยังไงซะ ปล่อยมันไว้ให้ชั้น」
เมื่อนั่นพูด ผมลูบหัวคาซะฮานะอย่างแรง
「ซูซูฮาระ-ซังดูเหมือนจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย」
คาซะฮานะพึมพำระหว่างที่มองผมด้วยสายตาที่มองขึ้นมา
ผมเปลี่ยนไปเหรอ? ผมจะไม่ปฏิเสธมัน ผมรู้สึกว่าผมเปลี่ยนไป
「ชั้นคิดว่ามีปัจจัยหลายอย่าง แต่ตัวตันของน้องของเธออาจจะเป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดที่เปลี่ยนชั้น」
「มันเป็นริกกะเหรอ?」
「ใช่」
ผมพยักหน้ากับคำถามของคาซะฮานะ
「ถ้าชั้นทรยศริกกะ เธอจะไม่ทรยศชั้น เธอเป็นคนที่พูดอย่างนั้นเอง」
เมื่อผมพูดอย่างนั้นกับคาซะฮานะเธอระเบิดหัวเราะออกมา
「ริกกะนั้นเรียบง่ายจัง」
「ยังไงซะ」
「ความเรียบง่ายนั้นบางที่ก็น่าอิจฉา」
「ชั้นเห็นด้วย」
「ริกกะดีกว่าชั้น เธอเป็นน้องสาวที่มีพรสวรรค์และชั้นเป็นแค่พี่สาวที่ไร้ความสามารถ」
「เธอเชื่ออย่างนั้นเหรอ?」
「เอ๋?」
คาซะฮานะเอียงหัวกับคำพูดของผม
「คาซะฮานะ เธอเห็นอะไร?」
「ชั้นเห็นอะไร? อะไร?」
「ฮิซูกิหลงไปเมื่อตาแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดและไร้คู่แข่งใช้งานได้ปรกติ งั้น ใครที่หลงไปล่ะ? เธอมีความสามารถมากกว่าตาแห่งสวรรค์ไม่ใช่เหรอ?」
「ยังไงซะ นั่นมัน…」
เมื่อผมถาม คาซะฮานะพึมพำกับคำพูดของผม
「เธอเอาชนะอาซาฮินะได้มั้ย? ถ้าเธอมองสถานะของเธอ เธออยู่เหนือกว่าอาซาฮินะอย่างท่วมท้น แต่ไม่มีเหตุผมที่อาซาฮินะจะเอาชนะเธอ ถ้าเธอสู้ เธอจะชนะแน่ แต่เธอเอาชนะอาซาฮินะได้เหรอ? เธอพูดได้มั้ยว่าเธอเหมือนกันกับอีงี่เง่านั่น?」
คาซะฮานะเปิดปากของเธอกับคำถาม แต่ปิดปากของเธอโดยไม่พูดอะไร
เธอรู้คำตอบโดยไม่ต้องถาม
「เธอและริกกะเป็นพี่สาวน้องสาวกัน นั่นทำไมเธอพยายามจะวัดความแข็งแกร่งของเธอด้วยไม้วัดเดียวกัน แต่มันต่างออกไป เธอและริกกะต่างกันออกไป」
「ต่างกันออกไป? ชั้นและริกกะ?」
คาซะฮานะดูเหมือนจะสับสนเพราะเธอไม่เข้าใจคำพูดของผม
「ใช่ ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย」
「ผมพยักหน้าและตอบระหว่างที่ต้องเธอแบบนั้น」
เมื่อแม่ของเธอถูกฆ่าโดยคุดัน คาซะฮานะวิ่งหนีกับริกกะ
คุดันพูดว่าเธอเห็นศักยภาพในตัวพวกเธอ ดังนั้นปล่อยพวกเธอไป
ถ้าริกกะและคาซะฮานะเปลี่ยนกัน และริกกะเป็นพี่สาวคนโต และคาซะฮานะเป็นน้องสาว
ริกกะจะสู้กับคุดัน ที่ฆ่าแม่ของเธอและคาซะฮานะจะถูกฆ่า
แต่คาซะฮานะวิ่งหนี
ทิ้งแม่ของเธอที่ยังสู้กับคุดัน เธอหางจุกตุดและวิ่งหนี
เธอสามารถที่จะหนีจากคุดันโดยไม่สนความรู้สึกของแม่ของเธอ
เธอรู้ว่าเมื่อเธอเจอกับคุดัน มันไม่ง่ายที่จะหนีจากเธอ เธอสิ้นหวังก่อนเธอจะวิ่งหนี มากกว่านั้น แม่ของเธอถูกฆ่าต่อหน้าเธอ
ที่คุดันคาดหวังไม่ใช่จากริกกะ เธอคาดหวังกับพี่สาวที่ขี้ขลาด แต่กล้าที่ตกเป็นเป้าหมายของคุดันและเลือกที่จะวิ่งหนี
ผมคิดอย่างนั้น
ในความเป็นจริง พวกเธอรอดชีวิต
「มีรูปแบบความแข็งแกร่งอยู่หลายอย่าง ความแข็งแกร่งของเธอและริกกะนั้นต่างออกไป」
「รูปแบบ…ความแข็งแกร่งต่างกัน」
คาซะฮานะ ที่มองขึ้นมาหาผม พึมพำระหว่างที่มองลงไปข้างล่าง
คาซาฮานะมีปมด้อยกับริกกะ นั่นทำไมพวกเธอพยายามที่จะวัดความแข็งแกร่งของพวกเธอด้วยไม้วัดเดียวกัน
「เธอมีวิธีสู้ของเธอ เธอมีวิธีป้องกันของเธอ แต่ยังไงซะ มาสเตอร์ของเธอคือฮิซูกิ เธอบอกสิ่งนี้กับฮิซูกิได้」
ระหว่างที่ลูบหัวของคาซะฮานะ ผมพูดอย่างนั้น
「นายอยากจะให้ชั้นบอกนี่กับฮิซูกิเหรอ? แต่ฮิซูกินั้น…」
คาซะฮานะมองขึ้นมาหาผม พึมพำและกอดฮิซูกิอย่างแน่น
「เธอบอกให้ชั้นใช้ความสามารถของชั้นไม่ใช่เหรอ? ในจุดหนึ่ง มีคนที่นี่ที่ความสามารถก้าวข้ามแม้แต่ตาแห่งสวรรค์」
ยูกะเดินมาข้างหน้ากับคำพูดของผม
ยูกะ ที่ทำหน้าเข้ม ยองลงข้างหน้าคาซะฮานะ ที่กอดฮิซูกิ
「ยูกะจะแสดงมันให้ดูตั้งแต่ตอนนี้ไป」
มืองผมพูดกับคาซะฮานะ เธอเห็นยูกะยองลง
「เธอช่วยฮิซูกิได้จริงๆใช้มั้ย…?」
คาซะฮานะ มองริกกะ สั่นและกอดฮิซูกิอย่างแน่น และถามยูกะ
ยูกะยิ้มและพยักหน้า
「ใช่ ชั้นจะช่วยเธออย่างแน่นอน」
ได้ยินคำตอบของยูกะ น้ำตาไหลอาบแก้มของคาซะฮานะ
หน้าของคาซะฮานะ ที่ซีด ตอนนี้ได้มีเลือดเข้ามา หน้าที่มีเลือดเข้ามาแบบนั้น มีแสงที่ทรงพลังอยู่ที่ตาของเธอ ที่เกือบจะไม่มีชีวิตไปและโบ๋ไปแล้ว
หูสัตว์ตั้งขึ้นและหางสัตว์กระดิก
「ยูกะจะช่วยเธออย่างแน่นอน ได้โปรดมอบฮิซูกิให้เธอ」
คาซะฮานะหล่อยพลังที่กอดฮิซูกิและถอยไปด้วยรอยยิ้ม
มันดูเหมือนเธอไม่ต้องสงสัยยูกะ ในทางตรงกันข้าม ยูกะดูเหมือนจะคิดว่าเธอช่วยฮิซูกิได้แน่ๆ
ดอกบัวของเธอใช้งานอยู่เหรอ?
ผมคิดว่ายูกะจะทำมันได้ดีอย่างแน่นอน แต่ผมบอกไม่ได้ว่ามันเป็นอิทธิพลมาจากดอกบัวมั้ย
「มันเป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมจริงๆ」
ผมพึมพำอย่างไม่ได้ตั้งใจ
แค่คำเดียว
ถ้ายูกะพูด “มันโอเค” มันจะเป็นผล
มากกว่านั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินว่าผมโดนผลของความสามารถของเธอมั้ย มันเป็นการล้างสมองอย่างสมบูรณ์ที่ไม่มีแม้แต่ความสงสั้ย ความสามารถที่จะเพิ่มกำลังการและพลังงานของผมอย่างบังคับ
นี่เป็นแก่นแท้ของดอกบัว
พลังที่จะสนับสนุนบางคน
มันเป็นความสามารถสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดจริงๆ
「ได้ยินมั้ย ฮิซูกิ-จัง? ถ้าเธอได้ยินเสียงของชั้น ตอบชั้น」
ยูกะ ที่จับแก้มของฮิซูกิอย่างอ่อนโยน พูดกับฮิซูกิที่หลับ
ผมตกใจที่เห็นฮิซูกิที่ไม่ตอบสนอง
ยูกะบอกได้เธอตอบเมื่อเธอได้ยินเสียงของยูกะ ถ้ามนต์ใช้งานอยู่ ฮิซูกิควรจะตอบ
ผมไม่รู้ว่ามันมีผลกับสมองหรือจิตใจ แต่แม้ว่าเธอหลับอยู่ มันก็ควรจะมีผล แต่ฮิซูกิไม่ตอบสนอง
ไม่มีทางน่า――
「ไม่ใช่ว่าเธอได้ยิน “เสียง” เหรอ?」
อะไรวะ ฮิซูกิเสียการฟังของเธอไปแล้วเหรอไง? ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับมัน
ผมจะทำอย่างไรดี? ดอกบัวเป็นความสามารถสนับสนุนที่ไม่มีอะไรเอาชนะได้ ถ้าแค่ “เสียง” ของเธอถูกสื่อออกไป แต่มันไร้ความสามารถ้า “เสียง” ที่จำเป็นไปไม่ถึง
「มันโอเค บางคนสื่อ “เสียง” ออกไปได้แม้ว่าพวกเค้าหูหนวก」
ยูกะมองกลับไประหว่างที่ยองอยู่และมองผมและพูดอย่างนั้น
――ฉันจะสนับสนุนเธอ
“เสียง” ที่ผมได้ยินกระทันหัน
มันมารินะเหรอ? เธอควรจะอยู่ด้วยกันกับทามะมูชิ
――ฉันไม่ต้องไปตำแหน่งนั้นเมื่อสนับสนุน
มารินะตอบคำถามของผม
ยังไงซะ ถ้าฮิซูกิใช้ความสามารถของมารินะ เธอได้ยิน “เสียง” ได้โดยไม่ต้องได้ยิน แต่――
「ยูกะ วิธีนั้นใช้ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป ชั้นได้ยินเสียงของมารินะด้วย ความคิดที่จะรุกรานน “ใจ” ของฮิซูกินั้นปฏิเสธ」
ถ้าเธอใช้ความสามารถของมารินะ มันเป็นไปได้ที่จะสื่อ “เสียง” ของยูกะไปให้ฮิซูกิแน่นอน อย่างไรก็ตาม มันเสี่ยงเกินไปที่จะรุกราน “ใจ”
ถ้าเธอรุกราน “ใจ” ของฮิซูกิ มันจะไปแทรกแซงกับตาแห่งสวรรค์
「ตาแห่งสวรรค์เป็นสุดยอดความสามารถที่คนธรรมดาใช้มันไม่ได้ ในความเป็นจริงแล้ว ฮิซูกิอยูในสภาพที่อันตราย มันคาดเดาไม่ได้อย่างสมบูรณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเธอไปแทรกแซงความสามารถแบบนั้นในสภาพ “ใจ” มันอาจจะโอเค แต่ถ้ากรณีที่แย่ที่สุด ชั้นปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะตกไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นไม่ได้」
เมื่อผมพูดกับยูกะ เธอยิ้ม
「พลังของชั้นเชี่ยวชาญในการสนับสนุนมากกว่าตาแห่งสวรรค์ มันเป็นโมตะ-คุงที่พูดอย่างนั้น」
ผมพูดอะไรกลับไปกับยูกะที่พูดมันด้วยรอยยิ้มไม่ได้
「โอเค ชั้นจะปล่อยมันให้เธอ」
ผมถอนหายใจกับคำพูดของยูกะและยักไหล่
ความเสี่ยงมันใหญ่หลวงเกินไป แต่จากใจ ไม่มีทางอื่นนอกจากยูกะจะ “ทำ” มัน
ดอกบัวของเธอ ซึ่งเป็นความสามารถที่เชี่ยวชาญด้านการสนับสนุน ควรจะมีผลดีที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้
「ขอบคุณที่มอบความไว้วางใจเธอให้ชั้น」
ยูกะขอบคุณอย่างมีความสุข
「มารินะ-จัง มันอันตราย แต่ช่วยชั้น มาช่วยฮิซูกิ-จังกันเถอะ!」
ยูกะที่หันหน้าไปข้างหน้าและส่งเสียงของเธอ
――แน่นอน! ฉันจะทำมันโดยที่ไม่ต้องถาม! พลังของเราไม่ใช่เพื่อทำร้ายบางคน แต่มันเพื่อช่วยบางคน!
「ถูกต้อง!」
เสียงของมารินะดังก้อง และยูกะพยักหน้าพูดเสียงดัง
――ซูซูฮาระ-ซัง เผื่อไว้ก่อน ฉันจะตัดการเชื่อมต่อกับซูซูฮาระ-ซังนะ
ผมกับวลเกี่ยวกับเสียงของมารินะ
มารินะ ปล่อยมันไว้อย่างนี้
――ถ้านายคิดเกี่ยวกับเวลา มันดีกว่าที่จะมีความเสียหายน้อยลง การเชื่อมต่อจะถูกตัด
มีโอกาสสำหรับยูกะ เธอจะทำมันได้ดีอย่างแน่นอน แต่ถ้าบางอย่างเกิดขึ้น งั้นฉันจะทำบางอย่างเกี่ยวกับมัน ดังนั้น เก็บสายเชื่อมต่อไว้
――ได้ ได้ แค่ความรู้สึกของเธอก็โอเคแล้ว มันจะมีหลายคนที่มีปัญหาถ้าซูซูฮาระพลาด ชั้นจะตัดมันนะพูดถึง
โอ้ เฮ้ มารินะ ชั้นเดาว่าชั้นบอกเธอไม่ให้ตัดมัน เฮ้ ไม่ได้ยินชั้นเหรอ์ ตอบชั้นหน่อย
「ชิ」
เธอตัดสายของเธอเหรอ?
นี่เป็นการกบฏที่จริงจัง ผมจะมอบการลงโทษให้เธอ เมื่อเธอทำมันเสร็จอย่าง “ปลอดภัย”
「งั้น มาเริ่มกันเถอะ」
ยูกะ ที่เชื่อมต่อกับมารินะ พูดอย่างนั้นและปิดตาของเธอ
คาซะฮานะจ้องยูกะด้วยตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ผมแค่ต้องดู
ผมจะแค่หวัง แต่โปรดทำมันออกมาดี
ไม่นานหลังจากนั้น ยูกะสั่น
「นี่มันอะไร…」
ยูกะพึมพำพร้อมปิดตาของเธอ เหงื่อไหลผ่านแก้มของเธอ
เธอแทรกแซงกับตาแห่งสวรรค์เหรอ?
「ชั้นรู้ ชั้นรู้นี่ ชั้นได้เห็นมันมาก่อน」
เธอรู้เหรอ? เธอรู้ “ใจ” ของฮิซูกิ? หรือ――
「ยูกะ」
ผมเรียก แต่ไม่มีคำตอบ
「เหมือนกันแต่ต่างออกไป ต่างออกไปแต่เหมือนกัน นี่คือตาแห่งสวรรค์เหรอ?」
ผมเย็นวาบกับคำพึมพำของยูกะ
เพราะทั้งหมดเธอแทรกแซงตาแห่งสวรรค์เหรอ?
「มารินะ! เธอได้ยินชั้นมั้ย! ถ้าเธอตัดสินใจว่ามันอันตราย ออกมาจาก “ใจ” ของฮิซูกิ!」
ผมตะโกน แต่มารินะไม่ตอบ
「ฮิซูกิจังอยู่คนเดียวในที่ที่ใหญ่โตมากแบบนี้…」
ยูกะพึมพำ วางมือของเธอลงไปบนอกของฮิซูกิพร้อมปิดตาของเธอ
「มันไม่ใช่บางอย่างที่จัดการได้โดยการเปลี่ยนความทรงจำ ใช่ แม้ว่าความทรงจำถูกเปลี่ยนไป ตาแห่งสวรรค์จะไม่หายไป」
ยูกะพึมพำทำให้ผมรู้สึกไม่พึงพอใจในทันที
มาตรการที่ว่าจะเปลี่ยนความทรงจำของเธอกับไปสู่สภาพก่อนที่ตาแห่งสวรรค์จะตื่นขึ้น
โดยหวังว่า ฮิซูกิจะลืมตาแห่งสวรรค์และถูกปลดปล่อยจากอิทธิพลนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าตาแห่งสวรรค์เปิดใช้งานต่อและว่าตาแห่งสวรรค์ได้ถูกลืมไป…
ผมคิดว่านั่นเป็นความเป็นไปได้ เธอทำมันเหรอ?
「ยกเลิกมันเดี๋ยวนี้」
ผมพึมพำ และเมื่อผมวางมือไปบนไหล่ของยูกะ ผมพยายามจะนำเธอออกไปจากฮิซูกิ อย่างไรก็ตาม ยูกะไม่เคลื่อนไหว เหมือนดั่งหิน
「ยูกะ! ยกเลิกมันเดี๋ยวนี้! ถ้ามันไม่ได้ผลที่จะแก้ความทรงจำของเธอ อย่าไปแทรกแซงกับตาเธอไปมากกว่านี้!」
ผมร้องระหว่างที่สั่นยูกะ แต่ยูกะไม่ตอบ
「มารินะ! ออกมาจาก “ใจ” ของยูกะเร็วเข้า!」
ผมรีบขึ้นเสียงของผม แต่ไม่มีการตอบสนองจากมารินะ
เหี้ย ผมต้องไปหามารินะตอนนี้มั้ย? ไม่ ผมทิ้งยูกะไว้ข้างหลังไม่ได้
「เนน่~ ฮิซูกิ-จัง ชั้นรู้เรื่องนั้น มันสวยงาม ชั้นชินกับมันแล้ว ชั้นจะได้มันมาครึ่งนึง ชั้นมั่นใจว่ามันโอเค」
「อะไร!?」
ครึ่ง? เธอเจตนาจะรับครึ่งหนึ่งของพลังของตาแห่งสวรรค์เหรอ? นั่นเป็นไปได้เหรอ?
มันไม่ดีเลย――
「ยูกะ! ไม่! หยุด! ไม่ว่ามากเท่าไหร่ที่เธอจะ――」
ผมสามารถที่จะดึงยูกะออกมาจากฮิซูกิ และภาพของผมขาวทั้งหมด
ผมขมวดคิ้วและจ้อง และที่นั่น――
「……เอ๋?」
ยูกะยืนอยู่ในโลกสีขาว
โลกที่ไม่มีสีอะไรเลยอย่างช้าๆ
มันเป็นข้างหน้าห้องเก็บอุปกรณ์ของโรงยิม
ยูกะ ที่หันหลังให้ผม มองกลับมาและยิ้มให้ผม จากนั้นเปิดปากของเธอ
เธอดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ผมไม่ได้ยินเสียงของเธอ
และผมเห็นมัน
ดอกไม้ใหญ่บานบนยูกะ
มันเป็นภาพที่ผมเห็นมาก่อน
「ดอกบัว ไม่มีทาง ดอกบัว…」
เมือผมตื่นขึ้น ยูกะนั่งอยู่บนพื้น
ผมกลับมาแล้ว?
「ยู-ยูกะ?」
ทั้งตัวของผมเหงื่อออก
ตาของยูกะส่องแสงเหมือนรุ้งเจ็ดสี
「นั่นใช่แล้ว…」
เหงื่อที่ออกมาไม่หยุด
บนพื้นที่ยูกะนั่ง วงกลมสีทองหลายวงหมุนอยู่ มันก็เห็นได้ข้างบนยูกะด้วย
ผมควรจะเรียกมันว่าวงกลมเวทมนตร์มั้ย? ในวงกลมสีทองที่ซ้อนกันหลายชั้น มีบางอย่างที่เหมือนตัวอักษรที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เขียนและหมุนอยู่
「ยังไงซะ เธอทำมันได้มั้ย…」
ทำให้ตาแห่งสวรรค์เป็นของเธอ ยูกะพูดอย่างนั้น และจากนั้นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น
รับครึ่งหนึ่งของตาแห่งสวรรค์ ถ้าเธอทำนั่น ยูกะจะ…
「โอ้ เข้าใจแล้ว ใช้ความสามารถของชั้นนั้นเรียบง่ายอย่างน่าตกใจ」
ยูกะพึมพำ
ตาของเธอเจ็ดสี แต่มันไม่ได้ดูเหมือนว่าเธอมีปัญหาอะไร
「เธอ《โอเค》มั้ย?」
ผมกลืนน้ำลายและถามยูกะ
ไม่มีเหตุผลที่จะโอเค มันไม่มีเหตุผลที่จะรับตาแห่งสวรรค์โดยไม่มีการเสียสละเลย
「ใช่ ชั้นโอเค ชั้นเข้าใจโดยการ “ดู” ตาแห่งสวรรค์ แต่ดอกบัวเป็นความสามารถที่เหมือนญาติกับตาแห่งสวรรค์」
「อะไร?」
ญาติของตาแห่งสวรรค์?
「มันเป็นตาแห่งสวรรค์ที่ยังไม่สมบูรณ์ มันดูเหมือนดอกบัว」
ความคิดของผมสับสนกับคำตอบของยูกะ
ดอกบัวเป็นตาแห่งสวรรค์แบบหนึ่งเหรอ? สภาพที่แค่ส่วนหนึ่งของตาแห่งสวรรค์ตื่น ดังนั้น เพื่อการพูด ดอกบัวคือตาแห่งสวรรค์ที่ล้มเหลวเหรอ?
「นั่นโอเคจริงๆเหรอ?」
「ใช่ ชั้นได้มันมาแค่ครึ่งเดียว และชั้นรู้สึกดีกว่าก่อนหน้า ชั้นชินกับมัน」
「ยังไงซะ อย่างนั้นเหรอ?」
แม้ว่าเธอบอกว่าเธอชินกับมัน มันโอเคจริงๆเหรอ?
เมื่อผมตรวจสอบดูสถานการณ์โดยการลูบหัวของยูกะ และจับแขนของเธอ ยูกะที่แก้มย้อมเป็นสีแดงยิ้มอย่างมีความสุข
จากนั้น ตาของยูกะกลับเป็นสีดำกระทันหัน และวงกลมที่ปรากฏอยู่บนเพดานและพื้นหายไป
「อ๊ะ!」
「เกิดอะไรขึ้น!?」
ทันใดนั้นยูกะส่งเสียงของเธอและตกใจ
「ยังไงซะ มารินะ-จัง!」
「อืม มารินะเป็นยังไง? เกิดอะไรขึ้นกับมารินะ?」
「เธอตัดการเชื่อมต่อกับชั้นระหว่างทาง! ชั้นคิดว่าเธอโอเค แต่ชั้นจะไปดู!」
ยูกะยืนขึ้นอย่างแรงหลังจากที่พูดอย่างนั้นและวิ่งไปที่ประตู
「โอ้! โอ้ใช่! ชั้นคิดว่าฮิซูกิ-จังโอเค! งั้นไปละ!」
ยูกะหยุดอยู่ตรงหน้าประตู พูดสิ่งนั้นเมื่อเธอหันกลับมา และเธอวิ่งออกจากห้องไป
เธอวิ่งอย่างกระฉับกระเฉงและมันดูเหมือนเธอโอเคจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่จะแบ่งตาแห่งสวรรค์ครึ่งหนึ่ง
「ความสามารถที่จะทำให้บริสุทธิ์เหรอ?」
มารินะพูดว่าดอกตัวจริงๆแล้วมีความสามารถที่จะทำความสะอาดตัวเอง
ดอกบัวซึ่งเป็นความล้มเหลวของตาแห่งสวรรค์
「ไม่มีทางที่เธอจะรับครึ่งนึงของตาแห่งสวรรค์ของชั้นไปได้」
เมื่อผมหันไปหาเสียงที่ผมได้ยิน ฮิซูกิ ที่นอนอยู่บนโซฟา เปิดตาของเธอ
「ว่าไง ฮิซูกิ!」
คาซะฮานะ ที่ตกตะลึงจนถึงตอนนั้น ร้องและกอดฮิซูกิ
「ชั้นตกใจ ยูกะเข้ามาในใจของชั้นและบอกชั้นว่าชั้นโอเค จากนั้น ชั้นรู้สึกเหมือนชั้นโอเคจริงๆ เมื่อชั้นรู้ตัว เธอนำพลังตาแห่งสวรรค์ของชั้นไปครึ่งนึง ชั้นไม่เข้าใจว่าทำไม หืมม」
ฮิซูกิพึมพำระหว่างที่มองเพดาน จากนั้นเธอยืนขึ้นอย่างช้าๆและยิมให้คาซะฮานะ และลูบหัวของเธอ
「ชั้นดีใจที่ฮิซูกิปลอดภัย ชั้นดีใจจริงๆ…」
คาซะฮานะที่หูสัตว์ห้อยลง น้ำตาไหลและกอดฮิซูกิ
「ไม่ใช่ว่าเธอรู้เกี่ยวกับดอกบัวเหรอ?」
「ยังไงซะ ดอกบัวที่ชั้นรู้มันเป็นมนต์รูปแบบหนึ่ง และนั่นมันเป็นความสามารถที่หายาก แต่เป็นไปได้ว่าความสามารถของเธอใกล้เคียงกับตาแห่งสวรรค์」
「จริงๆเหรอ?」
เพราะทั้งหมด ดอกบัวเป็นความสามารถที่คล้ายกันกับตาแห่งสวรรค์ ยูกะก็พูดอย่างนั้นด้วย แต่ถ้าฮิซูกิ ที่มีความสามารถตาแห่งสวรรค์ พูดอย่างนั้นมาเอง งั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลย
「ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่เนียวไร*นั่ง และตาแห่งสวรรค์เป็นความสามารถที่พระพุทธเจ้ามี เธอไม่ใช่เนียวไร แต่ชั้นคิดว่ายูกะเป็นดอกบัวแน่นอน เธอได้เอาชนะความยากลำบากหลายสิ่งหลายอย่างดังนั้น กลายเป็นดอกบัว ชั้นคิดว่าเธอเป็นหนึ่งในไม่กี่ “คน” ที่ทำอย่างนั้นได้」
«TLN: เนียวไรเป็นคำที่พระพุทธเจ้าเรียกตัวเอง»
หนึ่งในไม่กี่ “คน” ที่เป็นดอกบัว
ฮิซูกิเกิดมาพร้อมกับความสามารถเหมือนผม แต่ความสามารถของเธอพัฒนาไปเป็นตาแห่งสวรรค์และเธอควบคุมมันไม่ได้
ในทางกลับกัน ยูกะได้ความสามารถของเธอหลังการเกิดแล้ว บางทีเธออาจจะพร้อม ไม่เหมือนฮิซูกิ แม้ว่าเธออาจจะตื่นความสามารถของเธอเพราะเธอมาเกี่ยวข้องกับผม
ยูกะได้ข้ามผ่านความยากลำบากหลายอย่าง แต่โดยการเอาชนะพวกมัน เธอมีกายที่ควบคุมดอกบัวได้ ในทางตรงกันข้าม เธออาจจะเป็นภาชนะที่ใหญ่ ที่รับครึ่งหนึ่งของตาแห่งสวรรค์ของฮิซูกิไปได้
「งั้น?」
「มีอะไรอีกเหรอ?」
「บางทีดอกบัวของยูกะพิเศษเฉพาะกับยูกะแค่คนเดียว」
ดอกบัวของยูกะพิเศษกับยูกะแค่คนเดียว? ไม่ใช่ว่าดอกบัวเป็นแค่ดอกบัวธรรมดา แม้ว่าคนอื่นควบคุมมันได้เหรอ?
「มันหมายถึงอะไร?」
「บางที่มันอาจจะเป็นเพราะความสามารถของเธอเปลี่ยน เพราะเธอเชื่อมต่อกับซูซูฮาระ-ซังอย่างลึกซึ้ง」
อา เข้าใจแล้ว เธอหมายถึงนั่นเหรอ?
「แต่ชั้นไม่เข้าใจว่าเธอแบ่งความสามารถของชั้นไปครึ่งนึงได้ยังไง เพราะการแบ่งออกไป ชั้นใช้ตาแห่งสวรรค์ตอนนี้ไม่ได้ ยังไงก็ตาม ต้องขอบคุณนาย ชั้นถูกช่วย」
ระหว่างที่ลูบหัวคาซะฮานะที่กอดเธอ ฮิซูกิพูดด้วยการถอนหายใจ
「ชั้นจะปล่อยคาซะฮานะให้นายนะ」
「เอ๋?」
คาซะฮานะที่กอดเธอระหว่างที่ร้องไห้ ยกหน้าของเธอขณะที่เธอพึมพำ
「ตราบใดที่ชั้นยังใช้ตาแห่งสวรรค์ของชั้นไม่ได้ ชั้นเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ แทนที่จะไร้ประโยชน์ ชั้นจะเป็นภาระ แต่คาซะฮานะ เธอมีประโยชน์กับทุกคน ได้โปรดให้เธอเป็นประโยชน์」
หน้าของคาซะฮานะซีดไปกับคำพูดของฮิซูกิ
「ฮิซูกิ! ฮิซูกิจะโยนชั้นทิ้งไปเหรอ!? เธอพูดว่าเธอจะอยู่กับชั้นตลอดไป! นั่นเป็นคำโกหกเหรอ!? ฮิซูกิจะโยนชั้นทิ้งไปเหรอ!?」
คาซะฮานะจับเสือของเธอด้วยสองมือและตะโกนเหมือนคนบ้า
「ไม่ ชั้นจำเป็นต้องมีพลังที่จะได้ที่อยู่ แต่ชั้นไร้ความสามารถ และเธอมีความสามารถ แต่ชั้นเป็นแค่ภาระ ขอบคุณมาตลอดเวลานี้ที่อยู่กับชั้น แต่ คาซะฮานะ ชั้นอยากให้เธอมีความสุข」
ฮิซูกิยิ้มให้คาซะฮานะ จากนั้นจับไหล่ของคาซะฮานะและพูดเบาๆ
โอ้ใช่ ชั้นไม่อยากกวนใจเธอ
พูดมัน พูดมัน
「อย่าโง่สิ! ชั้นอยากให้ธอมีความสุขด้วย!? เมื่อไหร่ที่ชั้นพูดว่าชั้นไม่มีความสุข!? ชั้นมีความสุขตั้งแต่ชั้นได้ถูกรับมาโดยฮิซูกิ! แต่ ฮิซูกิปฏิเสธความสุขของชั้น ไม่ใช่เหรอ!?」
คาซะฮานะจ้องฮิซูกิ
ที่คาซะฮานะพูดนั้นถูก ความสุขของคาซะฮานะตัดสินใจโดยคาซะฮานะเอง ฮิซูกิไม่ใช่คนที่ตัดสินความสุของเธอ แต่ฮิซูกิโง่ นั่นทำไมผมไม่เก่งกับสาวคนนี้เลย
ต้นตอของปัญหาที่ฮิซูกิมีนั้นคล้ายกับผม โดยเฉพาะความเห็นแก่ตัวของเธอ
แต่ยังไงซะ ผมไม่อยากจะเก็บสาวที่อยากจะออกไปและขอบคุณสำหรับคาซะฮานะ
「เธอโง่นะ」
ผมตกใจโดยเสียงที่ผมได้ยิน
พูดถึงแล้ว ความสามารถของผมได้ถูกยกเลิกก่อนผมจะรู้มัน
เมื่อผมหันไปที่ต้นตอของเสียง อาซาฮินะยืนมีผ้าขี้ริ้วอยู่ในมือขวาของเธอและถังสีฟ้าอยู่ในมือซ้ายของเธอ
เธอทำอะไรกับผ้าและถัง? เธอเช็ดทางเดินด้วยเหรอ?
คาซะฮานะได้โกรธอย่างมาก แต่เมื่อเธอเห็นอาซาฮินะ หูของเธอตกและถอยไป ดั่งเธอกลัว
「เธอโง่นะ」
อาซาฮินะพูดคำเดิมซ้ำอีกครั้ง
ฮิซูกิโง่ แต่อาซาฮินะ เธอมันโง่กว่า
ตอบคำพูดของอาซาฮินะ ฮิซูกิยิ้มและมองอาซาฮินะ
เฮฮ๋~ หน้าของเธอดูดีนี่
「เธออยากจะดีกว่าชั้นเหรอ?」
ด้วยรอยยิ้ม ฮิซูกิยั่วยุอาซาฮินะ
「เธอชนะเหรอ? มันไม่ใช่ ไม่ใช่เหรอ? ชั้นแค่พูดว่าเธอโง่ เพราะเธอโง่จริงๆ」
「คุ-」
ฮิซูกิกัดฟันของเธอกับอาซาฮินะที่ส่งเสียงทางจมูกและตอบคำถามของเธอ
การยั่วยุของอาซาฮินะโดยทำให้เธอนึกถึงการต่อสู้กับอาซาฮินะ แต่มันดูเหมือนว่าอาซาฮินะไม่ได้สนเกี่ยวกับการต่อสู้นั้น อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ได้ทำให้ฮิซูกิหงุดหงิด
มากกว่านั้น ตาแห่งสวรรค์ถูกใช้โดยฮิซูกิไม่ได้ มันจะน่าอารมณ์เสียมากขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก
「ถ้าเธอดื้อเกี่ยวกับความภาคภูมิใจที่สูงของเธอ และเสีย “ส่วนหนึ่ง” ของพลังเธอไป รีบออกไปเร็วๆเลย」
ด้วยนั่นที่พูด อาซาฮินะที่ไปข้างๆจากทางเข้าชี้ไปที่ทางเข้าด้วยมือขวาของเธอ ที่ถือผ้าขี้ริ้ว
เพราะ เสีย “ส่วนหนึ่ง” ของพลังไป
อาซาฮินะ ที่ตอนนี้มีแมลงอยู่ในตัวของเธอ เป็น “มนุษย์ปรกติ” อย่างสมบูรณ์เมื่อเธอสู้กับฮิซูกิ แม้ว่าเธอเก็บแมลงไว้ข้างในตัว ความทนและกำลังของเธอได้เพิ่มขึ้น
ตั้งแต่ทีแรก อาซาฮินะไม่พึ่งแมลงในตัวของเธอ
มันเป็นคำพูดที่พูดได้เพราะอาซาฮินะอย่างนั้น
「มาสิ ออกไปไวๆ เธอเป็นราชินิด้วยพลังของเธอไม่ได้ ใช่มั้ย? เธอไม่ชอบเรื่องนั้น ใช่มั้ย? เธอกลัวที่จะถูกตรีตราว่าไร้ความสามารถ ใช่มั้ย? งั้นเธอก็แค่อีโง่ที่มีความภาคภูมิใจสูง ออกไปให้เร็วๆเลย」
อาซาฮินะพูดจากด้านบนที่ท่วมท้น
มันต้องเป็นดาวแน่ ฮิซูกิแค่จ้องอาซาฮินะและพูดอะไรกลับไม่ได้
อาซาฮินะไม่พูดอะไรดีๆเลยนานๆที
「ชิบิ*-จังได้ปกป้องเธอ บริการเธอตลอด แต่เธอโยนชิบิ-จังที่ต้องการเธอมากกว่าใครๆ งั้นออกไปให้เร็วๆเลย แน่นอนว่า ไม่มีที่สำหรับอีงี่เง่าอย่างเธอ เร็วเข้า ออกไป เร็วๆ เร็วๆ」
«TLN: แปลว่าอะไรเล็กๆ ตัวเล็ก ในที่นี้พูดถึงคาซะฮานะ»
ฮิซูกิ กัดฟันของเธอ ยืนขึ้นจากโซฟา
「ฮิ-ฮิซูกิ…」
คาซะฮานะที่หูและหางของเธอตก เรียกฮิซูกิระหว่างที่สั่นพร้อมตาที่มีน้ำตา
ความรู้สึกแบบไหนที่คาซะฮานะมีโดยการอยู่ข้างเธอ?
คนที่สำคัญมากกว่าชีวิตของเธอ เธอจะวิ่งหนีเมือนเธออยู่ในอันตรายปรกติ อย่างไรก็ตาม คาซะฮานะไม่วิ่งหนี เธอเลือกที่จะอยู่กับเธอ
แลกเปลี่ยนกับสิ่งนั้น เธอโยนคาซะฮานะทิ้ง
「มันจริงๆอย่างที่อาซาฮินะพูด ชั้นไม่ได้รู้สึกขอบคุณเมื่อชั้นถูกช่วย ชั้นไม่ต้องจ่ายมันคืน คนโง่ๆอย่างชั้นควรจะออกไปให้ไว」
กอดอกของผม ผมยิ้มและมองฮิซูกิและพูดออกมา
ฮิซูกิใส่ความพยายามเข้าไปที่หมัดของเธอ
「ซู-ซูซูฮาระ-ซัง…」
บางที่คาซะฮานะคาดหวังกับผมอยู่ เธอมองผมด้วยหน้าที่ซีด
วางใจได้น่า คาซะฮานะ ตาของฮิซูกิยังไม่จบ และอาซาฮินะยังดูถูกเธอไม่เสร็จ
「ยังไงซะ ชั้นจะไปแล้ว」
ฮิซูกิพูดอย่างนั้น โดยไม่มองผม และเริ่มเดินไปที่ทางเข้า
「ชั้นจะไม่ปล่อยให้เธอไป!」
อาซาฮินะยิ่งหมัดขวาตรงระหว่างที่ขึ้นเสียงของเธอกับฮิซูกิที่กำลังจะเดินออกไปที่ทางเข้า
「ฮ่ะกุ!?」
เธอต้องตกใจโดยสิ้นเชิงแน่ หมัดของอาซาฮินะโดนหน้าของฮิซูกิตรงๆ และเธอกระเด็นไป
ฮิซูกิที่หล่นลงที่พื้น หลังหัวของเธอกระแทกพื้นด้วยแรงส่ง
「อ๊าาาาาาาาาาา」
ฮิซูกิดิ้นในความเจ็บปวดระหว่างที่ปิดหน้าของเธอด้วยมือขวา และจับหลังหัวของเธอด้วยมือซ้าย
อ๊ะ เธอกำเดาไหลและกลิ้งไปทั่วพื้น
ฮิซูกิ หน้าที่สวยของเธอเละแล้ว
「เอาเลย! ออกไปซี่ อีหมาขี้แพ้!」
อาซาฮินะขึ้นเสียงของเธอและชี้ไปที่ทางเข้า
อาซะฮานะอบอุ่น
「ปุ่ คุคุ คุคุ คุคุ」
เมื่อเธออยากจะออกไป หน้าของเธอถูกต่อยกระทันหัน
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
ผมทนไม่ได้และหัวเราะอย่างมาก
ช่างเป็นสาวที่เละเทะ แต่อาซาฮินะบอกให้เธอออกไป แต่เธอไม่ได้พูดว่าเธอจะขวางทาง
งั้น เธอแค่อยากต่อยเธอเหรอ? เธอแค่ต่อยเธอและออกไปได้อย่างสงบเหรอ?
ยังไงซะ เพราะทั้งหมดนั่นคืออาซาฮินะ
ฮิซูกิ ที่นอนอยู่บนพื้นดิ้นในความเจ็บปวด ยืนขึ้นอย่างช้าๆระหว่างที่จับหน้าของเธอด้วยมือขวา
เธอจับหน้าของเธอ แต่เลือดกำเดาได้ไหลออกมาระหว่างช่องว่างที่นิ้วของเธอ
「โอ้? เธอเลือดกำเดาไหล ชั้นจะเอาทิชชู่ให้เธอ ใส่มันเข้าไปในจมูก」
อาซาฮินะ ที่สังเกตว่าฮิซูกิเลือดกำเดาไหล นำทิชชู่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อนักเรียนของเธอ และเสนอมันให้ฮิซูกิ
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
ต่อยเธอกระทันหันและจากนั้นดูแลเธอ มากกว่านั้น เธอยากให้ทิชชู่ยัดเข้าไปอยู่ในจมูก? เธออยากจะหัวเราะใส่เธอเหรอ?
ฮิซูกิ ที่เลือดกำเดาไหล จ้องอาซาฮินะด้วยตาที่แดงก่ำ
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
เธอจ้องอาซาฮินะ การตอบสนองของเธอนั้นทนไม่ได้
「ชั้นรู้…」
ฮิซูกิขึ้นเสียงที่สั่นของเธอระหว่างที่จ้องอาซาฮินะด้วยตาที่แดงก่ำ
เธอมีเสียงขึ้นจมูกเพราะเลือดกำเดาเธอไหน นั่นน่าสนใจอีกแล้ว
「โอ้ อาซาฮินะ-ซัง เธอฉี่ราดที่ทางเดิน ไม่ใช่เหรอ?」
「อะไร!?」
เมื่อถูกถามโดยฮิซูกิ หูของอาซาฮินะแดงสดขึ้นทันที และเธอจ้องฮิซูกิ
หืมม ฉี่เหรอ? พูดถึงแล้ว มีรอยเปื้อนสีดำอยู่ที่กระโปรงของอาซาฮินะ
โอ้ เข้าใจแล้ว ผ้าขี้ริ้วกับถังน้ำเป็นเพราะเธอฉี่ราดเหรอ? เธอได้ทำความสะอาดมันลับๆ
「โอ้ เธออยากจะสู้เหรอ!?」
อาซาฮินะที่ไม่ได้ปฏิเสธว่าเธอฉี่ราด เปลี่ยนเป็นสีแดงสดและขึ้นเสียงของเธอ
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
ผมสงสัยว่าเธออยากจะสู้เหรอ เพราะเธอต่อยฮิซูกิกระทันหัน
「เธอเป็นคนที่อยากสู้ไม่ใช่เหรอ!? โอ้!? ไม่ใช่เธอเป็นคนที่ต่อยชั้นกระทันหันเหรอ!? ไม่ได้มีแมลงอยู่ที่หัวเธอหรือไง!? โอ้ แต่เธอมีแมลงอยู่ในตัวของเธอ!」
ฮิซูกิ ที่คมอย่างสมบูรณ์ ตอบด้วยการประชดประชันมากมาย
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
คำถามของอาซาฮินะทำให้เธอโกรธมากขึ้นไปอีก การตอบสนองนั้นใหญ่เกินไปและผมหยุดหัวเราะไม่ได้
「ใช่ เธอทำให้ชั้นโง่ โอเค ชั้นจะสู้กับเธอ」
「งั้นเธอเป็นคนที่อยากได้มันก่อน ไม่ใช่เหรอ? ชั้นเป็นคนที่รับมัน! เธอเป็นผู้หญิงที่โง่จริงๆ!?」
「อะไรวะ!? นั่นคือที่คนสนใจเหรอ! ชั้นเป็นอีโง่ แต่ชั้นเป็นอีโง่ที่ปรับตัวเข้ากับสังคมได้! มันต่างออกไปจากเธอ!」
「ทำไมเธอยอมรับว่าเธอโง่! ชั้นหมายถึง ไม่มีไอโง่ที่ไหนเหมือนเธอที่จะปรับตัวเข้ากับสังคมได้อย่างเธอหรอก!」
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
ฮิซูกิตอบอย่างสิ้นหวังด้วยความตกใจ เพราะอาซาฮินะยอมรับมันว่าเธอโง่
ช่างเป็นระดับการควบคุมที่สมบูรณ์แบบ? พวกเธอเป็นตลกอัจฉริยะ
「ชั้นยอมรับการต่อสู้นี้!」
「ไม่ เธอเป็นคนที่ต้องการมันก่อน! ดังนั้น ชั้นยอมรับมัน!」
ทั้งสองคนเห่าในเวลาเดียวกัน และยกหมัดของพวกเธอในเวลาเดียวกัน และหมัดชกเอาหน้าของพวกเธอในเวลาเดียวกัน
「หืมม」
อาซาฮินะไม่ขยับซักนิดแม้ว่าหน้าเธอโดนต่อย
「อะกุ่」
ในทางกลับกัน ฮิซูกิครวญและกระเด็น
พวกเธอต่อยกันเอง แต่อาซาฮินะเอาชนะเธอด้วยความแข็งแกร่งและความอดทน นอกจากนี้ ฮิซูกิใช้ตาแห่งสวรรค์ของเธอไม่ได้ เกมนั้นเห็นได้ชัด
มันตรงกันข้ามกับเวลานั้นเลย ไม่ อาซาฮินะในเวลานั้น แย่กว่าฮิซูกิปัจจุบัน
พูดถึงแล้ว ฮิซูกิ เธอจะสู้ต่อไปแม้เธอจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบอย่างท่วมท้นมั้ย?
「โอ้ ชั้นแค่ไม่อยากจะแพ้ให้เธอ!」
แม้ว่าเธอจะกระเด็น ฮิซูกิที่คุกเข่าข้างหนึ่งอยู่บนพื้น และทนการจะล้ม เห่าพร้อมเลือดกำเดาไหล
ในทางกลับกัน อาซาฮินะก็มีเลือดกำเดาไหล แต่มองอย่างท่วมท้นจากข้างบน จากนั้น――
「เช็ดเลือดกำเดาด้วทิชชู่นี้ และยัดมันเข้าจมูกเธอ」
อีกครั้ง อาซาฮินะมอบทิชชู่ให้ฮิซูกิ
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
ทำไม่เธอสนแค่ตรงนั้น?
「เธอล้อชั้นเล่นเหรอ!」
อาซาฮินะไปกระตุ้นเส้นสุดขีดของฮิซูกิ และฮิซูกิเตะพื้นและกระโดดใส่อาซาฮินะ
「ครอสเคาน์เตอร์!」
อาซาฮินะที่ร้องและดันหมดใส่ฮีซูกิที่กระโดด แต่――
「เธย่าา!」
ฮิซูกิ “เตะ” ระหว่างที่ตะโกน
「เก่ะฟุ่-」
ผมคิดว่ามันเป็นต่อย นิ้วโป้งเท้าของฮิซูกิฝังไปที่ท้องของอาซาฮินะ ที่คิดจะต่อยสวน
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
ครอสเคาน์เตอร์อะไร! เธอร้องและเตะมากเท่าที่เธอต้องการเลย อาซาฮินะ เธอโง่จริงๆ
「ไม่ ชั้นจะไม่ทำมัน」
อาซาฮินะที่ดูเหมือนจะหายใจลำบากหลังจากที่โดนเตะเข้าที่ท้อย ร้องด้วยรอยยิ้ม
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
เธอจะไม่ทำมัน ฮิซูกิไม่ได้ยอดเยี่ยมตอนนี้ แต่เธอแค่โง่
「โอ้ นั่น…」
เมื่อผมหันไปหาเสียงที่ผมได้ยิน คาซะฮินะที่ส่ายด้วยหน้าที่ซีด มองขึ้นมาหาผม
มันดูเหมือนการต่อสู้ระหว่างมาสเตอร์ของเธอและอาซาฮินะได้เริ่มขึ้น และเธอไม่รู้ว่าจะทำอะไร
「คาซะฮานะ มาสเตอร์ของเธอน่าทึ่ง」
「เอ๋?」
ระหว่างที่ทนการหัวเราะของผม คาซะฮานะเอียงหัวของเธอเมื่อผมพูดกับคาซะฮานะ
「มีแค่ไม่กี่คนที่สู้หัวชนฝากับอาซาฮินะอย่างนั้นได้」
อะไรคือไร้ความสามารถกัน? แม้ว่าเธอกำลังจะตื้นอยู่แล้ว คนที่เจอกับตาแห่งสวรรค์อ่อนแอไม่ได้
「อาซาฮินะโกรธเพราะเธอรู้มากกว่าใครๆว่าฮิซูกิ “แข็งแกร่ง” และเธอร้องไห้เพราะเธออยากได้ที่ที่จะอยู่ แต่เธอเห็นมั้ย อาซาฮินะนั้นโง่ ไม่ใช่เหรอ?」
กับคำพูดของผม คาซะฮานะมองพวกเธอและมองขึ้นมาหาผมอีกครั้ง
「ชั้นต้องหยุดพวกเธอมั้ย?」
「ใจเย็น พวกเธอแค่เล่นกันไปทั่ว」
「แต่ ถ้าเป็นอย่างนี้ ฮิซูกิจะ…」
「มันจำเป็นที่ต้องระบายอารมณ์ของเธอออกมา และอาซาฮินะจะไม่ฆ่า “เพื่อน” ของเธอเธอเป็นอีโง่ แต่เธอไม่ใช่แค่อีโง่ธรรมดา เธอเป็นอีโง่มากที่ช่วยอะไรไม่ได้」
「อะไรนะ!? นั่นไม่ดีเลย!?」
คาซะฮานะส่ายด้วยหูและหางสัตว์ของเธอตั้งตรง
「มันโอเค เธอหิวเพราะเธออยู่กับฮิซูกิมาเป็นเวลานาน ใช่มั้ย? ชั้นมั่นใจว่าริกกะก็หิวด้วย ดังนั้นไปเอาอาหารมาจากทามะมูชิกัน」
「เอ๋!? เฮ้!? นั่นโอเคเหรอ!? มันโอเคที่จะปล่อยพวกเธอไว้ตามลำพังเหรอ!?」
เมื่อผมดันหลังคาซะฮานะและเริ่มเดิน เธอมองสองคนที่สู้กันและถามผมจะหว่างที่ร้อง
「เธอเลือดกำเดาไหล เอาทิชชู่เข้าไปในจมูกของเธอ」
อาซาฮินะเสนอทิชชู่ให้ฮิซูกิ ที่หน้าบวมและเลือดกำเดาไหล
「หนวกหหหหหหหู!」
เธอเหมือนผ้าขี้ริ้วแล้ว แต่เธอยังกระโดดใส่อาซาฮินะระหว่างที่ร้อง
「ใช่? พวกเธอแค่เล่นกันไปทั่ว」
「เอออออ!? พวกเธอแค่เล่นกัน ใช่มั้ย!? แต่มันดูเหมือนฮิซูกิจะตายเลยนะ!」
ผมดันหลังของคาซะฮานะที่ร้องและออกมาจากห้องนั่งเล่น
คาซะฮานะฟังผมด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมคิดว่าเธอรู้ว่าอาซาฮินะจะไม่ฆ่าฮิซูกิ
แต่ จากใจ ผมกังวลนิดหน่อยที่จะทิ้งฮิซูกิไว้ให้อาซาฮินะ
เพราะอาซาฮินะโง่
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
เป้าหมายเดือน 4/66
ค่าเน็ต 200/200
กาแฟ 180/300
ค่าไฟ 20/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”