Chapter 10 : ในที่สุดผมก็ตัดสินใจจะแลกช่องทางติดต่อกับองค์หญิงน้ำแข็ง
“ขะ ขอโทษนะคะ! ขอโทษจริงๆค่ะ!”
“ไม่หรอก ไม่เป็นไร เพราะว่าเธอเหนื่อยเลยช่วยไม่ได้นี่นา”
ผมปลุกชิโนโนเมะตอนที่ถึงสถานีก่อนหน้านี้ จากนั้นไม่นาน เธอก็เริ่มขอโทษออกมา
“ฉะ ฉันทำเรื่องน่าอายไปซะแล้ว อะ เอ่อ ฉันไม่ได้ทำอะไรแปลกๆ ใช่ไหมคะ?”
“อ่า-…….”
ไม่ได้ทำหรอก คิดว่าจะพูดคำนี้ออกไปได้ง่ายๆแท้ๆ แต่ผมกลับลังเล
เธอมองผมอยู่อย่างงั้น จากนั้นสีหน้าของชิโนโนเมะก็แข็งทื่อ
“……ฉันนอนละเมอใช่ไหมคะ?”
“ก็นะ ส่วนใหญ่เธอจะพูดเบามาก เพราะงั้นฉันไม่เข้าใจหรอก”
ด้วยคำพูดนั้น ชิโนโนเมะก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้น และใกล้ขึ้นอีก
“คุณบอกว่าส่วนใหญ่ หรอคะ?”
“ไม่ต้องห่วง เธอไม่ได้ทำอะไรแปลกๆหรอก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอฝันอะไรอยู่”
“…..งั้นหรอคะ เข้าใจแล้วค่ะ”
เธอดูโล่งใจเล็กน้อยพลางหายใจออกมา ผมอยากรู้ซะจริงว่าเธอฝันอะไรไป เอาเถอะ ผมว่าพอตื่นแล้วเดี๋ยวเจ้าตัวก็ลืมเองนั่นแหละว่าฝันอะไรไป ผมมองออกไปข้างนอก
มันคือภาพที่คุ้นเคยซึ่งผมเห็นมันทุกเช้าเย็น มันจึงเป็นได้แค่ธรรมดาทั่วไป
ยังไงก็ตาม ผมสังเกตเห็นบางอย่างที่แปลกไป สงสัยจังว่าจะมีร้านอาหารชุดในที่แบบนี้รึเปล่า
ผมคงไม่ไปที่นั่นแน่ๆ คิดว่าน่ะนะ
“เอ่อ มิโนริคุง”
“มีอะไรหรอ?”
พอชิโนโนเมะเรียกชื่อผม ผมก็ละความสนใจจากบรรยากาศด้านนอกมาที่เธอ
ชิโนโนเมะมองมาที่ผม แก้มของเธอเริ่มขึ้นสี และเธอพยายามพูดอะไรบางอย่าง
ผมสงสัยจังว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็นะ ไม่จำเป็นต้องรีบหรอก…..
“อาา”
ตอนนั้นเอง พวกเราก็มาถึงสถานีของชิโนโนเมะ เธอลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ไว้ฉันจะบอกพรุ่งนี้ค่ะ คือแบบว่า มีเรื่องจะขอน่ะค่ะ”
“อะ อื้ม เข้าใจแล้ว ถ้างั้นก็ ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ดูแลตัวเองด้วยนะ มิโนริคุง บายค่ะ”
“ได้เลย ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
พอเธอโบกมือให้เล็กน้อย ผมก็โบกมือกลับ…..ผมหวังว่ามันจะเป็นแค่จินตนาการของผมเท่านั้น แม้ว่าบนรถไฟจะมีคนแค่ไม่กี่คนก็ตาม
แต่เธออยากจะพูดอะไรกันแน่นะ? ถึงจะช่วยไม่ได้แต่ก็อยากรู้อยู่ดี
……แต่ก็ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้อยู่ดี เพราะงั้นวันนี้กลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่า
◆◆◆
[โอ้? แล้ว? เป็นไงบ้าง? คิดว่าเดทแรกของนายเป็นไง?]
[ฉันบอกแกไปแล้วนะว่าไม่ใช่เดทน่ะ]
[อย่างี่เง่าไปหน่อยเลยน่า ผู้ชายกับผู้หญิงออกไปเที่ยวด้วยกัน นั่นแหละคือเดทล่ะ]
[….เห้อ]
พอกลับมาถึงบ้านผมก็รับโทรศัพท์จากเจ้าเออิจิ จากนั้น มันก็กลายมาเป็นแบบนี้
[ไม่ว่าแกจะพูดยังไง ฉันก็แค่ไปติวหนังสือตามปกติเท่านั้นแหละ]
[แล้วมือล่ะ? ได้จับมือกันรึเปล่า?]
[เราไม่ได้—]
ผมกำลังจะตอบปฎิเสธออกไป แต่อยู่ๆปากผมก็ปิดลง
ตอนที่เห็นชิโนโนเมะเมือเช้านี้ จำได้ว่าเธอดึงมือผมด้วยนี่
[ทำไปแล้วหรอ? นายมีปฎิกริยาแบบนั้นนี่นะ ใช่มะ!?]
[…..มันเป็นอุบัติเหตุ]
[แล้วจากนั้นล่ะ? ปฎิกริยาของเธอเป็นไง? ถ้าเธอไม่ได้รังเกียจนายก็ยังมีโอกาสนะ]
[ชีวิตไม่ได้ง่ายแบบนั้นสักหน่อย ……เห้อ มีหลายอย่างที่ต้องอธิบายเลย แต่สรุปแล้ว เราเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันเหนื่อยแล้ว จะวางล่ะนะ]
[โอเค ไว้พรุ่งนี้ฉันจะรอฟังแล้วกัน]
ผมวางสายโทรศัพท์แล้วนอนแผ่ลงบนเตียง
“…..แค่เพื่อน ไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้น”
ก็จริงที่บางครั้งเธอดูกังเวล แต่ผมมั่นใจว่านั่นไม่ได้เป็นเพราะผมหรอก เพราะงั้นไม่มีปัญหา
จากนั้น…….จะคบกันหรือกลายเป็นคนรัก ผมไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นเลย ….ค่อนข้างมั่นใจเลยว่าเรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้น
“เราไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อนเลยนี่นะ”
บางครั้งผมก็รู้สึกอิจฉาพวกคู้รักที่ดูไปด้วยกันได้ดี ผมตอบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากมีแฟนรึเปล่า
ผมไม่ได้เป็นคนคุยเก่งตั้งแต่แรก แทบจะมองเห็นอนาคตได้เลยว่าผมคงจะทำให้แฟนตัวเองรู้สึกไม่สบายใจก่อนจะได้รับความสมเพชจากเธอ
ได้ยินมาว่าทุกวันนี้มีคนโสดที่ใช้ชีวิตเพื่องานอดิเรกของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
“เห้อ……”
ไม่ดีเลยแฮะ มันเหมือนจะเป็นแค่ข้อแก้ตัวเลย แล้วผมก็ยังเป็นแค่นักเรียนม.ปลายอยู่ด้วย
สักวัน……พอถึงเวลา ถ้ามันยังไม่มา ถ้ามันยังไม่มาล่ะก็ ผมคงต้องคิดเกี่ยวกับมันอีกที
ผมหลับตาลงอย่างเงียบๆก่อนจะหลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ
โชคดีที่ผมลืมเรื่องที่ชิโนโนเมะพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง ผมเลยหลับได้โดยไม่กังวลอะไร
◆◆◆
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ มิโนริคุง”
“อื้ม อรุณสวัสดิ์”
วันต่อมาก็ยังเป็นการติวเหมือนเดิม ผมหลับพักผ่อนอย่างดีเมื่อคืน เพราะงั้นหัวของผมถึงได้รู้สึกปลอดโปร่ง
“วันนี้คุณก็ดูดีนะคะ มิโนริคุง”
“…..โอ้ ขอบคุณนะ เธอก็เหมือนกันชิโนโนเมะ”
ชิโนโนเมะก็สวยมากเหมือนกัน
เมื่อวานเป็นวันที่แดดแรงซึ่งหาได้ยากในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนวันนี้มีเมฆมากและค่อนข้างหนาวเลย
เธอใส่เสื้อคลุมสีขาว เสื้อคาร์ดิแกนสีน้ำตาลดำ และกระโปรงสีดำยาว วันนี้เธอแต่งตัวราวกับคุณหนูผู้มีบรรยากาศอันงดงามรายล้อมอยู่
ผมของเธอก็ต่างไปจากปกติ ลักษณะคล้ายกับมัดหางม้าแต่จริงๆแล้วเป็นผมเปีย
“ขอบคุณนะคะ ฉันก็ต้องขอบคุณพี่พนักงานที่เลือกให้ด้วย”
“นั่นสินะ ……เอาเถอะ ก็ถือเป็นเรื่องดีนั่นแหละนะ”
เอาจริงๆ ไม่ว่าเธอจะใส่อะไรก็เหมาะมากเลยล่ะ ชุดที่ดูทะมัดทะแมงจะทำให้ดูเหมือนชาวต่างชาติมากขึ้นเมื่อรวมกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ เสื้อผ้าแนวๆนี้ของเธอยิ่งขับความเท่ของเจ้าตัวออกมา
แต่ดูเหมือนชิโนโนเมะจะไม่ค่อยเข้าใจที่ผมจะสื่อ? เธอดูงงกับคำพูดก่อนหน้านี้ของผม
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”
“คะ ค่ะ……?”
ผมเกือบลืมไปแล้วว่าชิโนโนเมะเป็นโรคกลัวผู้ชาย ตอนนี้เรามีสถานะเป็นเพื่อนกัน ล่ะมั้งนะ……เพราะงั้นเลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่มีโอกาสที่เธอจะคิดว่าผมมองเธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งแล้วไม่เชื่อใจผมอีก
“อ่า พอมาคิดๆดูแล้ว มิโนริคุงก็ฉีดน้ำหอมมาเหมือนกันใช่ไหมคะ?”
“หืมม? ก็ใช่แหละ จำได้ว่าแม่ให้มาก่อนฉันจะมาเรียนที่นี่น่ะ แต่เพราะฉันขี้เกียจจะใช้มันเลยถูกเก็บไว้ในซอกหลืบของลิ้นชักอีกที”
“แบบนี้นี่เอง ….มันจะไม่เป็นอะไรหรอคะ? ที่ใช้ของแบบนั้นเพื่อคนอย่างฉัน”
ชิโนโนเมะถามออกมาด้วยความกังวล ส่วนผมก็ยิ้่มตอบเธอกลับไป
“แน่ล่ะสิ ฉันว่าไม่มีตอนไหนเหมาะที่จะใช้มันไปมากกว่าตอนนี้แล้วนะ? …..ว่าแต่ กลิ่นมันแย่รึเปล่า?”
กลิ่นมันคล้ายมะนาวและซิตรัส แต่ก็นะ แต่ละคนมีกลิ่นที่ชอบไม่เหมือนกัน
ผมถามออกไป จากนั้นชิโนโนเมะก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมได้แต่สาปแช่งคำพูดของตัวเอง ส่วนชิโนโนเมะก็ดมมันเบาๆ
“ค่ะ กลิ่นมันดีมากเลยล่ะค่ะ ฉันชอบกลิ่นปกติของมิโนริคุงเพราะมันทำให้รู้สึกสงบ แต่ก็ชอบกลิ่นนี้เหมือนกันนะคะ?”
และในระยะแค่นั้น ผมกลับถูกเธอบอกแบบนั้นด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มไร้กังวลใดๆ
ผมเริ่มรู้สึกว่าหน้าตัวเองมันเริ่มร้อนขึ้น
“…ฉะ ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ”
จากนี้ต้องคิดดีๆก่อนจะพูดอะไรซะแล้ว
ในระหว่างที่กำลังติวกัน พวกเราก็ไปที่คาเฟ่เดิมกับเมื่อวาน
หืม? เหมือนว่าเราลืมอะไรบางอย่างไปเลยแฮะ……
◆◆◆
“อ่า จำได้แล้ว”
ในระหว่างที่กำลังติวกันอยู่ ผมก็นึกถึงเรื่องที่กวนใจออกจนได้
“……? มีอะไรหรอคะ?”
“ไม่หรอก ฉันว่าฉันลืมอะไรไปน่ะ หรือไม่ก็ คนที่ลืมน่าจะเป็นเธอมากกว่า”
ใช่แล้วล่ะ
“เมื่อวานเธอเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างใช่ไหมล่ะ? ว่าไง?”
พอผมถามออกไป ชิโนโนเมะก็สะดุ้งเฮือก
“……”
“ชิโนโนเมะ?”
จากนั้นเธอก็ก้มหน้าลงแล้วเริ่มเงียบลง ทำเอาผมแพนิคไปแวบหนึ่งเลย หรือว่าผมจะพูดอะไรแย่ๆออกไปกัน ตอนนี้ผมกลืนน้ำเลยไม่ได้ด้วยซ้ำ
เพราะแบบนั้น ผมถึงรอให้ชิโนโนเมะพูดอะไรออกมา
หลังจากรออยู่พักนึง…..ชิโนโนเมะก็เงิยหน้าขึ้นแล้วมองหน้าผม
“มะ มิโนริคุง ฉันมีเรื่องจะของร้องค่ะ”
“อะไรหรอ?”
ชิโนโนเมะจ้องมาที่ผมก่อนจะนำบางอย่างออกมาจากกระเป๋า
มันคือสมาร์ทโฟน
“ชะ ช่วยบอก….ช่องทางติดต่อหน่อยได้ไหมคะ?”
ผมตัวแข็งทื่อก่อนจะมองไปที่ชิโนโนเมะซึ่งหน้าแดงและกำโทรศัพท์มือถือด้วยมือสั่นๆ
ผมปิดหน้าตัวเองด้วยมือในทันที
เธอน่ารักโคตรๆเลย แก๊ปโมเอะนี้คืออะไรเนี่ย? ผมคิดว่าตัวเองถูกดึงดูดด้วยความงามที่เยือกเย็นของเธอ ไม่ก็ชอบบรรยากาศรอบๆเธอที่เยือกเย็นซะมากกว่า
“…..ระ รังเกียจรึเปล่าคะ?”
ชิโนโนเมะยังคงมองมาที่ผม ส่วนผมก็ถอนหายใจออกมาเพื่อไล่ความร้อนบนใบหน้าออกไป
“ก็ต้องไม่รังเกียจแน่อยู่แล้วสิ อีกอย่าง ถ้าเธอไม่ขอฉันนี่แหละจะขอเอง”
ผมพูดไปแบบนั้น
ใบหน้าของชิโนโนเมะสดใสขึ้นมาทันทีก่อนจะตามมาด้วยรอยยิ้มร่าเริง
“ดีใจจังเลยค่ะ……เอ่อ เป็นอะไรไปคะ?”
ชิโนโนเมะถามในขณะที่ผมยังคงใช้มือปิดหน้าตัวเองอยู่ ซึ่งผมก็ตอบไปว่า [ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก]
หหลังจากเริ่มใจเย็นลงแล้วผมก็เอามือออกแล้วหหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา
มันก็แค่การแลกชื่อในแชทกันแบบปกติ ใช้เวลาสักพักเลยกว่าเราจะรู้ว่าต้องแลกช่องทางติดต่อกันในแอปยังไง สนุกชะมัดเลยแฮะ
“……เหมือนจะได้แล้วนะ”
“คะ ค่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันแลกช่องทางติดต่อกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว”
คำพูดของชิโนโนเมะเล่นเอาหัวใจผมแทบหยุดเต้น ใจเย็นก่อน ใจเย็น วันนี้…..ไม่สิ เราทำตัวแปลกๆไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
“….ในที่สุด ก็พูดออกไปได้สักทีค่ะ”
ผมยิ้มอย่างขมขื่นให้กับคำพูดของชิโนโนเมะ มันรู้สึกค่อนข้างเจ็บปวด ผมก็แทบไม่มีเพื่อนเลยเหมือนกัน
ในเวลาเดียวกัน ผมก็รู้สึกสงสารเธอ
“เอาล่ะ งั้นเรามาต่อกันเลยไหมคะ?”
ต่างกับเมื่อกี้ลิบลับเลย ตอนนี้เธอดูร่าเริงสุดๆเลยล่ะ
◆◆◆
— ครบ10ตอนแล้ว เย้!
— ผมอยากจะขอแปะQRโดเนทไว้หน่อย ไม่จำเป็นต้องโดเนทก็ได้นะครับ แต่ถ้าใครอยากสนับสนุนจริงๆก็จะขอบคุณมากครับ :3