บทที่ 1117 ตอนพิเศษ (19)
บทที่ 1117 ตอนพิเศษ (19)
หยางชิงซือเพิ่งช่วยพี่สะใภ้หยางย้ายของเสร็จ เมื่อกลับมาก็ได้ยินว่าซ่งซื่อคิดจะหาสามีให้นางจึงเอ่ยด้วยสีหน้าอึมครึม “ท่านแม่ ท่านวุ่นวายพอหรือยัง? ถึงแม้คิดจะแสดงงิ้วฉากใหญ่ ข้าก็ทนให้ท่านแสดงทุก ๆ สามวันไม่ไหวเช่นกัน อย่างน้อยก็ให้เวลาเราได้สงบสุขสักสองสามวันได้หรือไม่? ในเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้แล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอกล่าวคำพูดไม่น่าฟังเสียหน่อย หากคิดจะให้ข้าแต่งงาน โดยมัดมือชกหมั้นหมายให้ข้า ข้าจะใช้เชือกป่านแขวนคออยู่หน้าประตูบ้าน”
“ถุย! เจ้าพูดจาเลื่อนเปื้อนอะไร?” ซ่งซื่อทั้งตกใจทั้งโมโห “ข้าเป็นแม่ของเจ้า ยังจะทำร้ายเจ้าได้อีกหรือ?”
“แม่ที่ขายลูกชายลูกสาวตนเองมีน้อยหรือไร? ท่านลงมือกับหลานสาวตนได้ หากคิดลงมือต่อลูกสาวตนก็ไม่มีอะไรแปลก ก่อนหน้าข้ายังคิดว่ามีเพียงท่านย่าที่ไม่ชอบข้า บัดนี้ดูเหมือนว่าท่านก็ไม่ชอบข้าเช่นกันกระมัง?”
“ชิงซือ อย่าพูดจาเหลวไหล” หยางฟู่เอ่ย “พวกเราเป็นพ่อแม่เจ้า ไม่ว่าเราจะทำอะไรล้วนทำเพื่อตัวเจ้า เมื่อครู่แม่เจ้าไปหาสกุลจง อยากจะไปหารือเรื่องการแต่งงานของเจ้ากับจงซู่เกิน เจ้าลองเดาสิว่าสกุลจงพูดว่าอย่างไร? สกุลจงบอกว่าพวกเขาหาคู่หมั้นให้ซู่เกินแล้ว ทั้งคู่จะแต่งงานกันเดือนหน้า เจ้าเด็กโง่ผู้นี้ ถูกเจ้าเด็กเลวผู้นั้นหลอกแล้ว ถึงตอนนี้ยังจะทุ่มเทใจให้ผู้อื่นอยู่อีกหรือ?”
สีหน้าของหยางชิงซือไม่น่าดูชมขึ้นมา
นางเงียบไปครู่หนึ่งแล้วกล่าว “สกุลจงไม่ชอบพวกเราก็เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งหมู่บ้านไม่ได้มีบ้านเราบ้านเดียวที่มีลูกสาว แต่ข้าไม่เคยเห็นครอบครัวอื่นวุ่นวายจนพาให้อับอายเช่นนี้มาก่อน บ้านเราไม่มีข้าวกินไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ ตกต่ำถึงขั้นต้องขายหลานสาวหรือ? เพียงแต่เมื่อสกุลจงไม่ชอบข้า ข้าหยางชิงซือก็ไม่จำเป็นต้องไล่ตามผู้อื่น พวกท่านไม่ต้องกังวล โลกนี้มีบุรุษมากมายเพียงนั้น ข้าหยางชิงซือยังไม่ถึงขั้นขายไม่ออก”
“ถูกแล้ว นี่เป็นความจริง” ซ่งซื่อได้ยินดังนั้นก็ดีใจ “หลายวันนี้แม่จะช่วยดู ๆ ให้เจ้า จะต้องหาผู้ที่เจ้าถูกใจได้อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นพวกเราก็แต่งก่อนสกุลจง ทำให้ครอบครัวเขาโมโหเจียนตายเสีย”
“ผู้ใดบอกว่าข้าจะหา?” หยางชิงซือเอ่ย “พี่สะใภ้ยังอยู่เดือน พี่ชายข้าก็ต้องหาเงิน ดังนั้นคงไม่สามารถดูแลพี่สะใภ้ได้ตลอดเวลา ช่วงนี้ข้าจะย้ายไปอยู่กับพี่สะใภ้ ช่วยนางดูลูก พวกท่านก็อย่าวุ่นวาย หากหมั้นหมายให้ข้าตามอำเภอใจ ข้าจะโวยจนทุกคนทนดูไม่ได้เชียวละ”
“จงซู่เกินจะแต่งผู้อื่น เจ้าไม่โกรธหรือ” หยางฟู่เอ่ยถาม
“เหตุใดข้าต้องโกรธเล่า?” หยางชิงซือกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “ข้ารู้กลอุบายของพวกท่าน ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินจากนักเล่าเรื่อง นี่เรียกว่า ‘วิธียั่วยุให้ฮึกเหิม’ น่าเสียดายที่ข้าไม่หลงกล การแต่งงานเป็นเรื่องของทั้งชีวิต หากข้าเดินทางผิด ชีวิตนี้คงทำได้เพียงจมอยู่กับความมืดมนแล้ว เพื่อที่ข้าจะได้ไม่ต้องทุกข์ใจไปตลอดชีวิต ตอนนี้ย่อมไม่อาจหาบุรุษผู้หนึ่งมาแก้ขัดได้”
หยางชิงซือกลับห้องไปเก็บของ
หลังจากออกมาพ้นสายตาหยางฟู่กับซ่งซื่อแล้ว ดวงตาของหยางชิงซือก็แดงก่ำ
นางจะไม่โกรธได้อย่างไร?
ถึงแม้ว่านางจะทำทีหลบเลี่ยงจงซู่เกินมาโดยตลอด ทว่าน้ำใสใจจริงที่จงซู่เกินมีต่อนางล้วนอยู่ในสายตา ในใจหยางชิงซือย่อมยอมจำนนไปแล้ว
นางรู้ว่าสกุลจงไม่ชอบตนเอง เพียงแต่นางคิดว่าหากจงซู่เกินเพียรพยายาม เรื่องระหว่างพวกเขาก็คงไม่ถึงทางตัน
ตอนนี้ดีนัก เรื่องราวมาถึงทางตันจริง ๆ แล้ว
หยางชิงซือเก็บข้าวของแล้วออกจากบ้านไป
“ชิงซือ หากเจ้าไปแล้ว งานที่บ้านผู้ใดจะทำเล่า?” ซ่งซื่อเอ่ยถาม
“ท่านแม่ ตอนนี้ที่บ้านมีเพียงพวกเราไม่กี่คน เรื่องที่ต้องทำน้อยลงมาก ที่นาก็ลดลงกว่าครึ่ง ท่านกับท่านพ่อทำงานได้ แต่พวกพี่สะใภ้ไม่เหมือนกัน พี่ชายข้าต้องเข้าไปทำงานในเมือง แต่พี่สะใภ้ข้ายังอยู่เดือน นังหนูอิงฮวาต้องให้ข้าช่วยดูแล ท่านเป็นแม่ของพี่ชายข้า คงทนเห็นบุตรชายลำบากเพียงนั้นไม่ได้กระมัง?” หยางชิงซือแบกสัมภาระเดินออกจากบ้านไป
“แยกบ้านก็แยกแล้ว” ซ่งซื่อไม่สบอารมณ์ “เหตุใดเจ้าต้องสนใจพวกเขาเพียงนั้น”
“ในเมื่อแยกบ้านแล้ว เช่นนั้นท่านกับท่านพ่อไม่ต้องให้พี่ชายข้าทุบกระถางขี้เถ้าแล้วใช่หรือไม่?” หยางชิงซือหันกลับมามอง “ตอนนี้ท่านยังแข็งแรง แต่ท่านลองคิดดูเถอะ ป้าหวังฟากตะวันออกของหมู่บ้านผู้นั้นแรกเริ่มทำกับลูกสะใภ้อย่างไร ตอนนี้นางมีชีวิตอย่างไร? ท่านแม่ พี่สะใภ้ดีกว่าลูกสะใภ้ป้าหวังมากนัก ท่านอย่าได้สร้างปัญหาให้พวกเขาเลย ตอนนี้ทุกคนไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ท่านก็ทำสีหน้าดี ๆ ให้นางเถอะ นางจะได้เคารพท่านมากขึ้นหน่อย”
หยางชิงซือออกจากบ้านแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงซ่งซื่อบ่นกับหยางฟู่ว่าลูกชายลูกสาวล้วนไม่กตัญญู อะไรเทือก ๆ นั้น ทั้งยังตำหนิหยางฟู่ที่ไม่อบรมพวกเขาให้ดีด้วย
หยางฟู่ไม่รู้จะทำอย่างไร
ตอนยังหนุ่มเขาถูกมารดาควบคุม หลังจากมารดาเสียชีวิต ภรรยาซึ่งเดิมทีเป็นนกกระทาไม่กล้าขยับตัวก็กลายเป็นมารดาเฒ่าไปอีกคน เขาเองก็เหนื่อยใจเช่นกัน
หยางชิงซือสะพายห่อสัมภาระขึ้นหลังแล้วสาวเท้าจากไป
หากไม่ใช่เพราะไม่ได้รับอนุญาต นางคงแยกออกมาอยู่กับพี่ชายและพี่สะใภ้แล้ว
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ปล่อยนางไว้ตามลำพังเถอะ! ตอนนี้สถานะของสตรีดีขึ้นไม่น้อย นางก็อยากตัดสินใจเองเช่นกัน
“ชิงซือ” จงซู่เกินวิ่งเข้ามาหา
หยางชิงซือเห็นเขา สีหน้าพลันมืดหม่นขึ้นมา “เจ้ามาทำอะไร?”
“ข้าเพิ่งกลับบ้านก็ได้ยินว่าแม่เจ้ากับแม่ข้าทะเลาะกันใหญ่โต” จงซู่เกินเอ่ย “ข้าไม่อยากให้เจ้าเข้าใจผิด คำพูดของแม่ข้าไม่นับเป็นอะไร ข้าจะไม่แต่งงานกับสตรีอื่น”
หยางชิงซือมองเขา “เรื่องบ้านเจ้าล้วนเป็นแม่เจ้าตัดสินใจกระมัง? เจ้าตัดสินใจเองได้หรือ?”
“เรื่องอื่นข้าไม่ยุ่ง แต่เรื่องนี้ข้าไม่ยุ่งไม่ได้” จงซู่เกินเอ่ย “หากไม่อาจแต่งงานกับเจ้า ชั่วชีวิตนี้ข้าจะเป็นโสด ไม่แต่งกับผู้อื่น”
หยางชิงซือระเบิดหัวเราะออกมา “เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร? ถึงแม้เจ้าจะอยากแต่งก็ยังต้องถามข้าด้วยว่ายินดีแต่งหรือไม่ อีกอย่าง ตอนนี้ครอบครัวเราวุ่นวายเช่นนี้ คิดจะแต่งงานกันไม่ง่ายดายเลย หรือว่าเจ้ากล้าขัดพวกเขา?”
“ข้าจะกลับไปหาท่านแม่” จงซู่เกินเข้าใจแล้ว หากเขาไม่จัดการกับแม่ หยางชิงซือย่อมไม่มีทางตอบตกลง ท้ายที่สุดแล้วผู้ใดก็ไม่คิดจะเผชิญหน้ากับแม่สามีที่พูดคุยด้วยยากตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งเข้าไป
หยางชิงซือเห็นเขาวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว นางยิ้มออกมาอีกครั้ง
ทว่าเมื่อนึกได้ว่าสกุลจงก็เป็นที่ที่ลำบากแห่งหนึ่งเช่นกัน นางจึงไม่นึกคาดหวังสิ่งใดจากการแต่งงานนัก
หยางชิงซือกลับมาถึงบ้านใหม่ที่พี่ชายและพี่สะใภ้ย้ายมา
หลิวจิ่วจู๋และลู่ฉาวจิ่งกำลังขนของที่หยางชิงซือซื้อไว้นานมาแล้วเข้ามาพอดี
หยางชิงซือกำชับกับพวกเขาว่า เดิมทีของเหล่านั้นก็ซื้อมาให้พี่สะใภ้บำรุงร่างกาย ก่อนหน้าไม่กล้าแอบเอาไปให้นางกิน บัดนี้ดีนัก ไม่ต้องแอบแล้ว
“ชิงซือ จู๋จือบอกว่าของเหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าซื้อมา” พี่สะใภ้หยางเอ่ยถามหยางชิงซือ “นังหนูผู้นี้ มีเงินเล็กน้อยก็อยู่นิ่งไม่ได้แล้วใช่หรือไม่? ซื้อของแพงแต่ใช้การไม่ได้มากมายเพียงนี้มาทำอะไร?”
“พี่สะใภ้ จู๋จือบอกว่าคราวนี้ท่านคลอดยาก ร่างกายของท่านได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง หลายปีนี้ล้วนต้องดูแลให้ดี” หยางชิงซือกล่าว “บำรุงร่างกายให้ดีแล้ว ท่านกับพี่ชายข้าจึงจะได้ใช้ชีวิตดี ๆ ต่อไป”
“โชคดีทั้งชีวิตข้าล้วนหมดไปกับการพบเจ้าแล้ว” พี่สะใภ้หยางสะอึก “หากไม่ใช่ตัดใจจากเจ้าไม่ได้ ข้าคงพาอิงฮวาไปแล้ว ไปหาบุรุษที่พึ่งพาได้มากกว่านี้หน่อย”
หยางชวน “…”
ดังนั้น ภรรยาแต่งให้เขาหรือน้องสาวของเขากันแน่?
หยางชิงซือหัวเราะออกมา “โชคดีที่ข้าไม่ใช่บุรุษ ไม่เช่นนั้นพี่ชายคงแพ้ข้าแล้ว”
ทีแรกพี่สะใภ้หยางค่อนข้างซาบซึ้งใจทีเดียว ทว่าเมื่อถูกนางขัดเช่นนี้ก็รู้สึกอายขึ้นมาบ้างแล้ว