ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) – ตอนที่ 23

ตอนที่ 23

ห้านาทีต่อมา ในที่สุดชื่อของอีกฝ่ายก็อยู่ใกล้แค่ตรงหน้า มองดูจากระยะห่างแล้วน่าจะอยู่ในป่าผืนนี้ ขอเพียงแค่เข้าไปลึกขึ้นอีก ผมก็สามารถมองเห็นพวกเขาได้

แต่หากพุ่งเข้าไปทันที ทำให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าพวกเราคงเกิดปัญหาในภายหลัง เวลาแบบนี้อย่าโอ้อวดไปจะดีซะกว่า

ยังไงซะการต่อสู้จริงก็เพิ่งจะเริ่มวันแรก หากก่อปัญหาเร็วไป วันคืนข้างหน้าคงลำบากแน่

ผมอาศัยลำต้นตรงหน้า ใช้โล่กระแทกเด้งร่างกายออกอย่างรวดเร็วขณะที่เข้าใกล้ เพื่อเปลี่ยนทิศทางของพวกเราอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เข้าใกล้ ผมได้ยืนยันทิศทางการกระทำของพวกเขาจากทิศทางการเคลื่อนไหวของชื่อแล้ว ขณะอาศัยแรงเปลี่ยนทิศทางเมื่อกี้ ผมก็เลือกเปลี่ยนทางไปข้างหลังของพวกเขา พุ่งผ่านด้านหลังพวกเขาไปทันที

ทว่า ชั่วพริบตาที่ผ่านไป ผมก็ตกตะลึง

คนพวกนั้น…ดูเหมือนจะไม่ใช่นักเรียนของสถาบันพวกเรา!

ตอนที่วิ่งหนีผมไม่ได้สังเกตเลย ตอนนี้เพิ่งจะพบว่าอีกฝ่ายไม่ใช่นักเรียน

อย่างน้อย ในทั้งหมดหกคนนี้ก็มีสี่คนที่ไม่ใช่นักเรียนของสถาบันพวกผม เพราะบนตัวอีกฝ่ายสวมเสื้อเกราะ

หนึ่งในนั้นยังสวมเกราะหนัก ของนั่นผมเคยเห็นแค่ในร้านค้า ตอนนี้นับเป็นครั้งแรกที่เห็นคนสวมไว้บนตัว

ยากที่จะจินตนาการจริงๆ ว่าทำไมพวกนั้นถึงสวมเสื้อเกราะไว้บนตัว มันดูแล้วเหมือนกระป๋องเกรดสูงเลย ถึงการป้องกันจะเพิ่มขึ้นไม่น้อย แต่ความเคลื่อนไหวต้องแย่มากแน่นอน?

หรือว่าสำหรับอาชีพอัศวินหนักแล้ว เสื้อเกราะพวกนั้นไม่ถือว่าหนัก?

แต่ตอนนี้สนใจเรื่องตรงหน้าจะดีกว่า ยังไงซะอีกฝ่ายน่าจะสังเกตความเคลื่อนไหวของพวกเราได้แล้ว ตอนนี้รีบซ่อนตัวจะดีกว่า อีกฝ่ายเป็นทีมที่มีทั้งโจร นักรบและนักเวท ดูแล้วคงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ก่อนอื่นเลยโจรเลเวล 18 สวมชุดกันลมสีดำพบความเคลื่อนไหวของพวกผมแล้ว ขณะกำลังจะหันมามองทางพวกเรา ก็หันกลับไปอีกด้าน

ใช่แล้ว เป็นทางที่จัมเปอร์พุ่งเข้ามา!

“สัตว์อสูร…ทำไมถึงมากมายขนาดนี้? เวทตรวจจับล่ะ?”

นักรบที่อยู่ข้างหน้ามองทางนักเวทที่อยู่ข้างหลัง แต่อีกฝ่ายกลับส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา

“จู่ๆ พวกมันก็ปรากฏตัวในขอบเขตการตรวจจับ รวดเร็วมาก ยังไม่ทันแจ้งเตือน อีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาแล้ว!”

นี่เป็นนักเวทหญิงเลเวล 20 ผมสีเขียว ถึงทั้งตัวจะสวมเกราะอ่อนสีดำ แต่ไม้คทาในมือกลับบ่งบอกตัวตนของเธอ

“ถูกซุ่มโจมตีเหรอ?”

อัศวินหนักเป็นชายวัยกลางคน หน้าตาดูเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว มีเลเวล 23 ดูแล้วเป็นผู้นำของทีมนี้ เมื่อจัมเปอร์ตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากป่าด้านข้าง กลับถูกเขาใช้โล่โลหะบริสุทธิ์บังการจู่โจม จากนั้นจึงใช้ดาบตัดหัวเสือดาว

ความเสียหายของการโจมตีเป็นสองเท่า รวมกับที่อีกฝ่ายมีอาชีพที่ต้องส่งออกพลังกายภาพและเลเวลที่สูงกว่าปกติจนน่ากลัว หัวของจัมเปอร์ตัวนั้นจึงแตกกระจายลงบนพื้นทันที

พลังทำลายที่น่ากลัวมาก! ถ้าผมถูกดาบแบบนี้ฟันคงตายแน่นอนเลยใช่ไหม?

เมื่อผมรับรู้ได้ว่าสถานที่แบบนี้ไม่ควรอยู่นานจึงรีบเร่งความเร็ววิ่งหนีไปอีกด้านทันที ผมไม่อยากให้พวกเขาจัดการจัมเปอร์พวกนั้นเสร็จแล้วก็หันมาจัดการพวกเรา ถึงแม้ผมจะฟื้นคืนชีพได้ไม่จำกัด แต่โดนการโจมตีแบบนี้ก็เจ็บปวดมากใช่ไหมล่ะ?

อย่างน้อยผมที่เคยผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่อยากผ่านประสบการณ์แบบนั้นอีกครั้งแน่นอน

ได้รับฉายา : ผู้ชักนำปัญหา หลังจากกำจัดเป้าหมายที่เคียดแค้นตัวคุณ จะยังคงได้รับค่าประสบการณ์ในฐานะเพื่อนร่วมทีม

ทำไมผมถึงได้ฉายาทุกครั้งที่ทำอะไรเลย ยัยอาร์ย่านั่นผ่านมานานขนาดนี้กลับได้รับฉายาแค่ไม่กี่อย่างเอง ทำไมของผมถึงเยอะขนาดนี้ล่ะ!

แล้วการแขวะนี้ก็เฉียบคมมาก ผมแค่ทำเพื่อชีวิตเท่านั้นเอง ทำไมถึงบอกว่าเป็นผู้ชักนำปัญหาล่ะ? อย่างผมเรียกว่ารู้จักเอาตัวรอด ถอยเพื่อชัยชนะ ไม่ใช่การโยนความผิดซะหน่อย!

เอาเถอะ ผมก็โยนปัญหาไปให้คนอื่นจริงๆ แต่คนพวกนั้นเลเวลต่ำสุดก็เลเวล 15 ไม่ว่ายังไงก็ล้วนเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าผม สำหรับพวกเขาแล้วมอนสเตอร์แบบนี้จะไปมีค่าอะไร?

แต่แค่ฉายานี้มีประโยชน์จริงๆ ตั้งแต่เริ่มแรกก็มีโบนัสค่าประสบการณ์ 2,000 อยู่ตลอด ทว่า แบบนี้ก็แปลว่าพวกเรายังไม่เว้นระยะห่างกัน

จนกระทั่งการแจ้งเตือนว่าได้รับค่าประสบการณ์ไม่ได้ปรากฏอีกผมจึงหยุดลง ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากวิ่งไปให้ไกลกว่านี้ แต่ถ้าวิ่งอีกผมคงเหนื่อยตายแน่

ได้รับฉายา : นักเวทวิ่งเร็ว ได้รับสกิล : บลิงค์

ผมไม่มีอารมณ์ไปมองฉายาที่แจ้งเตือนมาเป็นครั้งคราวนี่แล้ว ผมลากแจ้งเตือนค่าประสบการณ์ไว้ข้างล่างสุด หลังจากเห็นว่าได้รับค่าประสบการณ์ทั้งหมด 50,000 ผมก็พยักหน้าอย่างพอใจ

“พวกเรา…ปลอดภัยแล้วเหรอ?”

ฮีลที่ยังไม่แน่ใจเอ่ยถามผม

“คงแค่ชั่วคราว พวกเราจำเป็นต้องหลบอยู่ใต้ลมไว้จะดีกว่า…ไม่ได้ พวกเราเปลี่ยนไปทางอื่นช้าๆ เถอะ บางทีไอ้พวกนั้นอาจยังไล่ตามมา”

เมื่อกี้โจรคนนั้นมองเห็นพวกเราแล้ว ถ้าอีกฝ่ายไล่ตามมาต้องเกิดการต่อสู้ดุเดือดแน่นอน

“ไอ้พวกนั้น? จัมเปอร์พวกนั้นเหรอ?”

ฮีลที่ถูกผมพาวิ่งไปดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตสิ่งที่แทรกระหว่างทาง

“ใช่แล้วๆ พวกเรา…เดินไปทางภูเขาเถอะ ฉันก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน”

ตอนที่วิ่งหนีเมื่อกี้แทบเป็นการหนีตลอดทาง จนแยกทิศทางไม่ออกเลย

ตอนนี้สิ่งเดียวที่สามารถตัดสินได้ก็คือทิศทางของภูเขาที่อยู่ตรงกลาง…ดูเหมือนจะใกล้ขึ้นไม่น้อย ระยะทางเมื่อกี้ไม่ใช่การวิ่งที่เสียเปล่านี่

“เอาล่ะ ไปเถอะ ไม่อย่างนั้น…อ๊า”

แค่จะก้าวไปข้างหน้า เท้ากลับอ่อนยวบล้มลงไป

“ฟีล เจ้าเป็นอะไร?”

ฮีลรีบเข้ามาประคองผม จากนั้นก็พาผมไปพิงใต้ต้นไม้ข้างๆ

“ไม่เป็นไร แค่เหนื่อยนิดหน่อย…”

เมื่อกี้ยังไม่รู้สึกร้ายแรงขนาดนี้ แต่พอหยุดลง กลับพบว่าความรู้สึกเหนื่อยล้าได้ถาโถมขึ้นมา

เพ่งมองสถานะของตัวเองจึงพบว่าตอนนี้ผมอยู่ในสถานะ ‘ความสามารถลดต่ำ’ และ ‘เหนื่อยล้า’ ดูเหมือนแม้แต่การเคลื่อนไหวก็ได้รับการจำกัด

ผมรีบกดยาที่สอดคล้องกันทันที สถานะเริ่มกะพริบอย่างที่คาด นี่หมายความว่ามันกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว

แล้วความรู้สึกเหนื่อยบนร่างกายก็เริ่มหายไป อธิบายได้ว่ายาออกฤทธิ์แล้ว

น่าจะเป็นผลที่ติดตัวมาพร้อมกับผม ไม่อย่างนั้นถึงเป็นยาระดับสูงกว่านี้ก็ไม่มีทางฟื้นฟูได้เร็วขนาดนี้

ผมแทบจะดื่มยาพวกนี้เหมือนน้ำ ซื้อมาทั้งหมด 1,000 กว่าขวด ถ้าใช้หมดก่อนสิ้นสุดสัปดาห์นี้ วันคืนข้างหน้าคงยากลำบากแน่

“ขอโทษ…”

ทันใดนั้น ฮีลก็พูดขึ้นมาแบบนี้

“หืม? มีอะไร?”

“ขอโทษ หากข้าแข็งแกร่งกว่านี้ เจ้าคงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้…”

“โธ่เอ๊ย พูดอะไรกัน นายแข็งแกร่งกว่าฉันชัดๆ”

อย่างน้อยเลเวลก็สูงกว่าผมน่ะ

“หากไม่ใช่เพราะเจ้าปกป้องข้า ข้าคงตายไปนานแล้ว!”

พูดแล้วหมอนี่ก็ร้องไห้ออกมา…บ้าเอ๊ย! หมอนี่ร้องไห้แล้ว!

“วางใจเถอะ ถึงไม่มีฉัน อาจารย์ก็ปกป้องพวกเราอยู่ดี”

“แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้นายปกป้องฉันเหรอ?”

“อ่า…”

ทำไมหมอนี่ต้องร้องไห้ไปด้วยถามผมไปด้วยเนี่ย…โธ่เว๊ย เป็นผู้ชายแท้ๆ ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ

เพราะงั้นถึงบอกว่าคนชนชั้นสูงล้วนแปลกประหลาด คิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย

“อ่าๆๆๆ เลิกร้องไห้! เป็นผู้ชายร้องไห้แบบนี้มันน่าเกลียดเกินไปแล้ว!”

มองเห็นความเหนื่อยล้าฟื้นฟูจนพอสมควรแล้ว ผมจึงลุกขึ้นยืนทันที

“รีบเช็ดน้ำตาแล้วออกเดินทางเถอะ พวกเรายังต้องเดินอีกไกล ถ้าใส่ใจเรื่องเมื่อกี้จริงๆ งั้นเวลาต่อสู้หลังจากนี้นายก็ใช้เวทมนตร์ให้ฉันดีๆ อย่าตกใจก็พอ!”

“อืม!”

“งั้นยังไม่รีบไปอีกล่ะ!”

“ขะ…เข้าใจแล้ว!”

เหลือเกินจริงๆ ทำไมผมรู้สึกว่าหมอนี่เป็นปัญหาเหมือนน้องชายเลย…ช่างเถอะ คนที่ชวนสร้างทีมก็คือผม ตอนนี้รีบออกไปจากที่นี่เถอะ

ยังไงซะต่อจากนี้ก็ยังมีอะไรที่คาดเดาไม่ได้อยู่

คำอธิบายสกิล :

บลิงค์ ใช้มานาทั้งหมด ส่งตัวเองไปยังตำแหน่งใดก็ได้ภายใน 0.01 กิโลเมตรคูณค่ามานาจากจุดเริ่มต้น ไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่ที่เคยผ่านมาก่อน แต่หากส่งไปยังสถานที่ที่ไม่เคยผ่าน อาจเกิดการคลาดเคลื่อนหรือส่งแบบสุ่ม ความเป็นไปได้ของระยะทางการส่งแบบสุ่มเท่ากับ 0.1 กิโลเมตรคูณค่ามานา

ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?)

ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?)

Status: Ongoing

ผมตื่นขึ้นมาหน้าหมู่บ้านแปลกๆ แห่งหนึ่ง ผมลองคิดว่าก่อนหน้านี้ผมทำอะไรมาถึงมาอยู่ที่นี่ แต่ผมกลับนึกอะไรไม่ออก นอกจากชื่อของผม “หลิน ฟีล”

ผมเดินเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ กลับพบว่าทุกคนในหมู่บ้านมีชื่อและหลอด HP ลอยอยู่เหนือศีรษะ

เอ๊ะ…ทำไมมันเหมือนเกม RPG จัง หรือว่า…ผมจะหลุดเข้ามาในเกม RPG?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท