ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 536 พวกคุณมันใจร้าย

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 536 พวกคุณมันใจร้าย

ตอนที่ 536 พวกคุณมันใจร้าย

เมื่อหลินเซี่ยไปรับหู่จือกลับบ้าน ก็เผอิญเจอกับเจียงกั๋วเซิ่งที่มารับเสี่ยวฮวาเช่นกัน

“ลุงเจียง มารับเสี่ยวฮวาเหรอคะ?” หลินเซี่ยยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นเสี่ยวฮวาวิ่งออกมาและจับมือของเจียงกั๋วเซิ่งอย่างเป็นธรรมชาติ

เสี่ยวฮวาเข้ากันได้ดีกับเจียงกั๋วเซิ่งแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเจียงกั๋วเซิ่งใช้ความพยายามอย่างมาก

เจียงกั๋วเซิ่งอธิบายว่า “ซิ่วฟางบอกว่าวันนี้น่าจะเลิกงานสายหน่อย พอดีฉันมีเวลาเหลือเฟือ เลยอาสามารับเสี่ยวฮวาด้วยตัวเอง”

“เซี่ยเซี่ย ตอนนี้ซิ่วฟางกำลังมีปัญหาเรื่องบ้าน ฉันอยากให้หล่อนแต่งงานกับฉันเร็ว ๆ แล้วย้ายมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน แต่หล่อนเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการรับสิทธิ์ในบ้านหลังใหม่ เลื่อนการแต่งงานออกไปเรื่อย ๆ ฉันคิดว่าหล่อนน่าจะได้โควตาบ้านอีกทีก็ตอนปีหน้าโน่น”

เจียงกั๋วเซิ่งมองหลินเซี่ยแล้วพูดว่า “ถ้าเธอเจอหล่อนก็ช่วยเป็นกระบอกเสียงเกลี้ยกล่อมหล่อนให้ฉันที ฉันตอนนี้มีอายุมากพอสมควร เมื่อฉันคิดจะแต่งงานใหม่ ก็หมายความว่าฉันจะรับผิดชอบชีวิตของพวกหล่อนสองแม่ลูกเป็นอย่างดี”

หลินเซี่ยพยักหน้า “ค่ะ ไว้เจอกันเมื่อไหร่ฉันค่อยคุยกับหล่อนให้นะคะ”

เจียงกั๋วเซิ่งพาเสี่ยวฮวาออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ในขณะที่หลินเซี่ยพาหู่จือกลับบ้าน

เขาบอกว่าเหลือแค่รอเลขานุการจาง หลินเซี่ย และสามีกับลูกของเธอเท่านั้น

“พวกเราจะรีบลงมาค่ะ” หลินเซี่ยพาหู่จือเข้าไปในบ้านและหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาเปลี่ยนให้เขา

“หู่จือ มาเปลี่ยนชุดใหม่เร็วเข้า จะได้ออกไปงานเลี้ยงกัน”

หลินเซี่ยเปลี่ยนเสื้อนอกของตัวเอง โดยไม่ลืมกำชับกับหู่จือว่า “พอไปถึงงานเลี้ยงแล้ว ลูกจะต้องทำตัวสุภาพน่าเอ็นดู และพูดคำมงคลกับพวกเขาด้วย เข้าใจไหมจ๊ะ?”

“แม่ฮะ ช่วยสอนผมหน่อยว่าควรพูดยังไง” คำมงคลในความคิดของเขามีแต่คำพูดเนื่องในโอกาสอวยพรปีใหม่ และอวยพรวันเกิด ให้ประสบความมั่งคั่ง มีโชควาสนาเหมือนมหาสมุทร อายุยืนยาวดั่งขุนเขา

แต่หู่จือได้ยินทุกคนพูดคุยกันอย่างคลุมเครือ ว่าวันนี้ไม่ใช่ทั้งวันเกิดหรือวันขึ้นปีใหม่

ถ้อยคำมงคลที่สะสมอยู่ในสมองของเขาอาจไม่เหมาะสมกับโอกาส

“ถ้าลูกถูกขอให้พูดคำอวยพร ลูกควรบอกว่า ผมขอให้คุณปู่หลี่และคุณย่าหวังครองคู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข อายุยืนยาว”

“ผมเข้าใจแล้วครับ”

หลินเซี่ยช่วยเขารูดซิปเสื้อแจ็คเก็ตแล้วพูดว่า “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”

เธอไม่ลืมใส่เงินยี่สิบหยวนในกระเป๋าของเขาด้วย จากนั้นก็พาหู่จือลงไปชั้นล่าง

พอลงมาจากอาคาร ทั้งเลขานุการจางและเฉินเจียเหอก็เพิ่งกลับมาหลังจากเลิกงานเช่นกัน

หลินเซี่ยบอกเขา “รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะคะ ฉันหามาวางบนเตียงให้แล้ว อย่าลืมล้างหน้าล้างตาอีกครั้งล่ะ”

ทุกครั้งที่เฉินเจียเหอกลับมาหลังจากเลิกงาน สภาพของเขาจะเละเทะเสมอ

โดยเฉพาะหลังจากติดตั้งและทดสอบเครื่องยนต์ เนื้อตัวของเขามักเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน

เฉินเจียเหอรีบสวมเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ววิ่งลงมา

จากนั้นเลขานุการจางก็พาทุกคนไปที่โรงแรมของรัฐ

ลุงหลี่เชิญคนเฒ่าคนแก่ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขามาร่วมงานเลี้ยง หลินเซี่ยและเฉินเจียเหอจึงเป็นคนหนุ่มสาวเพียงคู่เดียวในหมู่พวกเขา เนื่องจากหลินเซี่ยพาเขาออกมาเต้นรำ ทำให้เขาได้มีโอกาสได้รู้จักกับป้าหวัง ดังนั้นลุงหลี่จึงรู้สึกว่าหลินเซี่ยเป็นแม่สื่อในทางอ้อมของพวกเขา

เนื่องจากเลขานุการจางมีตำแหน่งเป็นหัวหน้า ลุงหลี่จึงเชิญเขามาเป็นสักขีพยานด้วย การแต่งงานของคนวัยหกสิบอย่างพวกเขาจะถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย ตราบเท่าที่มีพยานเป็นผู้นำขององค์กรในสังกัด

เลขานุการจางยกแก้วขึ้น กล่าวคำอวยพรสองคำ และติดดอกไม้ไว้บนหน้าอกของคู่บ่าวสาวเป็นการส่วนตัว

จากนั้นเขาก็แสดงทะเบียนสมรสให้ทุกคนดูโดยทั่วกัน

“เหล่าหลี่และป้าหวังจะกลายเป็นคู่สามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายนับจากนี้ไป ผมหวังว่าพวกคุณจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน และมีชีวิตที่ดีในอนาคต”

“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับหัวหน้า”

“ขอบคุณเพื่อนบ้านทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับพวกเราด้วย”

“วันนี้เป็นวันดีสำหรับฉันและเหล่าหวัง เราจะไม่พูดอะไรเยิ่นเย้ออีกต่อไป มากินและดื่มกันให้สำราญเถอะ”

ลุงหลี่สวมชุดคอจีนสีน้ำเงินกรมท่าตัวใหม่ ป้าหวังก็แต่งตัวเป็นทางการมากเช่นกัน ทั้งสองยืนขึ้นและดื่มอวยพรให้กับทุกคน

ลุงหนิวยิ้มแล้วพูดว่า “เหล่าหลี่ จากนี้ไปขอให้นายมีความสุขจวบจนวันสุดท้ายของชีวิตไปกับภรรยา ขอให้มีชีวิตอยู่จนถึงอีกหลายปีข้างหน้า รอให้รถไฟความเร็วสูงของเราใช้งานได้เมื่อไหร่ เราคงเดินทางไปทั่วประเทศได้”

“เสี่ยวเฉิน เธอต้องทำงานให้เต็มที่ไปเลยนะ”

เฉินเจียเหอตอบกลับด้วยความเคารพว่า “ลุงหนิว เราจะทำงานอย่างเต็มที่ครับ”

“ขอบคุณสหายทั้งหลาย ขอบคุณเพื่อนบ้านทุกคน หวังว่าพวกคุณจะดูแลฉันเป็นอย่างดีในอนาคต”

ลุงหลี่มองทุกคนอย่างซาบซึ้ง ก่อนจะดื่มอวยพรให้กับทุกคนอีกครั้ง

ทุกคนต่างตอบรับคำอวยพรเช่นกัน ในฐานะเพื่อนบ้านและอดีตเพื่อนร่วมงาน ทุกคนล้วนเข้าใจความเหงาและความยากลำบากของลุงหลี่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างดี

พวกเขาทั้งหมดรู้สึกยินดีอย่างจริงใจที่เห็นว่าในที่สุดเขาก็มีเพื่อนร่วมทางในตอนนี้

หู่จือยืนขึ้นพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มสำหรับเด็กในมือ พูดเสียงดังฟังชัด

“ผมขอให้คุณปู่หลี่และคุณย่าหวังครองคู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข อายุยืนยาวนะครับ”

“หู่จือนี่ช่างพูดช่างเจรจาจริง ๆ”

“มา ดื่มกันเถอะ อวยพรให้เหล่าหลี่และเหล่าหวังเป็นคู่รักที่โชคดี”

หลังทุกคนดื่มอวยพรกันถ้วนหน้าแล้ว ลุงหลี่จึงเชิญให้ทุกคนกินข้าวร่วมกัน

หลินเซี่ยหยิบน่องไก่ให้หู่จือ “กินนี่นะ ระวังอย่าให้น้ำมันเลอะเสื้อผ้า”

หลินเซี่ยไม่มีความอยากอาหารต่ออาหารมากมายที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าเลย ดังนั้นเฉินเจียเหอจึงเลือกอาหารรสชาติเบา ๆ ให้เธอกินแทน พร้อมกับหาชามใบเล็กมาตักน้ำมันออกก่อนให้เธอกิน

หลินเซี่ยกลัวว่าเพื่อนบ้านจะค่อนแขวะว่าเธอเสแสร้ง ดังนั้นจึงขยิบตาให้เฉินเจียเหอ บอกให้เขาไม่ต้องทำเรื่องยุ่งยาก

ขณะที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเองและร่าเริง หลายคนกำลังอวยพรลุงหลี่และป้าหวัง ทันใดนั้นหลี่ชิงกั๋วลูกชายของลุงหลี่ก็มาถึง

ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิง รูปร่างหน้าตาดูขวางโลกสกปรกน่ารังเกียจ เขาเดินไปที่โต๊ะอาหารใหญ่ด้วยท่าทางหุนหัน มองดูลุงหลี่แล้วเยาะเย้ย

“พ่อ มาจัดงานแต่งที่นี่โดยไม่แจ้งให้ลูกชายตัวเองรู้มันดูเป็นเรื่องที่ไม่สมควรไปหน่อยไหม?”

เมื่อลุงหลี่เห็นลูกชาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันที “ฉันน่ะหรือไม่บอกให้แกรู้? แกบอกเองว่าจะไม่มาเผาผีฉันอีกไม่ใช่รึ”

“พ่อ พ่ออยากจะตัดความสัมพันธ์กับผมเพราะผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เหรอ? อายุปูนนี้แล้ว ยังหน้ามืดตามัวทิ้งลูกไปหายายแก่คนนี้อยู่ได้?” หลี่ชิงกั๋วกัดฟันกรอด และมองไปที่ป้าหวัง “อยากรู้จริง ๆ ว่าหล่อนให้พ่อกินอะไร? ยาเสน่ห์แบบไหน?”

ลุงหลี่ดุอย่างไม่พอใจ “ช่วยระวังคำพูดของตัวเองหน่อย”

ลุงหนิวยืนขึ้น พาหลี่ชิงกั๋วออกไปและสั่งสอนเขา “เสี่ยวหลี่ พ่อของเธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาตลอดชีวิตแล้ว เธอจะผลาญเงินบำนาญของเขาไปจนตายไม่ได้ ตอนเขาป่วยอยู่บ้านคนเดียวไม่เห็นใครคิดมาเหลียวแล ตอนที่เขาไม่มีเงิน เธอเคยแสดงความห่วงใยต่อเขาไหม? เคยสนใจไยดีเขาหรือเปล่า? พอเขากำลังจะมีเมีย เธอยังไม่วายมาขัดขวางความสุขพ่อตัวเองอีก รู้ไหมว่าตัวเองไม่ได้เรื่องแค่ไหน”

“ไม่ว่าผมจะได้เรื่องหรือไม่ ยังไงผมก็ยังเป็นลูกชายของเขา” หลี่ชิงกั๋วแสดงท่าทางเย่อหยิ่ง

“ถ้าผมไม่ยอมถอยให้ตอนนั้น วันนี้อย่าได้หวังเลยว่างานแต่งจะเกิดขึ้น”

น้ำเสียงของลุงหลี่แข็งกร้าวและเด็ดขาด “พวกเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว วันนี้ที่จัดงานเลี้ยงก็เพื่อขอบคุณเพื่อนบ้าน แกหยุดฉันไม่ได้ หลังจากนี้ฉันก็จะไม่ให้เงินแก่แม้แต่หนึ่งหยวน และจะไม่ให้ลูกชายอย่างแกมาฝังศพตอนฉันตายด้วย ไม่ต้องเอาสถานะความเป็นลูกมาข่มขู่ฉัน ถ้าแกยังมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่ ก็เชิญไปหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองข้างนอกซะ”

“ว่าไงนะ? จดทะเบียนแล้ว? ใครอนุญาตให้พวกคุณไปจดทะเบียนกัน?” หลี่ชิงกั๋วมองลุงหลี่ด้วยดวงตาเบิกโพลง ถามเสียงสูง

ถ้าจดทะเบียนสมรสกันแล้ว หมายความว่าทรัพย์สินทั้งหมดของพ่อเขาจะกลายเป็นของผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

“ใบอนุญาตให้จดทะเบียนสมรสออกโดยโรงงานของเรา ถ้าไม่พอใจอะไรก็มาลงกับฉันนี่” เลขานุการจางพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้าเธอยอมนั่งกินข้าวด้วยกัน ก็ควรยกแก้วเหล้าอวยพรป้าหวังหนึ่งแก้ว เพราะต่อไปนี้เธอกับพวกเขาจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ถ้าเธอรับไม่ได้ ก็ทำอย่างที่พ่อเธอบอก ตัดความสัมพันธ์จากกันซะ และต่อจากนี้เธอไม่ควรไปที่อาคารพักอาศัยเพื่อก่อกวนชีวิตส่วนตัวของพวกเขาอีก เราทุกคนรู้สึกเอือมระอามาตั้งนานแล้วเมื่อเห็นว่าเธอยังเข้า ๆ ออก ๆ จากอาคารพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเกษียณอายุ หรือพนักงานที่อายุยังน้อย ฉันไม่เคยเห็นใครในโรงงานเราที่ขี้เกียจสันหลังยาวเท่าเธอเลย”

“พวกคุณมันใจร้าย”

หลี่ชิงกั๋วรับรู้แล้วว่าจากระดับหัวหน้าถึงเพื่อนบ้าน ไม่มีใครพูดแทนเขาเลยสักคน ในเมื่อพ่อของเขาจดทะเบียนสมรสเรียบร้อย ต่อให้เขาจะอาละวาดพังงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันนี้จนล่ม มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาจึงกัดฟันกรามดังกรอดแล้วหันหลังเดินออกไป

ลุงหลี่มองดูลูกชายที่ล่าถอยออกไปแล้วก็เก็บซ่อนสายตาแห่งความโดดเดี่ยวไว้ ก่อนจะทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “ไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนกินกันต่อเถอะ ปล่อยเขาไว้อย่างนั้นแหละ”

หลี่ชิงกั๋วโผล่มาสร้างความยุ่งยากถึงที่ ทำให้บรรยากาศชื่นมื่นนี้พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

ทุกคนเปลี่ยนจากการอวยพรพวกเขา ไปสู่การปลอบโยนและให้ความกระจ่างแจ้ง โดยขอให้ลุงหลี่และป้าหวังตัดใจจากลูกชายไม่รักดีคนนั้น และใช้ชีวิตคู่ในบั้นปลายชีวิตให้ดี

ลูกหลานมีชะตากรรมเป็นของตัวเอง ดังนั้นควรปล่อยให้พวกเขาเป็นไปตามยถากรรม

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จและกลับมาที่อาคารพักอาศัย ทุกคนก็ส่งลุงหลี่และป้าหวางไปถึงหน้าประตูบ้านอย่างมีความสุข

ลุงหนิวยิ้มและแซวว่า “เหล่าหลี่ ให้พวกเราทำตามธรรมเนียมแต่งงานที่ควรจะเป็นดีไหม?”

“หยุดสร้างความอับอายให้ฉันเลย เดี๋ยวคนหนุ่มสาวได้หัวเราะเยาะกันใหญ่”

เมื่อลุงหลี่หยิบกุญแจมาหมายจะไขเปิดประตู ก็พบว่าบ้านของเขาเหมือนมีรอยงัดแงะ

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ลูกชายนี่ก็เอาแต่เกาะพ่อกินน้อ มือเท้ามีครบทำงานได้ก็ไม่ทำ

ขโมยอะไรจากบ้านพ่อไปล่ะนั่น

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท