ตอนที่ 497 ยกพวกตีกัน(2)
ตอนที่ 497 ยกพวกตีกัน(2)
ถึงฉินมู่หลานจะกำลังตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ถึงขั้นว่าต้องมีคนคอยไปเข้าห้องน้ำด้วย เมื่อเธอเข้าห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมตัวกลับไปที่ห้องรับประทานอาหาร แต่เมื่อเดินไปถึงตรงหัวมุมทางเลี้ยวก็มีคนเดินพุ่งสวนเข้ามา หากว่าเธอไม่รีบหลบ คงโดนอีกฝ่ายชนเข้าอย่างจังแล้ว
“ระวังหน่อยสิคะ ตามมุมมันชนคนง่าย”
ฉินมู่หลานทนไม่ไหว จึงบอกกล่าวอีกฝ่ายตามตรง
แต่อีกฝ่ายดูเป็นผู้หญิงใจร้ายผู้มีโหนกแก้มสูง คนผู้นี้คือคังอันเหอภรรยาของถูเฉิงเสียง เมื่อได้ยินฉินมู่หลานพูด สายตาก็สบเข้ากับท้องใหญ่โตของอีกฝ่าย แต่ต่อให้ฉินมู่หลานจะตั้งครรภ์ก็ยังสวยไม่สร่าง ในใจจึงรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก
“เธอหมายความว่ายังไง เธอเองก็เดินมาถึงตรงหัวมุมแล้ว แล้วฉันจะชนเธอได้ยังไง อย่ามาโทษว่าฉันผิดอยู่ฝ่ายเดียว เธอกลัวโดนชนก็หยุดเดินเสียสิ จะเดินต่อทำไมล่ะ”
ฉินมู่หลานคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเถียงข้างๆ คูๆ แบบนี้
“ฉันเดินช้ามาก แต่คุณแทบจะวิ่ง ใครถูกใครผิดมันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“เหอะ…ช่างเป็นสุนัขตัวเมียที่เห่าเก่งเหลือเกินนะ อย่าคิดว่าเธอท้องแล้วจะมาพูดบ่นคนอื่นได้ตามอำเภอใจ ฉันจะบอกเธอให้ ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมโดนรังแกได้ง่าย ๆ หรอกนะ”
นอกจากฉินมู่หลานและคังอันเหอแล้ว ก็มีคนอื่นที่มาเข้าห้องน้ำด้วยเหมือนกัน พอเห็นทั้งสองกำลังมีปากเสียงกัน จึงพากันหยุดดูด้วยความตื่นเต้น
แต่เมื่อทุกคนเห็นท้องใหญ่โตของฉินมู่หลาน พวกเขาก็เข้าข้างเธอเป็นธรรมดา อดหันไปมองแล้วพูดกับคังอันเหอไม่ได้ “พวกเราได้ยินเรื่องที่พวกเธอคุยกันเมื่อกี้ เธอเดินเร็วเกินไปจนเกือบจะชนคนเข้า เห็นได้ชัดว่าเธอทำไม่ถูก ก็ควรจะขอโทษเขาให้เรียบร้อยสิ”
“ใช่แล้ว คนท้องแก่เดินเหินลำบากอยู่นะ ครั้งนี้ยังไงเธอก็ผิด หยุดมีปากเสียงกับคนท้องได้แล้ว ขอโทษกันให้เสร็จสรรพซะ”
เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างเข้าข้างฉินมู่หลาน ความโกรธของคังอันเหอก็เพิ่มขึ้นทันที
“อะไรกันๆ พอเห็นว่าเป็นคนท้องก็เข้าข้างหล่อนใช่ไหม หล่อนก็แค่คนท้องคนหนึ่งเท่านั้น วันนี้ฉันก็อยากให้หล่อนขอโทษฉันเหมือนกัน ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยก็โดนชี้หน้ากล่าวหาเสียแล้ว ถ้าวันนี้หล่อนไม่ขอโทษฉัน ก็อย่าคิดว่าหล่อนจะได้ไปไหนเลย”
เมื่อเห็นท่าทางก้าวร้าวของคังอันเหอ ทุกคนก็ต่างทนไม่ไหว พลางชี้นิ้วแล้วต่อว่าหล่อน
แต่ถึงอย่างนั้นคังอันเหอก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางหยิ่งยโส จากนั้นก็หันไปมองฉินมู่หลานแล้วเอ่ยยั่วยุ “รีบขอโทษฉันซะสิ แล้วฉันจะลืมเรื่องวันนี้ไปซะ ไม่อย่างนั้นก็อย่าคิดว่าจะได้ออกไปจากที่นี่เลย”
ฉินมู่หลานโกรธมากจนแค่นหัวเราะ ที่อีกฝ่ายยังหาข้ออ้าง
“เหอะ…เดิมทีก็อัปลักษณ์อยู่แล้ว ตอนี้พอทำท่าหยิ่งแล้วก็ยิ่งอัปลักษณ์เข้าไปใหญ่ คงจริงอย่างที่เขาบอกกันว่าคนอัปลักษณ์มักนำความซวยมาหา”
ตั้งแต่ฉินมู่หลานตั้งท้อง อารมณ์ของเธอก็แปรปรวนกว่าเดิม จึงไม่สามารถระงับอารณ์กับเรื่องนี้ได้ และเริ่มก่นด่าทันที
“เธอ…เธอนี่มันนังสารเลว”
คังอันเหอเกลียดเวลาที่คนอื่นพูดเกี่ยวกับรูปลักษณ์หน้าตาของตนมาก ครอบครัวของหล่อนมีภูมิหลังและสภาพความเป็นอยู่ที่ดีมาตั้งแต่เด็ก คู่ครองก็ดี แต่สิ่งเดียวที่หล่อนไม่พอใจก็คือรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ตอนนี้เมื่อเห็นฉินมู่หลานกล้าด่าว่าหล่อนว่าอัปลักษณ์จึงทนไม่ไหว เข้าจู่โจมคนทันทีโดยขาดการยั้งคิด
ฉินมู่หลานเห็นการกระทำของคังอันเหอ จึงยืดอกขึ้น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าวันนี้เธอกล้าลงมือ ก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคายนะ”
หลังจากที่ตั้งครรภ์ เธอก็คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองตลอด จึงเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองติดตัวไปด้วย หากคังอันเหอกล้าลงมือจริง เช่นนั้นเธอก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้อีกฝ่ายได้รู้สึกทรมานสักหน่อย
คังอันเหอได้ยินแบบนี้ ก็แค่นหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวว่า “ฉันอยากจะเห็นนัก ว่าเธอจะหยาบคายได้แค่ไหน”
“เอ๊ะ…ปล่อยนะ ปล่อยนะ”
คนรอบข้างเห็นว่าคังอันเหอจะลงไม้ลงมือกับหญิงตั้งครรภ์ ก็รีบเข้าไปห้ามทันที
ความวุ่นวายทางฝั่งนี้ทำให้เกาซุนฉิวและพวกเซี่ยปิงหรุ่ยเข้ามา เมื่อเห็นว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับฉินมู่หลาน ทุกคนจึงรีบก้าวเข้ามาหาข้างหน้า
“มู่หลาน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”
“พี่ พี่เป็นยังไงบ้าง”
สีหน้าของหลายคนเต็มไปด้วยความกังวล กลัวว่าฉินมู่หลานจะแท้ง ตอนนี้เธอท้องใหญ่แล้ว จะไปชนกับอะไรเข้าเพียงเล็กน้อยก็เป็นเรื่องอันตราย
คังอันเหอเห็นกลุ่มคนทางฝั่งของฉินมู่หลานมา จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก “อย่าคิดว่าพวกเยอะแล้วจะทำอะไรฉันได้นะ ฉันจะบอกเธอให้ เรื่องวันนี้ฉันไม่ปล่อยผ่านแน่”
เมื่อพูดจบไปครู่หนึ่ง ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาสมทบ พวกเขาเห็นคังอันเหอ จึงรีบเอ่ยถาม “อันเหอ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“พวกเธอมาได้ทันเวลาพอดีเลย นังผู้หญิงนั่นมันว่าฉันว่าอัปลักษณ์ วันนี้ฉันต้องสั่งสอนบทเรียนให้หล่อนเสียหน่อย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลายคนก็หันมองด้วยความเหลือเชื่อ เพียงแต่ไม่ทราบว่าเป็นใครที่กล้าว่าคังอันเหอ พวกเขาต่างทราบดีว่าคังอันเหอให้ความใส่ใจรูปลักษณ์หน้าตาของตัวเองขนาดไหน อีกฝ่ายกล้าดีมาต่อว่าอย่างนั้น ก็อย่าคิดว่าเรื่องในวันนี้จะผ่านไปด้วยดีเลย
ในตอนนั้นเอง คังอันเหอก็ชี้นิ้วไปที่ฉินมู่หลานแล้วบอกกล่าว “นังผู้หญิงพุงโตนั่นแหละ หล่อนยังมีพรรคพวกอีกเยอะเลย เพราะฉะนั้นพวกเธอต้องช่วยฉันสั่งสอนนังนั่น”
ทุกคนไม่คิดว่าหญิงตั้งครรภ์จะเป็นคนกล่าวว่าคังอันเหอ ตอนนี้ทุกคนจึงกำลังลังเล
“อันเหอ ช่างมันเถอะ อีกฝ่ายท้องอยู่นะ”
คังอันเหอได้ยินแบบนี้ ก็เอ่ยด้วยความโกรธเคือง “ท้องแล้วมันยังไงล่ะ ท้องแล้วยังด่าคนอื่นได้ ต่อให้หล่อนจะคลอดวันนี้ ฉันก็ไม่ละเว้นเรื่องนี้ให้หรอก”
เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ยอมลงมือ คังอันเหอจึงทนไม่ไหว แล้วก้าวไปข้างหน้าเพียงลำพัง
“อันเหอ…”
ทุกคนเห็นคังอันเหอเป็นแบบนี้ จึงรีบก้าวขึ้นมาด้วยเช่นกัน
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นว่าคนพวกนี้จะทำร้ายมู่หลาน ก็รู้สึกเดือดดาลแทบระเบิด “พอแล้ว ในเมื่อพวกเธอไม่ใจดี พวกเราเองก็จะไม่ใจดีเหมือนกัน ถ้าวันนี้พวกเธอไม่ขอโทษมู่หลาน ก็อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะได้ออกไปจากที่นี่”
คนสองกลุ่มทะเลาะกันเสียงดัง มีผู้คนมากมายคอยเฝ้าดูความตื่นเต้นอยู่โดยรอบ
ในตอนนี้เอง เซี่ยเจ๋อหลี่ได้มาถึงโรงแรมปักกิ่งแล้ว เมื่อสังเกตเห็นว่าข้างบนทะเลาะกันเสียงดังและไม่มีใครอยู่ตรงชั้นหนึ่งเลย เขาก็ขมวดคิ้วนิดหน่อยและรีบเดินขึ้นไปข้างบนทันที เมื่อเขามาถึงก็เห็นฉินมู่หลานยืนอยู่ข้างหลังโดยมีฉินเคอวั่งคอยปกป้อง ห่างออกไปประมาณหนึ่งเมตร มีกลุ่มคนกำลังทะเลาะกันเสียงดัง…เหมือนกำลังยกพวกตีกัน
เมื่อเห็นแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบพุ่งตรงไปข้างหน้าทันที
“มู่หลาน…คุณเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นไรนะ?”
ฉินมู่หลานไม่คิดว่าเซี่ยเจ๋อหลี่จะมาหา เธอจึงเอ่ยด้วยความเหลือเชื่อ “อาหลี่ คุณมาได้ไงคะ”
และในตอนนั้นเอง ถูเฉิงเสียงก็ทนไม่ไหวเช่นกัน เขาที่มาตามหาภรรยาเช่นกันจึงได้เห็นเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้า นอกจากนี้ยังเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วย เพียงแต่ในตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะมาสนใจเซี่ยเจ๋อหลี่ รีบก้าวเข้าไปข้างหน้าก่อนจะดึงคนของตนออกมา แล้วเอ่ยถามคังอันเหอ “ทำอะไร ทำไมถึงทะเลาะกัน”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หาเรื่องคนท้องเหรอ สมองปกติดีอยู่หรือเปล่าเนี่ยแม่คุณ
ไหหม่า(海馬)